ตอนที่แล้วบทที่ 5 การตื่นของวีรบุรุษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 ผู้ศรัทธาเทพเก่า

บทที่ 6 คำขอจากชนเผ่าป่า


บทที่ 6 คำขอจากชนเผ่าป่า

ลู่เหยาเมื่อวานนี้ยังสามารถเลิกงานล่วงเวลาได้ แต่วันนี้บริษัทกลับเปลี่ยนเป็นการทำล่วงเวลาหมู่

เจ้านายไม่รู้ไปร้อนใจอะไรมา พอกลับมาก็เรียกประชุมฉุกเฉิน เขาตำหนิดุด่าทุกคน สั่งให้ทุกคนเขียนสรุปผลงานช่วงหลัง และต้องส่งให้เขาตรวจก่อนเลิกงานวันนี้ให้ได้

บริษัททั้งหมดถูกปกคลุมด้วยความกดดันจากเมฆฝนต่ำๆ ที่บีบคั้น

เจ้านายยืนมองนอกหน้าต่างเพียงลำพัง สายตาเคร่งขรึมกอดอก เขายังไม่ไป ใครก็ไม่กล้าขยับไปไหน ลูกหลานที่อาศัยเส้นสายเวลานี้ก็ล้วนแสร้งทำท่าขยันทำงานกันหมด

"แก้หิวหน่อยนะ" พี่สาวเผิง(พี่สาวแซ่เผิง) ส่งขนมปังวาฟเฟิลให้ลู่เหยา

"ขอบคุณพี่สาวเผิง" ลู่เหยาก็รู้สึกหิวเหมือนกัน

พี่สาวเผิงเป็นหนึ่งในสามคนที่ทำงานจริงในบริษัท

เธออายุราวๆ 30 ปี โสด แม้จะไม่นับว่าสวย แต่ก็อ่อนโยน มีมารยาทดี เข้ากับคนง่าย

พี่สาวเผิงบอกว่า ตอนแรกเธอสงสัยลู่เหยามีเส้นสาย เลยอยากปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ภายหลังเธอพบว่าลู่เหยาไม่มีหลังพิงจริงๆ แต่เป็นคนทำงานเชื่อถือได้ ยามคับขันก็ช่วยได้ ที่สำคัญคือ พี่สาวเผิงรู้สึกว่านิสัยของลู่เหยาคล้ายกับลูกพี่ชายของเธอ เลยดูแลลู่เหยาเป็นพิเศษ

"รู้ไหมว่าทำไมเจ้านายถึงโกรธ?" พี่สาวเผิงกระซิบถาม

ลู่เหยาส่ายหน้า

"รถของเขาถูกขีดข่วนน่ะ"

ลู่เหยาจำได้ เจ้านายขับรถ BMW X5 สีขาว คนข้างเบาะคนขับเปลี่ยนไปเรื่อย มีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือความอ่อนเยาว์ นอกนั้นลู่เหยาไม่รู้อะไรเลย

"คนที่ขีดรถเป็นเด็กเล็ก เป็นลูกของเมียน้อยคนหนึ่งของเจ้านาย" พี่สาวเผิงอารมณ์คึกคัก

"สองสามวันก่อนนี้ เจ้านายมีสัญญาใหญ่อีกฉบับก็โดนพังไป ได้ยินว่าแพ้หนุ่มน้อยคนหนึ่ง แม้แต่มือเก๋าก็พลาดได้บ้าง...ครั้งนี้ถือว่าเสียทั้งเมียและกองทัพเลยล่ะ"

ลู่เหยาฟังพลางพยักหน้ารับ สมองฝันใฝ่ถึงเรื่องของเกมซิม

ในที่สุดก็รอดตายจนถึงตอนเจ้านายกลับ พี่สาวเผิงหยิบกระเป๋าสะพายขึ้น "ไปส่งนายเลยมั้ย? เดินทางเดียวกันพอดี"

"ไม่ต้องหรอก ผมจะออกไปเดินเล่นและซื้อของ"

"งั้นระวังตัวด้วยล่ะ"

พี่สาวเผิงพูดว่า "ช่วงนี้ไม่ได้ยินข่าวเหรอ? มีไอ้โรคจิตตัวหนึ่ง ชอบทำให้คนสลบ แล้วถอดเสื้อผ้าเอามัดผูกไว้..."

ลู่เหยาเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง

คงได้แต่บอกว่า โลกนี้มีอะไรแปลกประหลาดเกินคาดเดาจริงๆ เขาไม่เข้าใจรสนิยมแบบนี้เลย

"สองคนที่ตกเป็นเหยื่อ หญิงนักศึกษามหาวิทยาลัยหนึ่ง และชายคนส่งของอีกหนึ่ง ฟังว่ากำลังเข้ารับการบำบัดจิตใจ ราวกับเป็นคนละคนเลยล่ะ โรคจิตนั่นไม่เลือกหน้าเลย"

พี่สาวเผิงนึกขึ้นมาได้ "นายอยู่หมู่บ้านเก้าสวนใช่ไหม?"

ลู่เหยาพยักหน้า

"เหยื่อทั้งสองคนอยู่หมู่บ้านเดียวกับนาย นายต้องระวังตัวหน่อยนะ ตำรวจยังไม่จับไอ้บ้านั่นได้เลย อย่าเดินเตร่นักเลย ผู้ชายก็ต้องระวังเหมือนกัน"

ลู่เหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

"เอ่อ...วันนี้ผมขอติดรถพี่สาวเผิงได้ไหมครับ?"

พี่สาวเผิงหัวเราะ "กลัวแล้วเหรอ?"

"นิดหน่อย"

"ได้สิ"

"งั้นขอบคุณพี่สาวเผิงล่วงหน้าเลยนะครับ"

"เรื่องเล็กน้อย รับรองว่าจะส่งนายกลับบ้านอย่างสมบูรณ์ทั้งกายใจ ขึ้นรถมาเถอะ"

เธอขับรถมาสด้าสีแดง แล่นฝ่าแสงสีแห่งราตรีของเมืองไป

ลู่เหยานั่งที่เบาะข้างคนขับ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

จริงๆ แล้วลู่เหยากับพี่สาวเผิงมีความเข้าใจกันอย่างหนึ่ง ตอนพี่สาวเผิงพูดว่าจะไปส่งเขาสักหน่อยนั้นก็เป็นแค่คำพูดสุภาพเท่านั้น ส่วนที่ลู่เหยาพูดว่าไม่ต้องและขอบคุณก็เป็นมารยาทตอบสนอง วันนี้ถึงได้ขึ้นรถของพี่สาวเผิงจริงๆ เป็นครั้งแรก

ปกติที่บริษัทแม้จะคุยกันถูกคอ แต่พอมาอยู่ในรถซึ่งมีพื้นที่ส่วนตัวเช่นนี้ ทั้งคู่ต่างนิ่งเงียบลง รักษาระยะห่างระหว่างกัน

ในรถมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ โชคดีที่มีเพลงในรถช่วยผ่อนคลายบรรยากาศกระอักกระอ่วน

ลู่เหยาจริงๆ แล้วไม่ได้กลัวพวกบ้า เขาอยู่แต่ในรถเมล์และรถไฟใต้ดิน ต้องเดินเข้าหมู่บ้านอีกแค่ร้อยสองร้อยเมตร แต่การอาศัยรถพี่สาวเผิงไปจะไวกว่า เพราะเขารีบอยากกลับบ้านไปดูความคืบหน้าในเกมซิม

หยุดรถมาสด้าที่นอกหมู่บ้าน พี่สาวเผิงเหมือนจะถอนหายใจโล่งอก พร้อมยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนตอนที่บริษัท "กลับไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน"

"ขอบคุณพี่สาวเผิง"

ลู่เหยาพูดว่า "ขับรถดีๆ นะครับ อย่ารีบนัก"

"วางใจได้"

มองรถขับจากไป ลู่เหยาก็วิ่งฉิวไปยังห้องเช่าของตน

ชนเผ่ากระเทียม เทพเจ้าของพวกเจ้ากลับมาแล้ว!

...

เมื่อเปิดประตู ภูติแคคตัสรับใช้กระโดดคำนับเขาจากบนโต๊ะคอมพิวเตอร์

ลู่เหยาพบว่าห้องเปลี่ยนโฉมใหม่

ปลอกผ้านวม ปลอกหมอน ผ้าม่าน มีสีสันสดใสขึ้นหลายเฉด ฝุ่นและคราบสกปรกทั้งบนและใต้ผ้าถูกภูติแคคตัสดูดไปหมดแล้ว ตู้เสื้อผ้าและตู้หัวเตียงก็ถูเช็ดจนเงางาม ในห้องมีกลิ่นหญ้าไม้จางๆ

สิ่งเดียวที่ภูติแคคตัสไม่ได้แตะต้องคือคอมพิวเตอร์และโต๊ะคอมพิวเตอร์

สองสิ่งนี้ในสายตามันดูเหมือนจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ล่วงละเมิดมิได้ เป็นที่ซึ่งมีเพียงเทพเจ้าเท่านั้นจึงสัมผัสได้ คนอื่นห้ามเกินเลย

หน้าจอ LCD 24 นิ้วฉายแสงสว่าง

ตั้งแต่รู้ว่า 《ซิมเทพเจ้า》 จะรันเองได้ ลู่เหยาก็ไม่ปิดเครื่องอีก ปล่อยให้เกมซิมเปิดทิ้งไว้บนคอมพิวเตอร์เช่นนั้น

มาถึงหน้าคอมพิวเตอร์ เขาพบว่าชนเผ่ากระเทียมเปลี่ยนไปอีก

ประชากรเพิ่มเป็น 38 คน ใน 13 คนใหม่มีทั้งชาวป่าสวมเสื้อกั๊กหนัง ชนเผ่าพื้นเมืองเปลือยกายเท้าเปล่า แม้แม้จะมีคนเร่ร่อนสวมใบไม้รกครึ้มคนหนึ่งด้วย

ค่าศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็น 44

ลู่เหยาดีใจ จะได้ฟาดสายฟ้าได้อีกสองครั้งแล้ว

ภูติแคคตัสรับใช้และไม้กายสิทธิ์รวมกันแล้วจะให้ค่าศรัทธาคงที่ชั่วโมงละ 2 หน่วย ส่วนประชากรที่เพิ่มขึ้นจะให้ค่าศรัทธาแบบเปลี่ยนแปลงได้

สิ่งสำคัญต่อไปในวันนี้ก็คือ

ลู่เหยาเปิดกระเป๋า หยิบกล่องพัสดุกระดาษออกมา เขารีบเปิดกล่อง หยิบถุงพลาสติกบรรจุเมล็ดพืชสีน้ำตาลอ่อนออกมา

นี่แหละคือ 【ของประทาน】 ที่เขาคิดไว้

เมล็ดข้าวสาลี

ให้ชนเผ่ากระเทียมกินอิ่มก่อน แล้วพวกเขาจะมีแรงพัฒนาตัวอักษร เครื่องปั้นดินเผา ถลุงโลหะ หรือแม้กระทั่งอาวุธ ถ้ายังกินไม่อิ่มอยู่ อย่าไปพูดถึงการเรียน เรียนเพื่ออะไร

หากส่งหนังสือไป ถึงจะเป็นคัมภีร์สามตัวอักษรพื้นฐานสำหรับเด็ก พวกตัวเล็กที่สมองยังว่างเปล่าตอนนี้ก็คงไม่มีทางเข้าใจหรอก แม้จะมองเขาก็คงมองไม่ออกว่าเป็นอะไร

ยังต้องสร้างพื้นฐานทางวัตถุให้เสียก่อน พอพวกตัวเล็กมีอาหารพอเพียง พวกเขาก็จะเกิดความต้องการและแรงกระตุ้นทางความคิดที่สูงขึ้นเอง

พระองค์จะทรงพระราชทาน【เมล็ดข้าวสาลี】แก่ศาสนิกชนหรือไม่?

ลู่เหยากด 【ใช่】

อีกครู่หนึ่ง ศาสนิกชนนอกศาสนสถานพากันชูมือและร้องเสียงดังด้วยความดีอกดีใจ

"ปาฏิหาริย์จากพระองค์!"

"สรรเสริญปาฏิหาริย์ สรรเสริญพระองค์!"

"พระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าขอบพระคุณในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์"

"ข้าวสาลี! ข้าวสาลีวิเศษ!"

"อาหาร! อาหารอร่อย!"

"กินให้อิ่ม กินให้อิ่ม!"

ผู้พยากรณ์ออกมากล่าวว่า "พระองค์พระราชทานข้าวสาลีให้เรา เราต้องนำมันไปใช้ให้ดี เผยแพร่ความศรัทธาในพระองค์สู่โลก เช่นเดียวกับกระเทียม"

ลู่เหยาพอใจมาก

สุดท้ายแล้ว ผู้พยากรณ์ก็ยังเป็นผู้มีความรู้คนเดียวในเผ่า เขามองเห็นภาพรวม

หน้าจอแสดง

【ของประทานจากพระองค์ ทำให้ศาสนิกชนเรียนรู้การปลูกและใช้ประโยชน์จากข้าวสาลี ศรัทธาได้รับการเพิ่มพูน】

ค่าศรัทธาจาก 44 กระโดดขึ้นเป็น 84 หน่วย

ลู่เหยาจำได้ว่า กระเทียมให้ค่าศรัทธา 15 หน่วย ครั้งนี้ข้าวสาลีให้ถึง 40 หน่วย ดูเหมือนของประทานก็มีระดับประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ขณะนี้อาหารมีอิทธิพลต่อชนเผ่ากระเทียมมากกว่า

แล้วผู้พยากรณ์ก็เดินเข้ามาในศาสนสถาน คุกเข่าลง มีเครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือหัว

ลู่เหยากดมัน

"พระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ ชนเผ่าป่าได้ข่าวว่ามีผู้ศรัทธาของเทพเก่าใกล้ตาย พวกเขาต้องการมอบเขาเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ แต่ต้องแลกกับการส่งต่อเมล็ดข้าวสาลี อย่างไรก็ตาม เมล็ดข้าวสาลีนั้นมีค่ามาก ข้าพเจ้ามีสติปัญญาอันน้อยนิด ไม่อาจชั่งใจได้ ขอแต่วิงวอนความเมตตาผ่านการเปิดเผยของพระองค์ผู้ทรงฤทธา โอ้พระเจ้าเหยา โปรดทรงชี้นำด้วยเถิด"

พระองค์จะยอมแลกเปลี่ยนเมล็ดข้าวสาลีกับ 【ศาสนิก】 ของชนเผ่าป่าหรือไม่?

【ใช่】【ไม่】

5 1 โหวต
Article Rating
5 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด