ตอนที่แล้วตอนที่ 12 ผลักให้ล้ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 สายตาพันลี้

ตอนที่ 13 กด ! 


ตอนที่ 13 กด ! 

ซ่งลุ่ยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดี ใช้ดุลยพินิจพิจารณาข้อดีและข้อเสียของสถานการณ์นี้อยู่นาน  ยังคงให้ภารกิจดำเนินต่อไป ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ชอบพอกับหลินหลินอยู่แล้ว และเขาเองก็เป็นคนโสดคนหนึ่ง ถึงการที่จะต้องดูแลเธอตลอดชีวิตนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างด้วยสถานะของเขาในตอนนี้จะยังไม่คู่ควรหลินหลินอีกเหรอ ?

ในทางกลับกัน หลินหลินเมื่อได้ยินซ่งลุ่ยพูดออกมาเช่นนั้น เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ในใจกลับมีความรู้สึกที่ไม่ชอบมาพากล เธอมองตาซ่งลุ่ยที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แต่ก็พบว่าหลังจากที่ซ่งลุ่ยพูดจบแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อและยังคงมึนงงอยู่ เธอจึงเอ่ยปากถามไปอีกครั้ง

“ซ่งลุ่ย นายมาหาฉันไม่ใช่ว่ามีเรื่องจะมาถามอะไรเหรอ ?”

หลังจากซ่งลุ่ยรับภารกิจมาแล้วก็พบว่าหลินหลินเรียกเขาอยู่ อีกทั้งยังใช้แววตาที่แปลกประหลาดมองมาที่ตนเองอีก ในใจก็รู้สึกว่ามีความหวังและดีใจ เดิมทีเธอก็สนใจเขาอยู่แล้ว นี่มันโชคดีสุด ๆ ไปเลย !

ในเวลาเดียวกันนั้นซ่งลุ่ยก็คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการที่จะถามหลินหลิน ดังนั้นเขาจึงถามหลินหลินว่า

"ใช่ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย ทำไมเธอถึงคุ้นเคยกับงานซุปเปอร์ไวเซอร์ขนาดนั้นล่ะ ? จัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นด้วยประสบการณ์กับสิ่งที่เห็นเธอแสดงออกมาก็ไม่ได้แย่เลย เธอจะต้องทนอึดอัดใจอยู่ที่นี่ไปทำไม ? ”

หลินหลินได้ยินซ่งลุ่ยถามแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ดูตกตะลึงออกมา แววตาปรากฏความลุกลี้ลุกลนออกมาแวบหนึ่ง แต่ว่ามันเร็วมากจนแทบจะไม่ทันได้สังเกตเห็น เธอจึงแกล้งทำเป็นว่าผ่อนคลายสบาย ๆ แล้วตอบซ่งลุ่ย

“นายถามแบบนี้ เหมือนกับหัวหน้าฉันคนก่อน เป็นเพราะว่าฉันคุ้นเคยกับการทำงานที่นี่ และถ้าหากต้องย้ายไปทำงานที่อื่น ฉันก็คงจะปรับตัวได้ยากและไม่คุ้นชิน ฮ่าฮ่า” หลังจากพูดจบเธอก็หัวเราะออกมาสองสามครั้ง

ซ่งลุ่ยรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติเล็กน้อย ถึงแม้ว่าสิ่งที่พูดออกมามันจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังไงก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องอยู่ดี แต่ในเมื่อคิดยังไงก็คิดไม่ออก เขาก็ไม่เสียเวลาคิดต่อไปแล้ว ซ่งลุ่ยส่ายหัวและสะบัดความคิดของเขาออกไป ช่วงนี้เขารู้สึกว่าตนเองได้ใช้ความคิดมากเกินไปแล้วสิ

หลินหลินเมื่อเห็นพฤติกรรมท่าทางของซ่งลุ่ย เธอก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา ครั้งนี้เธอเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มของเธอจริง ๆ

“ซ่งลุ่ย ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม ? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะขอตัวไปนอนก่อน มันดึกแล้ว”

ในเวลานี้ซ่งลุ่ยยังไม่อยากที่จะเดินออกไป เขาเพิ่งจะได้รับภารกิจใหม่มา ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็จะให้เขาไปแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ! ในเวลานี้สมองของซ่งลุ่ยก็รีบขบคิดอย่างเร่งรีบ พยายามคิดถึงวิธีที่จะยืดเวลาในตอนนี้ออกไป ตราบใดก็ตามที่เขายังอยู่ที่นี่ก็จะยังมีโอกาสที่จะจับเธอกด !

ซ่งลุ่ยกลอกตาไปมา เอ่อ ! มีสิ ! ฉันยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานเป็นผู้ช่วยของฉัน ! เขาถามเธอถึงแม้ว่าเธอจะรู้หรือไม่รู้ เขาก็ถามเธอไปแล้วเพราะสิ่งสำคัญคือการยืดเวลาออกไป !

เมื่อมีวิธีแล้ว ก็เริ่มจัดการเรียบเรียงคำพูด เมื่อคิดคำพูดดีแล้วก็เอ่ยปากถามเธอ

“นั่นสิ หลินหลิน ฉันมีปัญหาสองสามอย่าง เธอช่วยให้คำชี้แนะฉันหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ พูดมาเลย ถ้าหากฉันสามารถช่วยได้ ฉันเต็มใจที่จะช่วยนาย !”

"มันน่าอายนิดหน่อยที่จะพูดออกมา ตอนนี้ฉันได้เป็นผู้ช่วยแล้ว เธอก็รู้นี่ว่าตำแหน่งผู้ช่วยของฉันได้มาอย่างไร ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน ดังนั้นฉันจึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับงานของผู้ช่วย เพราะแบบนี้เอง ฉันเห็นว่าเธอทำงานเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์เมื่อตอนบ่ายได้อย่างดีเยี่ยม เลยจะมาขอเรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานของเธอ” พูดจบเขาก็มองไปทางหลินหลินด้วยความเขินอายที่ต้องพูดออกมา

เมื่อหลินหลินได้ยิน เธอก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง นายมีอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้ก็มาถามฉัน ถ้าหากฉันรู้ ฉันจะช่วยนายอย่างแน่นอน !”

หลังจากซ่งลุ่ยได้ยินแบบนั้น ในใจของเขาก็แสดงความปิติยินดีออกมา จนใบหน้าเปิดเผยให้เห็นถึงความดีใจอย่างชัดเจน ! เพราะว่าสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เพียงแค่ได้อยู่ที่นี่ต่อ เขาก็จะยังมีโอกาส ต่อจากนั้นเขาก็หยิบเอาสมุดที่เขาจดบันทึกปัญหาของงานวันนี้ออกมาแล้วยื่นให้หลินหลิน

หลินหลินมองดูสมุดเล่มนั้น เมื่ออ่านเนื้อหาข้างในแล้ว เธอก็พูดกับซ่งลุ่ยว่า

“นายมีความตั้งใจดีมาก แถมยังเตรียมสมุดนี่มาอีก ยังดีที่ปัญหาซึ่งนายจดมาไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เอาล่ะ นายนั่งก่อนสิ ฉันจะสอนนายเอง”

เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินก็รีบกระโดดเข้าไปหาเธอโดยเร็วอย่างไม่มีความลังเล  หลินหลินที่ไม่ทันเตรียมตัวก็ตกใจกับการกระโดดเข้ามาของซ่งลุ่ย เธอจึงมองซ่งลุ่ยด้วยสายตาที่ตื่นตระหนกแล้วนั่งลงไปที่ที่นั่งถัดไป ซ่งลุ่ยพยักหน้าและโค้งคำนับให้เธอ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเรียบร้อย

หลังจากนั้น ก็เริ่มพูดคุย พูดไปพูดมา พูดวน ๆ เวียน ๆ พูดจนซ่งลุ่ยสัปหงก แต่มันยังดีที่เขายังคงตอบออกมาได้บ้างนิดหน่อยว่า “อ้อ อืม ใช่ ถูกต้อง” แต่ว่าภายหลังเริ่มไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบแล้ว เขาหลับไปโดยไม่พูดไม่จาอะไร อีกทั้งยังซ่งลุ่ยก็ใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางแล้วหลับไปทั้งแบบนั้นอีกด้วย

ประสบการณ์เมื่อตอนเป็นเด็ก เขารู้ดีว่าการใช้มือข้างเดียวเท้าคางแล้วหลับนั้นมันไม่มั่นคง พอถึงเวลาสัปหงกลงไปจนหน้าคว่ำ แต่ก็ยังกลับมาเป็นปกติได้อย่างน่าประหลาดและคนก็ไม่ตื่นด้วย หลังจากนั้นก็วนแบบนี้ไปครั้งแล้วครั้งเล่า และก็เป็นอาจารย์ที่ทำให้ตื่น !

ตอนนี้ซ่งลุ่ยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นต่อหน้าหลินหลิน ดูเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วหลินหลินล่ะ เธอพูดมาเป็นเวลานาน เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาก็คิดว่าซ่งลุ่ยหลับไปแล้ว เตรียมจะหันหน้าไปดู  ตอนที่เธอหันหน้าไปดู ปากของเธอก็ปะทะเข้ากับปากของซ่งลุ่ยที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ทั้งสองคนก็เลยจูบกัน ! ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ก็ตาม แต่ปากของทั้งสองคนก็ประกบกันในชั่วพริบตาเดียว และซ่งลุ่ยก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น !

ในเวลานี้หลินหลินต้องการที่จะดิ้นรนเพื่อผลักซ่งลุ่ยออกไป แต่ซ่งลุ่ยก็ไม่ยอมอย่างแน่นอน ! ทั้งคืนที่เขารอมาก็คือโอกาสอย่างตอนนี้เนี่ยแหละ ซ่งลุ่ยจึงใช้มือทั้งสองข้างกอดหลินหลิน และประกบริมฝีปากเข้าหาหลินหลิน ค่อย ๆ สอดลิ้นเข้าไป ในตอนแรกหลินหลินยังคงเม้มปากหลบหลีกจนซ่งลุ่ยควานหาไม่ได้ แต่ว่าหลังจากที่ลิ้นของซ่งลุ่ยรุกล้ำเข้าไปในปากของหลินหลินได้ ก็ไม่มีที่ไหนให้เธอหลบหลีกได้อีก !

ซ่งลุ่ยงจูบหลินหลิน พลางใช้มือของเขาลูบคลำไปด้วย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตรงหน้าอกมีของเป็นก้อนแข็ง ๆ ขึ้นมา และดูเหมือนไม่สบายตัวมาก เมื่อสัมผัสอย่างละเอียดแล้วก็พบว่ากลับเป็นของที่อยู่บนร่างกายของหลินหลินนั่นเอง เขาจึงใช้มือล้วงเข้าไปและเริ่มลงมือคลำหาอย่างอบอุ่นและนิ่มนวล เมื่อล้วงออกมาก็พบว่าเป็นหยกกลม ๆ ที่ทั้งลื่นและเกลี้ยงเกลา เมื่อมองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของทั่ว ๆ ไป แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาดูของอะไรแบบนี้ เขาจึงวางหยกนั่นเอาไว้ข้าง ๆ แล้วจัดการ ‘ภารกิจ’ ของเขาต่อไป

ตั้งแต่เริ่มต้นจูบ หลินหลินก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกระทำ เพราะว่าเธอถูกการกระทำของซ่งลุ่ยควบคุม ตอนแรกก็ไม่ระวัง ปากประกบปากโดยบังเอิญ แต่คิดไม่ถึงว่าจะพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ มองดูการกระทำของซ่งลุ่ยที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเหมือนเดิม แต่เมื่อคิดแล้วว่าซ่งลุ่ยก็ได้ช่วยเหลือเธอ หลินหลินมองแล้วมองอีก พิจารณาไปที่เค้าโครงหน้าที่ชัดเจนของซ่งลุ่ย เฮ้อ งั้นก็แล้วแต่เขาละกัน เมื่อคิดได้ เธอจึงยินยอมพร้อมใจ ไม่ขัดขืนเขาอีกต่อไป

ซ่งลุ่ยที่รู้สึกว่าหลินหลินไม่ต่อต้านขัดขืนแล้ว ทันใดนั้นในใจก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปแล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางเลือก ในเมื่อง้างธนูแล้วก็ต้องยิงออกไป ไม่ทำก็ไม่ได้ ! หลังจากนั้นเขาก็พร้อมจะใช้ทั้งชีวิตนี้ดูแลชดใช้ให้เธอ เขาถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ และทำภารกิจของตัวเองต่อไป

หนึ่งคืนที่อิ่มเอิบไปด้วยความรัก

วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เมื่อซ่งลุ่ยตื่นขึ้นมาแต่เช้า โดยปกติแล้วผู้ชายจะตื่นขึ้นมาด้วยกำลังวังชาที่เต็มเปี่ยมและรู้สึกกระฉับกระเฉงซึ่งซ่งลุ่ยก็เป็นเช่นนั้น เขาเอื้อมมือไปหยิบหยกที่อยู่ข้างตัวของหลินหลินมาดู เมื่อวานนี้เขามองผ่าน ๆ มันไปแค่แวบเดียว ยังไม่ได้ดูอย่างละเอียด วันนี้เมื่อดูอย่างละเอียดเข้าไปใกล้แล้วก็พบว่าหยกนี้เป็นของดีมีค่ามาก ในใจก็อดไม่ได้ที่จะจมดิ่งอยู่ในความคิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด