บทที่ 26 เบื้องหลังทะเลทราย
บทที่ 26 เบื้องหลังทะเลทราย
อิซาเบลเพียงคนเดียวกำจัดฝูงหนอนทรายที่ยึดครองโอเอซิสได้สำเร็จ และฟื้นฟูจุดพักเพียงแห่งเดียวกลางทะเลทรายขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่กิจการโอเอซิสซึ่งชนเผ่าเบตูดำเนินการสืบทอดกันมาหลายรุ่น ก็ยังคงพังพินาศในพริบตา
โอเอซิสอันรุ่งโรจน์ในอดีต ตอนนี้เหลือเพียงหลุมทรายยุบตัวสองสามแห่ง นอกจากนั้นก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปหมด
แสงสีขาวส่องประกายรอบตัวอิซาเบล
ตรงพื้นด้านหน้า มีหมอกสีดำลอยขึ้นมาเป็นสาย หมอกดำเหล่านี้กลายเป็นเงาลางๆ อยู่หัวของร่างดำมีช่องสนทนาโผล่ขึ้น แต่ข้างในเป็นตัวอักษรยุ่งเหยิงไม่เป็นภาษา
หัวของอิซาเบลก็มีตัวอักษรยุ่งเหยิงโผล่ขึ้นเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายสื่อสารกันแบบเข้ารหัส
อีกไม่นาน ร่างดำก็สลายหายไป
อิซาเบลคุกเข่าข้างเดียวหันหน้าเข้าหาหน้าจอคอมพิวเตอร์ "ท่านเทพ ข้าน้อยใช้ภาวนาใกล้ตายสอบถามวิญญาณที่นี่แล้ว พวกเขาบอกว่า หนอนทรายโจมตีที่นี่ เพื่อแย่งชิงแหล่งแร่ทองแดงใต้ดินโอเอซิส"
"หนอนทรายชอบแร่ธาตุ พวกมันจะกินแร่แล้วเปลี่ยนธาตุโลหะให้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง"
"แหล่งแร่ส่วนใหญ่ในทะเลทราย ล้วนถูกฝูงหนอนทรายจากพื้นที่ต่างๆ ยึดครอง มีเพียงที่นี่ที่ถูกพลังเทพคุ้มครอง ทำให้พวกมันเข้าใกล้ไม่ได้"
"ไม่นานมานี้ พวกมันค้นพบว่าที่นี่ไร้การปกป้องจากพลังเทพแล้ว ฝูงหนอนทรายจึงจู่โจมโอเอซิสอย่างรวดเร็ว เพื่อแย่งชิงแร่ทองแดง พวกมันเกิดสงครามย่อมๆ ภายในกลุ่มด้วย สิบสองตัวหนอนทรายที่ข้าน้อยจัดการ ก็คือกลุ่มผู้ชนะเดิมประจำที่นี่"
ลู่เหยาได้ฟังแล้วดีใจ
มีทองแดงด้วยเหรอเนี่ย
เขากำลังกังวลที่ชนเผ่ากระเทียมยังไม่ได้เปิดทักษะต้นไม้งานหลอมโลหะ ไม่คิดว่าจังหวะดีๆ จะอยู่ในทะเลทรายนี่เอง
แต่ประโยคถัดมาของอิซาเบล ก็เหมือนสาดน้ำเย็นใส่หัวเขาทันที
"ที่นี่มีแร่ทองแดงไม่มากนัก ตอนนี้ถูกหนอนทรายกินหมดแล้ว หนอนทรายเป็นอสูรที่อดอาหารได้นาน พวกมันเจอแร่ทองแดงและแร่เหล็ก ก็จะกินอย่างบ้าคลั่ง จนกว่าจะย่อยแร่ธาตุทั้งหมด"
แร่ทองแดงโดนกินไปแล้ว...
ลู่เหยามองซากหนอนบนพื้น จู่ๆ ก็นึกอะไรออก
ในเมื่อแร่ธาตุถูกหนอนทรายกินเพื่อเพิ่มพลังให้ร่างกาย งั้นจะเข้าใจได้ไหมว่า ทองแดงยังคงเป็นส่วนหนึ่งของซากหนอนทรายอยู่?
ลู่เหยาออกคำสั่ง
--- ลองตรวจดูในซาก ว่ามีทองแดงหรือเปล่า
อีกไม่นาน อิซาเบลก็ได้ผลตรวจสอบแล้ว
"เป็นเหมือนที่ท่านเทพว่าจริงๆ ใต้ผิวหนังหนอนทรายมีแผ่นทองแดงวางซ้อนกัน แผ่นทองแดงเหล่านี้แข็งแรงมาก"
ลู่เหยาคิดในใจว่าตามคาด
หากไม่มีอัครสาวก คงเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นพบความลับของหนอนทราย
ไม่สิ
ถ้าไม่มีอัครสาวก ก็ไม่มีทางเข้าไปในทะเลทรายต่อสู้กับหนอนทรายได้เลย
หากอาศัยกำลังของชนเผ่ากระเทียมเพียงอย่างเดียว บุกเข้าทะเลทรายเผชิญหน้าหนอนทราย นั่นไม่ต่างอะไรจากการหาทางตายชัดๆ
เพราะการมีอยู่ของอิซาเบลนี่แหละ ถึงสามารถเข้าไปในพื้นที่อันตรายระดับสูงพวกนี้ได้
ต่อมา พรานของชนเผ่ากระเทียมติดตามอิซาเบลเข้าทะเลทราย มาถึงโอเอซิส เมื่อเห็นซากหนอนทรายเกลื่อนพื้นราวกับงูยักษ์ คนจิ๋วก็แสดงอาการตื่นเต้นยิ่ง
"อสูรช่างแข็งแกร่ง ตอนมีชีวิตอยู่คงน่ากลัวมาก"
"หนังของพวกมันหนากว่าอสูรทะเลอีก ตัวก็ใหญ่กว่าอสูรทะเลด้วย"
"เนื้ออสูร! หนัง! แล้วก็กระดูกแข็งแรง!"
"ได้ของกองโต!"
มีคนจิ๋วคนหนึ่งเครื่องหมายอัศเจรีย์ผุดขึ้นเหนือหัวทันใด
"มีอะไรอยู่ใต้หนังหนอนทราย นี่มันทองแดง! ทองแดงนะเนี่ย!"
หน้าจอปรากฏข้อความหนึ่งบรรทัด
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบทองแดง】
ในช่องทรัพยากรด้านบนของหน้าเกม ก็เพิ่มทรัพยากรใหม่เข้ามา: โลหะ
ในช่อง【โลหะ】 ตอนนี้มีเพียงทองแดง และสีแดงบ่งบอกถึงความหายาก
ต่อมาคนจิ๋วก็วุ่นวายผ่าซากหนอนทราย แล้วใช้อูฐบรรทุกกลับชนเผ่ากระเทียม เนื่องจากระยะทางไกลและซากหนอนทรายเยอะ ชนเผ่าเรียกอูฐทุกตัวมาใช้ หมอผีคอยควบคุมการขนส่งด้วยตัวเอง
การเดินทางสู่ทะเลทรายครั้งนี้ อิซาเบลกำจัดหนอนทรายตลอดเส้นทาง เปิดเส้นทางระหว่างทุ่งหญ้าแถบชนเผ่ากระเทียมกับโอเอซิสอีกครั้ง
การออกจากทะเลทรายก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ตอนนั้นเองที่ลู่เหยาเห็นข้อความแจ้งเตือนหนึ่ง
【เพื่อขอบคุณที่ช่วยยึดคืนบ้านเกิดชนเผ่าเบตู ผู้ทำนายดวงดาวซาฮานจึงถ่ายทอดวิชาขุดแร่ให้ชนเผ่ากระเทียม】
【ชนเผ่ากระเทียมเรียนรู้วิชาขุดแร่】
【ชนเผ่ากระเทียมได้รับชื่อเสียงในหมู่ชนเผ่าอื่น เนื่องจากมีเทคโนโลยีใหม่】
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบเหล็ก】
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบอัญมณี】
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบทองคำ】
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบเงิน】
【ชนเผ่ากระเทียมค้นพบผลึก】
หลังมีการแจ้งเตือนยาวเหยียด ลู่เหยาเบนสายตาไปที่เต็นท์ข้างศาสนสถาน
ผู้นำเดิมของชนเผ่าเบตู ผู้พยากรณ์อากาศคนปัจจุบันของชนเผ่ากระเทียม กำลังคุกเข่าอยู่หน้าศาสนสถาน ก้มกราบลงกับพื้นอย่างศรัทธา แสดงความขอบคุณต่อลู่เหยา
ยังมีกั๊กอีกเหรอเนี่ย
ลู่เหยาอดไม่ได้ที่จะคิด
ในเมื่อซาฮานมีของซ่อนไว้ คนอื่นจะมีความเป็นไปได้แบบนี้บ้างไหมนะ
บางทีต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายสำคัญที่สุดในใจของพวกเขา เติมเต็มความปรารถนาและความคาดหวัง พวกเขาถึงจะยอมแบ่งปันเทคนิคและประสบการณ์ทั้งหมดของตัวเอง
หลังเรียนรู้วิชาขุดแร่ ชนเผ่าก็ค่อยๆ แยกคนบางส่วนออกมา เริ่มขุดเจาะหิน การใช้ประโยชน์จากหินก็แพร่หลายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ด้านนอกบ้านมีกำแพงเตี้ยก่อด้วยหินเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น ชนเผ่ากระเทียมก็ค่อยๆ เรียนรู้วิธีการหลอมโลหะขั้นดั้งเดิมที่สุด คนจิ๋วขุดหลุมใหญ่บนพื้น กองฟืนจุดไฟ เผาแร่ธาตุให้ได้ทองแดง เหล็ก เงิน และทอง
ไม่นานต่อมา หน้าจอก็ปรากฏข้อความ 【ของประทานผสานเข้ากับโลกอย่างสมบูรณ์ ข่ายดักปลากลืนเข้ากับโลกแล้ว】
สามารถส่งเครื่องมือใหม่เข้าไปได้อีกแล้ว
ลู่เหยาบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นมายืดนิ้วมือและหลัง
ในการที่อารยธรรมเผ่าจะก้าวไปข้างหน้าแต่ละครั้ง เบื้องหลังล้วนมาจากความปวดเมื่อยของเทพทั้งสิ้น
ในช่วงฤดูหนาวนี้ อิซาเบลฟันฝ่าหนอนทรายไปตลอดทาง ออกจากทะเลทรายทางใต้อันกว้างใหญ่ มาถึงโลกใบใหม่
นั่นคือเมืองที่ชื่อว่าซานิโร อารยธรรมล้ำหน้ากว่าชนเผ่ากระเทียมไกลโข
ซานิโรตั้งอยู่ริมทะเล ควบคุมปากน้ำออกสู่ทะเล ในเมืองไม่เพียงมีบ้านเรียงเป็นระเบียบ ถนนหินตัดกันเป็นเส้นตรง ยังมีร้านรวงครบครัน
ในเมืองมีประชากรนับหมื่น ท่าเรือติดทะเลจอดเรือประมงและเรือใบไว้ด้วย
ปัญหาเดียวคือ ชาวเมืองซานิโรไม่ใช่มนุษย์
นี่คือเมืองที่วิญญาณอาศัยอยู่
ในตอนแรก วิญญาณซานิโรกับอิซาเบลเกิดความเข้าใจผิดเล็กน้อย หลังจากอิซาเบลฆ่าทหารวิญญาณไปเกือบครึ่งเมือง วิญญาณทั้งหลายก็เปลี่ยนท่าที ต้อนรับเธออย่างอบอุ่น
ชาวซานิโรปฏิบัติต่ออิซาเบลเยี่ยงแขกผู้มีเกียรติ และแนะนำประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้ให้ฟัง คนท้องถิ่นแสดงความยินดีที่จะศรัทธาเทพเจ้าเหยา ถวายความเชื่อ เพื่อได้รับการคุ้มครองและอภัยจากเทพเจ้าเหยา
สถานการณ์นิ่งสงบ
"เมืองซานิโรเป็นเมืองที่เปิดรับแขกเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคารพและศรัทธาเทพผู้ทรงพลัง การที่อัครสาวกผู้สูงศักดิ์เช่นท่านมาเยือน นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับพวกเรา" นายกเทศมนตรีแชปแมนของซานิโรกล่าว
"ท่านอิซาเบล ข้าต้องขออภัยที่ปิดบังความจริงบางอย่างไว้ จริงๆ แล้วซานิโรเป็นเมืองที่ถูกสาป"
"ที่นี่เคยรุ่งเรืองอย่างมากในอดีต ทั้งเมืองเชี่ยวชาญการค้าขายทางทะเลและการปลูกพืช ประชากรก็มากกว่าปัจจุบันมาก แต่หลังเทพแห่งป่าที่พวกเราศรัทธาล่มสลาย ที่นี่ก็ถูกเทพอีกองค์หนึ่งสาป"
"พวกเราทุกคนถูกประหาร กลายเป็นวิญญาณ"
"และเทพองค์นั้นได้ส่งโทเท็มลงมา ทำให้วิญญาณซานิโรไม่อาจออกจากที่นี่ไปได้เลย แม้แต่ก้าวเดียว เพื่อลงโทษการนอกรีตของเรา นอกจากชนเผ่าเบตูในสมัยโบราณ ที่นี่ไม่เคยมีผู้มาเยือนอีกเลยหลายปีแล้ว"