บทที่ 38 นรก
ชายชราชุดดำก้าวไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะยกฮั่วหยุนเตียวจากพื้นด้วยมือของเขา พร้อมกับแสยะรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา
เขายังคงท่องคาถายอมจำนนอสูรร้ายอย่างเงียบ ๆ ในปากและหลังจากท่องเสร็จเขาก็ใช้ดาบลมของหยุนลี่กรีดไปที่นิ้วชี้ และหยดเลือดสีแดงลงที่ขนของเสี่ยวซู
หลูมู่หยานคลี่ยิ้มเบา ๆ กอดอก พร้อมกับมองไปที่ชายชราที่กำลังทำการแสดงด้วยท่าทีเย้ยหยัน
ชายชราผู้นี้ยังคงต้องการที่จะปราบอสูรร้ายกลืนกินวิญญาณด้วยวิธีนี้ ช่างเป็นความฝันที่เพ้อเจ้อเสียจริง
หลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็พบว่าเลือดที่เขาหยดไปนั้น ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของอสูรกลืนกินวิญญาณได้ เขาตกใจ และสายตาของเขาก็เริ่มนิ่ง ก่อนจะหยิบเครื่องรางสีแดงออกมาจากแหวนจักรวาล โดยที่ปากยังคงพึมพำท่องคาถาอย่างเงียบ ๆ และแตะเครื่องรางสีแดงด้วยมือของเขา ก่อนที่มันจะตกใส่ร่างของอสูรร้าย
จากนั้นชายชราก็ได้สร้างผนึกที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งขึ้นในอากาศ พร้อมกับบังคับให้เข้าสู่ก้องสำนึกของสัตว์ร้าย จากนั้นก็ได้หยดเลือดลงบนหน้าผากของมันอีกสองสามหยด
ดวงตาของมันประกายแสงราวกับมีดาวนับล้าน และนี่คือสัญญาณนักฆ่าในฐานะปรมจารย์อสูรวิญญาณ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะยังสามารถจัดการกับอสูรร้ายระดับสองนี้ได้
เมื่อทุกคนคิดว่าหยดเลือดจะละลายและเข้าไปในร่างกายของฮั่วหยุนเตียวได้สำเร็จ พลันความผิดปกติบางอย่างก็ได้ปรากฏขึ้น ตอนนี้เลือดของชายชราที่หยดใส่หน้าผากของอสูรร้าย กลายเป็นหยดเลือดเล็ก ๆ จำนวนมาก ก่อนที่มันจะพ่นใส่ใบหน้าของชายชราผู้นั้น ฮั่วหยุนเตียวกระตุกร่างกายราวกับกำลังเจ็บป่วย
ชายชราในชุดดำแสดงแววตาที่น่าเหลือเชื่อ เขาล้มเหลว? เป็นไปได้อย่างไรกัน
ขณะนี้อสูรร้ายตัวเล็กในมือของเขายังคงกระตุกร่างของเขา พร้อมกับพ่นโฟมสีขาวออกมา อุ้งเท้าเล็ก ๆ ของมันทั้งสี่ข้างขดเข้าหากัน ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะออกมาทางลำคอ
ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นเดาว่าน่าจะเป็นปฏิกิริยาของอสูรตัวน้อยในตอนนี้ และหากปรมาจารย์ด้านอสูรวิญญาณล้มเหลว อสูรร้ายก็จะเข้าทำลายเส้นลมปราณ และอวัยวะภายในจนทำให้เกิดอาการชักกระตุก และสิ้นใจในที่สุด
หลูมู่หยานเห็นปฏิกิริยาของอสูรกลืนกินวิญญาณที่อยู่ในมือของชายชราชุดดำ พร้อมกับสายตาที่เย็นชาเข้ามาแทนที่รอยยิ้มจาง ๆ
“ผู้อาวุโส คืนฮั่วหยุนเตียวให้ข้าตอนนี้ได้หรือไม่?” หลูมู่หยานระงับความต้องการที่จะสังหาร ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง และว่างเปล่า
วันนี้ความเจ็บปวดที่ได้รับจากอสูรของนาง จะต้องถูกส่งกลับไปหาชายชราสิบเท่าในอนาคต
“หึ อสูรไร้ค่าที่แม้แต่ต้านทานตราสัญลักษณ์ไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร” ชายชราในชุดสีดำรู้สึกหัวเสีย และต้องล้มเหลวต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้
ตอนนี้ดวงตาของเขาไม่มีความรู้สึก และในไม่ช้ามีดลมที่ถูกบีบบังคับก็อยู่ในมือของเขา และเพียงแค่โบกมือ เขาดึงใบมีดลมออก ก่อนจะยิงตรงไปที่กึ่งกลางคิ้วของอสูรร้ายตัวน้อย
อสูรร้ายตัวนั้นดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงพลังที่เป็นอันตราย ทำให้ตัวของมันเริ่มสั่นเทา และพยายามที่จะหลีกหนี แต่เนื่องจากพลังที่จำกัดทำให้มันถูกราชาดาบชุดดำควบคุมเอาไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหว และทำได้เพียงแค่รอการเตือนความทรงจำมาถึง
ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นสังเกตเห็นใบมีดลมที่กำลังจะตกลงบนหัวของฮั่วหยุนเตียว พวกเขาทั้งหมดเริ่มถอนหายใจที่อสูรร้ายมูลค่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญกำลังจะถูกฆ่าด้วยวิธีนี้ ช่างเสียเปล่าเสียจริง
แต่ใครจะคาดคิด เพียงครู่เดียวเท่านั้น หมอกสีม่วงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าชายชราชุดดำ จี้หยกที่อยู่ในมือปะทะเข้ากับใบมีดลมจนแตกออกเป็นสองซีก
ข้อมือของหลูมูหยานสามารถป้องกันส่วนหัวของฮั่วหยุนเตียวเพื่อป้องกันอันตราย ตอนนี้ข้อมือของนางเกิดเป็นรอยแผล ทำให้เลือดสีสดไหลออกมาจนห้ามไม่ได้
ตอนนี้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่รูปดอกลาเวนเดอร์ และเลือดของหลูมู่หยานที่หยดลงบนขนของอสูรร้ายทีละหยด ก่อนที่จะมันค่อย ๆ เบ่งบาน สดใส และพร่างพราว
ใบหน้าของหมิงซิ่วภายใต้หน้ากากเริ่มหม่นหมอง และตื่นตระหนก และความเย็นชาที่ดวงตาของเขาก็ปิดไม่มิด ราวกับเขากำลังจะถูกแช่แข็ง
“ผู้อาวุโส ช่วยคืนอสูรให้ข้าเดี๋ยวนี้ได้หรือไม่?” หลูมู่หยานเงยหน้ามองชายชราในชุดดำโดยไม่ได้มองบาดแผลที่ข้อมือของนางเอง
ชายชราในชุดดำตกใจกับความเย็นชาที่ส่งออกมาจากดวงตาของนาง ก่อนที่จะรู้สึกถึงความอันตรายอันน่าแปลกประหลาดจากหญิงสาวที่ไม่สามารถละทิ้งได้
ทันทีที่สิ้นเสียงของหลูมู่หยาน เขาก็รวบหยวนลี่ไว้ในฝ่ามือ ก่อนจะตบไปที่หน้าอกของนางด้วยฝ่ามือ ชายชราในชุดดำได้ฝึกฝนทักษะผีของหยินซ่ง ทำให้เขาไวต่ออันตราย และประสาทสัมผัสการรับรู้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ทำให้เขารอดจากหายนะ และความตายมานับครั้งไม่ถ้วน
จุดประสงค์ตลอดชีวิตของเขาคือการปกปิดความผิดพลาดของตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นโกรธกับพฤติกรรมของหลูมู่หยาน ทำให้พลังแห่งการบีบบังคับของจักรพรรดิดาบทั่วร่างของเขาถูกปล่อยออกมา
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมายั่วยุราชา เจ้ากำลังรนหาที่ตาย”
ตอนนี้หลูมู่หยานเองก็โกรธเช่นกัน ชายชราผู้นี้ปลิ้นปล้อนมากเกินไป นางหลับตาและรวบรวมอักษรรูนสีเงินในทะเลแห่งจิตสำนึก
นางใช้ประโยชน์จากความไม่พร้อมของชายชราชุดดำ คว้าอสูรร้ายตัวน้อยมาไว้ที่มือ ก่อนที่จะมีลมจากฝ่ามือพัดมาโดยไม่คาดคิด
ความเร็วของทั้งคู่นั้นมากเกินไป ทำให้ผู้คนที่กำลังยืนดูการเดิมพันส่วนใหญ่มองไม่ชัด และก่อนที่พวกเขาจะนึกถึงอะไรในตอนนี้ ชายชราชุดดำก็เริ่มลงมืออีกครั้ง
ดาบเล่มยาวอยู่ในมือของเขา ก่อนที่จะฉีดหยวนลี่เข้าไปในดาบอย่างบ้าคลั่ง วันนี้เขาจะต้องกำจัดเด็กผู้หญิงที่มายั่วยุความยิ่งใหญ่ของเขาออกให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาในอนาคต
หลังจากที่ดาบส่งเสียงฟู่ออกมา ชายชราผู้นั้นก็ฟาดฟันใส่อากาศ และด้วยพลังดาบที่รุนแรงที่ฟันลงมานั้นเปรียบเสมือนได้กับลมในฤดูใบไม้ร่วงที่พัดหอบใบไม้
เมื่อลมนั้นผ่านพ้นไป พลังจากดาบก็ทำให้พื้นกลายเป็นรอยแยกจนนับไม่ถ้วน มันเริ่มบิดเบี้ยวและแตกกระจาย ผู้คนรอบข้างรู้สึกถึงความน่ากลัวของมัน พร้อมกับคิดว่าหลูมู่หยานคงถึงจุดจบแล้ว
“มู่หยาน!!” หยุนหลันตะโกน แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดวิถีของเจียนฉีได้
หลูมู่หยานเหลือบตามอง พร้อมกับสร้างตราประทับไว้ในข้อมือ ก่อนที่ใยแมงมุมขนาดใหญ่จะหลุดออกจากทะเลแห่งความรู้ของนาง … ไม่ควรประเมินความแข็งแกร่งของจักรพรรดิดาบต่ำไปจริง ๆ
ตอนนี้ใบหน้าของหลูมู่หยานเริ่มซีดลง พลังวิญญาณของนางเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว พายุพลังวิญญาณสีน้ำเงินก็กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลแห่งความรู้ ขณะที่ความแข็งแกร่งทางจิตใจของนางกำลังจะเจาะออกจากความแข็งแกร่งทางร่างกาย และเปลี่ยนเป็นเกราะป้องกันทางกายภาพเพื่อปิดกั้น แต่ทันใดนั้นแรงกดดันที่น่าตกใจก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับทำลายพลังงานดาบของชายชราชุดดำได้อย่างง่ายดาย
“กล้ามาก กล้าที่จะสู้กันต่อหน้าหอการค้าพันธมิตรแห่งรัตติกาลของข้า แถมยังทำลายส่วนหน้าของอาคารข้าอย่างไม่น่าให้อภัย” เสียงที่เต็มไปด้วยแรงกดดันดังก้องไปทั่วฟ้า และทั้งเมืองหลวงของจักรวรรดิก็ต้องตะลึงเมื่อได้ยินเสียงนี้
ทันทีที่สิ้นเสียง จู่ ๆ เสียงตกกระทบลูกใหญ่ที่เต็มไปด้วยไฟก็พลันกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้า และพุ่งตรงไปที่ชายชราชุดดำ
ชายชราชุดดำผู้นั้นรู้สึกได้ว่าพลังงานที่อยู่ในฝ่ามืออันลุกโชนนั่นน่ากลัวเกินไป แต่มือของเขาก็ไม่ได้อยู่เฉย แม้จะมีท่าทีตกใจก็ตาม เขาหยิบโล่ออกมาและส่งมันไปด้านหน้าเพื่อป้องกันตัว พร้อมกับถ่ายพลังของตัวเองออกไปเพื่อรวมกันเป็นหนึ่ง ก่อนที่จะมีวงแหวนป้องกันครอบคุลมทั้งร่างกาย
โล่ของเขาตกลงมาอย่างง่ายได้ เพียงแค่ถูกฝ่ามือที่มีเปลวเพลิงทำลาย ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะกระแทกเข้าที่อกของเขา ตอนนี้พลังของเขาพังทลาย
อั่ก!!
ชายชราชุดดำที่ถูกโจมตีเซถอยหลังออกไปเพียงแค่สองสามก้าวก่อนที่เขาจะหยุด พลันเลือดสีสดก็ทะลักไหลออกจากปากของเขาทันที
ตอนนี้ตัวของเขาสั่นเทา และด้วยความหวาดหวั่น เขามองออกไปยังผู้คนที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ก่อนจะร้องตะโกนออกมาว่า “หมิงซิ่ว จักรพรรดิแห่งยมโลก”