ตอนที่แล้วตอนที่ 46 สองหัวใจที่แตกต่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 ทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะอยู่รอดในแบบของตนเอง

ตอนที่ 47 สามกลยุทธ์ที่แตกต่างกันสําหรับการเคลียร์เกม


"ซิตูอัน!?" เมื่อได้ยินชื่อนี้ หลังของลุงอู๋โค้งงอลง แขนบีบเข้าหาตัวมากขึ้น อวัยวะภายในเริ่มหดเกร็ง เขาพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณที่ชัดเจนเพื่อซ่อนตัวจากสิ่งที่น่ากลัว

ลุงอู๋กระซิบเตือน "แกต้องระวังเขาไว้"

เกาหมิงรู้สึกทึ่งกับปฏิกิริยาตอบสนองนี้ "คุณเคยเจอเขา?"

สีหน้าของลุงอู๋มืดลง เขาเริ่มเล่าถึงการเผชิญหน้าที่น่าขนลุกของเขา "ฉันเคยคิดมาตลอดว่าผีคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับฉัน จนกระทั่ง... ฉันได้พบกับชิตูอัน" ลุงอู๋เลียแผลที่ริมฝีปาก "ที่ฉันต้องติดอยู่ในอพาร์ทเมนท์โง่ๆนี่ ก็เพราะมัน! คิดว่าฉันอยากอยู่ในเมืองที่น่าขนลุกแบบนี้หรือไง! ถ้าฉันไม่แกล้งบ้าพวกมันคงฆ่าฉันไปแล้ว หลายครั้งที่ฉันอยากเอาวีดีโอบ้านี่ให้ตำรวจ แต่ก่อนหน้านั้นเคยมีอาสาสมุครหนุ่มคนหนึ่งต้องการเปิดเผยบางอย่างต่อสื่อมวลชน ไม่นานบันทึกการสนทนาก็ถูกส่งไปให้ชิตูอัน ไม่นานอาสาสมัครหนุ่มคนนั้นก็หายตัวไป พอนึกถึงไอ้หนุ่มนั่นที่ไร ฉันก็ยิ่งไม่กล้า..."

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลุงอู๋พูด จู่ๆคุณยายของกงซีก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา อาสาสมัครหนุ่มที่ลุงอู๋กล่าวถึงดูเหมือนจะเป็นกงซี

อย่างไรก็ตามกงซีกลับจําสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เขาเอาแต่คุกเข่าลงกับพื้น

'ซิตูอัน... ดูเหมือนเราจะต้องหาวิธีที่ขังเขาไว้ในโลกนี้' เกาหมิงรู้สึกแปลกๆ เขาไม่เคยพบกับชิตูอันมาก่อน แต่เขากลับมีความเกียดชังต่อชายคนนี้อย่างรุนแรง ราวกับเคยมีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาในอดีต

"มันเป็นปีศาจในคราบมนุษย์!" ดวงตาของลุงอู๋แสดงความหวาดกลัวออกมาขณะที่พูด "หัวใจที่มีเลือดเนื้อของฆาตกรและหัวใจของเทวรูปสีเลือดจะต้องไม่ตกอยู่ในมือของชิตูอัน! ถ้าฉันเดาไม่ผิดทุกอย่างที่สมาคมทำก็เพื่อหัวใจสองดวงนี้"

จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่งออกมาและเริ่มวาด "ฆาตกรอาศัยอยู่ในตึกนี้ มันจะออกมาก็ต่อเมื่อมันอยากฆ่าใครสักคน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าฆาตกรอยู่ไหน แต่ฉันรู้ว่าเทวรูปอยู่ที่ไหน! ฉันสามารถบอกตําแหน่งของมันเพื่อให้แกไปทำลายมันก่อนได้"

"มันอยู่ที่ไหน?"

"ที่ชั้นใต้ดินของตึกนี้ ที่ชั้นนั้นมีห้องโถงบรรพบุรุษอยู่และเป็นจุดที่มีพลังงานหยินหนาแน่นที่สุด เทวรูปอยู่ที่นั่น!" ลุงอู๋ล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบกระดาษยันต์ออกมาอีกกํามือหนึ่ง "ฉันแก่แล้ว ขาก็ไม่ดี ถ้าไปด้วยก็มีแต่จะเป็นภาระให้พวกแก เอาเครื่องรางพวกนี้ไป บางทีอาจจะเป็นประโยชน์ให้พวกแกได้"

เกาหมิงเก็บเครื่องรางขึ้นและมองไปที่หุ่นกระดาษทั้งแปด "พวกคุณจะมาด้วยกันไหม? ฆาตกรที่ฆ่าพวกคุณอยู่ที่นี่ นี่อาจจะเป็นโอกาสที่พวกคุณจะได้แก้แค้น"

ไม่มีตุ๊กตากระดาษตัวไหนขยับยกเว้นตัวที่ดูอายุเยอะที่สุุด มันคว้าข้าวขาวจากแท่นบูชาหนึ่งกำมือก่อนยัดเข้าไปในกระเป๋าของเกาหมิง

เกาหมิงงุนงงถามว่า "นี่มีไว้เพื่ออะไร?"

"ข้าวพวกนี้คือสิ่งที่ฉันใช้เซ่นไหว้พวกเขา" ลุงอู๋หยิบเมล็ดข้าวขึ้นมาก่อนอธิบายอย่างละเอียด " ถ้าพวกแกจนมุมจนต้องกิน'เนื้อ'ขึ้นมา ข้าวหนึ่งกำมือนี้จะช่วยคงสติให้พวกแกได้ช่วงเวลาหนึ่ง"

เกาหมิงเข้าใจความหมายของ'เนื้อ'ทีลุงอู๋กล่าวถึง ควรจะเป็นเนื้อชนิดเดียวกับที่พวกไป๋เสี่ยวกินเข้าไป

"ดูเหมือนพวกคุณจะพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว" เกาหมิงก็พาจูเหมียวเซียวออกจากห้อง ไม่นานกงซีก็วิ่งตามออกมาเช่นกัน ตุ๊กตากระดาษสัญญาว่าจะช่วยปกป้องครอบครัวของกงซี แต่เพื่อแลกกับสิ่งนี้ กงซีจะต้องช่วยเกาหมิงทําลายเทวรูป

ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่บูชาเทพอแห่งเลือดและเนื้อ แต่กับกงซีเป็นข้อยกเว้น ศรัทธาที่เขามีตอนนี้คือการปกป้องคุณยายของเขาเท่านั้น

"ให้ผมนําทางเอง ผมรู้ว่าโถงบรรพบุรุษอยู่ที่ไหน" ตอนนี้กงซีกลายเป็น'คนทรยศ'อย่างแท้จริง

เกาหมิงเดินตามหลังกงซีไปอย่างเงียบๆ เริ่มไตร่ตรองถึงธรรมชาติของสถานที่แห่งนี้

ผู้เช่าถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มที่แตกต่างกัน โดยแต่ละกลุ่มยังคงรักษาสมดุลที่เปราะบาง ไม่พอที่นี่ยังเปรียบเสมือนพื้นที่พิเศษในโลกเงา

"โลกเงา..." เกาหมิงรำพึง 'ดูเหมือนโลกเงาจะไม่ใช่แค่โศกนาฏกรรม แต่เป็นโลกที่มีกฎเกณฑ์เป็นของตัวเอง'

....

ซวนเหวินกําลังเดินไปตามทางเดินของอาคาร จู่ๆเธอก็หยุดลง รู้สึกถึงบางอย่าง

เธอได้ยินเสียงของเกาหมิงเรียกเธออย่างแผ่วเบาจากระยะไกล แต่เมื่อเธอหันกลับมาทุกอย่างยังดูปกติดี เกาหมิงและจูเหมียวเซียวยังเดินตามหลังเธอมา

แต่เมื่อเดินไปได้อีกไม่นานท่าทางของซวนเหวินก็เปลี่ยนไป เธอรีบดึงมีดออกจากกระเป๋าเป้

"มีอะไรผิดปกติ?" หยานฮัวขมวดคิ้ว

"เกาหมิงกับจูเหมียวเซียวถูกแทนที่ในขณะที่เราอยู่ในเงามืด" ซวนเหวินกล่าวอย่างเย็นชา น้ําเสียงของเธอแตกต่างจากตอนที่เธออยู่กับเกาหมิงอย่างเห็นได้ชัด

"เธอแน่ใจ?"

"ฉันสัมผัสได้ถึงตําแหน่งโดยประมาณของเกาหมิงเสมอ และคนที่อยู่ข้างหลังพวกเราไม่ใช่เขา" ซวนเหวินหันหลังกลับและซ่อนมีดไว้ด้านหลังของเธอ เธอยิ้มขณะเดินไปหา'เกาหมิง'

เมื่อเห็นซวนเหวินเดินเข้ามา'เกาหมิง'ก็แสดงท่าทางงุนงงเล็กน้อย ในขณะที่เขากำลังเอ่ยปากถาม ทันใดนั้น! มีดที่เธอแอบซ่อนไว้ก็พุ่งเข้าใส่คอของเขา

ไม่มีเลือดไหลออกมา'เกาหมิง'ที่คอถูกเจาะค่อยๆ เปลี่ยนจากความประหลาดใจกลายเป็นความบ้าคลั่ง กระโจนเข้าใส่ซวนเหวินทั้งๆที่มีดปักคอของเขาอยู่

ดวงตาของซวนเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอวางมือบนหน้าอกของ'เกาหมิง'อย่างแผ่วเบา จู่ๆเขาก็สูญเสียการควบคุมร่างกาย เงาในร่างกำลังโจมตีตัวเขาเองจากภายใน!

เมื่อการเผชิญหน้าแสดงความรุนแรงขึ้น 'จูเหมียวเซียว'ที่ยืนอยู่ด้านข้างจึงเหวี่ยงขวานไปทางซวนเหวิน แต่แขนของเธอกลับถูกหยุดไว้ด้วยนิ้วทรงพลังดั่งเหล็กกล้าห้านิ้ว

หยานฮัวแสดงความเร็วและพลังที่น่าเหลือเชื่อ ปลดปล่อยกำปั้นดุจสายฝน! การโจมตีแต่ละครั้งแม่นยําและทรงพลัง ร่างกายของ'จูเหมียวเซียว'ผิดรูปทันที แต่กลับไม่มีเลือดหรือเสียงกระดูกแตกหักแต่อย่างใด รอยสักผีบนร่างกายเริ่มเคลื่อนไหว กินเงาดําที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของ'จูเหมียวเซียว'อย่างหิวโหย

หยานฮัวหยุดลง หลังจากที่ร่าง'จูเหมียวเซียว'กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เมื่อเขามองไปด้านข้างซวนเหวินก็ได้จัดการกับ'เกาหมิง'เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

"อย่าเพิ่งใช้กำปั้นของคุณต่อ ปล่อยให้ฉันจักการที่เหลือเอง " ซวนเหวินดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ขณะเธอก็จ้องไปที่มือซ้ายของหยานฮัว

หลังจากที่หยานฮัวฆ่า'จูเหมียวเซียว'ตัวอักษรสีดําหลายคําก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขาเหมือนคําสาปบางอย่าง

หยานฮัวมองตามสายตาของเธอก่อนสังเกตเห็นตัวอักษรดําที่กำลังขยับไปมาอย่างน่ากลัวบนผิวหนังของเขา คล้ายกับคําสาปบางอย่าง แม้ว่าซวนเหวินจะดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่เขากลับดูไม่แยแสต่อสิ่งที่เห็น จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับการตามหาเกาหมิง โดยเน้นย้ําถึงความเร่งด่วน "เราต้องตามหาเกาหมิงให้เจอก่อน เขาเป็นคนเดียวที่รู้ที่อยู่ของพี่สาวผม เราจะเสียเขาไปไม่ได้"

"มีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ว่าพี่สาวคุณอยู่ที่ไหน?" ซวนเหวินพลิกมีดของเธอไปมา 'ผู้ชายนี่ชอบซ่อนความลับจริงๆ'

หยานฮัวก้าวนำไปข้างหน้า ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต ทำให้การซ่อนตัวเป็นไปได้ยาก และแน่นอนเขาไม่ได้สนใจเรื่องการซ่อนตัวเลย เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าเสมอ

หยานฮัวต่อยทุกอย่างที่ขวางทางเขา รอยสักยักษ์ผีที่น่าสะพรึงกลัวตามร่างกายของเขากลายเป็นสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวอักษรสีดําก็ปรากฏบนร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

ซวนเหวินเริ่มสักเเกตเห็นความประมาทของหยานฮัว "นี่คุณจะฆ่าทุกอย่างที่ขวางทางคุณ? นี่เป็นเหตุการณ์ผิดปกติระดับสี่นะ" เธอรู้ว่าการเกลี้ยกล่อมเขานั้นไร้ประโยชน์ บุคคลอย่างหยานฮัว ซึ่งอาจกลายเป็นอาชญากรชั้นยอดในอนาคต มักจะเก็บงําความหวาดระแวงที่ฝังลึกไว้ นอกจากเกาหมิงที่ทําหน้าที่เป็นคนกลางแล้ว เป็นเรื่องยากสําหรับพวกเขาที่จะไว้วางใจใครอีก

"ผมไม่สนใจ ตราบใดที่หมัดของผมสามารถทําลายพวกมันได้ ก็ไม่มีอะไรที่ผมต้องกลัว!"

เมื่อตัวอักษรสีดําบนร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของหยานฮัวก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนนั้น รอยสักผีบนร่างกายของเขาพัฒนาขึ้น ซับซ้อนและน่ากลัวยิ่งขึ้น ราวกับว่าวิญญาณร้ายตัวจริงยืนอยู่ข้างหลังเขา

....

ว่านหยูเดินตามทุกคนไปอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นก็พบว่าเขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่

"โถงทางเดินเปลี่ยนไป?" เสียงของเขาแต่งแต้มด้วยความไม่สบายใจ

เมื่อเงามาบรรจบกันจากทุกทิศทาง เขารู้สึกถึงความหวาดกลัว บรรยากาศของอาคารหม่นหมองลง กลิ่นเหม็นสุดจะพรรณนาลอยอยู่ในอากาศ

ว่านหยูซ่อนอยู่ที่มุมมางเดินอย่างกระวนกระวายใจ หัวใจของเขาเต้นแรง เต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า

ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นรอบตัวเขา แต่ก็ไม่ได้ทําลายความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา ความยืดหยุ่นที่หล่อหลอมผ่านประสบการณ์ในอดีต ทำให้เรื่องนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำร้ายจิตใจเขาได้

ว่านหยูตะโกนเรียกเกาหมิงเบาๆ "กะกะเกา...กะเกาเกาหมิง..." แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ ชายที่สัญญาว่าจะปกป้องเขาได้หายตัวไป สัญชาตญาณของว่ายหยูบอกว่าเขากําลังตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะต้องทําอย่างไร เขาขดตัวอยู่ที่มุหนึ่งและกอดขาของตัวเองไว้

หลายนาทีผ่านไปในบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้ ทันใดนั้นหัวใจว่านหยูก็เริ่มเต้นเร็วขึ้นราวกับถูกไฟฟ้าช็อต ความรู้สึกวิกฤติที่รุนแรงเตือนเขาว่าเขาต้องรีบออกไปจากตรงนี้ มีบางสิ่งที่อันตรายกำลังใกล้เข้ามา!

ด้วยความตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะซ่อนที่ไหน ด้วยความสิ้นหวังว่านหยูจึงเข้าไปในห้อง 506 ที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว

ไม่นานหลังจากที่เขาปิดประตูลง ชายสวมหน้ากากหนูปรากฏตัวขึ้น เขาเดินมาพร้อมกุญแจในมือและบัตรประจําตัวผู้จัดการอาคารบนหน้าอก เขาหยุดที่บริเวณที่ว่านหยูเคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ ชายคนนั้นเคี้ยวอะไรบางอย่างไว้ ขณะที่เขาถอดหน้ากากออก จมูกของเขากระตุกราวกับว่าเขาได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ลมหายใจของคนเป็น!

ว่านหยูรีบปิดปากและจมูกของเขา เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านตาแมวว่าภายใต้หน้ากากหนูมีใบหน้าของหนู! จมูกของชายคนนั้นกระตุกและหมุนราวกับว่าเขาเป็นนักล่าที่เดินด้อมๆมองๆดมกลิ่นของเหยื่อที่มีชีวิต

ผู้จัดการอาคารซึ่งเป็นบุคคลที่ทุกคนในอพาร์ทเมนต์มองด้วยความหวาดกลัว ในความเป็นจริงไม่มีอะไรมากไปกว่าหนูตัวมหึมาซึ่งดูเหมือนจะหมกมุ่นอยู่กับการโขมยเนื้อและเลือดไป!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด