ตอนที่แล้วบทที่ 54 สู้ด้วยอิฐ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 บันทึกประจำวันของหลินเป่ย

บทที่ 55 ซื้อปลา


หากวิเคราะห์อย่างถูกต้องก็จะตระหนักว่าทูตปีศาจนั้นมีพลังในการต่อสู้น้อยกว่าราชาเสือเล็กน้อย เพียงแต่ว่าทูตปีศาจตัวนี้เจ้าเล่ห์กว่ามาก ยุนเชาเสี้ยนนั้นน่าจะเอาชนะทูตปีศาจตัวนี้เพียงลําพังได้ แต่เขาจะต้องใช้เวลานานทีเดียว

หลังจากการโจมตีอันทรงพลังของยุนเชาเสี้ยน กิ่งไม้และเถาวัลย์จำนวนมากก็เหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็วและทิ้งไว้เพียงความยุ่งเหยิง

ชูเหลียงมองไปรอบๆ เขาขยายสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อค้นหาสิ่งของล้ำค่าที่อาจตกอยู่

อย่างไรก็ตาม ปิศาจมักใช้ของวิเศษไม่เก่ง และมักไม่มีของมีค่ามากนัก ดังนั้น หลังจากค้นหาอย่างละเอียด เขาพบสิ่งของเพียง 2 ชิ้น ที่อาจมีประโยชน์

ชิ้นแรกเป็นหน้ากากสำริดที่ทูตปีศาจใส่ เมื่อสัมผัสของเขาวิ่งผ่านมัน เขารู้สึกรางๆ ว่ามีพลังงานทางจิตวิญญาณบางอย่างในตัวมันและดูเหมือนจะมีลักษณะพิเศษบางอย่างเขาจึงหยิบมันขึ้นมา

ชิ้นที่สองเป็นใบไม้สีเขียวขนาดเท่าฝ่ามือของเขา ทั่วทั้งพื้นเต็มไปด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่น แต่ใบไม้ใบนี้แตกต่างจากใบไม้อื่นๆ อย่างสิ้นเชิง มันเปล่งประกายและมีพลังที่แข็งแกร่ง

"ทูตปีศาจเป็นปีศาจต้นไม้.. นี่ดูเหมือนจะเป็นใบไม้แห่งชีวิตที่เขากลั่นออกมา" ชูเหลียงกล่าว เขา พลิกดูมัน และตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วสรุปว่า "มันไม่สามารถใช้งานได้ในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่มันจะเป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยมสําหรับการใช้ในการเสริมพลัง ข้าสามารถนํามันกลับไปที่นิกายเพื่อให้คนเปลี่ยนมันเป็นวัตถุวิเศษสําหรับเสริมพลังให้กับอาวุธได้"

หออาวุธมีบริการทำเครื่องมือวิเศษโดยเฉพาะ เหล่าศิษย์แห่งฉูซานสามารถว่าจ้างหออาวุธเพื่อทำเครื่องอาวุธวิเศษได้เพียงแค่ต้องจัดหาวัสดุและเหรียญกระบี่

ยุนเชาเสี้ยนเดินเปลือยท่อนบนมาพร้อมกับง้าว

"ฮ่าๆ คราวนี้ข้าก็ต้องขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านอีกครั้ง" ยุนเชาเสี้ยนกล่าวโดยไม่สนใจว่าชูเหลียงกําลังทําอะไรอยู่เลย

พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่าสิ่งที่ได้จากภารกิจนี้จะเป็นของชูเหลียง ดังนั้นยุนเชาเสี้ยนจึงไม่คัดค้านที่ชูเหลียงจะหยิบจับสิ่งของใดๆ ยุนเชาเสี้ยนเพิ่งฆ่าศัตรูผู้เป็นเป้าหมายและทำภารกิจสำเร็จ เขารู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขมากเพียงพอแล้ว

"ท่านยุน แม้ว่าข้าจะไม่ยื่นมือเข้ามา แต่เขาก็ไม่คู่ควรกับท่านเลย" ชูเหลียงตอบ

"อืม แต่หากท่านทุ่มสุดตัว ข้าเชื่อว่าท่านก็สามารถฆ่าเขาได้ ตรงกันข้าม ท่านตั้งใจปล่อยเขาเพื่อให้ข้าเป็นผู้ปราบเขาเอง.."

ยุนเชาเสี้ยนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก

ในความเห็นของเขา หากชูเหลียงใช้รอยประทับหมื่นกระบี่อย่างเต็มกำลังเช่นเดียวกับในวันนั้น ทูตสวรรค์อาจต้านทานไม่ไหว อย่างไรก็ตาม ชูเหลียงกลับใช้เพียงรอยประทับร้อยกระบี่ที่อ่อนกว่า

คงเป็นเพราะท่านชูรู้ว่าข้าไล่ล่าคนชั่วคนนี้มาหลายวันแล้ว เขาจึงไม่อยากขโมยภารกิจของข้า เขาจงใจให้ข้าเป็นผู้เผด็จศึก

พี่ชู… ข้าประทับใจเหลือเกิน

ชูเหลียงได้แต่หัวเราะและยิ้มอย่างสุภาพ “ฮ่าๆ”

จริงๆ แล้วเขากำลังคิดว่า ถ้าเขาเป็นผู้จัดการทั้งหมด มันจะดูเกินจริงเกินไปเสียหน่อย

หลังจากค้นหาที่บริเวณลานกว้างเสร็จ ชูเหลียงก็หันกลับไปที่ระเบียงชั้นสองและค้นตัวหมอผีที่เขาเอาชนะไปก่อนหน้านี้

พวกเขามีแต่ของที่ดูมืดมนและน่าขนลุก ยกตัวอย่างเช่นมีดบินที่ต้องให้ผู้ใช้กรีดตัวเองก่อนค่อยขว้างมีด และมีกะโหลกกระหายเลือดที่เกือบจะกัดชูเหลียง หุ่นฟางตัวเล็กๆ ที่เขียนข้อมูลการเกิดของใครบางคน และเล็บยาวที่จุ่มอยู่ในเลือดลึกลับ

ของส่วนใหญ่ถูกผูกไว้กับหมอผีผู้เป็นเจ้าของซึ่งต้องการการบำรุงด้วยเลือดของพวกเขา แก่นวิญญาณของสิ่งของเหล่านี้หายไปพร้อมกับการตายของหมอผี

แต่ของบางอย่างก็ยังคงไว้ซึ่งแก่นแท้ทางวิญญาณ แต่สิ่งของเหล่านี้กลับแปลกประหลาดอย่างลึกลับ

พวกมันดูเหมือนจะไม่สามารถใช้งานได้ ชูเหลียงจึงตัดสินใจจะเอามันกลับไปมอบให้กับสำนักของเขา

สิ่งที่มีค่าที่สุดคือกล่องทองที่ชูเหลียงพบในเสื้อของชายชราซึ่งบรรจุสมบัติแห่งธรรมชาติเอาไว้

บัวทองใต้บาดาล

สิ่งที่หลายต่อหลายคนตามหาตกอยู่ในมือของชูเหลียงแล้ว มันเป็นของมีค่ามาก หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ดอกบัวทองนี้จะเป็นของล้ำค่าที่สุดที่ชูเหลียงได้ในครั้งนี้

ชูเหลี่ยงกวาดสัมผัสของตนออกไปอีกสองสามครั้งและมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้พลาดอะไรไป

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นสูดหายใจยาวๆ และออกจากที่นี่ไปเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ของเมือง

...

ชูเหลียงและยุนเชาเสี้ยนเดินทางไปยังศาลากลางของเมืองเกาฉาน พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ชื่อเสียงของฉูซานและดารายิ่งใหญ่นั้นยังคงมีชื่อเสียงเหมือนเช่นเคย

พวกเขาสองคนอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าทูตปีศาจเป็นผู้กระทําผิดในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่น่าเศร้า

หลังจากที่มีการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าเป็นความจริง เนื่องจากผู้ก่อเหตุถูกชูเหลียงและยุนเชาเสี้ยนฆ่าไปแล้ว และในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถปิดคดีได้ การปิดเมืองเพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุได้สร้างแรงกดดันเป็นอย่างมาก แต่ในขณะนี้ทุกอย่างก็คลี่คลายไปในที่สุดและทุกคนก็มีความสุข

ทั้งเมืองต่างยกย่องชูเหลียงและยุนเชาเสี้ยนอย่างเปิดเผย เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบกับบ้านเมืองเป็นอย่างมาก การแก้ไขปัญหานี้ได้ทำให้ชูเหลียงและยุนเชาเสี้ยนมีชื่อเสียงขึ้นมาพอสมควร

ยุนเชาเสี้ยนต้องการมอบรางวัลของตนที่ได้จากเมืองให้กับชูเหลียง ซึ่งชูเหลียงนั้นปฏิเสธทันทีและขอให้เขานำเงินเหล่านี้ไปซื้อเสื้อผ้าของตัวเองเสียดีกว่า

หลังจากออกจากเมืองเกาฉาน ทั้งสองต้องแยกทางกัน อย่างไรก็ตามยุนเชาเสี้ยนรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

"ท่านชู ฟ้าสวรรค์และโลกกว้างใหญ่ไพศาล หลังจากแยกจากกันที่นี่แล้ว ใครจะรู้ว่าเมื่อใดเราจะได้พบกันอีก"

"ท่านยุน สบายใจเถิด ถ้าฟ้าลิขิตอนุญาต เราจะได้พบกันอีก" ชูเหลียงตอบพร้อมยกมือคารวะด้วยความจริงใจ

ยุนเชาเสี้ยนยิ้มและตอบ "คงเป็นเช่นนั้น อย่างช้าที่สุดในปีหน้าท่านคงจะได้เป็นตัวแทนของฉูซานในการแข่งขันนิกายเซียนอมตะที่จะจัดขึ้นที่เมืองหลวงอย่างแน่นอน และเราจะได้พบกันในเวลานั้น"

"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นขอรับ" ชูเหลียงพยักหน้าเห็นด้วย

การจัดงานแข่งนิกายเซียนอมตะจัดขึ้นทุกๆ 12 ปี และจะจัดขึ้นที่เมืองหลวงของราชวงศ์หยู แต่ละนิกายเซียนอมตะจะส่งศิษย์ที่เก่งที่สุดเข้าร่วม การจัดอันดับในการแข่งนี้จะมีความหมายพอสมควรต่อนิกายเซียนอมตะ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ใดต้องการเป็นตัวแทนศิษย์ของฉูซานเพื่อเข้าร่วมการแข่งนิกายเซียนอมตะ พวกเขาจะต้องทําได้ดีในการประชุมสุดยอดฉูซานในปีนี้เสียก่อน มันคาดเดาได้ยากว่าใครจะได้เป็นตัวแทน

หลังจากบอกลาชายผู้ "ชาญฉลาด" คนนี้แล้ว ชูเหลียงก็เริ่มเดินทางกลับฉูซาน..

..เมื่อกระบี่บินของเขากําลังจะมาถึงฉูซาน เขาก็ตัดสินใจลงมาที่ชานเมืองของเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง - เมืองหยุนหัว นี่เป็นเมืองแรกที่เชิงเขาฉูซาน ซึ่งศิษย์แห่งฉูซานมักจะไปจับจ่ายซื้อของที่นั่น

แม้ว่าเมืองหยุนหัวจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็คึกคักมากทีเดียว ชูเหลียงเดินไปยังตลาดสดในมุมหนึ่งของเมือง

เขาได้แวะพักที่แผงขายนก

"ท่านขอรับ ข้าอยากซื้อปลาช่อนเสียตัวหนึ่เพื่อเป็นอาหาร ข้าควรจะไปที่ใดได้บ้าง" ชูเหลียงเอ่ยถาม

เขาได้รับรางวัลจากเมืองเกาฉาน เขาจึงคิดว่าน่าจะซื้อปลาอย่างดีสักตัวเพื่อทำอาหารเย็นเป็นรางวัลให้กับตนเองเสียหน่อย

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปรอบๆ ในหลายๆ ร้าน เขากลับไม่เห็นปลาช่อนที่มีคุณภาพเลย

คนขายนกชี้ไปอย่างกระตือรือร้นและพูดว่า “เจ้าลองไปดูที่ร้านขายปลาคุณเฉินที่มุมถนนสิ เขาน่าจะมีปลาช่อนจากแม่น้ำ คุณภาพดีที่สุดเสมอเลย”

"ขอบคุณขอรับ" ชูเหลียงตอบ

เขาหันไปที่มุมถนน ซึ่งเขาพบหน้าร้านที่ไม่สะดุดตา พอเข้าไปก็เห็นว่าข้างในว่างเปล่า

"เจ้าของร้านอยู่หรือไม่ขอรับ" ชูเหลียงถาม

"ผู้ใดหรือ..." เสียงครวญครางมาจากห้องด้านในของร้าน "ลูกค้ามาหรืองั้นหรือ เข้ามาก่อนเถิด"

"ขอรับ"

ชูเหลียงเดินเข้าไปในห้องด้านในด้วยความสงสัย

เขาเห็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อกล้ามนอนอยู่บนเตียง ชายวัยกลางคนครึ่งหน้าของเขาบวมแดงและที่ขามีแผ่นแปะ จากสีหน้าแล้วเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดมาก

"ช่วงนี้ข้าไม่ค่อยสบาย ต้องขอโทษด้วยนะคุณลูกค้า" เจ้าของร้านเฉินทักทาย "ท่านลองเดินดูรอบร้านได้เลย ท่านอยากได้สิ่งใดก็เอามาแล้วข้าจะบอกราคาให้ท่านนะ"

"ข้าอยากได้ปลาช่อนอย่างดีสักหนึ่งตัว แต่ข้าคิดว่าข้าไม่เห็นมันเลย.." ชูเหลียงกล่าว

"อืม..." เมื่อพูดถึงหัวข้อของปลาช่อน คุณเฉินก็อดครวญไม่ได้อีกครั้ง

นี่ดูเหมือนจะเป็นหัวข้อที่เจ็บปวดสําหรับเขา

"ตอนนี้ข้าไม่กล้าขายปลาช่อนแล้ว" คุณเฉิน

"แต่.. คนข้างนอกต่างก็บอกว่าปลาของท่านที่นี่มีคุณภาพดีที่สุด" ชูเหลียงกล่าว

"นั่นคือเมื่อก่อนแล้ว ปลาทั้งหมดในร้านของข้าถูกจับจากแม่น้ําบอมแบ็ก ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมชาติที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุด" เจ้าของร้านอธิบายอย่างเศร้าโศก "แต่เมื่อสองวันก่อนฝูงผึ้งพิษก็ปรากฏตัวขึ้นในแม่น้ำบอมแบ็ก ดูข้าตอนนี้สิ ข้าถูกผึ้งต่อย นี่ก็เป็นเวลาห้าหกวันแล้ว ข้าไปพบหมอยามา แต่ดูเหมือนว่ายาของเขาจะไม่ได้ผลเลย ข้าทรมาณมากเหลือเกิน

"มีผึ้งพิษมากมายที่นั่น ไม่มีใครกล้าไปจับปลาที่นั่นแล้ว"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด