ตอนที่แล้วบทที่ 31 ผู้หญิงเปิดทะเล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 ไม่มีสิทธิ์

บทที่ 32 คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ ซ่งชิอี้


บทที่ 32 คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ ซ่งชิอี้

อิซาเบลลงจากรถ แต่ไม่ได้ขยับเขยื้อนเดินออกไปทันที

เธอจ้องมองไปที่เสาไฟ

ตามสายตาของเธอ ลู่เหยามองไปที่ยอดของเสาไฟ มีนกกระจอกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนโคมไฟ

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง แต่ไฟถนนในตรอกกลับสว่างขึ้น ดูประหลาดพิลึกนิดหน่อย

"ท่านเทพเจ้า พบผู้ศรัทธาปีศาจแล้ว"

อิซาเบลจับจ้องสายตาไปที่นกกระจอกตัวนั้นอย่างแน่วแน่ "เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตำแหน่งของท่าน ข้าคงต้องอ้อมไปสักหน่อย"

ลู่เหยาฟังแล้วใจหายวาบ

ผู้ศรัทธา?

คงไม่ใช่ท่านเทพอีฉีมาเองกระมัง?

อิซาเบลระมัดระวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จ้องมองนกกระจอกที่เกาะอยู่บนเสาไฟ

"ถอยกลับ"

ลู่เหยาสั่งทันที "ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก"

"ท่านเทพเจ้า อีกฝ่ายมาถึงแล้ว"

พอพูดจบ เงาร่างคนปรากฏขึ้นที่ปากตรอก

คนที่มาใหม่ผมสีเงินสั้น สวมชุด JK สีฟ้าขาวแขนยาวกระโปรงสั้น ใส่ถุงน่องสีดำ รองเท้าหนังสีน้ำตาล คล้องกระเป๋าเป้สีขาวข้างหนึ่ง

เธอดูอายุไม่ถึงยี่สิบ มีดวงตารูปหัวใจอันชุ่มชื้นสดใส ริมฝีปากเล็กของเธอเม้มปากน้อยๆ ดูจริงจังไปสักนิด แต่ก็ยังปกปิดความกระตือรือร้นและพลังของวัยนี้ไม่ได้

เมื่อสาวน้อยปรากฏตัวขึ้น นกกระจอกบนฟ้าก็บินลงมา เกาะลงบนไหล่ของเธอ

"ยินดีที่ได้รู้จัก"

สาวน้อยมองไปที่อิซาเบล "สวัสดี ฉันคือซ่งชิอี้ อัยการจากคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ"

น้ำเสียงของเธอแจ่มใส เสียงสูงขึ้น

ในเวลาเดียวกัน มีแสงสว่างปรากฏขึ้นรอบตัวซ่งชิอี้ เหมือนเกราะดาวที่ล้อมรอบเธอ เหมือนมีจักรวาลจิ๋วที่มีแสงดาวกะพริบอยู่ข้างใน

ในเกราะดาวที่อยู่บนหลังของเธอ มีโล่สีเงินลอยอยู่ บนโล่มีกองไฟแคมป์ไฟลุกโชน

ภาพอัศจรรย์เหล่านี้ปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่ แล้วก็หายไปไม่เห็นร่องรอย

"ถ้าคุณยอมหยุดแวะสักประเดี๋ยว เพื่อให้การและบันทึกรายละเอียด... คณะกรรมการจะขอขอบคุณในความร่วมมือและความช่วยเหลือของคุณ"

ซ่งชิอี้มองไปด้านหลังของอิซาเบล จับจ้องที่รถคันที่เกิดอุบัติเหตุ

"ดูเหมือนว่าคุณได้จัดการกับผู้ต้องหาที่ฉันตามล่าแล้ว"

อิซาเบลไม่พูดอะไร

ลู่เหยาที่อยู่ห่างไกลคิดอย่างรวดเร็ว พูดว่า "ตอบตกลงเธอ แล้วดูซิว่าคณะกรรมการนี่มันคืออะไรกันแน่"

เห็นว่าอิซาเบลไม่ปฏิเสธ ซ่งชิอี้พูด ขอบคุณ เธอเปิดกระเป๋าที่พกติดตัว หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดโหมดบันทึกเสียง

"มันกฎพื้นๆ งั้นบันทึกเสียงไว้"

"ขอถามคุณชื่ออะไร?"

"แมรี่"

"อืม คุณแมรี่ สมาชิกตระกูลทะเลตะวันออกที่ชื่อ 'อวี๋เหยา' ผู้หลบหนีจากมิติต่ำมานั้น ก่อนหน้านี้เธอเคยฆ่าคนธรรมดาผู้บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ไปสองคน เธอก็เป็นคนร้ายสำคัญที่คณะกรรมการกำลังตามล่าอยู่ช่วงนี้ด้วย ช่วงหลังเธอก็หลบหนีมาอยู่ในย่านนี้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าคุณเจอเธอมายังไง..."

"แล้วท่านเทพอีฉีล่ะ? ผู้บงการเบื้องหลังคนนี้ถูกจับหรือยัง?" อิซาเบลย้อนถาม

เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เธอทวนซ้ำคำพูดของลู่เหยา

"ท่านเทพอีฉี?"

ซ่งชิอี้ดูตกใจเล็กน้อย "ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยได้สนใจประกาศเท่าไหร่นะ เขาถูกจับไปแล้วเมื่อสองปีก่อน"

เธออธิบายอย่างสั้นๆ

"ท่านเทพอีฉีเข้าร่วมในอาชญากรรมร้ายแรงหลายครั้ง ถูกตัดสินจำคุก 180 ปี ถ้าไม่เกิดปาฏิหาริย์ เขาจะต้องมีชีวิตอยู่ในห้องขังเป็นเวลานาน"

ลู่เหยาคิดในใจว่า นี่ก็ถือเป็นข่าวดี

ลดความเสี่ยงที่ต้องไปดวลกับผู้เล่นตัวจริง

ในโลกเกมซิม เขาทำลายโทเท็มของท่านเทพอีฉีไปแล้วสองอัน ณ ตอนนี้ เหมือนว่าถ้าเจอกันอีกครั้งก็คงทำแบบเดิมอยู่ดี

ลู่เหยาพูดผ่านอิซาเบล "ในเมื่อท่านเทพอีฉีถูกจับไปแล้ว แล้วอวี๋เหยาล่ะเป็นไง?"

"เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้คุณฟังอีกที แต่ก่อนหน้านั้น ฉันต้องถามข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับที่เกิดเหตุ"

ซ่งชิอี้ซักถามเรื่องอวี๋เหยาอย่างรอบคอบ

อิซาเบลบอกว่าไม่รู้อะไรเลย เธอแค่จับตัวตนของอวี๋เหยาจากมิติต่ำได้ พบว่าเธอมีพฤติกรรมผิดปกติ ก็เลยเข้าไปถามไถ่ ปรากฏว่าอีกฝ่ายเจ้าคิดเจ้าแค้น กลับมาจะมาจู่โจมลอบทำร้ายเธอ เลยเผลอไปฆ่าเสียเลย

"อ้อ งั้นเอง"

ซ่งชิอี้หลับตาปริบหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดูเหมือนจะเป็นอาการติดนิสัยอะไรบางอย่าง

ลู่เหยารู้สึกว่า ตอนที่ซ่งชิอี้หลับตา เหมือนใครสักคนในความทรงจำของเขานิดหน่อย... แล้วยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน แต่ชื่อนั้นถึงปากก็เรียกไม่ออก

กระบวนการซักถามเสร็จสิ้นแล้ว ซ่งชิอี้จึงกดปุ่มหยุดบนโทรศัพท์มือถือ

"ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ"

เธอใส่โทรศัพท์กลับลงในกระเป๋าสะพาย "ต่อจากนี้จะเป็นการพูดคุยกันส่วนตัว คุณผู้ศรัทธาน้อย เมื่อครั้งก่อน 'แจ็ค' ที่อยู่ใกล้ๆนี่ ก็ถูกจับโดยคุณใช่ไหม?"

อิซาเบลไม่ตอบ

แม้แต่ลู่เหยาที่อยู่ไกลก็ตกใจ

"ไม่ต้องเกร็ง นี่เป็นแค่การพูดคุยส่วนตัวล้วนๆ"

"คุณแมรี่ ขออนุญาตแนะนำตัวอีกครั้งนะ"

ซ่งชิอี้ชี้ไปที่ตัวเอง พูดว่า "ถึงฉันจะเป็นอัยการของคณะกรรมการ แต่เพราะป่วยเป็นโรคจิต คนส่วนใหญ่ก็เลยยินดีติดต่อกับฉัน"

"เคยได้ยินโรคหลงลืมเดินหน้าไหม? อาการของฉันหนักกว่านั้นหน่อย"

"ง่ายๆ คือ ความทรงจำของฉันสามารถเก็บไว้ได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในส่วนของทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ต่างๆนั้น จะถูกเก็บไว้ในสมอง แต่ความทรงจำจะถูกทำลายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง สิ่งที่อยู่ในสมองของฉัน จะสามารถเก็บไว้ได้แค่อายุ 14 ขวบเท่านั้น"

"นอกจากนี้ ฉันยังเลือกที่จะลบความทรงจำของตัวเองได้ด้วย นั่นก็คือ สำหรับความทรงจำ ฉันเลือกที่จะลบมันทิ้งแต่ไม่สามารถเก็บมันเอาไว้ได้"

"สำหรับงานของฉันแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องดี ไม่ต้องจำอะไรมากมาย ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย ทุกคนก็ให้ความร่วมมือกับงานของฉันดี เพราะฉันจะไม่ยุ่มย่ามกับความเป็นส่วนตัวของพวกเขา"

"คณะกรรมการแนะนำให้ฉันสวมอุปกรณ์บันทึกความจำอะไรทำนองนั้น แต่ฉันปฏิเสธไป ถ้าทำแบบนั้น ฉันกลับจะไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย"

"อีกอย่าง การที่ต้องตื่นมาจำเรื่องมากมายทุกวัน มันเป็นภาระหนักหนาสาหัสจริงๆ วันใหม่ก็เริ่มต้นใหม่ อย่างนี้จะสบายใจกว่า"

เธอลูบนกกระจอกบนไหล่ "นี่คือหมิงไจ่ ความสามารถของมันคือประเมินมูลค่า เรื่องนี้มันชำนาญมาก"

"ดังนั้นฉันเลยมองออกได้ในทันทีว่าคุณเป็นใคร"

"แน่นอน สิ่งที่ฉันพูดมานี่ คุณไปสืบดูอีกสักนิดก็รู้เรื่องแล้วแหละ"

"นี่คือนามบัตรของฉัน ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ หรือให้ข้อมูลบางอย่างกับฉัน โปรดติดต่อหมายเลขนี้"

เธอหยิบนามบัตรสีขาวออกมาจากกระเป๋า ส่งให้ด้วยท่าทางสุภาพ

"ฉันรอโทรศัพท์ของคุณอยู่นะ คุณแมรี่"

ลู่เหยาเข้าใจแล้ว

ที่ซ่งชิอี้เล่าเรื่องของตัวเอง เปิดเผยตัวตนและลักษณะนิสัยส่วนตัว เป็นการยื่นกิ่งมะกอกให้ หวังว่าอิซาเบลจะเป็นสายให้ข่าวที่มีศักยภาพให้เธอ

อิซาเบลก็รับนามบัตรไปอย่างมีมารยาทเช่นกัน

"งั้นฉันก็ต้องกลับไปรายงานผลแล้ว ฝากสวัสดีคนที่คุณบูชาด้วยนะ"

ซ่งชิอี้หยิบกล่องพลาสติกเล็กๆออกมาจากกระเป๋า หยิบแคปซูลหนึ่งเม็ดออกมา ทำท่าบอกอีกฝ่ายว่า "เหมือนที่ฉันบอกไปนั่นแหละ พอถึงเวลาจำเป็น ความทรงจำก็จะหายไปก่อนได้"

เธอกลืนแคปซูลลงไป แล้วหยิบน้ำแร่ขวดหนึ่งออกมาดื่มอีกอึก

ครู่หนึ่งต่อมา สีหน้าของซ่งชิอี้ก็เริ่มดูเซื่องซึมเล็กน้อย เหมือนเพิ่งตื่นนอน เธอมองกระโปรงและถุงน่องของตัวเอง แล้วทำสีหน้าไม่เข้าใจ

"ทำไมฉันไม่ได้อยู่บ้านล่ะ?"

"อ้าว เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?"

"ฉันจำได้ว่าวันนี้ต้องไปถ่ายทำข้างนอก ที่นี่เหรอ..."

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เริ่มค้นหาบันทึก

นกกระจอกบนไหล่ดูเหมือนจะชินกับอาการนี้ มันเลยแค่ใช้ปากจัดแต่งขนบนปีก

อิซาเบลเดินผ่านซ่งชิอี้ไป อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย

ตอนนี้ ในที่สุดลู่เหยาก็นึกออกแล้ว

ซ่งหลิงหยุน สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปไอดอลซูห์ (SUH)!

คนนี้คือซ่งหลิงหยุน!

จุดที่ลู่เหยาจำซ่งหลิงหยุนได้ ก็เพราะสมัยมหาวิทยาลัยเขามีเพื่อนสองคนหลงใหลเธอ คิดว่าเธอร่าเริงน่ารัก บางครั้งก็ดูเผลอๆ บางทีก็จะกลายเป็นฉลาดเฉียบแหลมขึ้นมาอย่างกะทันหัน คนสองคนนั้นเป็นแฟนคลับที่อยากเข้าไปดูแลและอยากเป็นพ่อเธอ

เขารีบค้นหาข้อมูลเธอในเน็ตทันที

ริมฝีปากเล็กๆนั่นและลักษณะการกะพริบตา บอกว่าคล้ายคงไม่ได้ มันเหมือนกันราวกับฝาแฝด

ซ่งหลิงหยุนก็คือซ่งชิอี้ นั่นเอง

สาวน้อยไอดอลกลายเป็นอัยการของหน่วยงานพิเศษ... พล็อตเรื่องนี้ทำให้เขานึกถึงหนังฮีโร่ประหลาดๆบางเรื่อง

หลังจากค้นหาข้อมูลต่อในอินเทอร์เน็ต ลู่เหยาก็พบว่า ซ่งหลิงหยุนออกจากวงไปเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว เพราะมีอาการไม่สบายกะทันหัน หลังจากนั้นเธอก็หายตัวไปเลย ในอินเทอร์เน็ตลือกันว่าเธอไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ

ลู่เหยาขมวดคิ้ว

งั้นก็มีคำถามแล้วสิ

ที่แท้นางอัยการหนุ่มปลอมตัวเข้าวงเกิร์ลกรุ๊ปเพื่อสืบคดี?

หรือว่าช่วยวงเกิร์ลกรุ๊ปไม่ได้แล้ว เลยต้องมาเป็นอัยการ?

0 0 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด