บทที่ 588 : แร็กนาร็อก (4)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 588 : แร็กนาร็อก (4)
ฉันมองไปที่กระจกหน้าห้องบัญชาการ
นอกเหนือจากคราบเลือดแล้ว กองทัพเรือเหาะของโมเบียสและเนลม์ไฮมฟ์กำลังยิงปืนใหญ่ปะทะกันอย่างดุเดือดบนท้องฟ้าเหนือสนามรบ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะปืนใหญ๋และเปลวไฟ เรือเหาะที่พุ่งชนกันก็ระเบิดและเปล่งประกายราวกับดวงดาวในกาแล็คซี่
ตุ๊บ!
ฉันกระโดดผ่านกระจกออกไปด้านนอก
เฉันพลิกตัวและยื่นขึ้นบนดาดฟ้า ภาพด้านนอกก็ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ฮ่าๆๆๆ! จบเเค่เท่านี้แหละ เซริส! ผิดหวังจริงๆ น่าผิดหวัง! ฮ่าๆๆๆ!
ปัง! ปัง!
ฉันไปทางซ้าย
บนดาดฟ้าเรือเหาะของเนลม์ไฮมฟ์ มีคนสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่ คนหนึ่งยืนอยู่ในชุดสีดำและมีเปลวไฟสีแดงกระจายอยู่รอบตัว ส่วนอีกหนึ่งคนนั้น…….
[โมเบียน อิงค์]
[ผู้พิทักษ์]
[คาราเคิล ดีทัน Lv.999]
เลเวล 999
มันเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันเห็นครั้งแรก
มันเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้าจากดาดฟ้าเรือเหาะลำหนึ่งไปยังเรือเหาะอีกลำหนึ่ง และมันก็ยิงปืนไรเฟิลและแกว่งขวานไปด้วย
เพียงขยับขวานเพียงนิดเดียว ดาดฟ้าที่ทำจากโลหะผสมพิเศษก็บุบและแตกหักทันที เซริสหลบการโจมตีและโจมตีกลับด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เเค่นั้นก็ทำให้คาราเคิลบาดเจ็บไปทั้งตัว....
“ฉันเป็นอมตะ! นี่คือพลังแห่งพรที่ฉันได้รับจากท่านเทพธิดา! ไม่มีใครสามารถทำอะไรฉันได้ คนโง่แบบแกไม่รู้สินะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
"……หุบปากซะ"
พัฟ!
เปลวไฟอันร้อนแรงระเบิดออกมาในทันทีและปกคลุมไปทั่วร่างกายของคาราเคิล
แต่…ร่างกายที่ถูกเปลวไฟหลอมละลายนั้นกลับถูกสร้างขึ้นมาใหม่ภายในเวลาไม่กี่วินาที
'เปลวไฟของเซริส….'
คาราเคิลจะต้องมีพลังในการฟื้นฟูระดับสูง แน่นอนว่าบริษัทโกงพลังนี้ให้เขา
เพราะเปลวเพลิงของเซริสนั่นเป็นเปลวเพลิงจากนรกที่ไม่เพียงแค่สามารถทำลายความสามารถในการฟื้นฟูได้เท่านั้นแต่ยังเจาเกราะป้องกันภูมิคุ้มกันของฮีโร่ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเปลวเพลิงนั้นมันไม่สร้างความเสียหายใดๆให้กับร่างกายของคาราเคิล นั้นก็หมายความว่าร่างกายของมันมีรอยประทับในระดับที่สูงกว่าปกติมาก
'น่าจะระดับ SS หรือสูงกว่านั้น?'
ฉันเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้
นี่อาจเป็นสูตรโกงที่ฮีโร่ทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้มัน
“ถึงแม้แกจะพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันเอาชนะได้หรอกนะ มาเป็นอาหารให้ขวานของฉันดีกว่า!
ฮ่า ๆ ๆ ๆ!"
คาราเคิลกระแทกขวานอันใหญ่ของเขาลงบนดาดฟ้า
ปัง!!! ทันใดนั้นเรือเหาะที่สูงขนาดร้อยเมตรก็สั่นสะเทือนและเริ่มแยกออกจากกันเป็นสองส่วน
เรือเหาะขนาดใหญ่มากก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆด้วยการฟาดขวานลงมาแค่เพียงครั้งเดียว
“ฉันจะฟื้นคืนชีพได้ตลอดและแข็งแกร่งขึ้นกว่าหนอนแบบแกล้านเท่า! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ! แกไม่สามารถเอาชนะฉันได้หรอก เพราะฉันเป็นอมตะ!”
พึ้บ พึ้บ
ก้อนกลมๆสีดำที่เหมือนกับก้อนเนื้อมะเร็ง ปกคลุมไปทั่วร่างกายของคาราเคิลทันทีแล้วหายไป
ร่างกายของเขาที่เป็นแบบนั้นอาจจะเพราะทันรับแรงรบกวนทมากเกินไป
“ฮ่าๆๆ! พวกเขาสัญญากับฉัน! เมื่อการต่อสู้นี้จบลง ฉันจะกลายเป็นผู้อำนวยการของโมเบียส และควบคุมมิติทั้งหมด!”
ฉันยิ้ม
ฉันอยากจะบอกกับเขาว่า…สิ่งนั่นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก
ร่างกานเขาจะได้รับความเสียหาย 100% หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้
'แต่ก่อนอื่น… … .'
นายไม่สามารถออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิตได้
ฉันขยับเท้าของฉันเบาๆ ลมแรงๆพัดมาใต้เท้าของฉันและทำให้ร่างกายของฉันลอยไปข้างหน้า
หัวล้านๆ ใบหน้าและแววตาที่คุ้นเคยของคาราเคิล
"ฮะ? แก…แกเป็นใคร… … ."
"หวัดดี"
ปัง!
ฉันจับหน้าเขาแล้วกระแทกเข้ากับดาดฟ้าเรือเหาะทันที
ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!
ปั๊ก!!!! หลังจากกระแทกหน้าเขาเข้ากะับบนดาดฟ้าประมาณห้าครั้ง พื้นดาดฟ้าของเรือเหาะก็ยุบตัวลงไปและพื้นก็แตกกระจัดกระจาย
“นายท่าน ทำไมยังอยู่ที่นี่อีกคะ…?!”
ดวงตาของเซริสเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความกังวล
"ไว้คุยกันที่หลัง"
“นายท่านทำไมไม่กลับไป?! นายท่านสัญญากับฉันแล้วนะคะ…!”
“ฉันไม่เคยสัญญาอะไรกับเธอ”
ฉันเตะร่างของผู้ชายคนนั้นออกไป
ร่างเละๆนั้นพุ่งชนเรือเหาะอย่างรวดเร็วและระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
"นายท่าน!"
เซริสกัดริมฝีปากของเธอ
สีหน้าเธอค่อนข้างสับสน
เธอมักจะมีใบหน้าที่เย็นชาเสมอ แต่ตอนนี้มันแปลกไปเล็กน้อย
“เราเสี่ยงชีวิตเพื่อนายท่าน...”
“ฉันไม่เคยขอให้เธอเสี่ยงชีวิตให้นะ”
“นายท่านกำลังบอกว่าฉันว่านายท่านจะไม่กลับไปยังโลก?”
"ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันต้องการเท่านั้น"
เซริสยกมือขึ้นมากุมหน้าผากของเธอเอาไว้
ดูเหมือนว่าเธอกำลังปวดหัวที่ฉันยังอยู่ที่นี่
“อะไรกันคะนายท่าน…นี่มันไร้สาระมาก….”
“แล้วนั้นจะพูดพล่ามอะไรอีกล่ะ มันมานู้นแล้ว”
ร่างของชายคนหนึ่งกระโดดออกมาจากซากเรือเหาะที่ระเบิด
“ย๊ากก! พวกแกทั้งหมดตายซะ!!”
คาราเคิลทำลายเรือเหาะลำเล็กตรงหน้าเขาทันที
ฉันคิดว่าฉันน่าจะจัดการเขาได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีปกติเลย
บาดแผลทั่วร่างกายของเขาได้รับการสมานอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นายเองเหรอ ภาชนะที่พวกเขาพูดถึง? ดี ดี ดี! โผล่หัวออกมาแบบนี้จะได้ไม่ต้องตามหาให้ยาก!”
คาราเคิลหัวเราะจนตัวงอ
จากนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำ
“ฉันจะแสดงให้พวกแกเห็นถึงพลังที่แท้จริงของฉัน ทำลายจักรวาลและสังหารได้แม้กระทั้งเทพพระเจ้า... แน่นอน……นี้แหละมันคือพลังที่แท้จริง!”
[โมเบียน อิงค์]
[ผู้พิทักษ์]
[คาราเคิล ดีทัน Lv.1347]
เลวล 1347
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นฮีโร่ที่มีระดับสูงขนาดนี้
ในขณะเดียวกันเซริสก็มองมาที่ฉัน
“นายท่านพลังนั้นคืออะไร…?”
ดวงตาของเซริสหรี่ลงมองข้างหน้า
“มันค่อนข้างซับซ้อนที่จะอธิบายให้เธอเข้าใจ”
"……ฉันจะพยายามทำความเข้าใจมัน”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลา”
"รับทราบค่ะ"
ฉันเล็งไบฟรอตไปที่คาราเคิล
“ฉันจะจัดการไอ้สารเลวนั่นเอง”
“การโจมตีของเราไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยนะคะ”
"ฉันรู้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะจัดการมันเอง”
“……เฮ้อ”
เซริสถอนหายใจออกมาแรงๆ
จากนั้นเธอก็เก็บเลเวนเทียไว้ที่ด้านข้างลำตัว
“หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ แน่ตอนว่าฉันมีเรื่องจะถามนายท่านมากมาย”
เปลวไฟเริ่มลุกโชนทั่วร่างกายของเซริส
“แต่ก่อนหน้านั้น เราเองก็มีบางอย่างที่ต้องจัดการกับมันก่อน”
“เธออยู่นี้ก็ได้นะ ไอ้ตัวนั้นแค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว”
“ฉันจะช่วยนายท่านเองค่ะ สองหัวยังไงก็ดีกว่าหัวเดียว”
พรึ้บ!
เลเวนเทียกลายตอนนี้กลายเป็นดาบเพลิงไปแล้ว
เซริสหมุนดาบเพลิงของเธอแล้วเดินมายืนข้างฉัน