ตอนที่แล้วตอนที่ 51 พี่เขย เก่งจังเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 ไม่รู้ว่าถ้าได้ เย่เฉิน มาเป็นแฟนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?

ตอนที่ 52 ความประหลาดใจของ ซู หนิงซวง


ทุกคนยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ด้วยความตกตะลึง

เข้าวงที่สิบทั้งหมด?

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว

“พี่เฉิน เก่งมาก”

“พี่เฉิน สุดยอดเลย!”

หลังจากอึ้งไปสักพัก เพื่อนร่วมชั้นของ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็ส่งเสียงชื่นชมออกมา พวกเขาดูกลายเป็นแฟนคลับตัวน้อยของ เย่เฉิน ไปเสียแล้ว

ก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นว่า ซุน ซือหยวน ยิงธนูโดนวงที่หก และถัดจากนั้นก็ยิงโดนเข้าเป้าวงที่หก และวงที่เจ็ด

พวกเขาก็ตกใจมาก จึงคิดไปโดยไม่รู้ตัวว่า ซุน ซือหยวน เป็นคนที่ยิงธนูเก่งที่สุดในหมู่พวกเขา

แต่พอเห็น เย่เฉิน ยิงธนูแล้ว ทุกคนก็ตระหนักได้ทันที

ที่แท้คนที่เก่งที่สุด และยอดเยี่ยมที่สุดกลับเป็น พี่เฉิน ที่ดูถ่อมตัวมากคนนี้นี่เอง

“พี่เขย เก่งมากเลย”

ซู หลิงเอ๋อร์ ตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น และความภาคภูมิใจ

อย่าไปมองว่า พี่เขย ของฉันทำตัวต่ำต้อยดูเงียบๆ โดยไม่ยอมลงมือ แต่พอลงมือแล้วก็ทำให้คนตกใจอย่างสุดๆ!

ไม่เสียทีที่เป็นว่าที่พี่เขยของเธอ เขายอดเยี่ยมจริงๆ

จ้าว ซูซวน พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจไม่แพ้กัน

ซู หนิงซวง ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักก็ประหลาดใจอย่างมาก

เธอไม่คิดว่า เย่เฉิน เขาจะยิงธนูได้เก่งขนาดนี้

เย่เฉิน เป็นเหมือนผู้ชายที่มีของดีมากมายในตัว และเป็นคนที่มีข้อดีที่ค้นพบได้ไม่รู้จบ

ในที่นั้น ทุกคนมีความสุขมาก ยกเว้น ซุน ซือหยวน ที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเป็นเวลานาน

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

ถ้าจะบอกว่าลูกธนูดอกแรกของ เย่เฉิน เข้าวงที่เก้า ดอกที่สองเข้าวงที่สิบ มันอาจจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องของโชค

แต่หลังจากนั้น ลูกธนูสามดอกติดต่อกันเข้าเป้าวงที่สิบ ..ทั้งหมด

แบบนี้จะบอกว่าเป็นเรื่องของโชคก็..ไม่ใช่แล้ว

ตอนนี้ ซุน ซือหยวน ไม่สามารถพูดได้อีกแล้วว่า เย่เฉิน ที่ยิงเข้าเป้าวงที่สิบเป็นเพราะโชค

ยิ่งไปกว่านั้น.. ผลลัพธ์นี้ดียิ่งกว่ามืออาชีพบางคนเสียอีก

หลังจากอึ้งไปอยู่นาน ซุน ซือหยวน ก็พลันตระหนักได้ทันที

เขาเข้าใจแล้ว

เมื่อกี้ที่ เย่เฉิน บอกว่านี่เป็นการยิงธนูครั้งแรกของตัวเอง ..นั่นเป็นการโกหกอย่างแน่นอน

เขาต้องเป็นนักธนูมือฉมัง เพียงแต่แค่ถ่อมตัวเท่านั้น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของ ซุน ซือหยวน ก็แดงก่ำขึ้นมาทันที

เมื่อกี้เขากลับไปอวดเบ่ง อวดเก่งต่อหน้านักธนูมืออาชีพ นี่ช่างน่าอายจริงๆ

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ซุน ซือหยวน ก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากขึ้นเท่านั้น

ซุน ซือหยวน ถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อหลีกหนีออกจากสายตาของทุกคน

วันนี้ ไม่ว่าใครจะพูดอะไร เขาจะไม่ยิงธนูอีกแล้ว

จะดีที่สุดหากในสถานที่นี้ เขาจะถูกทุกคนมองข้ามไป

และแล้ว.. สิ่งที่ ซุน ซือหยวน คิดก็กลายมาเป็นความจริง เมื่อทุกคนเห็นว่า เย่เฉิน ยิงธนูได้เก่งขนาดนั้น ทุกคนก็ย่อมละเลย ซุน ซือหยวน ไปโดยอัตโนมัติ

“พี่เขย สอนหนูด้วยได้ไหมคะ”

ซู หลิงเอ๋อร์ เข้ามาใกล้พลางกล่าวขอร้อง เย่เฉิน ด้วยดวงตากลมโตเป็นประกาย

“พี่เฉิน สอนหนูด้วยคน..”

“พี่เฉิน พี่เฉิน สอนหนูด้วยได้ไหม?”

เพื่อนร่วมชั้นหญิงทั้งสองคนของ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็เข้ามาใกล้พลางพูดพร้อมกัน อยากให้ เย่เฉิน สอนพวกเธอยิงธนู

เย่เฉิน ไม่อยากปฏิเสธ ซู หลิงเอ๋อร์ จึงพยักหน้าตอบตกลงไป

แน่นอน หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็ไม่ลืมที่จะสอน ซู หนิงซวง และพี่สาวจ้าว ซูซวน ด้วย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาเที่ยงก็ถึงมา ทุกคนจำใจต้องออกจากสถานที่ยิงธนูไปอย่างไม่เต็มใจ

“พี่เขย ถ้ามีเวลาช่วยสอนหนูอีกหน่อยนะ การยิงธนูมันเท่มากเลย”

ซู หลิงเอ๋อร์ ซึ่งเธอมีนิสัยร่าเริงมีชีวิตชีวา และดูเหมือนเธอจะชอบความรู้สึกสง่างามตอนยิงธนูมาก

เพียงแต่แค่ท่าทางเท่านั้นที่ดูสง่างาม ส่วนคะแนนนั้นยังทำได้ไม่ดี ซึ่งตอนนี้เธอทำได้แค่พอยิงโดนเป้าเท่านั้น

“ได้สิ”

เย่เฉิน พยักหน้า

เที่ยงแล้ว ทั้งกลุ่มจึงไปทานอาหารที่ร้านอาหารของทางรีสอร์ท

ระหว่างทานอาหาร พวกเขาได้ยินมาว่ารีสอร์ทมีทะเลสาบขนาดใหญ่ หลายคนชอบไปตกปลากันที่นั่น

พวกปลาที่คุณตกได้สามารถจ่ายเงินเพื่อให้พนักงานของรีสอร์ทจัดการเรื่องเครื่องใน เกล็ดปลา และอื่นๆ อะไรพวกนั้นให้ได้

หลังจากจัดการแล้ว พนักงานจะส่งปลากลับมาให้พวกเขา

สุดท้าย พวกเขาก็สามารถลงมือย่างปลา ย่างกุ้ง และอื่นๆ ได้ด้วยตัวเอง

เมื่อได้ยินแบบนี้ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็รู้สึกสนใจทันที

ไม่ใช่แค่ ซู หลิงเอ๋อร์ คนอื่นๆ ในที่นั้นก็สนใจกิจกรรมนี้มากเช่นกัน

ปลาที่ตกเอง ย่างเอง แน่นอนว่ามันจะต้องมีรสชาติพิเศษไปอีกแบบ

“พี่สาว พี่เขย ตอนบ่ายพวกเราไปตกปลากันเถอะ ตกปลาเสร็จ ตอนเย็นพวกเรามาค่อยมาย่างกินกัน”

ซู หลิงเอ๋อร์ ได้วางแผนกิจกรรมสำหรับช่วงบ่าย และเย็นไว้แล้ว

“ทุกคนว่าไง?”

ซู หลิงเอ๋อร์ ถามคนอื่นๆ

“ฉันว่าดีนะ”

“ฉันก็คิดแบบนั้น”

คนอื่นๆ แสดงความคิดเห็น และทุกคนก็เห็นด้วยกับ ซู หลิงเอ๋อร์

เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง ก็พยักหน้าตกลง พวกเขาก็คิดว่าไม่เลวเช่นกัน

ตอนบ่ายหลังจากทานอาหาร และพักผ่อนอยู่สักครู่ ทั้งคณะก็ตรงไปยังทะเลสาบในรีสอร์ท

ในสถานที่เฉพาะ พวกเขาได้เช่าอุปกรณ์ตกปลา หลังจากฟังคำอธิบายจากพนักงาน พวกเขาทุกคนก็มาถึงริมทะเลสาบ

หลังจากหาตำแหน่งที่มีร่มเงาแล้ว ทุกคนก็กระจายตัวกันออกไปเล็กน้อย

เย่เฉิน และซู หนิงซวง นั่งอยู่ใกล้กัน

ทุกคนเริ่มตกปลา ในกลุ่มมีเพียง ซุน ซือหยวน และเพื่อนร่วมชั้นชายอีกคนของ ซู หลิงเอ๋อร์ ที่เคยตกปลา

แม้จะเคยตกปลา แต่หลังจากเหตุการณ์ยิงธนูเมื่อตอนเช้า ซุน ซือหยวน ที่อยากจะอวดเบ่ง และดึงดูดความสนใจจาก ซู หลิงเอ๋อร์

แต่เขาก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่า เย่เฉิน อาจจะเป็นเซียนตกปลาที่ซ่อนฝีมือตนเองเอาไว้

ดังนั้นเมื่อเริ่มตกปลา เขาจึงไม่ได้อวดเบ่ง

“หวังแค่ว่าวันนี้ปลาตัวแรกที่ตกได้ ..จะเป็นของฉัน”

หลังจากนั่งลง มองไปที่ เย่เฉิน ซุน ซือหยวน พลันบ่นพึมพำเบาๆ

การตกปลา แม้เทคนิคจะสำคัญ แต่โชคเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ซุน ซือหยวน จึงหวังว่าครั้งนี้ตัวเองจะโชคดีสักหน่อย

เพราะโดนสิ่งกระทบกระเทือนใจมาในตอนเช้า ซุน ซือหยวน จึงไม่กล้าคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ตกปลาได้มากที่สุดในวันนี้

เขาเพียงแค่หวังว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ตกปลาได้ในวันนี้

แบบนี้ เขาจะได้มีโอกาสอวดเบ่งต่อหน้าคนอื่นๆ คืนบ้าง

คราวนี้ เขาไม่ได้หวังสูงนัก

ซึ่งมัน ..ควรจะเป็นไปได้

ซุน ซือหยวน ปลอบใจตัวเอง แม้ว่า เย่เฉิน จะเป็นเซียนตกปลาที่ซ่อนฝีมือตนเอง

แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ตกปลาได้

เขาเองยังมีโอกาสที่จะชนะ

เมื่อคิดได้แบบนั้น ซุน ซือหยวน ก็เริ่มตกปลาอย่างจริงจัง

เวลาผ่านไปทีละน้อยๆ ซุน ซือหยวน ทันใดนั้นก็เห็นว่าทุ่นปลาขยับ มีปลาเข้ามาติดเบ็ดแล้ว

ซุน ซือหยวน ตื่นเต้นขึ้นมาทันที หลังจากจับตาดูอย่างรอบคอบแล้วเขาก็พร้อมที่จะดึงสายเบ็ดทุกเมื่อ

ในที่สุด ซุน ซือหยวน ก็ดึงปลาตัวนั้นขึ้นมาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นปลาขนาดเท่าฝ่ามือ

เมื่อเห็นปลาติดเบ็ดของตัวเอง ซุน ซือหยวน ก็พลันรู้สึกตื่นเต้นมาก

“ดูเหมือนว่าวันนี้คนแรกที่ตกปลาได้ก็คือ...”

ซุน ซือหยวน พึมพำขณะกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความภาคภูมิใจ

แต่คำพูดของเขากลับหยุดลงครึ่งทาง เมื่อเห็น เย่เฉิน ที่อยู่ไม่ไกล ซุน ซือหยวน ก็พลันตกตะลึง

เขาเห็นว่า เย่เฉิน กำลังเอาปลาออกจากเบ็ดแล้ว

โดยหากประมาณคร่าวๆ จากสายตา ปลาตัวนั้นน่าจะมีน้ำหนักสองถึงสามกิโลกรัมเป็นอย่างน้อย

เมื่อเห็นภาพนั้น ซุน ซือหยวน ก็อ้าปากค้าง

อ่าาา.. ทำไม?

ซุน ซื่อหยวน ถอนหายใจเบาๆ และเริ่มสงสัยในชีวิต

เห็นได้ชัดว่าคนแรกที่ตกปลาได้ในวันนี้ไม่ใช่เขา

ถึงแม้เขา และเย่เฉิน จะตกปลาได้พร้อมกัน แต่ปลาของ เย่เฉิน ก็มีน้ำหนักสองถึงสามกิโลกรัม ส่วนปลาของเขามีขนาดแค่ฝ่ามือเดียว อาจจะไม่ถึงครึ่งกิโลกรัมด้วยซ้ำ

แบบนี้มันจะไปเปรียบเทียบกันได้ยังไง

เขา.. แพ้ เย่เฉิน อีกครั้งแล้ว

แม้จะเสียดาย แต่ ซุน ซือหยวน ก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

โชคดีที่เมื่อกี้ครั้งตกปลาได้ เขาไม่ได้อวดเบ่งเสียงดังเกินไป

ไม่อย่างนั้น คงได้อับอายไปถึงบ้าน (อับอาย/อึดอัดใจมาก)

ซุน ซือหยวน คิดจะเก็บปลา แต่เมื่อเห็นปลาของ เย่เฉิน ตัวใหญ่ขนาดนั้น เขาจึงไม่อยากให้ทุกคนเห็นว่าตนเองตกปลาได้ปลาตัวเล็กขนาดนี้

ซึ่งมันน่าอายเกินไป

เร็วเข้า เร็วเข้า.. เร็วเข้า..

ซุน ซือหยวน เร่งตัวเอง ครั้งนี้ เขาต้องทำตัวให้เงียบๆ

แต่ในขณะที่ ซุน ซือหยวน กำลังดึงเบ็ดออก และเตรียมเก็บปลาอย่างเงียบๆ เสียงอุทานก็ดังขึ้น

“ว้าว พี่เฉิน กับซือหยวน ตกปลาได้ทั้งคู่!”

ใบหน้าของ ซุน ซือหยวน แดงก่ำทันที….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด