บทที่ 28 ปฏิเสธสิ่งมหัศจรรย์
บทที่ 28 ปฏิเสธสิ่งมหัศจรรย์
ลู่เหยานั่งพิงพนักเก้าอี้ ขาไขว่ห้าง ยกแก้วโคล่าใส่น้ำแข็งขึ้นดื่ม มองโลกพิกเซลในหน้าจอคอมพิวเตอร์
ตั้งแต่ชนเผ่าบ่อเกลือแถบภูเขาทางตะวันตก ไปจนถึงชนเผ่าแม่น้ำตะวันออกตรงแนวแม่น้ำทิศตะวันออก ไปถึงใจกลางผืนป่าที่อันตรายที่สุดทางเหนือ และลงไปจนถึงเมืองวิญญาณซานิโรทางใต้ สรรพนามของตนเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่ว
นับว่าเป็นเทพผู้โด่งดังพอสมควรในย่านนี้
ด้วยการยึดครองซานิโร ลู่เหยาก็เปลี่ยนจากเฒ่าปืนลูกซองกลายเป็นปืนใหญ่ทันที จำนวนประชากรศาสนิกชนและค่าศรัทธาระเบิดพุ่งพรวดพร้อมกัน
ตอนนี้เขากำลังคิดถึงเป้าหมายต่อไปแล้ว
จะกลืนกินชนเผ่าแม่น้ำตะวันออกก่อนดี?
หรือจะลงโทษแบบยั่งยืนด้วยฟ้าผ่าและแผ่นดินไหวใส่ชนเผ่าบ่อเกลือไปเลยดี?
เขาลูบคางครุ่นคิด
ขณะกำลังใช้ความคิด หน้าจอก็ปรากฏข้อความใหม่
【ประชากรคือร่าง ศรัทธาคือพลัง】
【ท่านมีจำนวนศาสนิกชนมากพอสมควรแล้ว ได้รับความศรัทธาจำนวนมากในบริเวณนี้ ฤทธานุภาพของท่านครอบคลุมทุกสารทิศ ปาฏิหาริย์ของท่านเป็นที่ประจักษ์แจ้ง】
【โปรดสร้างปาฏิหาริย์ที่เป็นของท่านเอง นี่คือบันไดที่ท่านจะผละจากเทพฝึกหัด ก้าวสู่หอเทพ】
ปาฏิหาริย์?
คำนี้ไม่ได้เป็นคำแปลกใหม่สำหรับลู่เหยา
ตอนที่อิซาเบลเอาชนะลิซ่า เธอก็เคยพูดไว้
"ข้าเคยขึ้นไปยังโซนปีนป่าย แต่ปาฏิหาริย์ถูกไอ้เลวทำลาย ข้าเลยตกกลับมาที่โซนปลอดภัย"
นั่นก็คือ ตอนนี้ตัวเองอยู่ในที่ที่เรียกว่าโซนปลอดภัย ส่วนหลังสร้างปาฏิหาริย์แล้ว ถึงจะไปยังขั้นถัดไปได้ คือโซนปีนป่ายที่ว่า
เหมือนตามคำบรรยายของข้อความแจ้งเตือน อย่างว่าหลุดพ้นจากเทพฝึกหัดนั่นแหละ
ลู่เหยาเปิดศาสนสถาน มีของใหม่ค้นพบในช่อง【ปาฏิหาริย์】
มี【ปาฏิหาริย์】ใหม่ที่ใช้ได้แล้ว
ไอคอนปาฏิหาริย์ใหม่เป็นรูปสิ่งก่อสร้างคลุมเครือ【ปาฏิหาริย์】ต้องเสียค่าศรัทธา 5000 หน่วย
เช่นเดียวกับ【ฟ้าผ่า】และ【แผ่นดินไหว】หลังคำ【ปาฏิหาริย์】ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม
ลู่เหยาคิดไตร่ตรอง ไม่แปลกใจเลยที่ลิซ่ารีบขนาดนั้น
ค่าศรัทธา 5000 นับเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หากค่อยๆ พัฒนาแบบเป็นขั้นตอน อย่างน้อยก็ต้องเป็นชนเผ่าที่มีประชากรเป็นพันคนขึ้นไปถึงจะมีเก็บสำรอง และต้องคิดถึงสถานการณ์ฉุกเฉินและสภาพแวดล้อมเลวร้ายต่างๆ ด้วย คงต้องใช้เวลาพอสมควรในการสะสม
ลิซ่าไม่มีความอดทนขนาดนั้น เธอเลยปล้นความศรัทธาจากเทพผู้เล่นที่อื่นๆ เพื่อที่จะสร้างปาฏิหาริย์ หวังจะกลับไปยังโซนปีนป่ายนั่น
ตอนนี้ลู่เหยาต้องคิดว่า จะเปิด【ปาฏิหาริย์】ตรงนี้เลยดีไหม?
หลังครุ่นคิดชั่วครู่ เขาก็ตัดสินใจแล้ว
เก็บ【ปาฏิหาริย์】เอาไว้ก่อน
ตอนนี้ตัวเองอยู่ในโซนเทพปลอดภัย คงคล้ายๆ กับหมู่บ้านมือใหม่ ดังนั้นค่อนข้างปลอดภัย แต่หากเปิด【ปาฏิหาริย์】เมื่อไร ก็อาจมีผลเหมือนลิซ่า ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกับเทพผู้เล่นอื่นๆ แบบนั้นแรงกดดันคงมหาศาล
ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมเก่าย่อมรู้ดี ก่อนจะออกจากหมู่บ้านมือใหม่ จะต้องเก็บเลเวลล่ามอนสเตอร์และขนสมบัติในหมู่บ้านมือใหม่ให้มากที่สุด
มั่นคงคือรูปแบบการเล่นของลู่เหยา
ก่อนมั่นใจ พี่ไม่มีทางออกจากหมู่บ้านมือใหม่แน่!
ตัดสินใจแล้ว!
เป้าหมายแรกคือ เป็นจ้าวแห่งโซนปลอดภัยบริเวณนี้ให้ได้!
เมื่อตัดสินใจในสิ่งสำคัญได้แล้ว ลู่เหยาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
"เสี่ยวหั่ว ต้มบะหมี่ข้าที่ ใส่กระเทียมสองกลีบ แล้วก็ไข่ดาวหนึ่งฟอง"
"รับทราบ ท่านเทพ"
แคคตัสรับใช้ลุกขึ้นจากกระถาง สะบัดดินที่ติดหนาม ลงจากโต๊ะไปต้มบะหมี่ข้างนอก
ลู่เหยาลุกขึ้นยืดแขนขี้เกียจ
จู่ๆ ก็มีเสียงร้องตกใจดังมาจากข้างนอก
"โอ้ย! เ่กะอีเหี่ยอะไรวะเนี่ย ต้นไม้มีวิญญาณ! เหตุการณ์บ้าอะไรกันวะ!"
ลู่เหยาคิดว่าแย่แล้ว เขารีบเปิดประตูออก ก็พบชายหนุ่มหัวเกรียนตาหมองคล้ำยืนอยู่ที่ประตู บุหรี่ในปากเหนียวติดกับริมฝีปากล่าง สายตาอึ้งงันมองพื้น
บนพื้น แคคตัสรับใช้เปลี่ยนกลับเป็นรูปร่างแคคตัสแล้ว ไม่ขยับเขยื้อน
"ทำไมมาแถวนี้ล่ะ โจวเฉียง"
ลู่เหยาทักทายด้วยรอยยิ้ม
"ไม่ใช่ ลู่เหยา แคคตัสบนพื้นนั่น เมื่อกี้มันมีมือมีเท้า มีวิญญาณแล้ว! โอ้ย ช่างเหลือเชื่อ!"โจวเฉียงก็ยังจ้องแคคตัสบนพื้นไม่วางตา
"นายตาฝาดแน่ๆ นี่มันหล่นมาจากกระถางดอกไม้ในห้องฉันต่างหาก" ลู่เหยาเก็บเสี่ยวหั่วขึ้นมาจากพื้น ส่งให้อีกฝ่าย "ไม่เชื่อนายดูสิ แคคตัสธรรมดาๆ"
โจวเฉียงสังเกตแคคตัสอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้นิ้วจิ้มเบาๆ สีหน้าฉงนสนเท่ห์
"ฉันเห็นมันมีมือมีเท้าจริงๆ นะ ผอมเหมือนไม้ขีดไฟ... อาจจะเพราะช่วงนี้ฉันเหนื่อยเกินไปมั้ง"
โจวเฉียงใช้มือทั้งสองข้างขยี้หน้า
"ว่าแต่ทำไมคืนนี้มาที่นี่ล่ะ" ลู่เหยาเปลี่ยนเรื่อง "ฉันล็อกประตูแล้วนะ นายเข้ามาได้ยังไง"
"ล็อกแล้วเหรอ? ไม่นี่"
โจวเฉียงกับลู่เหยาตรวจดูประตูทางเข้า พบว่าลูกบิดประตูแบบเก่านี้มีปัญหาที่ตัวล็อก ไม่ว่าจะล็อกจากข้างในหรือไม่ เหล็กดอกล็อกด้านในก็ไม่ยอมกระดกออกมา เป็นแค่ของตกแต่งล้วนๆ
"บ้านเก่าก็มีปัญหาแบบนี้แหละ วุ่นวาย เดี๋ยวฉันไปบอกเจ้าของบ้าน คงไม่ยอมซ่อมหรอก ก็ต้องใช้แบบนี้ไปก่อนแหละ"
โจวเฉียงดับบุหรี่ บอกว่า "วันนี้มาหานาย"
"ร้านออนไลน์ของฉันเปิดต่อไม่ได้จริงๆ แล้ว ฉันเลยปิดมันไป"
ลู่เหยาชะงัก "นายเปิดมาตั้งแต่เรียนมหาลัยจนถึงตอนนี้ ร้านเก่าแก่ห้าปีปิดไปแบบนี้เลยเหรอ น่าเสียดายจัง"
"ธุรกิจเล็กๆ ทำได้ยากขึ้นทุกที"
โจวเฉียงยิ้มเจื่อน เขาชี้ไปที่หน้าผาก "เห็นไหม? ไรผมฉันเริ่มหดหายขึ้นทุกวัน ผมหลุดร่วงทุกวัน หยิบทีได้เต็มกำมือ"
"สมัยมหาลัย ผมยังเป็น 'โอกุริ อิชิอิ' แห่งมหาลัยเทคโนโลยี (หมายถึงผู้ชายหน้าตาดี) แต่ตอนนี้กลายเป็น 'พ่อค้าออนไลน์ปานฉางเจียง' แล้ว (หมายถึงหัวล้าน)"
จากรอยคล้ำใต้ตาและความซูบผอมของโจวเฉียง ลู่เหยาก็มองออกว่า เขากำลังเผชิญแรงกดดันสูงจริงๆ
ตอนเพิ่งจบใหม่ๆ โจวเฉียงยังเต็มไปด้วยความหวัง ตอนเลี้ยงส่งยังฝันถึงการเติบโตและสร้างความรุ่งโรจน์... แต่ตอนนี้ชีวิตได้ตีสอนเขาจนดำและผอม เขาสูบบุหรี่เสมอและขมวดคิ้ว
"ฉันตั้งใจจะปิดร้าน ไปเป็นพนักงานชั่วคราวในชุมชนแทน"
โจวเฉียงดับบุหรี่ ยิ้มพูดว่า "เดือนละ 2,800 เงินน้อยแต่แรงกดดันไม่มาก ฉันตั้งใจจะพักผ่อนก่อน ค่อยคิดว่าจะก้าวต่อไปยังไง"
"อีกอย่าง วันนี้ฉันจะย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่พี่ไม่ได้มาคนเดียวหรอก"
โจวเฉียงตะโกนออกไปนอกประตู "ขึ้นมาสิ ซ่อนอยู่ทำไม"
ผู้หญิงคนหนึ่งจึงเดินเข้ามาจากนอกประตู
เธอดูอายุราวยี่สิบต้นๆ หน้าตาน่ารัก ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำ ผมมัดหลวมๆ ไว้ข้างหลัง สายตาลอยล่องเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ หรือไม่ก็เหมือนกำลังเหม่อลอย
ลู่เหยาสังเกตว่า ไหล่และเอวของเธอมีเส้นสายสวย แทบไม่มีไขมันส่วนเกิน มีร่องรอยของการออกกำลังกาย
"แฟนฉัน อวี๋เหยา" โจวเฉียงแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน "นี่เพื่อนร่วมห้องสมัยมหาลัยของฉัน ลู่เหยา"
ลู่เหยายิ้มพยักหน้าอย่างสุภาพ อวี๋เหยาดูเกร็งเล็กน้อย ก็พยักหน้าตอบ
"พวกเราจะอยู่ที่นี่อย่างมากประมาณหนึ่งเดือน" โจวเฉียงอธิบาย "พอหาห้องที่เหมาะสมได้ ก็จะย้ายออกไป"
ลู่เหยาพยักหน้า
ในใจเขาก็โล่งอกขึ้นมาบ้าง
ถ้าพวกนายไม่ย้ายออก พี่ต้องย้ายแน่ๆ
เนื่องจากการมีอยู่ของเกมซิม ภายในห้องนี้จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะมีคนอื่นอยู่ด้วย
ตอนนี้ที่โจวเฉียงกับอวี๋เหยาย้ายมาอยู่ห้องติดกัน เขาต้องระวังตัวมากขึ้น ห้ามให้เสี่ยวหั่วโผล่ไปอยู่ต่อหน้าพวกเขาเด็ดขาด
...
คืนนั้น ลู่เหยาได้ยินเสียงคราง 'อื้ออา' ดังมาจากห้องข้างๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นกิจกรรมยามค่ำคืนของคู่รักหนุ่มสาว ผลคือเสียงเริ่มแปลกไปเรื่อยๆ
นี่มีใครกำลัง...ฮัมเพลงอยู่หรือไง?
แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าเสียงมาจากห้องข้างๆ หรือห้องชั้นบน ลู่เหยาก็ไม่อาจระบุได้
ตอนดึก เขาก็ถูกปลุกด้วยเสียง 'กึก ๆๆ' ของการสับผัก
เวลาตีสามตีสี่ จะมีคนปกติมานั่งทำอาหารในครัวได้ไง?