ตอนที่แล้วบทที่ 49 ใหญ่กว่าสอง  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51 บิ๊กโฟร์  

บทที่ 50 ใหญ่กว่าสาม  


กลีบสีน้ำเงินเริ่มร่วงหล่นทีละกลีบ พร้อมกับดอกบัวสีเพลิงที่ค่อย ๆ ลอยเข้ามาใกล้ ตอนนี้พลังงานธาตุน้ำแข็งและพลังธาตุไฟปรากฏให้เห็นกลางอากาศ

ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือศีรษะของพวกเขาก็เริ่มปั่นป่วน ทันทีที่กลีบดอกสีน้ำเงินสัมผัสกับดอกบัวสีเพลิง ก็ได้ปรากฏเป็นรัศมีดาบจำนวนมากที่พร้อมจะทำลายดอกบัวสีแดงฉานให้สิ้นซาก

ทว่าน่าเสียดายที่รัศมีของดาบสีน้ำเงิน ถูกทำลายด้วยเปลวเพลิงสีแดงทันทีที่ได้สัมผัส เหลือไว้เพียงร่องรอยของภูตผีสีน้ำเงินที่หายไป

ตอนนี้แม้ว่าดอกบัวสีเพลิงทำลายพลังงานทั้งหมดของกลีบสีน้ำเงิน แต่ยังไม่ได้หายไปไหน ทว่าดอกไม้สีเพลิงนั้นกลับรวมตัวกันจนแน่น และหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดอกบัวสีเพลิงขนาดใหญ่ และพลังอันชวนหลงใหลก็เบ่งบานอยู่บนอากาศ

“ไป!” หลูมู่หยานเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

เมื่อสิ้นเสียง ดอกบัวสีเพลิงก็เริ่มหมุนเป็นวงกลม และพุ่งเข้าใส่อี้นู๋ทันที ตอนนี้ดาบซีของนางได้ถูกดอกบัวเพลิงของหลูมู่หยานทำลายไปแล้ว แววตาที่สงบและเย่อหยิ่งกลับเปลี่ยนไป อี้นู๋ระดมหยวนลี่เจี่ยนในร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อหวังจะโจมตีหลูมู่หยานกลับอีกครั้ง

มีเพียงตราแห่งธรรมะของนางเท่านั้นที่ทำสำเร็จ และก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ดอกบัวเพลิงอันน่าหลงใหลของหลูมู่หยานก็เริ่มตกลงใส่ศีรษะของอี้นู๋อย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของอี้นู๋เริ่มซีดเซียว ก่อนที่นางจะเริ่มรวบรวมพลังและส่งมันไปที่ดาบสีเงินอีกครั้ง พร้อมกับสะบัดข้อมือฟาดไปที่ดอกบัวสีเพลิงอย่างแรง

พลังงานของดาบสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ตรงข้ามดอกบัวเพลิงบานสะพรั่งที่กำลังแยกตัวออกจากกันราวกับมันยอมจำนนให้แก่ดาบของนาง

นี้อี้นู๋เริ่มยิ้มเหยียดอีกครั้ง แน่นอนว่าวิชาดาบอี้เจียของนางไม่ง่ายที่จะถูกทำลาย ทว่าอี้นู๋ไม่ยังไม่ทันได้ยิ้มได้กว้างเท่าที่ใจอยากก็เริ่มหุบลง

ตอนนี้ดอกบัวเพลิงที่ถูกพลังดาบซีทำลายไม่ได้กลับมารวมตัวเป็นหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นชิ้นกลีบดีแดงสดร่วงมาจากท้องฟ้าราวกับเม็ดฝนที่มีประกายพร่างพราว

เวลานี้ทุกคนในสนามแข่งขันถูกดึงดูดด้วยท่วงท่าที่สวยงาม และตื่นตาของเวทีที่ยี่สิบหก แม้แต่นักเรียนที่กำลังต่อสู้ก็หยุดการเคลื่อนไหว เพื่อมองไปที่จุดเดียวกันกับทุกคน

หลังจากที่หลูมู่หยานรวบรวมดอกบัวเพลิงที่กำลังเบ่งบาน ผู้คนส่วนใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ก็เริ่มตกใจ เมื่อกลีบดอกบัวหลุดออกและต้านทานพลังฉีดาบของอี้นู๋ได้อย่างสมบูรณ์

ตอนนี้หลายคนอ้าปากค้าง พร้อมกับจ้องมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

กลีบดอกบัวที่ร่วงหล่นมาจากฟ้าไม่ได้โจมตีใส่อี้นู๋โดยตรง แต่กลับกระจายอยู่รอบตัวของอี้นู๋ ในขณะที่นางกำลังเหวี่ยงดาบไปมาทำให้อี้นู๋หมุนไปรอบ ๆ ด้วยความตกใจ

ผู้คนในสนามเริ่มตกตะลึง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปได้อย่างไร? การควบแน่นขององค์ประกอบจากไฟสามารถเปลี่ยนสถานะได้ตามต้องการงั้นหรือ? หรือพวกเขากำลังตาฝาดกันแน่

อี้นู๋ในตอนนี้เริ่มตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ร่างกายของนางถูกรั้งไว้ด้วยกลีบดอกบัวสีแดง และแม้ว่าอี้นู๋ต้องการที่จะโจมตีกลับแค่ไหน แต่พลังในร่างกายดูเหมือนว่าถูกปิดกั้นจากอะไรบางอย่างทำให้นางไม่สามารถขยับตัวได้ในขณะนี้

กลีบดอกบัวสีแดงเพลิงพาร่างกายของอี้นู๋ลอยขึ้นเหนือแท่นการต่อสู้ พร้อมกับสายตาของทุกคนที่จับจ้องไปที่นาง ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าหลูมู่หยานจะทำอะไรต่อไป

หลูมู่หยานยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่นางจะยื่นมือขวาออกมาและดีดนิ้ว ทันใดนั้นกลีบดอกบัวที่ร่วงหล่นก็กลายเป็นสายเพลิงห่อหุ้มตัวของอี้นู๋เอาไว้

อ๊ากกกกก!!ความเจ็บปวดกำลังเล่นงานอี้นู๋จนถึงกระดูก นางไม่สามารถกลั้นเสียงแห่งความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว

ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้เห็นว่าทั้งตัวของอี้นู๋ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดงที่ส่องประกาย และตัวของนางก็เริ่มมีอาการชักและชักกระตุกภายใต้พันธนาการที่หลูมู่หยานสร้างขึ้น

อ๊าาาาาาาาาา!

อี้นู๋กรีดร้องอีกครั้งเมื่อนางเริ่มรู้สึกชาที่ศีรษะ

ผู้ตัดสินประจำเวทีหรี่ตาลง เขากระแอมเบา ๆ พร้อมกับมองไปที่หลูมู่หยาน แล้วพูดว่า “เจ้าไม่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ระหว่างการแข่งขันได้ วางนางลง เจ้าชนะเกมนี้แล้ว”

“ข้าเพียงแค่ทำให้นางทรมานนิดหน่อย และมันจะไม่ถึงแก่ชีวิต” หลูมู่หยานกดสายตาลง ก่อนจะมองไปที่ผู้ตัดสินพร้อมกับเอ่ยถามว่า “นางพ่ายแพ้ในการต่อสู้หรือไม่? นางยอมแพ้โดยสมัครใจหรือไม่?”

“ไม่” ผู้ตัดสินตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ

หลูมู่หยานยิ้ม พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความชั่วร้าย “แล้วทำไมข้าต้องวางนางลง ในเมื่อการแข่งขันนี้ยังไม่จบ”

พลังไฟของหลูมู่หยานถูกควบคุมอย่างดี และจะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของอี้นู๋ แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องทนความเจ็บปวดจากพลังงานไฟที่แผดเผาและล้างไขกระดูก แน่นอนว่าต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่การที่อี้นู๋จะฝ่าฟันไปสู่ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิแห่งดาบในชีวิตนี้นั้นไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว

หากอี้นู๋ไม่เอาแต่พูดจาไม่ดีเกี่ยวกับนางลับหลัง และไม่เผชิญหน้ากับนางหลายครั้ง หลูมู่หยานก็คงไม่ทำแบบนี้ … ในวันนี้

แต่เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ระหว่างการหาประสบการณ์นอกสถานที่ที่สถาบันเป็นผู้จัด อี้นู๋ได้รับคำยั่วยุจากกู่ยันรันให้หลอกล่อหลูมู่หยานออกไปในที่ห่างไกลใกล้ป่า โดยใช้ฉีอี้ซวนเป็นตัวล่อ พร้อมกับไล่เหล่าอสูรเพื่อให้โจมตีนาง

ครานั้นหลูมู่หยานถูกโจมตีและถูกกัดกลายแห่ง ก่อนที่นางจะเผลอตกลงไปที่เบื้องล่างของหน้าผาโดยไม่ตั้งใจเพียงเพราะต้องการหนีเอาชีวิตรอด

ตอนนั้นหลูมู่หยานกลัวว่าฉีอี้ซวนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฉะนั้นเมื่อตระกูลของพวกเขามาพบกันก็ได้รับคำตอบว่านางแค่บังเอิญไปยั่วยุเหล่าอสูรเข้า … ก็เท่านั้น

หลูมู่หยานยอมรับว่าแม้นางจะกระทำการรุนแรงแต่ก็ไม่เคยคิดจะฆ่าใคร ทว่าพฤติกรรมของอี้นู๋และกู่ยันรันทำให้นางแทบทนไม่ได้ หญิงสองคนนี้ต้องการที่จะกำจัดนางมาโดยตลอด ฉะนั้นอย่าได้บอกว่านางใจร้ายเกินไป

อ๊าาาาาาาก! อ่อก!

อี้นู๋ยังคงร้องออกมา ก่อนจะสำลักด้วยความเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ที่ผ่านมานางไม่เคยได้รับความเจ็บปวดเช่นนี้ ตอนนี้นางกลัวความตาย กลัวและไม่กล้ายั่วยุหลูมู่หยานอีกต่อไปแล้ว

“อี้นู๋ เจ้ารู้สึกดีหรือไม่?” หลูมู่หยานดีดนิ้วอีกครั้ง และเปลวเพลิงที่รายล้อมอี้นู๋ก็สลายหายไป เหลือเพียงแค่เชือกที่มัดมือ และเท้าของนางก็เท่านั้น

สายธารแห่งความกลัวไหลเอ่อออกจากดวงตาของอี้นู๋ไม่ขาดสาย นางกัดริมฝีปากข่มความรู้สึก แม้ว่าอยากพูดคำว่า ‘ยอมแพ้’ ก็ไม่สามารถทำได้

“ไม่สบายหรือเปล่า?” หลูมู่หยานส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา “วันนี้เป็นเพียงการตอบแทนที่เจ้าเกือบทำให้ข้าได้เจอกับเหล่าอสูร จำไว้ว่าหากเจ้ายังคิดจะยั่วยุข้าอีก ข้าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดมากกว่านี้อีกสองเท่า”

หลูมู่หยานเชื่อเสมอว่าการแก้แค้นศัตรูที่ดีที่สุดไม่ใช่การปล่อยให้ตาย แต่เป็นการทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่างหาก

เมื่อสิ้นเสียงของหลูมู่หยาน บางคนก็รู้สึกว่านางนั้นโหดร้ายเกินไปก็ควรปล่อยอี้นู๋ไป ทว่าอี้นู๋เองก็เคยใส่ร้ายหลูมู่หยาน ไม่แปลกใจที่นางจะใช้วิธีนี้ในการลงโทษอี้นู๋

คู่ต่อสู้ของหลูมู่หยานก่อนหน้าเริ่มคอหด โชคดีที่พวกเขาไม่ได้รุกล้ำหลูมู่หยานมิเช่นนั้นคงต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับอี้นู๋เป็นแน่ที่ไม่สามารถอยู่หรือตายได้ เพียงเท่านี้พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว

กู่ยันรันเอาแต่ตกใจกับการต่อสู่ของหลูมู่หยานและอี้นู๋ แม้ว่านางและอี้นู๋จะไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนระดับจังหวัดเดียวกัน ทว่าก็ยังเกรงกลัวในฝีมือของกันและกัน เพราะความแข็งแกร่งของพวกนางไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก

… แต่ตอนนี้อี้นู๋ถูกหลูมู่หยานทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม

กู่ยันรันมองไปที่หลูมู่หยานอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะแตะสร้อยข้อมือเงินในมือ เพื่อระงับความตื่นตระหนกในใจ

นางไม่ใช่อี้นู๋ และนางยังมีโฮลการ์ดซึ่งก็มากพอที่ทำให้ไม่กลัวหลูมู่หยาน เมื่อนึกถึงไพ่ตายใบสุดท้าย ความว้าวุ่นในใจก็เริ่มสงบ ตอนนี้ความแค้นก็เริ่มฉายในดวงตาชัดขึ้น

นางก็ต้องชนะ ชนะอย่างแน่นอน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด