ตอนที่ 47 คนลึกลับ
เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ไปของ หม่า เจี้ยนเหวิน เหยียน ไป๋เหมย ก็ตกตะลึง
“ประธานหม่า คุณเป็นอะไรไป?”
หลังจากวางสาย หม่า เจี้ยนเหวิน ก็หายใจเข้าลึกๆ อยู่หลายครั้ง เพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
“ประธานหม่า เกิดอะไรขึ้น?”
เหยียน ไป๋เหมย ถามอย่างประหลาดใจ
“ฉันเพิ่งได้รับสายจาก ประธานเจิ้ง เขาดุด่าฉันยกใหญ่เพราะฉันไปเล่นงานบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ แล้วประธานเจิ้ง ยังสั่งให้ฉันไปขอโทษ เย่เฉิน ด้วยตัวเอง”
หม่า เจี้ยนเหวิน พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อะไรนะ?
เหยียน ไป๋เหมย ที่เพิ่งรู้สึกผ่อนคลายก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
ประธานเจิ้ง?
นั่นคือมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่มีชื่อเสียงในเจียงโจว
ทำไมเขาถึงโทรหา หม่า เจี้ยนเหวิน ด้วยตัวเองเพื่อสอบถามถึงเรื่องเล่นงานบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ได้ล่ะ?
เหยียน ไป๋เหมย ไม่เข้าใจ
เมื่อเทียบกับ เหยียน ไป๋เหมย, หม่า เจี้ยนเหวิน ตอนนี้เขากลับตระหนักได้แล้วว่าสถานการณ์นี้ร้ายแรงแค่ไหน
เขาประเมินผิดพลาด
เกรงว่า เย่เฉิน คนนี้อาจจะมีตัวตนที่น่ากลัว และมันก็ไม่ใช่ง่ายอย่างการแค่รู้จักกับ ฟาง ห่งซิว เท่านั้น
ประธานเจิ้ง และหม่า เจี้ยนเหวิน มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก
แม้แต่การจะบอกว่า ประธานเจิ้ง เป็นเหมือนคนค้ำจุนเขา ..มันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง
หม่า เจี้ยนเหวิน กับประธานเจิ้ง รู้จักกันมาหลายปี เขาไม่เคยเห็น ประธานเจิ้ง โกรธขนาดนี้มาก่อน
ตอนนี้ หม่า เจี้ยนเหวิน รู้แล้วว่า ..เขาได้ทำเรื่องใหญ่ลงไปแล้ว
ไม่นานหลังจากวางสายจาก ประธานเจิ้ง โทรศัพท์มือถือของ หม่า เจี้ยนเหวิน ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเขาดูชื่อบนหน้าจออีกครั้ง ใบหน้าของ หม่า เจี้ยนเหวิน พลันแข็งทื่อไป
ผู้ที่โทรเข้ามานี้.. เป็นประธานหวัง
ประธานหวัง ก็เป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่มีชื่อเสียงในเจียงโจวเช่นกัน แต่ หม่า เจี้ยนเหวิน เพียงแค่รู้จักเขา และมีเบอร์ติดต่อกันเท่านั้น
ที่สำคัญ.. พวกเขาไม่เคยติดต่อกันเองอย่างจริงจังมาก่อน
วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไม ประธานหวัง ถึงโทรมาหาเขาด้วยตนเอง?
หม่า เจี้ยนเหวิน ไม่กล้าชักช้า รีบกดรับสายทันที
“ประธานหวัง โทรมามีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?”
หม่า เจี้ยนเหวิน หลังจากรับสาย เขาถามไปอย่างสุภาพ
วินาทีต่อมา หม่า เจี้ยนเหวิน ก็แทบอึ้งไปเมื่อได้ยินคำพูดของ ประธานหวัง
ประธานหวัง จริงๆ แล้วเขาก็โทรมาหาเขาเพราะเรื่องของ เย่เฉิน ด้วยเหมือนกัน!
แม้ว่าคำพูดของ ประธานหวัง จะไม่รุนแรงเหมือน ประธานเจิ้ง
แต่ก็เต็มไปด้วยคำเตือน และคำขู่เขาโดยตรง
หลังจากวางสาย หม่า เจี้ยนเหวิน มีใบหน้าซีดเผือด เขาหวาดกลัวมากจริงๆ
เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นแฟ้น ประธานหวัง จึงแตกต่างกับ ประธานเจิ้ง แม้ว่าเขาจะดุเขาแต่ก็ยังคิดถึงตัวเขาเอง และสั่งให้เขารีบไปขอโทษโดยเร็วที่สุด
กลับกัน ประธานหวัง เขากับขู่เขาอย่างจริงจัง
ถ้าเขาไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เขา หลังจากนี้ ประธานหวัง จะทำให้เขาต้องจ่ายราคาอันหนักหน่วง
เย่เฉิน เขามีตัวตนอย่างไรกันแน่ ทำไมถึงมีคนระดับมหาเศรษฐีหมื่นล้านถึงสองคนโทรมาตําหนิเขาด้วยตัวเอง
ในขณะที่ หม่า เจี้ยนเหวิน กำลังตกตะลึง โทรศัพท์มือถือของเขาก็พลันดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย
“อย่าบอกนะว่า.. เป็นเรื่องของ เย่เฉิน อีก?”
“มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญขนาดนั้นมั้ง”
หม่า เจี้ยนเหวิน พึมพำ แล้วกดรับสาย
“สวัสดีครับ คุณคือ?”
หม่า เจี้ยนเหวิน ถามไปอย่างสุภาพ
“นั่น เสี่ยวหม่า ใช่ไหม ..ฉัน ถังอวี่”
ในสายมีเสียงคนอายุมากแล้วดังขึ้นมา
ถังอวี่?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ มือของ หม่า เจี้ยนเหวิน สั่นจนแทบจะทำโทรศัพท์ในมือร่วงหล่นลงพื้น
พระเจ้า.. นี่คือ ผู้อาวุโสถัง โทรมาเองเลยงั้นเหรอ?!
หม่า เจี้ยนเหวิน ตกใจมาก
ผู้อาวุโสถัง นั้นถือเป็นบุคคลที่มีตัวตนพิเศษมาก แม้แต่ ประธานเจิ้ง และประธานหวัง รวมกันก็เทียบ ผู้อาวุโสถัง ยังไม่ได้
“ผู้อาวุโสถัง สวัสดีครับ..”
หม่า เจี้ยนเหวิน ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ผู้อาวุโสถัง กล่าวกับหม่า เจี้ยนเหวิน ไม่กี่ประโยคก่อนวางสายไป
แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ หม่า เจี้ยนเหวิน มีเหงื่อไหลท่วมหน้า เสื้อผ้าของเขาเองก็เปียกโชก
การที่ ผู้อาวุโสถัง โทรมาหาเขาครั้งนี้ก็เป็นเพราะเรื่องของ เย่เฉิน เช่นกัน
คราวนี้ เขาก่อเรื่องใหญ่ขนาดไหนกัน?
ไม่ใช่แค่ ประธานเจิ้ง, ประธานหวัง เท่านั้น แต่ตอนนี้ถึงขั้น ผู้อาวุโสถัง ก็โทรมาหาเขาด้วยตัวเองแล้ว
คุณรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่มีหมายเลขติดต่อ ผู้อาวุโสถัง ด้วยซ้ำ
เย่เฉิน.. ชายหนุ่มคนนี้ต้องเป็นคนที่มีอำนาจมากแน่ๆ
เป็นเพราะ เย่เฉิน ผู้อาวุโสถัง ถึงกับออกโรงด้วยตนเองเช่นนี้
“ประธานหม่า.. นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีก?”
เหยียน ไป๋เหมย ถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็น หม่า เจี้ยนเหวิน รับโทรศัพท์สองสายติดต่อกัน ตอนนี้เขาก็พลันมีเหงื่อไหลเปียกโชกท่วมหน้า
หม่า เจี้ยนเหวิน เล่าเรื่องสองสายเมื่อสักครู่นี้ให้ เหยียน ไป๋เหมย ได้ฟังสั้นๆ
แม้รู้ว่าเป็นสายจาก ประธานหวัง เหยียน ไป๋เหมย ก็ตกใจมาก แต่ยังพอทำใจได้
แต่เมื่อรู้ว่าสายสุดท้ายที่โทรเข้ามาจริงๆ แล้วมาจาก ผู้อาวุโสถัง
แข้งขาของ เหยียน ไป๋เหมย เริ่มอ่อนแรง และขาของเธอสั่นจนแทบยืนไม่มั่นคง
โชคดีที่ หม่า เจี้ยนเหวิน ประคองเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้น เหยียน ไป๋เหมย คงล้มลงไปกับพื้นด้วยความกลัวนานแล้ว
“ฉัน..ควรทำยังไงดี?”
เหยียน ไป๋เหมย ถามด้วยเสียงสั่นเทา
“เวลานี้สมควรทำยังไงดีอะไรอีกล่ะ คุณรีบๆ ไปขอ เย่เฉิน ให้เขาให้อภัยซะ”
หม่า เจี้ยนเหวิน ตะโกนใส่ทันที
ตอนนี้เขาโกรธ เหยียน ไป๋เหมย อย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ เขาคงไม่ต้องไปเล่นงานบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ หรือแม้กระทั่ง เย่เฉิน
ฮื่อ?!
แขกในงานพอได้ยิน หม่า เจี้ยนเหวิน ตะโกนก็พากันหันมาดูด้วยความสงสัย
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนต่างสงสัยอย่างมาก
ในขณะนี้ แม้จะถูกทุกคนมอง หม่า เจี้ยนเหวิน ก็ไม่กล้าชักช้า
หม่า เจี้ยนเหวิน รีบพา เหยียน ไป๋เหมย เข้าไปหา เย่เฉิน โดยตรง
ตุบ!
วินาทีต่อมา เหยียน ไป๋เหมย ก็ทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้า เย่เฉิน
หม่า เจี้ยนเหวิน ก็ก้มคำนับ เย่เฉิน อย่างรวดเร็ว
“ประธานเย่ พวกเราผิดไปแล้ว”
พวกเขาทั้งสองกล่าวขอโทษ เย่เฉิน พร้อมกัน
ภาพนี้ทำให้แขกในงานต่างตกตะลึงไปกันหมด
ทำไม บอสหม่า และเหยียน ไป๋เหมย ถึงทำแบบนี้?
คนหนึ่งก้มคำนับ อีกคนหนึ่งคุกเข่าลงเพื่อขอโทษ?
มัน.. เกิดอะไรขึ้น?
แม้แต่ หยาง เสวียหมิน และประธานหลี่ ก็ยังตกตะลึงเมื่อเห็น หม่า เจี้ยนเหวิน และเหยียน ไป๋เหมย มาขอโทษ เย่เฉิน
เหยียน ไป๋เหมย นั้นไม่ต้องพูดถึง
แต่ หม่า เจี้ยนเหวิน ในสายตาพวกเขานั้นเป็นบุคคลสำคัญยิ่ง
ตอนนี้บุคคลสำคัญแบบนี้กลับมาก้มหัวเพื่อขอโทษ เย่เฉิน อย่างนอบน้อม
“ประธานเย่ ฉันมีตาแต่หามีแววไม่ ฉันจงใจใส่ร้ายคุณ ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยเถอะคะ”
เหยียน ไป๋เหมย รีบกล่าวขอโทษ เย่เฉิน ทันที
หลังจากพูดจบ เหยียน ไป๋เหมย ยังตั้งใจตบหน้าตัวเองอย่างแรง
ไม่นานใบหน้าของ เหยียน ไป๋เหมย พลันบวมแดงขึ้นมา
ถัดจากเธอข้างๆ เมื่อเห็น เหยียน ไป๋เหมย ทำแบบนี้ หลิง ซีเอ๋อร์ ก็ไม่กล้ายืนเฉย เธอจึงเลียนแบบ เหยียน ไป๋เหมย คุกเข่าลงขอโทษ และตบหน้าตัวเองอย่างแรง
“คำขอโทษ.. มันจะไปมีประโยชน์อะไร?”
เย่เฉิน ถามกลับ
“หลังจากนี้.. ผมจะส่งคนไปฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทพวกคุณ รอหมายศาลได้เลย”
เมื่อเจอกับคนแบบ เหยียน ไป๋เหมย และหลิง ซีเอ๋อร์ เย่เฉิน ก็ไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยียน ไป๋เหมย และหลิง ซีเอ๋อร์ ก็พลันอึ้งไป
เหยียน ไป๋เหมย ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง
ถ้าโดนฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และกล่าวหาผู้อื่นด้วยความเท็จ โทษหนักสุดอาจจะต้องติดคุก
นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างแน่นอน
มันสายไปแล้ว มันสายเกินไปแล้วจริงๆ
ส่วนทางด้าน หลิง ซีเอ๋อร์ เธอก็เป็นลมล้มพับไป
เพี้ยะ!
หลังจากได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน หม่า เจี้ยนเหวิน พลันกัดฟัน และตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อแสดงความสำนึกผิด
“ประธานเย่ ผมรู้ว่าคำขอโทษอย่างเดียวไม่พอ”
“ขอคุณโปรดวางใจ ผมจะไปขอโทษคุณด้วยตัวเอง และจะให้คำตอบที่น่าพอใจแก่คุณอย่างแน่นอน”
หม่า เจี้ยนเหวิน กล่าวอย่างนอบน้อม
หม่า เจี้ยนเหวิน ในเวลานี้เขากลัวมากเช่นกัน
“ทนายของผมจะคุยกับพวกคุณเอง”
เย่เฉิน ไม่อยากยุ่งกับคนพวกนี้อีก เขาจึงลุกขึ้น และเดินออกจากงานเลี้ยงไป
หลังจากออกไป เย่เฉิน ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา
เหตุใด เหยียน ไป๋เหมย และหม่า เจี้ยนเหวิน ถึงมาขอโทษเขาอย่างนอบน้อม?
ต้องมีคนลึกลับยื่นมือเข้ามาช่วยเขาแน่นอน คนที่ทำให้ หม่า เจี้ยนเหวิน และเหยียน ไป๋เหมย ต้องหวาดกลัว
ไม่อย่างนั้น.. พวกเขาคงไม่คิดจะทำอะไรแบบนี้
ส่วนใครคือคนลึกลับที่ช่วยเขา?
เย่เฉิน ก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว…