ตอนที่แล้วตอนที่ 9 วิกฤตอันตรายอย่างใหญ่หลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 เชือดไก่ให้ลิงดู

บทที่ 10 การเผชิญหน้า


บทที่ 10 การเผชิญหน้า

เฉินอันก้มหัวโค้งคำนับ ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแล้วมองไปที่ซ่งลุ่ย แต่ในใจกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก บ้าเอ๊ย อีกนิดเดียวเท่านั้น แม่งเอ๊ย ! ทำไมมันถึงยังมาที่นี่ได้อีก มันว่างมากเหรอยังไง ?

เมื่อซ่งลุ่ยเห็นเฉินอันทำพฤติกรรมแบบนั้น ปากก็บ่นพึมพำ ๆ อย่างไม่น่าเข้าใกล้ขึ้นไปอีก หลังจากนั้นจึงหันไปมองทางหลินหลินที่หน้าตาหม่นหมองและซีดเซียว หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ทั้งที่เมื่อวานหลินหลินยังร่าเริงอยู่เลย แต่วันนี้กลับกลายเป็นคนละคน ในใจก็อดไม่ได้ที่รู้สึกอึดอัดและมองไปยังคนรอบ ๆ ด้วยสายตาที่เกลียดชัง

เมื่อกวาดสายตามองไปทั่ว ๆ หนึ่งรอบ เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับเฉินอันด้วยน้ำเสียงที่สบาย ๆ ว่า

“หัวหน้าเฉิน มีคนบอกผมมาว่าเพราะคุณน่ะไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนนั้น และคุณก็ได้ละเลยหน้าที่จนเกิดปัญหานี้ขึ้นมา มานี่ มาเล่าให้ผมฟังหน่อยสิว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่”   พูดจบ เขาก็มองไปที่เฉินอัน อยากรู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อไป

เฉินอันรู้สึกตกใจมาก ยิ่งรู้ว่าซ่งลุ่ยทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรด้วยแล้ว สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างก็เท่านั้น เขาแค่ตั้งใจจะปัดเรื่องให้พ้นจากตัวเอง ไอ้เจ้ากระต่ายน้อย คิดจะทำการใหญ่ (คิดจะพลิกฟ้า)  ฮึ ! ฉันจะไม่ยอมให้แกสมหวังแน่นอน

ถึงแม้ว่าในใจของเฉินอันจะคิดแบบนั้น แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความคิด เขาไม่ได้กล้าที่จะพูดความคิดนั้นออกมาจริง ๆ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดใด ทันใดนั้นเขาก็เถียงกลับอย่างรวดเร็ว

“พี่ซ่งละก็ พี่ไปฟังใครพูดใส่ร้ายผมมา ที่พูดไปทั้งหมดเมื่อกี้ มันต้องไม่ใช่ผมอยู่แล้ว ผมเฉินอัน มีชื่อเสียงในเรื่องความขยันจากบริษัทเหวินฮว่า มันต้องมีใครบางคนใส่ร้ายผม ! พี่ไม่อยากจะหยุดข่าวลือที่วุ่นวายนี้เหรอ !”  พูดจบ ก็ใช้ใบหน้าที่ชั่วร้ายกวาดมองไปรอบ ๆ

เมื่อมองดูไปรอบ ๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติก็มองกลับมาอีกครั้งที่ซ่งลุ่ย เวลานี้ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา เฉินอันเองก็ดูไม่ออกว่าในใจของซ่งลุ่ยนั้นแท้จริงแล้วคิดอะไรอยู่  ในใจก็เริ่มร้อนรน ต้องการให้ซ่งลุ่ยรีบเปิดเผยความคิดออกมา !

ไม่รอที่จะให้ซ่งลุ่ยตอบอะไร เขาหันหน้ากลับไปมองที่ซ่งลุ่ยด้วยสายตาที่จริงใจ พลางบีบน้ำตาพลางพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“พี่ซ่ง ผมรู้นะว่าเมื่อก่อนผมได้ทำสิ่งไม่ดีลงไป แต่เมื่อก่อนผมเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทำอะไรล่วงเกินพี่ไป ขอให้พี่ได้โปรดเข้าใจและยกโทษให้ผมเถอะ”

หลังจากซ่งลุ่ยได้ยิน  ในใจก็รู้สึกเย็นวาบ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว คนที่อาวุโสกว่าตัวเขาตั้งรอบหนึ่งกำลังร้องห่มร้องไห้บีบน้ำตาเรียกเขาว่าพี่ ภาพที่เห็นมันช่างน่าสะใจเสียจริง !

ว่าแต่วกกลับเข้าประเด็นสักหน่อย ในใจของซ่งลุ่ยเองก็รู้สึกอยากสาปแช่ง

เจ้าจิ้งจอกเฒ่าคนนี้ ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมยิ่งนัก ฉันพูดไปหนึ่งประโยค เขากลับดักคอได้ทั้งหมด ไม่ได้การ ! ครั้งนี้ฉันจะต้องกำจัดมันออกไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นมันต้องกระทบต่อชื่อเสียงของฉันแน่ ๆ

ซ่งลุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป

“นายอย่ามาล้อเล่นกับฉัน นายนิสัยเป็นยังไง ทำไมฉันจะไม่รู้” พวกเราทุกคนต่างก็รู้ว่าคนที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ต้องทำในสิ่งที่สำคัญเพื่อแสดงอำนาจออกมา ถ้างั้นการแสดงอำนาจของฉันก็เริ่มจากที่นายก่อนเลย !

หลังจากเฉินอันได้ยิน ในใจเขาก็คิดขึ้นมาว่า ไม่น่าเป็นไปได้ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมซ่งลุ่ยจึงไม่เหมือนเดิม ยังไม่ทันที่เฉินอันจะตอบอะไรกลับมา ซ่งลุ่ยก็พูดต่อว่า

“เฉินอัน นายเองก็อย่า......  นิสัยนายเอง นายย่อมรู้อยู่แก่ใจ ฉันเองก็ไม่ได้อยากพูดอะไรอีก วันนี้น่ะ ฉันแค่ตัดสินแทนประธานจาง กำจัดแกะดำอย่างนายออกไป ! !” พูดจบก็เอามือโอบไปที่หัวไหล่ของเฉินอันและอยากรู้ว่าเฉินอันจะทำอย่างไรต่อไป

สีหน้าของเฉินอันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กัดฟันราวกับว่ากำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นและพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“นายเก่งมาก เก่งสุด ๆ ไปเลย ! นายวางใจเถอะ ฉันจะไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ นายจำไว้ นายจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้แน่” พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไป ไม่มีแม้คำแก้ตัวใดใด ราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ

“เยี่ยม !”  มีเสียงตะโกนออกมาด้วยความดีใจจากในกลุ่มคน แต่ก็ไม่รู้ว่าใครคือคนที่ตะโกนออกมา ทุกคนรอบ ๆ ต่างพากันปรบมือ และเป็นการปรบมือที่ยาวนานเลยทีเดียว !

เฉินอันที่เดินออกไปไม่ไกล เมื่อได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้นมา ร่างกายก็สั่นเทา แต่ก็คืนสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว การก้าวเท้าของเขาก็ยิ่งก้าวเร็วกว่าเดิม เหมือนกำลังวิ่งเหยาะ ๆ ออกไปและวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างเร็ว !

ซ่งลุ่ยเองก็ตกใจกับสถานการณ์โดยรอบ แต่เขาพบว่าทุกคนรอบ ๆ ตัวได้มองดูตัวเขาด้วยสายตาที่แสดงความชื่นชมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเขารู้สึกว่าสิ่งที่ได้ทำไปนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

แต่ซ่งลุ่ยที่เห็นเฉินอันจากไปด้วยความเด็ดขาดเช่นนี้  ในใจก็อดที่จะรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ปลอดภัย แต่ก็มีอีกความคิดหนึ่งที่ว่าเขาก็มีคอนแทคเลนส์มองทะลุในการโกงได้ก็เลยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไร ไม่ว่าจะมาวิธีไหน เขาก็คิดว่าน่าจะสามารถรับมือได้

อันที่จริงในบางครั้งคนเราก็เป็นเช่นนี้ มีสุภาษิตกล่าวเอาไว้ได้ดีว่า ความตื่นตระหนกในจิตใจของคนเราก็มีแต่ก่อให้เกิดความเครียดทางจิตใจ ถ้าหากเกิดเรื่องแบบไม่คาดคิดก็ให้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดกับเขา ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไรเลย

ซ่งลุ่ยมองดูเฉินอันที่หันหลังเดินจากไป เขาก็ไม่พูดอะไรเลย เมื่อมองดูหลินหลินที่เริ่มจะหายดีแล้ว ในใจก็ครุ่นคิดบางอย่างอยู่เงียบ ๆ

อย่างไรก็ตามคราวนี้ก็อยู่ในที่สาธารณะ เหตุใดไม่ลองใช้โอกาสนี้ลองดูสักครั้งล่ะ ยอมลำบากทำเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็จะสบายไปตลอด เมื่อก่อนหลินหลินก็เคยช่วยเขา ตอนนี้ได้เวลาที่เขาจะตอบแทนเธอบ้างแล้ว ในเมื่อตัดสินใจดีแล้วจึงเอ่ยถามหลินหลินออกไปว่า

“หลินหลิน เธอทำงานที่แผนกต้อนรับมานานเท่าไหร่แล้ว ?”

หลินหลินมึนงงและไม่เข้าใจความหมายของซ่งลุ่ย แต่เธอก็ยอมตอบคำถามของซ่งลุ่ย

“ทำมาห้าปีกว่าแล้ว”

ซ่งลุ่ยไม่ได้ตอบกลับ แต่แสร้งทำทีเป็นขบคิดเกี่ยวกับปัญหา คนรอบตัวเขาก็ไม่เข้าใจว่าซ่งลุ่ยคิดอะไรอยู่ เขาไม่ได้ส่งเสียงอะไรเพียงแค่มองไปรอบ ๆ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ซ่งลุ่ยก็รู้สึกว่าพอสมควรแล้วและพูดออกมาว่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณไปเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ของแผนกต้อนรับเถอะ เอาล่ะ เอาแบบนี้เลยละกัน ทุกคนแยกย้ายกันไปได้แล้ว”

หลังจากซ่งลุ่ยพูดจบ เขาก็ไม่ได้รอให้หลินหลินตอบกลับ เขาหันหลังกลับและเดินจากไป

เมื่อคนรอบข้างได้ยินข่าวนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจมาก ! อดใจไม่ได้ที่จะชำเลืองตามองไปที่หลินหลินอย่างรวดเร็ว  ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องดีดีแบบนี้ถึงได้ตกมาใส่เธอได้

หลินหลินรู้สึกอึดอัดใจเกี่ยวกับการที่ถูกจ้องมองจากคนรอบข้าง สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลินหลินเป็นเหมือนความฝันที่เธอไม่เคยคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะสรุปจนกลายมาเป็นผลลัพธ์เช่นนี้ เธอแค่ต้องการให้ซ่งลุ่ยช่วยตัวเธอ ไม่ต้องการให้ซ่งลุ่ยไล่เฉินอันออก เพราะว่านั่นมันไม่ดีสำหรับซ่งลุ่ยเลย เขาเพิ่งได้ตำแหน่งงานมาไม่นาน ไม่สมควรปลดพนักงานโดยไม่มีเหตุผล ทำให้เกิดศัตรูคนสำคัญซึ่งอาจจะมีผลต่อความก้าวหน้าของเขาได้ในอนาคต

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินหลินก็มองดูซ่งลุ่ยที่เดินจากไปไกลแล้วด้วยสายตาที่เป็นห่วงอย่างเงียบ ๆ เธอกลายเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ของแผนกต้อนรับแล้ว  เธอจะไม่ยอมให้เขาต้องเสียหน้าอย่างเด็ดขาด เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็เม้มปากแน่น แล้วให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ เธอต้องไม่ยอมแพ้ !

ซ่งลุ่ยเดินไปที่ห้องทำงานและปิดประตูห้องด้วยความใจเย็นสงบนิ่ง แต่ประตูที่เพิ่งจะปิดไปนั่น หลังของซ่งลุ่ยกลับพิงแนบชิดไปที่ประตูและหอบหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถ้าหากว่ามีคนสังเกตเขาอย่างละเอียดละก็ จะพบว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของซ่งลุ่ยเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด