ตอนที่แล้วบทที่ 591 : แร็กนาร็อก (7)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 593 : แร็กนาร็อก (9)

บทที่ 592 : แร็กนาร็อก (8)


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 592 : แร็กนาร็อก (8)

จากนั้นฉันก็เลี้ยวไปตามถนนที่ทอดยาวไปทางซ้ายและเข้าไปในโกดังอันเงียบสงบที่ชั้นบนสุด

'กรึ้ก'

เมื่อเหวี่ยงฝักของไบฟรอคออกไป พอร์ทัลที่เชื่อมต่อกับด้านนอกของหอคอยก็ถูกสร้างขึ้น

[โลกิ!]

ไอเซลล์ปรากฏตัวพร้อมกับละอองดาว

เธอพกเอกสารหนาๆออกมาด้วย

[ผลการสืบสวนที่โลกิร้องขอออกมาแล้ว]

“งานเสร็จเร็วมาก”

[ผลลัพธ์เสร็จสิ้นแล้ว และนี้คือสิ่งที่ฉันนำมาด้วย]

ฉันรับเอกสารจากไอเซลล์

สิ่งที่ฉันขอให้ไอเซลล์ทำนั้นง่ายมาก เพื่อประเมินจำนวนเศษชิ้นส่วนแห่งหายนะและเวลาที่ใช้ในการเอาชนะชิ้นส่วนเหล่านั้น เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ได้รับการป้อนข้อมูลล่วงหน้า การวิเคราะห์จึงใช้เวลาไม่นาน

"ให้ฉันดู."

ฉันพลิกดูเอกสารต่างๆ

แล้วฉันก็หยุดอยู่ที่หน้าสุดท้าย

[2,700,000]

2.7 ล้านปี

[ว่าแต่โลกให้คำนวณสิ่งนี้มามาทำไมคะ? ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย มีเพียงตัวเลขเท่านั้น]

"ไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่เรื่องตลกเท่านั้นแหละ"

ฉันโยนเอกสารออกไป

เปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้นและกลืนกินเอกสารทั้งหมด

'ฉันเดาว่าฉันจะต้องไปที่เซิร์ฟเวอร์ 1 ก่อน'

ยังมีกรรมการเหลืออยู่ในสำนักงานใหญ่อีก 32 คน

ฉันเริ่มต้นด้วยการดูดซับข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาจากคาราเคิล

ฉันจับฝักดาบที่แขวนบนเข็มขัดไว้แน่นแล้วก้าวเข้าไปในพอร์ทัล

[มิติ 1,035 - มนุษย์]

ด้านนอกหอคอย

ซากเรือเหาะที่เสียหายลอยกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ในหมู่พวกเขา ฉันดึงเรือเหาะลำเล็กๆ ที่ดูดีมาลำหนึ่ง

ครืนนนน!

บนดาดฟ้าเรือเหาะ

เมื่อแรงรบกวนถูกส่งเข้าไปด้านใน ชิ้นส่วนที่แตกหักก็ได้รับการซ่อมแซมและเติมเชื้อเพลิงเข้าไปใหม่

'ป้อนพิกัด'

ฉันรู้แล้วว่าทางเข้าเซิร์ฟเวอร์ 1 อยู่ที่ไหน

วู้ว! เปลวไฟออกมาจากด้านหลังของเรือเหาะ

[อึก… ]

“ถ้ากลัวก็กลับไปรอที่ห้องรอได้นะ”

[ไม่! ฉันจะไป! ฉันจะไปด้วย!]

ไอเซลล์ส่ายหัวแล้วปีนขึ้นมานั่งบนไหล่ของฉัน

ครืน หลังจากเตะดาดฟ้าเบาๆ เรือเหาะก็เริ่ม

'การเร่งความเร็ว'

วืดดดดด!

เรือเหาะเร่งความเร็วและร่อนผ่านก้อนเมฆ

เรื่องที่สำคัญฉันยังไม่ได้ตัดสินใจตั้งชื่อเรือเหาะ

ไม่จำเป็นต้องคิด ฉันสามารถคิดได้ภายใน 1 วินาที

'อัมแดดซี'

ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ไรก็ได้กำลังทำอะไรอยู่

เขาอาจจะลบแอพไปแล้วเพราะเขาเบื่อกับเกมขยะเหล่านี้

หรือเขาอาจจะพยายามกู้คืนบัญชีของเข้าโดยพยายามร้องเรียนไปที่ฝ่ายบริการลูกค้า

ถึงอย่างไรก็ตาม…….

“มาลองกันอีกครั้งหนึ่ง”

วู้ว!

เรือเหาะอัมแดดซีเข้าสู่ขอบสนามอย่างรวดเร็ว

<นายท่าน!>

ฉันมองไปด้านข้าง

ภาพลวงตาปรากฏขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่ร้อนใจ

มันคือยูเน็ต

<หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ!>

“...”

<หากนายท่านตัดสินใจต่อสู้ และก็ไม่จำเป็นต้องกลับมายังโลกก็ได แต่นายท่านทำแบบนี้……นายท่านจะต้องรับสิ่งนี้จากพวกเรา... … !>

ฉันใช้มือสะบัดภาพลงตานั้นออกไป

ภาพลวงตาของยูเน็ตกลายเป็นหมอกและสลายไป

ตู้มมมม!

เมื่อฉันมองไปข้างหลัง เซริสกำลังรีบมาทางนี้ โดยกระโดดไปมาระหว่างเรือเหาะ

ความเร็วของเธอชวนให้นึกถึงเครื่องบินรับไอพ่น

"นี้"

เธอน่าจะรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?

ดังนั้นฉันจึงเพิ่มความเร็วของเรือเหาะทันที

เรือเหาะซึ่งได้รับแรงพลังรบกวนจนถึงขีดจำกัด ได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วเกินบรรยาย

[อืม โลกิ…ฉันไม่รู้สถานการณ์หรอกนะคะ……แต่เราคุยเรื่องนี้กันดีๆจะดีกว่าไหม?]

“ฉันไม่มีอะไรจะพูด”

พอเจอกันพวกนั้นก็ตะโกนใส่หน้าฉันทันที

พวกนั้นเอาแต่บอกให้ฉันกลับไปที่โลกทันทีและมอบคัมภีร์ลับแห่งสวรรค์ให้ฉัน

'ไม่ใช่ว่ามันไม่มีประโยชน์เลย'

ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันคงต้องเดินทางกลับไปยังโลกทันที

ฉันอาจถูกเทลใช้เป็นเครื่องมือโดยไม่รู้อะไรเลย

"น่าเบื่อ"

ฉันแค่เกลียดบทละครน้ำเน่า

ฉันสามารถเดาได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดอะไรและจะผลลัพธ์ออกมาอย่างไร มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้น

ตั้งแต่ฉันเป็นนายท่าน ทุกสิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้ง่ายดายหรือปูไปด้วยดอกกุหลาบเลย และอีกอย่างถ้าฉันไม่ได้มาที่นี่และได้รับพลังจากฮีโร่ระดับ 4 ดาวในการสังเคราะห์ ฉันคงตายไปนานแล้ว

“....”

ปากของเซริสขยับ

ดูเหมือนว่าเธอกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่เธออยู่ไกลมากจนฉันไม่สามารถได้ยินที่เธอพูดได้

ถึงได้ยินฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเธออยู่แล้ว

ชริ้ง!

ฉันดึงไบฟรอตออกมาทันที

ผลงานร่วมกันที่ฉันและยูเน็ตช่วยกันสร้าง

มันช่วยในการทำภารกิจได้มากเพราะด้วยความทนทานและเอฟเฟกต์ต่างๆ

[โลกิ! ถ้าไปไกลกว่านี้มันจะชนกำแพงนะคะ! กำแพง! ชน!!!!]

ไอเซลล์กำลังตื่นตระหนก

เพราะกว่าจะรู้ตัวเราก็มาถึงขอบสนามมิติแล้ว

เมื่อมองแวบแรกสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะกว้างไกลแบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็มีกำแพงโปร่งใสกั้นไว้

[มันชนแน่ๆๆๆ พัง! พังแน่นอนนนนน….]

แสงสีทองคลอบคลุมเรือเหาะเอาไว้

อัมเดดซีที่ควรจะชนกับกำแพงจนพังทลายก็แล่นผ่านกำแพงนั้นไปอย่างราบรื่น

[เอ้ะ?]

ไอเซลล์กระพริบตาปริบๆ

ฉันยิ้มและกระทืบเท้า 1 ที

เรือเหาะที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ก็หยุดลงอยากรวดเร็ว

ตุ๊บ!

เซริสค่อยๆแตะเส้นเขตแดนเข้ามา

เธอเด้งกลับทันที แต่เธอเลเวนเทีย​​ออกมาและเริ่มเหวี่ยงมันไปที่กำแพง

บู้มมมม!

เปลวไฟของเซริสนั้นแม้มันจะทรงพลังมาก แต่มันไม่สามารถฝ่าฝืนกฎของระบบได้

เปลวไฟแห้งนรกนั้นโจมตีผนังโดยเปล่าประโยชน์

“....”

ดูเหมือนเซริสกำลังกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง แต่ฉันไม่ได้ยินเธอ

'2.7 ล้านปี'

คิดเป็นแปลงเป็นวันก็น่าจะประมาณ 985.5 ล้านวัน

มันเป็นตัวเลขที่ยากต่อการประมาณในแง่ของเวลา

'ใครจะไม่เบื่อบ้าง'

ฉันชูไบฟรอตขึ้นไปบนฟ้า

ดาบสีเข้มที่ปกคลุมไปด้วยเวทย์มนตร์สีน้ำเงินลอยวนอยู่ในอากาศ

'ผนึกระหว่างสวรรค์และโลก'

หนึ่งในทักษะเรื่องราวลับของสเตนเบิร์ก

การใช้เทคนิคนี้แม้แต่กาล-อวกาศของพื้นที่ๆหนึ่งก็สามารถแก้ไขได้อย่างอย่างง่ายดาย

ครั้งนี้มันน่าจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย และจะช่วยซื้อเวลาให้เราได้มากเท่าที่ต้องการ

บูม!

ไบฟรอตพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและติดอยู่ในผนังโปร่งใส

จากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินที่พุ่งออกมาจากใบมีดก็เริ่มกระจายไปทั่วทั้งสนาม

ฉันถอดฝักออกจากเข็มขัดแล้วโยนมันไว้ใต้ราวบันได

ดาบเล่มนี้ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

"เซริส"

“....”

“ด้วยสิ่งนี้ หนี้ของฉันได้รับการชำระแล้ว”

การก้าวกระโดดของมิติ

แสงสว่างจ้าปกคลุมวิสัยทัศน์ของฉันในทันที

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด