ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 100 จักรพรรดิซานเซิ่ง (ฟรี)
ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 100 จักรพรรดิซานเซิ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง
หลังจากสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกฝ่าแรงกดดัน คนต่อไปคือหลิงอ่าวแห่งสำนักสุญตาโกรธา
เขาไม่รู้ว่าสะบัดกระบี่ไปกี่ครั้งจึงฝ่าแรงกดดันได้
หลิงอ่าวมีแววตาเคร่งขรึม หายใจแรง
เมื่อมองไปที่หนิงเทียนที่ฟื้นตัวเกือบหมดแล้ว มุมปากของเขาก็ขมขื่น
เขาใช้เวลาเกือบสิบนาทีจึงฝ่าแรงกดดันได้ แต่หนิงเทียนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
เห็นได้ชัดว่าช่องว่างนั้นใหญ่มาก
เขากำหมัดแน่น สักวันหนึ่งเขาจะต้องตามผู้ก่อตั้งให้ทัน!
จากนั้น เขาก็นั่งขัดสมาธิและปรับลมหายใจ
ตูม!
ในตอนนั้น สมบัติทองคำขนาดใหญ่ก็ทุบแรงกดดันแตกเป็นเสี่ยง ๆ
จูหยวนเป่าถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เก่งมาก สมบัติทองคำ”
จูหยวนเป่าลูบสมบัติทองคำขนาดใหญ่ จากนั้น สมบัติทองคำก็คายทองคำขนาดเล็กออกมาจำนวนมาก เขาเก็บมันทั้งหมด
นี่คืออาวุธเซียน สมบัติทองคำของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติสวรรค์ ไม่เพียงแต่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้เท่านั้น ยังสามารถกลืนกินทองคำเพื่อขยายร่างกายได้อีกด้วย
เมื่อครู่ เขาก็ให้สมบัติทองคำกินทองคำ ทำให้มันขยายใหญ่ขึ้น ฝ่าแรงกดดัน
เขาถอนหายใจ จากนั้น ภายใต้สายตาที่อิจฉาของทุกคน เขาก็หยิบโอสถวิญญาณระดับ 3 โอสถรวบรวมปราณหลายเม็ดออกมา กินมัน และเริ่มฟื้นฟูปราณวิญญาณ
“สมกับเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติสวรรค์ รวยจริง ๆ”
“กินโอสถวิญญาณระดับ 3 ราวกับกินถั่ว... อิจฉายิ่งนัก”
เหล่าอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ที่เพิ่งฝ่าแรงกดดันออกมา เห็นฉากนี้ก็อิจฉาตาร้อน
หลังจากส่ายหัว พวกเขาก็ทำได้เพียงนั่งขัดสมาธิ และฟื้นฟูปราณวิญญาณอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปอีกสิบนาที
ตูม!
แรงกดดันสลายไปจนหมด!
เหล่าศิษย์ที่อยู่ในแรงกดดันต่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ในที่สุดก็จบแล้ว...”
ในใจของพวกเขามีความรู้สึกโล่งอกราวกับรอดตาย
ณ เวลานี้ หนิงเทียนลุกขึ้นยืน เขาเป็นคนแรกที่ฝ่าแรงกดดันได้ ดังนั้น ปราณวิญญาณในร่างกายของเขาจึงฟื้นตัวเกือบหมดแล้ว
“โครงกระดูกนี้ต้องการทำอะไรกันแน่?”
หนิงเทียนมองโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสายตาเคร่งขรึม ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายขังจ้าวสวรรค์ทั้งหกคนไว้ในกรงเลือด จากนั้นก็ใช้แรงกดดันเพื่อปราบปรามพวกเขา
เขาต้องการทำอะไรกันแน่?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจการกระทำของเจ้าของสุสาน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสามารถยืนยันได้คือ เจ้าของสุสานไม่ได้ต้องการฆ่าพวกเขา
ไม่เช่นนั้น แรงกดดันเมื่อครู่ก็เพียงพอที่จะสังหารทุกคนได้!
เพราะนี่คือสุสานจักรพรรดิ!
เจ้าของสุสานก็คือโครงกระดูกนั้นเคยเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตจักรพรรดิ!
ดังนั้น เขาต้องการทำอะไรกันแน่?
หนิงเทียนขมวดคิ้ว คิดเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
เขาอดไม่ได้ที่จะถามระบบในใจ “ระบบ เหตุใดเจ้าถึงไม่มีแผ่นวิชาอ่านใจบ้าง? เช่นนี้ข้าก็ไม่ต้องเดาความคิดของเจ้าของสุสานแล้ว”
หากตอนนี้มีแผ่นวิชาอ่านใจ เขาก็ไม่ต้องเดาแล้ว
“โปรดอย่าดูถูกข้า ข้ามีทุกอย่าง ไม่ต้องพูดถึงแผ่นวิชาอ่านใจ แม้แต่แผ่นวิชาทะลุเสื้อผ้า ข้าก็มี!”
“เพียงแต่ผู้ใช้โชคไม่ดี จึงไม่ได้เจอมันเท่านั้น”
แผ่น... แผ่นวิชาทะลุเสื้อผ้าหรือ?
หนิงเทียนตกตะลึง
หากมีแผ่นวิชานี้ เขาก็สามารถ...
ไม่ ดูเหมือนว่าเขาจะคิดล้ำเส้นแล้ว
หนิงเทียนส่ายหัว ไล่ความคิดสกปรกออกไป จุดสำคัญในตอนนี้คือเจ้าของสุสาน
ตูม!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากบัลลังก์ในโถงใหญ่
เกือบทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลใจ มองไปที่โครงกระดูก
ต่อไปจะเจออะไรอีก?
พวกเขาเห็นว่ามีหมอกเลือดปรากฏขึ้นจากแหวนมิติของโครงกระดูก จากนั้น ชายชราในชุดดำก็ลอยออกมาจากแหวนมิติ
ร่างกายของเขาดูเลือนราง
บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่เสมอ
เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าจะเป็นทุกคนที่อยู่ในโถงใหญ่ หรือจ้าวสวรรค์ทั้งหกคนที่ถูกขังอยู่ในกรงเลือด ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
นี่... เกิดอะไรขึ้น?
“เหอะ ๆ ยินดีต้อนรับเหล่าผู้ท้าชิงสู่สุสานของข้า”
ก่อนที่ทุกคนจะทันได้พูด ชายชราในชุดดำก็พูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนในโถงใหญ่ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ชายชราคนนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา ไม่เพียงแต่พูดได้ เขายังมีสติของตัวเองอีกด้วย!
แตกต่างจากจุดที่ทุกคนตกใจ หนิงเทียนกลับพบความผิดปกติในคำพูดของเขา
ผู้ท้าชิง
ถึงแม้จะเป็นเพียงคำง่าย ๆ 3 คำ แต่เมื่ออยู่ในสุสานจักรพรรดินี้ ความหมายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ชายชราในชุดดำสามารถเรียกพวกเขาว่าพวกโจรได้ ซึ่งไม่เกินจริง แต่เขากลับเรียกพวกเขาว่าผู้ท้าชิง
นั่นแสดงว่าที่นี่ไม่ใช่แค่สุสานธรรมดา
ชายชราในชุดดำอาจจะจงใจรอพวกเขาอยู่ที่นี่ก็ได้!
หนิงเทียนขมวดคิ้ว ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าสุสานนี้เหมือนกับดัก
“ผู้น้อย สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยก ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสคือผู้ใด?”
ในตอนนั้น ในที่สุดก็มีเสียงดังขึ้นในโถงใหญ่
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกโค้งคำนับให้ชายชราในชุดดำ มองเขาอย่างระมัดระวังและถาม
“หืม?”
“ที่แท้ก็เป็นเด็กน้อยแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกหรือ”
ชายชราในชุดดำได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม จากนั้นก็ถอนหายใจ “เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ เพียงพริบตา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกก็มีสตรีศักดิ์สิทธิ์คนใหม่แล้ว”
“หรือว่าท่านผู้อาวุโสรู้จักสตรีศักดิ์สิทธิ์คนอื่น ๆ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยก?” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกตกตะลึง
“แน่นอน”
มุมปากของชายชราในชุดดำยกขึ้นเล็กน้อย “ข้ารู้จักสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาเซวียน”
“สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาเซวียนหรือ?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกตกตะลึง ยังไม่ทันได้ตอบสนอง
“อะไรนะ!”
ในกรงเลือด ผู้อาวุโสชิงหลินที่ได้ยินคำว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาเซวียนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
“จักรพรรดินีเหยาเซวียน!”
“ท่าน... ท่าน... เจ้ารู้จักจักรพรรดินีเหยาเซวียน!?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาเซวียนเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตจักรพรรดิของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยกเมื่อร้อยปีก่อน!
แต่น่าเสียดาย ในที่สุดนางก็ล้มตายบนเส้นทางโบราณ สมรภูมิชิงบัลลังก์เทพ
แต่คนตรงหน้ากลับรู้จักจักรพรรดินีเหยาเซวียน นั่นหมายความว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งจากยุคเดียวกัน?
และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตจักรพรรดิ!
“ฮ่า ๆ จักรพรรดินีเหยาเซวียน ช่างเป็นชื่อที่ห่างเหิน...”
ชายชราในชุดดำหัวเราะเสียงดัง ในเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความคิดถึง “แต่น่าเสียดาย ข้ายังคงชอบเรียกนางว่าเหยาเซวียน”
ในตอนนี้ ผู้อาวุโสชิงหลินก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ดูเหมือนว่านางจะรู้แล้วว่าคนตรงหน้าคือใคร!
“เมื่อหลายร้อยปีก่อน สมรภูมิชิงบัลลังก์เทพเปิดออก จักรพรรดิหลายสิบคนของดินแดนเทียนหลิงเดินทางไปยังเส้นทางโบราณ”
“ในบรรดาจักรพรรดิเหล่านั้น มีจักรพรรดิสามีภรรยาคู่หนึ่ง จักรพรรดินีเหยาเซวียนแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กาสารหยก... และ...”
“จักรพรรดิซานเซิ่ง!”
“ท่านผู้อาวุโส ท่านคือจักรพรรดิซานเซิ่งใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสชิงหลินมีสีหน้าขมขื่น มองชายชราในชุดดำด้วยความเคารพ
“อะไรนะ!”
“จักรพรรดิซานเซิ่ง!?”
“ผู้แข็งแกร่งขอบเขตจักรพรรดิเมื่อร้อยปีก่อนหรือ?”
ในตอนนี้ ใจของทุกคนราวกับมีม้าหมื่นตัววิ่งผ่าน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะด่าทอในใจ
บัดซบ!
แค่บุกสุสานธรรมดา ๆ กลับกลายเป็นสุสานจักรพรรดิ!
โชคนี้ดีหรือร้ายกันแน่!?
