ตอนที่ 131 ผู้พิทักษ์กาลเวลา (อ่านฟรี 23/01/2568)
“หลบเร็ว!” เย่ซีตะโกนออกมาเสียงดัง ดึงสติของผู้จุติพลังทั้งหลายที่กำลังอึ้งกับสิ่งที่เห็น
ชายหนุ่มพุ่งตัวขึ้นไปก่อนจะเรียกขนของพญาเสือขาวออกมาแล้วเคลือบพลังแห่งอนันต์เพื่อให้ขนเส้นนั้นแข็งตัว จากนั้นจึงฟาดขนออกไปต้านรับขวานยักษ์ที่ถูกฟาดลงมาอย่างแรง!
เปรี้ยง!! พลัก ตู้ม!
ถึงแม้เย่ซีจะมีพลังมากเพียงใดแต่ในตอนนี้เขาสามารถใช้ได้แต่พลังแห่งอนันต์ที่มีอยู่ในปริมาณน้อยนิด ทำให้ไม่สามารถต้านการโจมตีของนักรบร่างยักษ์เอาไว้ได้ ร่างของชายหนุ่มถูกซัดจนกระเด็นถอยหลังไปชนเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนเป็นรอยยุบร่างคน
ความรุนแรงของการปะทะกันก่อให้ลมกรรโชกพัดร่างของผู้จุติพลังคนอื่น ๆ ให้ปลิวกระเด็นถอยออกไปจนเกือบถึงประตูที่ผ่านเข้ามา
“แม่เจ้า! นั่นมันตัวบ้าอะไรวะ!” ชายหัวโล้นเปลือยอกกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง ในหัวของเขาไม่มีความคิดว่าจะสามารถต่อกรกับนักรบร่างยักษ์เช่นนั้นได้เลย
แค่มันยกขาขึ้นมาเหยียบเขา เขาก็คงตายคาที่แล้ว! ไอ้ตัวแบบนี้มันไม่ใช่มอนสเตอร์ระดับโลกแล้ว! มันต้องเป็นระดับหายนะเท่านั้น!!
“ใครที่โจมตีระยะไกลได้ช่วยกันโจมตีหน่อยเร็ว!” ชายหัวม่วงที่ได้สติกลับมาก็ทำการซัดสายฟ้าเข้าใส่นักรบร่างยักษ์อย่างรวดเร็ว
ผู้จุติพลังคนอื่น ๆ ก็พากันทำตาม ไม่ว่าจะเปลี่ยนอาวุธมาเป็นปืนเวทย์ ซัดพลังเวทย์ล้วน ๆ เสกบอลธาตุต่าง ๆ โจมตีแต่ทุกอย่างก็ล้วนไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
“ทุกคนออกไปกันก่อนเลย! เดี๋ยวข้าหาทางจัดการเอง!” เย่ซีที่ดันร่างออกมาจากรอยยุบร่างคนได้กล่าวออกมาด้วยเสียงอันดัง
“คุณไหวแน่นะครับ! ถ้าอันตรายก็ถอยไปด้วยกันดีกว่า” ชายหัวม่วงกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วง
แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อนักรบร่างยักษ์ก็สับขวานขนาดใหญ่ลงมาอีกครั้งจนได้ เย่ซีที่ไม่มีเวลาจำทันตอบสนองเพราะเพิ่งขึ้นจากหลุมมาได้ก็ได้แต่เรียกรถเข็นสีชมพูพาสเทลออกมาแล้วขว้างไปขวางการโจมตีเอาไว้
แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น รถเข็นสินค้าดันขวางการโจมตีจากขวานยักษ์เอาไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ! ไม่เพียงเท่านั้น มันยังทำให้ขวานยักษ์กระเด็นกลับขึ้นไปอีกต่างหาก!!
“มัวรออะไรอยู่! รีบไปได้แล้ว! ข้าต้านไว้ได้ไม่นานหรอกนะ!! รีบออกไปจากดันเจี้ยนนี้เร็วเข้า!” เย่ซีที่เห็นว่าพวกคนอื่น ๆ มัวแต่ยืนอึ้งอยู่เลยตะโกนออกมาอีกรอบ ในคราวนี้ผู้จุติพลังทุกคนต่างพากันวิ่งหนีไปตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มชำเลืองไปมองก็พบว่าพวกผู้จุติพลังออกจากประตูที่เปิดเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ดูเหมือนว่าจะรีบหนีไปยังรอยแยกมิติอีกต่างหาก
ซึ่งก็นับว่าเข้าแผนที่เขาคิดเอาไว้ในใจอยู่พอดี! ดูเหมือนการแสดงละครของเขาจะพัฒนาขึ้นสินะ
“กลับมา!” เย่ซีเรียกรถเข็นที่บินขึ้นไปบนฟ้าให้กลับมาด้วยความรู้สึกของตนเอง เพราะยังไงเขาก็ผูกมัดกับรถเข็นเซียนอยู่แล้ว จะมีพลังปราณหรือไม่ย่อมไม่ใช่เรื่องสำคัญ
รถเข็นเซียนบินตรงมายังบริเวณที่ชายหนุ่มอยู่ด้วยความรวดเร็ว เย่ซีจ้องมองไปยังนักรบยักษ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
[ผู้พิทักษ์กาลเวลา
ระดับพลัง : ไม่อาจวัดค่าได้
รายละเอียด : เป็นซากศพของสิ่งมีชีวิตที่ถูกจองจำให้พิทักษ์หีบแห่งความโกลาหล มันถูกขับเคลื่อนด้วยพลังโกลาหลที่หีบกักเก็บเอาไว้]
“น่าสนใจจริง ๆ ! เห็นทีคงต้องทดลองหลาย ๆ อย่างเสียแล้ว!”
ครึ่งหลัง
ฟุบ ตู้ม! ฟุบ ตู้ม! ฟุบ ตู้ม!
“ไม่โดนหรอกโว้ย!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาเสียงดังด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย เขาเคลื่อนตัวพร้อมรถเข็นด้วยความว่องไวหลบหลีกขวานยักษ์ที่ฟาดฟันลงมาได้ทั้งหมด
แม้ตัวขวานจะมีขนาดใหญ่และพลังโจมตีที่รุนแรง แต่มันก็ยังช้ากว่าความเร็วของท่าร่างดาราจักรที่ชายหนุ่มใช้ออกมาอยู่ดี เย่ซีหลบซ้าย หลบขวารอดพ้นได้อย่างหวุดหวิดอยู่เสมอ
“เอาไปกิน! รถเข็นเซียนพุ่งชน!!” เย่ซีตะโกนท่าไม้ตายออกมาดังลั่น เขาพุ่งรถเข็นเข้าใส่ขาข้างหนึ่งของนักรบร่างยักษ์ด้วยความเร็วสูง!
ตู้ม!
ทันทีที่เย่ซีใช้รถเข็นพุ่งชนขาข้างนั้น ก็บังเกิดเป็นรูขนาดเท่ารถเข็นทะลุต้องแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังขึ้นมาหนึ่งรู แต่แค่นั้นก็แทบไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้กับมอนสเตอร์ร่างยักษ์ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
ถ้าจะให้เทียบก็เหมือนกับการที่ใช้ไม้จิ้มฟันแทงทะลุขาของคนคนหนึ่ง แม้มันจะสร้างความเสียหายได้จริง ๆ แต่ก็แทบไม่ใช่ความเสียหายที่จะต้องใส่ใจอะไรเลยด้วยซ้ำ
มันก็แค่ไม้จิ้มฟันรูหนึ่ง!!
“อะไรวะ! แบบนี้เมื่อไรมันจะตายสักที!” เย่ซีสบถออกมาด้วยความหัวเสีย
“จริงสิ! ไม่เห็นต้องสนใจมันก็ได้นี่นา” แต่แล้วเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มันเป็นสิ่งที่ควรจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ!
ร่างกายของชายหนุ่มเคลื่อนตัวหลบหลีกทุกการโจมตี พุ่งเข้าหาหีบไม้ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรด้วยความรวดเร็ว! เพียงไม่กี่วินาทีร่างของเขาก็มาอยู่ที่หน้าหีบไม้ที่ว่าแล้ว! ชายหนุ่มยื่นมือออกไปหมายจะเปิดหีบไม้ใบนั้นขึ้น
เปรี้ยง!
เย่ซีถูกพลังงานบางอย่างโจมตีเข้าใส่อย่างรุนแรง ร่างของเขาปลิวกระเด็นออกมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถเปิดหีบไม้ที่ว่านั่นได้!
[เงื่อนไขการเปิดใช้งานไม่ครบถ้วน]
[ฝ่าด่านทั้งเก้าเพื่อเปิดหีบแห่งความโกลาหล]
“ที่แท้ก็ไม่มีทางลัด! เอาวะ” ชายหนุ่มเห็นหน้าต่างโปร่งแสงเด้งขึ้นมาก็พอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนนี้เขาหันไปมองนักรบยักษ์ที่กำลังจู่โจมเข้ามาด้วยสายตามุ่งมั่น
‘ทักษะการแลกเปลี่ยนก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ในตอนนี้เสียด้วยสิ’ เย่ซีลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในใจ
เนื่องจากศัตรูมีขนาดที่ใหญ่มาก จุดอ่อนก็เหมือนจะไม่มี ถ้าเขาจะใช้ทักษะการแลกเปลี่ยนในการกำจัดอีกฝ่ายโดยตรง ค่าตอบแทนจะต้องมหาศาลมากเป็นแน่ แต่ถ้าแลกเปลี่ยนเพียงสิ่งเล็กน้อยก็คงจะไร้ประโยชน์อยู่ดี ดูเหมือนจะต้องทดลองใช้สิ่งนั้นแล้วสินะ!
“หมัดเรียกทรัพย์!” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม กำปั้นทั้งสองข้างของเขาก็เรืองแสงทีเหลืองทองออกมาบาง ๆ เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่อยู่ในกำปั้นคู่นี้
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม
โอววววววววววววววววว
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นไงล่ะไอ้ซากศพเดินได้! ถึงกับร้องเสียงหลงเลยสิเอ็ง!” เย่ซีหัวเราะออกมาด้วยความสะใจที่นักรบยักษ์ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด!
แน่นอนว่าเขาไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวดจริงไหม แต่ถูกต่อยไปตั้งหลายหมัด ขายุบไปหลายจุด มันก็คงต้องเจ็บบ้างแหละ!
[ช่วงชิงพลังโกลาหลมาเสี้ยวหนึ่งจากผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลามาได้]
[ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก]
[พลังแห่งอนันต์ได้รับการปรับปรุง]
[พลังโกลาหลผสานเข้ากับพลังแห่งอนันต์]