บทที่ 42 ความก้าวหน้าของหลูมู่ไป๋
ขณะที่หลูมู่ไป๋ได้รับการเลื่อนระดับ ในพื้นที่ต้องห้ามของราชวังแห่งอาณาจักรเพลิงอัคคี ชายชราผมสีขาวลืมตาขึ้น พร้อมกับค่อย ๆ ยืนและมองไปยังบริเวณคฤหาสน์นายพล
“การเลื่อนระดับผันผวนดี” เขาหรี่ตา ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ “ตระกูลหลูให้กำเนิดราชาดาบอีกคนแล้ว ไม่เลว”
ชายวัยกลางคนในชุดสีม่วงเดินออกมาจากห้องโถงของพระราชวังจักรพรรดิ รอบกายของเขาเต็มไปด้วยพลังออร่าที่พลุ่งพล่านจากคฤหาสน์นายพล เขาสัมผัสสร้อยประคำในมือ “ตระกูลหลูได้กำเนิดราชาแห่งดาบคนใหม่แล้ว หลูมู่ไป๋ช่างมีพรสวรรค์เสียจริง”
ณ บ้านไม้บนเนินเขาหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยนก และดอกไม้ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ ชายชราคนหนึ่งในซิงยี่ก็ได้เอ่ยออกมาเบา ๆ ว่า “เลื่อนระดับได้ขนาดนี้ ตระกูลหลูเป็นอัจริยะอันดับต้น ๆ ในเมืองหลวงของจักรวรรดิจริง ๆ”
ลานบ้านของตระกูลชั้นสูง มีคนสามคนกำลังคุยกัน ทว่าทันใดนั้นเองพวกเขาก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่พุ่งไปทางบ้านของตระกูลหลู และหลังจากที่เมฆแห่งวิญญาณบนท้องฟ้าสลายไป ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ราชาดาบคนใหม่ของตระกูลหลู จะต้องเป็นหลูมู่ไป๋แน่”
“เขาเพิ่งก้าวสู่จิตวิญญาณแห่งดาบระดับสูงไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงเลื่อนระดับเป็นราชาแห่งดาบได้เร็วขนาดนี้?” ชายหนุ่มคนหนึ่งตั้งคำถาม พร้อมกับความสับสน
“ยาล้างไขกระดูก ข้าเดาว่าต้องมียาล้างไขกระดูก” ชายหนุ่มอีกคนดูแล้วอายุไม่น่าเกินยี่สิบปีเอ่ยขึ้น
“ใช่ ทั้งหยุนหลัน และหยุนจินต่างก็ได้รับเม็ดยาล้างไขกระดูกจากหลูมู่หยาน แล้วหลูมู่ไป๋ผู้ซึ่งเป็นพี่คนโตของนางจะไม่ได้ได้อย่างไร” ชายคนที่พูดก่อนหน้านี้เอ่ยถาม ก่อนจะหันไปมองชายวัยกลางคนด้วยความสงสัย “ท่านพ่อ ดูเหมือนผลของยาซีซุยจะดีกว่าข่าวลือนะ”
“ยาซีซุย” ชายวัยกลางคนพูด พร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วกับนึกอะไรบางอย่างอยู่ในหัว “ไปเยี่ยมตระกูลหลูกันเถิด ไปแสดงความยินดีกับหลูมู่ไป๋ที่เลื่อนระดับกันเสียหน่อย”
หญิงชราผู้หนึ่งนั่งไขว่ห้างบริเวณเหนือสระน้ำลึกในเมืองหลวงของจักรวรรดิ นางลืมตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นเสียงจากตระกูลของนางก็แล่นเข้าสู่โสตประสาททันที
“ล้างไขกระดูก?” หญิงชราผู้นั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นจากสระ ก่อนจะเดินข้ามไปอีกฝั่งทีละก้าว
“เพื่อครอบครัว ดูเหมือนข้าจะต้องไปที่นั่นด้วยตัวเอง”
การเลื่อนระดับของหลูมู่ไป๋ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ในสถานที่ต่าง ๆ ในอาณาจักรหยานโจว พร้อมกันกับข่าวลือเรื่องยาซีซุยที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เรี่ยกัน ก็ยิ่งทำให้คนในเมืองเริ่มกลับมาตื่นเต้นกับมันอีกครั้ง
ณ คฤหาสน์จักรพรรดิ
บุรุษผู้หล่อเหลาในชุดสีขาวเดินย่างกรายออกมาจากตัวบ้าน อารมณ์ของเขาขุ่นมัว และตัวของเขาก็มีกลิ่นอายของการถูกให้ร้ายด้วยอะไรบางอย่าง
“ท่านปู่ ท่านพ่อ หยานเอ๋อร์ เสี่ยวถิง” ดวงตาของหลูมู่หยานตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข เพราะนางก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะสามารถใช้ซีซุยตันขยายการดูดซับลมปราณอย่างบ้าคลั่ง และก้าวขึ้นไปสู่การเป้าราชาแห่งดาบได้
“ข้ายินดีด้วยท่านพี่ใหญ่ ที่ท่านได้เป็นราชาดาบผู้แข็งแกร่ง” หลูมู่หยานจับไปที่แขนของผู้เป็นพี่ ก่อนจะพูดแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้ม
หลูมู่ไป๋เอื้อมมือไปแตะที่จมูกของน้องสาวอย่างแผ่วเบา “ครั้งนี้ข้าต้องขอบคุณยาเม็ดของหยานเอ๋อร์ด้วย”
“ท่านพี่ใหญ่ท่านนิสัยเสียเกินไป ท่านทำให้ข้าผิดหวังมากในเวลาไม่กี่ปี” หลูมู่ถิงเลิกคิ้ว พร้อมกับฮัมเพลงคลอ แต่ลึก ๆ ในใจของเขากลับภูมิใจในตัวพี่ชายคนโตมาก
“ใครทำให้เจ้าต้องวิ่งวุ่นทั้งวัน และทำให้การฝึกฝนไม่ดี แต่ตอนนี้มันเป็นพรสวรรค์ที่สามารถเข้าถึงวิญญาณระดับกลางได้” หลูมู่ไป๋เอ่ย พร้อมกับเหลือบมองไปที่น้องชายของเขา ก่อนจะมองไปยังน้องสาวที่หน้าตายิ้มแย้มในขณะนี้ “แต่ถ้าเจ้าขี้เกียจ ข้าเชื่อว่าหยานเอ๋อร์จะแซงเจ้าได้ในไม่ช้า”
“ข้าจะไม่ถูกครอบงำจากสาวน้อยผู้นี้หรอก” หลูมู่ถิงกรอกตา
“ท่านพี่รอง มาเทียบดูกันดีกว่าว่าใครจะตีราชาแห่งดาบได้ก่อนกัน” หลูมู่หยานชอบบรรยากาศของตระกูลในตอนนี้มาก นางยิ้ม และมองไปที่หลูมู่ถิงหลังจากได้รับคำยั่วยุ
“ถ้าแพ้แล้วก็อย่างร้องไห้ละกัน”
หลูมู่หยานทำให้หลูมู่ถิงรู้สึกดีขึ้น นางไม่ได้ร้องไห้เลยตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางแห่งการฝึกฝน และด้วยคุณสมบัติและประสบการณ์ของหลูมู่หยาน ทำให้การเอาชนะพี่ชายคนรองนั้นเป็นเรื่องง่าย
“ข้าไม่รู้ว่าใครจะต้องร้องไห้ รอดูเลย”
ทั้งสองคนหัวเราะกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่หลูมู่หยานจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประมูลให้ทุกคนฟัง
ชายชรา และคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วยกับแนวทางของหลูมู่หยาน นั่นคือการปิดบังให้คนอื่นอยากได้ ดีกว่าเปิดเผยออกมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นความลับก็จะไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและปู่โล่งใจก็คือหลูมู่หยานเติบโตขึ้นมาก รวมไปถึงมีเหตุผลและรู้จักใช้หัวใจมากขึ้น การที่หลูมู่หยานตัดสินใจให้ยาซีซุยแก่หยุนหลัน นั่นก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่านางมีท่านป้าที่รักนางมาตั้งแต่เด็ก และครอบครัวก็ยังเป็นสถานที่ที่สำคัญมากแห่งหนึ่ง
… ในหัวใจของนาง
“แม้ว่าจะมีคนจากตระกูลหลูอยู่ไม่มากในอาณาจักรหยานโจวที่กล้าออกความคิด แต่หยานเอ๋อร์ก็จะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากผู้ไม่หวังดีในอนาคต” หลูหม่าอวี้ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวคนเล็ก “หรือแค่ทำตามเวลาแบบหลูมู่ไป๋เพื่อฝึกฝน”
“ท่านพ่อ ข้าเติบโตต่อไปไม่ได้ภายใต้ปีกของท่าน ฉะนั้นข้าจะไม่ไปไหนไกล” ใจของหลูมู่หยานเริ่มอบอุ่นขึ้น ความเฉลียวฉลาดของทั้งร่างกายของนางก็ยิ่งทำให้นางดูงดงามขึ้น
หลูมู่หยานมองไปที่คนในตระกูลด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่ว่า “ข้าจะฝึกอย่างหนักต่อไปเพื่อไปถึงเส้นทางของผู้แข็งแกร่ง แม้ว่าข้างหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่ก็จะรีบออกจากเส้นทางของข้าเพื่อเป็นผู้ที่แข็งแกร่งให้ได้”
สิ่งที่หลูมู่หยานเอ่ยออกมาราวกับคำสาบานนั้น ทำให้คนที่นั่งอยู่นึกตกใจไปตาม ๆ กัน
“เอาล่ะ! ตามที่คิดไว้จากตระกูลหลูของข้า หัวใจที่บ่มเพาะให้แน่วแน่นี้น่ายกย่องที่สุด” ดวงตาของชายชราบ่งบอกถึงความพึงพอใจ และชื่นชม หยานเอ๋อร์เป็นคนแรกในตระกูลที่ยืนหยัดการสนับสนุนของเขา
หลังจากเงียบไปสักพัก ชายชราก็เอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “หยานเอ๋อร์พูดถูก การฝึกฝนด้วยดาบนั้นขัดกับท้องฟ้า และจะกลัวไม่ได้ ต้องใช้หัวใจที่แน่วแน่ในการเป็นคนที่แข็งแกร่ง สิ่งนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน มันคือการทดสอบ สำหรับหยานเอ๋อร์นั้น ปล่อยให้นางทำไปเถอะ”
“ขอบพระคุณท่านปู่!” หลูมู่หยานปล่อยมือจากพี่ชายคนโต ก่อนจะเข้าไปกอดแขนของท่านปู่ด้วยความรักใคร่ ลึก ๆ นางคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่นางแสดงออกมานั้นจะเป็นไปตามธรรมชาติขนาดนี้
“ข้าต้องการปิด ทางเลือกของหยานเอ๋อร์นั้นถูกต้องแล้ว” คำพูดของลูกสาว ทำให้หลูหม่าอวี้ต้องตกตะลึง ครั้งหนึ่งเขาและภรรยากลัวว่าลูกสาวสุดที่รักจะต้องเจ็บปวดจากการเลี้ยงดูที่ดีเกินไปของพวกเขา แต่ตอนนี้ผลที่ได้ไม่ใช่แบบที่คิดอีกแล้ว มันดีกว่านั้นอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจที่ออกมาจากตัวลูกสาวของเขา หลูหม่าอวี้ตัดสินใจให้หลูมู่หยานทำตามความต้องการของตัวเอง ให้นางได้เติบโตอย่างอิสระ เขาเชื่อว่าลูกสาวเขาคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง
“หยานเอ๋อร์มีความมั่นใจมาก และเราต้องทำงานให้หนักขึ้น” เช่นเดียวกันกับหลูมู่ไป๋ ที่ในตอนนี้เขามีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมพร้อมกับความหวัง และเขาจะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญบนเส้นทางของผู้ที่แข็งแกร่ง
หลูมู่ถิงประทับใจในความมุ่งมั่นของท่านพี่ และน้องสาว เขาไม่สามารถที่ออกไปไกลจากพี่น้องของเขาได้ หลังจากที่กลับมาจากเมืองชายแดน เขาก็ควรจะมุ่งมั่นไปที่การบ่มเพาะของเขาเช่นกัน
คนในตระกูลหลูพูดคุย และเปลี่ยนกระสบการณ์การบ่มเพาะกันอย่างมีความสุข แม้ว่าหลูมู่หยานจะมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำที่สุดก็ตาม แต่ความเห็นของนางในบางเรื่องก็สามารถทำให้ทุกคนติดไต่ตรองได้ และหลังจากที่การพูดคุยเสร็จสิ้น พวกเขาก็พากันกลับไปที่ห้องของตัวเอง
วันนี้มีหลายคนที่เดินทางมาเยี่ยมตระกูลหลูพร้อมกับของขวัญแสดงความยินดีกับการเลื่อนระดับของหลูมู่ไป๋ แต่พวกเขาทั้งหมดถูกคนรับใช้เชิญออกไป เนื่องจากนายน้อยของพวกเขายังอยู่ในฐานการบ่มเพาะ
เช้าวันรุ่งขึ้น มีพระราชกฤษฎีกาเรียกหลูมู่หยาน และหลูมู่ไป๋เข้าพระราชวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขของตระกูลหลู
หลูมู่หยานน้อมรับพระราชกฤษฎีกาไว้ในใจ ราชวงศ์ต้องการทราบที่มาของยาไขกระดูกจากนางอย่างแน่นอน หรืออาจจะถามเกี่ยวกับนักเล่นแร่แปรธาตุที่กลั่นยาไขกระดูก แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดนางก็พร้อมที่จะรับมือกับมัน