บทที่ 35 ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว
บทที่ 35 ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว
การสวดภาวนาใกล้ตายของอิซาเบลผ่านไปด้วยดี
แต่คำตอบที่เธอให้มา กลับต่างไปจากสิ่งที่ลู่เหยาคิดไว้เล็กน้อย
จากคำบอกเล่าของวิญญาณสัตว์ถ้ำที่ตายไปแล้ว เรื่องราวมีอยู่ว่า
ฝูงสัตว์ถ้ำนี้อาศัยอยู่ในถ้ำลึกบนภูเขา มีจำนวนรวมกัน 28 ตัว พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ขาดแคลนทรัพยากร ไม่มีทั้งการทำไร่ไถนาและการค้าขาย ระดับสติปัญญาต่ำ ส่วนใหญ่แล้ว พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินกินแมลง
การแข่งขันใต้ดินรุนแรงเกินไป แมลงไม่พอกิน สัตว์ถ้ำเผ่านี้จึงเสี่ยงมาล่าสัตว์บนพื้นดิน
แต่น่าเสียดาย เพราะฝนแล้งหลายปีซ้อนและฤดูหนาวอันยาวนาน ทำให้บริเวณรอบๆขาดแคลนน้ำและหนาวเหน็บ สัตว์บนภูเขาแต่เดิมน้อยลงมาก บางส่วนที่ยังเหลืออยู่ก็หนีเข้าป่ากันหมด
ในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ หัวหน้าสัตว์ถ้ำ ก็คือสัตว์ถ้ำกลายพันธุ์ตัวนั้น ได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ไปหาอาหารที่ตีนเขาที่ไกลออกไปอีก!
ในกระบวนการนี้ สัตว์ถ้ำได้รู้จักกับกลุ่มใหม่คือชนเผ่าบ่อเกลือ
ชนเผ่าบ่อเกลือนอกเขาได้ทำการค้ากับพวกมัน ยินดีจัดหาเนื้อ ข้าวสาลี และเกลือที่พวกมันต้องการให้ เพื่อเป็นการตอบแทน สัตว์ถ้ำต้องทำงานแทนพวกเขา
แม้แต่สัตว์ถ้ำก็ต้องกินข้าว
ดังนั้นพวกมันจึงตกลง
สัตว์ถ้ำเริ่มขนส่งสินค้าให้ชนเผ่าบ่อเกลือ ขุดเจาะทางเดินในภูเขา ลงไปขุดแร่ใต้ดิน ไปตัดไม้นอกเขา... โดยรวมก็เป็นงานหนักงานเหนื่อยทั้งนั้น เพื่อให้ได้กิน สัตว์ถ้ำจึงจำต้องเร่งสร้างกำแพง
การแย่งชิงของจากมือชนเผ่าบ่อเกลือนั้นเป็นไปไม่ได้
เพราะชนเผ่าบ่อเกลือได้รับการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย
สิ่งชั่วร้ายนั้นกล้าหาญไม่กลัวตายและแข็งแกร่งกว่าสัตว์ถ้ำ แม้จะถูกสับเป็นเจ็ดแปดท่อน แต่ถ้าประกอบกลับเข้าด้วยกันได้ ก็จะค่อยๆฟื้นขึ้นมาใหม่
ภายใต้การข่มขู่ของสิ่งชั่วร้าย สัตว์ถ้ำจึงได้แต่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง เพื่อแลกกับอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากความพยายามทุกวันอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดสัตว์ถ้ำก็ทำตามความต้องการของชนเผ่าบ่อเกลือสำเร็จ เปิดทางเดินจากหุบเขาไปทางตะวันออกใหม่ ได้รับอาหารที่มาช้าไปบ้าง
แต่พอดีเวลานั้น ขณะกำลังขนหินอยู่ พวกมันก็ได้พบกับพี่น้องหมูปลาจากชนเผ่ากระเทียม
พี่น้องหมูปลาเห็นพวกมันแล้วตื่นเต้นมาก ตะโกนว่า "เพื่อชนเผ่า!" แล้วพุ่งเข้าโจมตีทันที
เป็นพวกเขาที่ลงมือก่อน
ตอนนั้นมีสัตว์ถ้ำเพียงสองตัว โดนพี่น้องหมูปลาที่มีพรานมาด้วยตีจนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ตรงกลับเข้าไปในภูเขา พี่น้องหมูปลายังคงไล่ติดตามไปอย่างไม่ลดละ
พอกำลังเสริมของสัตว์ถ้ำมาถึง สถานการณ์ก็เริ่มกลับตาลปัตร
ผลสุดท้ายก็คือ หัวหน้านักล่ากับพรานอีกสี่คนตายในการต่อสู้ มีเพียงหยูโจวที่หนีมารอดชีวิตคนเดียว
ลู่เหยายืนยันความเป็นจริงของสิ่งที่วิญญาณพูดซ้ำหลายครั้ง
"ผู้ตายระดับต่ำ จะไม่สามารถโกหกภายใต้การข่มขู่ของทะเลแห่งความตายได้"
อิซาเบลบอกว่าเชื่อถือได้
หลังจากฟังคำอธิบายเหล่านี้แล้ว ลู่เหยากดจมูก ตาสั่น
พันธุกรรมแห่งการล้มตายและการพองตัวของมนุษย์นี่มันก็ส่อเค้าตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของชนเผ่าแล้ว
ไม่หาที่ตายก็ไม่ตาย
ถึงหลายคนจะรู้กฎข้อนี้ แต่ก็ยังคงแสดงท่าที "ฉันรู้ แต่ฉันก็อยากลองดู" อยู่ดี
ถ้ามองในแง่ดี การเข้าโจมตีอย่างกระตือรือร้นของพี่น้องหมูปลา กลับเป็นการเปิดโปงภัยคุกคามของสัตว์ถ้ำออกมาล่วงหน้า
ชนเผ่าบ่อเกลือควบคุมกลุ่มสัตว์ประหลาดนี้อย่างอ้อมๆ ก็เหมือนดาบอยู่เหนือหัวของชนเผ่ากระเทียม จัดการเร็วหน่อยก็ถือว่าป้องกันก่อนเกิดเหตุ
สิ่งที่ลู่เหยาระวังก็คือชนเผ่าบ่อเกลือที่อยู่เบื้องหลัง
พวกมนุษย์ตัวจิ๋วเหล่านี้สามารถใช้สัตว์ประหลาดเป็นทาส บังคับให้สัตว์ประหลาดทำงานให้ตัวเองได้แล้ว ความน่ากลัวของพวกมันในใจลู่เหยาจึงเพิ่มขึ้นอีกระดับ
ในเมื่อปะทะกันแล้ว ก็ขอเริ่มจากภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มนี้แล้วกัน
ลู่เหยาสั่งการครั้งล่าสุดให้อิซาเบล ตรวจดูในภูเขาเพื่อหาจุดตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าบ่อเกลือ
หลังได้รับคำสั่ง อิซาเบลก็เริ่มค้นหาในภูเขา
...
นอกจากชาวบ้านปกติ ในชนเผ่ากระเทียมยังมีวิญญาณผู้อยู่อาศัยจากเมืองผีซานิโรมาสักหลายคน แน่นอน คนทั่วไปไม่รู้และมองไม่เห็นพวกเขา
ในหลายคนนั้น หัวหน้าคือวิญญาณที่ชื่อสก็อตต์ จากมุมมองการทำงานแล้ว เขาค่อนข้างทำหน้าที่เป็นยมทูตประจำหมู่บ้านของชนเผ่ากระเทียม
พวกเขาค้นหาวิญญาณที่พเนจรไปมาในที่นี้ อาศัยการชักชวนแนะนำเป็นวิธีการ แล้วค่อยพาวิญญาณเหล่านี้ที่สมัครใจกลับไปซานิโรทีละทาง
สก็อตต์มาถึงสถานที่ที่หัวหน้านักล่าเสียชีวิต ศพถูกชนเผ่ากระเทียมขนไปฝังในป่าแล้ว
เขาร้องเรียกออกมา "พวกพ้องที่หลับใหลพเนจรอยู่ที่นี่ โปรดออกมาพบหน่อยเถิด"
บนพื้นดินค่อยๆปรากฏวิญญาณขึ้นห้าตน
ร่างของหัวหน้านักล่าและคนอื่นๆโปร่งใสครึ่งหนึ่ง แตกต่างจากร่างเล็กพิกเซลปกติอย่างสิ้นเชิง
"ที่นอกทะเลทรายทางใต้ มีเมืองของคนตายชื่อซานิโร ที่นั่นก็บูชาเหยาผู้ยิ่งใหญ่ พลังอำนาจของเทพสร้างสรรค์ที่นั่นขึ้นมา..."
สก็อตต์พูดไปสองสามประโยค หัวหน้านักล่าก็บอกว่า "ข้ายินดีไปซานิโร!"
พรานอีกสี่คนก็ยินดีไปด้วยกันทั้งหมด
ต่างจากคนตัวเล็กทั่วไป วิญญาณเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ามาก พวกเขาไม่สนใจอุปสรรคทางภูมิศาสตร์หลายอย่าง ก็เลยตัดตรงไปตลอดทาง ข้ามภูเขาข้ามหุบเขา เดินข้ามทะเลทราย
เนื่องจากหนอนทรายโดนอิซาเบลฆ่าจนไม่กล้าขึ้นมาบนพื้นดิน ดังนั้นตอนนี้ทะเลทรายก็ปลอดภัยมาก
เมื่อเข้าสู่ซานิโร หัวหน้านักล่าและพรรคพวกได้รับความสามารถพิเศษสำหรับวิญญาณด้วย
...
【วีรบุรุษ Lv2】หัวหน้านักล่า
พลังโจมตี 3 พลังป้องกัน 2 ความรู้ 0 พลังเวท 0 โชคลาภ 0 ขวัญกำลังใจ 0
【ความสามารถ】
วิชาตามรอย Lv1: สามารถแยกแยะร่องรอยที่คนและสัตว์ทิ้งไว้ได้
หลบหลีก Lv1: สามารถหลบหลีกความเสียหายจากการโจมตีบางส่วน โอกาสจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับชีวิตที่อ่อนแอกว่าตัวเอง
...
สิ่งเดียวที่ทำให้ลู่เหยาเสียดายก็คือ พลังพิเศษของหัวหน้านักล่าและหยูโจว คู่หูเบอร์หนึ่งในยุคแรกของชนเผ่ากระเทียมนี่ธรรมดามากๆ จนถึงตอนนี้พวกเขายังติดอยู่ที่ระดับ Lv2
นี่ก็เป็นเพราะลู่เหยาไม่ได้ให้ความสำคัญในการฝึกฝนพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือยุคอารยธรรมเผ่า ไม่ทนต่อการสูญเสียประชากรจริงๆ ส่วนใหญ่เวลาก็เป็นการพัฒนาและบริหารจัดการ รวมถึงมีอิซาเบลที่เป็นอาวุธนิวเคลียร์เชิงกลยุทธ์แล้ว ก็ไม่ค่อยได้ใช้งานพี่น้องหมูปลาสักเท่าไหร่
...
ตอนที่พวกวิญญาณเข้าไปในซานิโร ในชนเผ่ากระเทียมกำลังจัดพิธีศพให้วีรบุรุษ ไว้อาลัยและรำลึกถึงทุกสิ่งที่หัวหน้านักล่าเคยทำเพื่อชนเผ่า
"เขาคือหนึ่งในสองวีรบุรุษที่เกิดขึ้นในชนเผ่า เขาเคยต่อสู้อย่างกล้าหาญกับผู้ศรัทธาปีศาจ ไม่เกรงกลัวชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่น"
"เขาคือศาสนิกที่เทพเจ้าชื่นชม เป็นเนื้อเป็นตัวของพลังและความกล้าหาญ เป็นสัญลักษณ์ของการไม่ยอมจำนน"
"เขาคือความภาคภูมิใจของเรา เป็นผู้นำทางให้เรา และเป็นหลักฐานการดำรงอยู่ของพวกเรา"
ผู้พยากรณ์และหมอผีต่างกล่าวชมเชยหัวหน้านักล่า
ความเศร้าโศกแผ่ปกคลุมทั่วทั้งชนเผ่ากระเทียม สีหน้าแสดงความเสียใจปรากฏอยู่เหนือหัวของคนตัวเล็ก
หลอดไฟสว่างวาบขึ้นเหนือหัวของผู้พยากรณ์ "พวกเราต้องสร้างอนุสาวรีย์!"
"เพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษเหล่านี้ที่อุทิศตนเพื่อชนเผ่า และเพื่อเตือนใจลูกหลานไม่ให้ลืมประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์คดเคี้ยวเหล่านี้!"
คนตัวเล็กคนอื่นๆในชนเผ่าต่างเห็นด้วย
"อนุสาวรีย์!"
"อนุสาวรีย์! อนุสาวรีย์ของชนเผ่า!"
"บันทึกวีรบุรุษ! บันทึกชนเผ่า!"
ดังนั้น ภายใต้การนำทางของผู้พยากรณ์และหมอผี คนตัวเล็กจำนวนมากจึงช่วยกันก่อหอหินทรงสี่เหลี่ยมด้วยก้อนหิน มันดูคล้ายป้ายสุสานขนาดใหญ่
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอเกม
【ชนเผ่ากระเทียมประดิษฐ์อนุสาวรีย์ สติปัญญาของทุกคนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย】
【ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์รูปแบบที่สามารถใช้ได้: อนุสาวรีย์】
【การสร้างสิ่งมหัศจรรย์ครั้งแรกใช้ศรัทธาน้อยลง】
ลู่เหยางงงัน
แม้แต่เรื่องแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ
เขาคลิกเข้าไปดูในหมวดปาฏิหาริย์ ไปที่【สิ่งมหัศจรรย์】หน้าสุดท้าย
ตามคาด ค่าใช้จ่ายของ【สิ่งมหัศจรรย์】จากเดิม 5000 ศรัทธา ลดลงเหลือ 4500 คะแนน พอดีตัดเป็น 90%
ลู่เหยาครุ่นคิดสักพัก เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่
เกมซิมนี้สนับสนุนให้ผู้เล่นที่เป็นเทพเจ้าฝึกหัดสร้างสิ่งมหัศจรรย์เร็วๆ เข้าวิหารแห่งเทพทั้งหลาย ออกจากโซนปลอดภัย เข้าโซนปีนป่าย เพื่อเปิดขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว
แต่ลู่เหยายังไม่มีแผนแบบนั้น
แผนของเขาคือ บรรลุเป้าหมายเล็กๆนั่นก่อน คือครองพื้นที่มือใหม่ให้ได้