255 (ฟรี)
255 (ฟรี)
“ที่นี่คือ......” หลินเป่ยฝานถาม
“ท่านประธานหลิน ที่นี่คือศูนย์วิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ของบริษัทครับ”
ผู้จัดการจ้าวยิ้ม “หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าก็คือแบตเตอรี่! การชาร์จไฟอย่างมีประสิทธิภาพและการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่คือกุญแจสำคัญของความสำเร็จของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า! ดังนั้นเมื่อ 3 ปีก่อน ท่านประธานคนก่อนจึงทุ่มเงินจ้างทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโม่ไห่มาพัฒนาแบตเตอรี่ให้กับบริษัท”
“แล้วตอนนี้ผลการวิจัยเป็นยังไงบ้าง?” หลินเป่ยฝานถาม
ผู้จัดการจ้าวถอนหายใจ “เทคโนโลยีแบตเตอรี่ไม่ใช่เรื่องที่จะพัฒนาได้ง่ายๆ! บริษัทรถยนต์รายใหญ่และบริษัทผลิตแบตเตอรี่หลายแห่งทุ่มเงินลงทุนไปแล้วหลายหมื่นล้านหยวนแต่ก็ยังไม่คืบหน้า บริษัทเล็กๆอย่างเราจะไปสู้กับพวกเขาได้ยังไง?”
“ตอนนั้นผมก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้! แล้วมันก็เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ! ผ่านไป 3 ปีแล้วยังไม่คืบหน้าแต่กลับต้องทุ่มเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ตอนนี้เราเสียเงินไปแล้ว 150 ล้านหยวนยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ! ถ้าไม่มีแผนกนี้บริษัทเราคงจะดีกว่านี้!”
ผู้จัดการจ้าวถอนหายใจอีกครั้ง “ตอนนี้ผมอยากจะยุบแผนกนี้ทิ้งซะจริงๆ”
หลินเป่ยฝานแอบหัวเราะในใจ สิ่งที่มีค่าที่สุดของบริษัทนี้ก็คือแผนกวิจัยและพัฒนานี่แหละ
ถ้าไม่ใช่เพราะแผนกนี้เขาคงไม่สนใจบริษัทนี้หรอก
พวกเขาเดินเข้าไปในห้องวิจัย และพบว่าภายในห้องรกมากมีอุปกรณ์ต่างๆวางระเกะระกะ
มีนักวิจัยหลายคนส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว
พวกเขากำลังทำการทดลองและบันทึกข้อมูลภายใต้การนำของศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยุ่งมาก
ผู้จัดการจ้าวปรบมือเรียก “ทุกคนมารวมกันหน่อยมีเรื่องสำคัญจะประกาศ!”
เมื่อทุกคนมารวมกันแล้ว ผู้จัดการจ้าวก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ศาสตราจารย์หลิวและผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ผมขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆผมเขาชื่อหลินเป่ยฝาน! ตอนนี้เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทและยังเป็นประธานบริษัทคนใหม่อีกด้วย เขาจะเป็นคนดูแลทุกอย่างในบริษัท!”
ทุกคนต่างก็พากันฮือฮา
“ประธานบริษัทเปลี่ยนคนแล้วเหรอ?”
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมไม่มีข่าวอะไรออกมาเลย?”
“ประธานคนใหม่เป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าผมอีก!”
มีคนหนึ่งถามว่า “ผู้จัดการจ้าว แล้วท่านประธานคนก่อนไปไหนแล้วล่ะครับ?”
“เมื่อ 2 วันก่อนท่านประธานและผู้ถือหุ้นคนอื่นๆได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับท่านประธานหลินแล้วครับ พวกเขาก็เลยลาออกจากตำแหน่งให้ท่านประธานหลินเป็นประธานคนใหม่แทน” ผู้จัดการจ้าวอธิบาย
มีคนอีกคนหนึ่งถามว่า “เร็วไปไหม? ทำไมถึงไม่มีข่าวอะไรออกมาเลย......”
ผู้จัดการจ้าวยิ้มอย่างขมขื่น
นายมาถามฉัน แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?
ฉันก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้ก่อนพวกนายแค่ 2 วันเอง!
ท่านประธานคนก่อนไม่เคยมีความคิดจะขายบริษัท
แต่อยู่ๆผ่านไปแค่ 2 วันเขาก็รีบขายหุ้นส่วนใหญ่ทิ้งอย่างรวดเร็ว
แสดงว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ไม่ควรไปล่วงเกินหรือทำให้ขุ่นเคืองด้วยประการทั้งปวง!
ผู้จัดการจ้าวกระแอมเบาๆ “นี่เป็นการตัดสินใจภายในบริษัทเพื่ออนาคตของบริษัท! ถึงแม้ท่านประธานหลินจะอายุยังน้อย แต่เขามีทั้งความสามารถและเงินทุน ผมเชื่อว่าภายใต้การนำของเขา บริษัทเราจะต้องเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เอาล่ะขอเชิญท่านประธานกล่าวอะไรสักหน่อยครับ!”
“แปะๆๆ ...”เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างเบาบาง
ทุกคนรู้สึกกังวล
เปลี่ยนผู้บริหารทีไรก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ใครจะไปรู้ว่าประธานคนใหม่จะเป็นคนแบบไหน?
เขาจะยุบแผนกที่ไม่ทำกำไรแบบนี้ทิ้งหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเด็กเกินไปคนหนุ่มแบบนี้จะไว้ใจได้เหรอ?
สรุปก็คือทุกอย่างยังไม่แน่นอน
ท่ามกลางเสียงปรบมือ หลินเป่ยฝานยิ้มและพูดว่า “พวกคุณเป็นศาสตราจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยโม่ไห่ใช่ไหม?”
ทุกคนพยักหน้า พวกเขาไม่รู้ว่าหลินเป่ยฝานถามทำไม
หลินเป่ยฝานยิ้มบาง “จริงๆแล้วผมก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโม่ไห่เหมือนกัน แต่ยังเรียนไม่จบก็ต้องออกมาทำงานซะก่อน พอได้เห็นพวกคุณ ผมก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับไปเรียนอีกครั้ง”
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนตาเป็นประกาย “คุณก็เรียนที่มหาวิทยาลัยโม่ไห่เหรอ?”
“ใช่ครับ ผมไม่จำเป็นต้องโกหกพวกคุณหรอก” หลินเป่ยฝานพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
ทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจ
“ประธานบริษัทเป็นรุ่นน้องเราเหรอเนี่ย?”
“ที่แท้ก็เป็นคนกันเอง นี่เองช่างบังเอิญจริงๆ”
“เมื่อกี้ยังกังวลอยู่เลย”
ผู้จัดการจ้าวได้แต่ส่ายหน้า ประธานคนใหม่นี่เก่งจริงๆ
แค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกสนิทกันได้
หลินเป่ยฝานยิ้มและพูดต่อ “ที่ผมเข้ามาบริหารบริษัทต้าเฟิงก็เพราะผมมองเห็นอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า! แต่ถ้าอยากจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ดีหัวใจสำคัญก็คือแบตเตอรี่การวิจัยและพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญ! ดังนั้นแผนกวิจัยและพัฒนาจึงสำคัญมาก ผลงานจะออกมาดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับศาสตราจารย์และรุ่นพี่ทุกคนนี่แหละ! ผมเลยตัดสินใจจะจัดสรรเงินทุน 3,000 ล้านหยวนให้กับแผนกวิจัยและพัฒนาเพื่อเร่งการวิจัยให้เร็วขึ้น!”
“เงินทุนวิจัย 3,000 ล้านหยวน เยอะมาก!”
“เราสามารถทำการทดลองได้หลายอย่างเลยและเก็บข้อมูลได้เร็วขึ้น!”
“รุ่นน้องคนนี้ใจป้ำจริงๆ!”
ทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจ
หลินเป่ยฝานถามต่อ “แล้วเงินเดือนของพวกคุณล่ะ? เป็นยังไงบ้าง?”
ผู้จัดการจ้าวรีบตอบ “ท่านประธานหลินเงินเดือนของพวกเขาก็......”
หลังจากฟังจบหลินเป่ยฝานก็ขมวดคิ้ว “เงินเดือนน้อยไป!”
ผู้จัดการจ้าวพูดอย่างขมขื่น “ท่านประธานหลินก็บริษัทเรากำลังขาดทุน......”
หลินเป่ยฝานโบกมือ “ไม่ต้องพูดแล้ว ไปทำสัญญาใหม่ให้พวกเขา เงินเดือนขึ้นเป็นสองเท่า! ส่วนเรื่องที่พัก อาหาร ทะเบียนบ้าน อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยพวกเขาซะ! ดูแลศาสตราจารย์และรุ่นพี่ของผมให้ดี พวกเขาจะได้ตั้งใจทำงาน!”
“เงินเดือนขึ้นสองเท่า?”
“ช่วยเรื่องที่พักและทะเบียนบ้านด้วย?”
“แบบนี้ก็ดีกว่าบริษัทใหญ่ๆอีก!”
“รุ่นน้องคนนี้ใจป้ำจริงๆ!”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์ต่างก็รู้สึกดีใจมากขึ้น
ผู้จัดการจ้าวยิ้มอย่างขมขื่น“ครับท่านประธานหลิน ผมจะรีบไปจัดการ”
หลินเป่ยฝานจ้องมองเขาอย่างรู้ทัน “ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ผมมีเงินเยอะเดี๋ยวผมจะโอนเงิน 3,000 ล้านหยวนเข้าบัญชีบริษัทเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ”
“ครับท่านประธานหลิน!” ผู้จัดการจ้าวยิ้มอย่างมีความสุข
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้ว หลินเป่ยฝานก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ศาสตราจารย์และรุ่นพี่ทุกท่าน ตอนนี้มีผลงานวิจัยอะไรบ้างหรือยัง?”
“ท่านประธานหลินเชิญทางนี้ครับช่วงนี้พวกเราเพิ่งมีการค้นพบใหม่ครับ”