ตอนที่ 338 เจตจำนงทองคำ (ฟรี)
ตอนที่ 338 เจตจำนงทองคำ
ในขณะที่เจตจำนงแห่งสรรพชีวิตจำนวนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านหายไป
ความรู้สึกลึกลับบางอย่างปะทุขึ้น!
โอกาสทะลวงผ่านเป็นจ้าวแห่งเต๋าอยู่ตรงหน้าซูหยางแล้ว!
พลังอันยิ่งใหญ่สาดเทลงมาจากที่ใดก็ไม่รู้
มันปะทุขึ้นโดยตรงในร่างกายของเขา และเริ่มเปลี่ยนตำแหน่ง ค่อยๆ รวมตัวกันที่ตันเถียนของเขา
การเปลี่ยนแปลงแรกที่ปรากฎคือ มุกสีดำที่ปรากฎในนั้น
กลิ่นอายแห่งความโกลาหล และความลึกลับบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่ว
หลังจากนั้น พลังที่ไม่อาจเข้าใจก็พุ่งเข้าสู่มุกสีดำ และเริ่มเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมัน
ในความเป็นจริง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ซูหยางรู้สึกได้ถึงการระเบิด
จู่ๆ ซูหยางก็นึกถึงคำๆ หนึ่งได้ในใจ
บิ๊กแบง!
จุดเริ่มต้นของจักรวาล!
หลังจากที่ซูหยางคิดถึงความเป็นไปได้นี้
การเปลี่ยนแปลงเริ่มปรากฎขึ้นภายในมุกสีดำ
จักรวาลอันมืดมิดปรากฎขึ้น พลังงานถูกปลดปล่อยออกมาภายในนั้น และอุกกาบาตที่อบอวลด้วยพลังงานก็เริ่มก่อตัว
การเปลี่ยนแปลงมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
จักรวาลภายในมุกสีดำเริ่มขยายตัว
ในตอนแรก มันมีความกว้างเพียงสามหมื่นลี้เท่านั้น
หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ขนาดตัวถึงหนึ่งปีแสง
ในเวลานี้ มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งปรากฎขึ้นโดยตรงในจักรวาลภายใน
ดาวเคราะห์ดวงนี้คือ โลกต้าเซี่ย
การที่โลกต้าเซี่ยสามารถปรากฎขึ้นตรงจุดนั้นได้โดยตรงนั้นเป็นผลมาจากความสามารถของระบบ เขาได้ถามถึงสิ่งนี้ก่อนเริ่มทะลวงผ่าน
โลกต้าเซี่ยไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องกลับไปที่โลกต้าเซี่ยก่อนเพื่อะลวงผ่านหรือไม่?
คำตอบคือ ไม่
นั้นทำให้เขาตัดสินใจย้ายร่างหลักมาที่วิหารโหลาหล
จักรวาลภายในมีแกนกลางซึ่งเทียบเท่ากับการมีเสาหลัก
สภาพแวดล้อมที่ปั่นป่วนเริ่มมีความมั่นคง
แต่ดูเหมือนว่ามันจะหยุดขยายตัวแล้ว
จักรวาลภายในมีขนาดเพียงหนึ่งปีแสงเท่านั้น และไม่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมใดๆ อีก
ในขณะนี้ การทะลวงผ่านเสร็จสิ้นแล้ว เขาได้กลายเป็นจ้าวแห่งเต๋าขั้นต้นแล้ว
และกลายเป็นผู้ฝึกฝนจักรวาล
ทันใดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงมากมาย
สิ่งหนึ่งที่เขาพร่ำบ่นคือ จักรวาลภายในของเขานั้น ‘ใหญ่’ มาก มีขนาดถึงหนึ่งปีแสงเลยทีเดียว
ดูเหมือนว่า หากต้องการแข็งแกร่งขึ้นก็จะหาทางพัฒนาจักรวาลภายใน
ซูหยางรู้ดีว่าเมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น จักรวาลก็จะใหญ่โตขึ้นตามไปด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างจักรวาลประดิษฐ์นี้กับจักรวาลปฐมภูมิ
แต่ไม่ว่ายังไง ตราบใดที่มันช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาได้นั้นก็มากพอแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือจากจักรวาลภายใน และความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งเต๋า เขาสามารถฆ่าปราชญ์คนใดก็ได้
นี่คือ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางด้านความแข็งแกร่ง แม้จะเพิ่งก้าวเข้าสู่อาณาจักรนี้ ความแตกต่างก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
เขาจะค่อยๆ ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทีละน้อย
ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายหลังจากการทะลวงผ่านครั้งนี้
อย่างแรกคือ แผงคุณสมบัติ
[ ซูหยาง ]
[ ฐานการบ่มเพาะ : จ้าวแห่งเต๋าขั้นต้น ]
[ เส้นทางการบ่มเพาะ : จักรวาลภายใน ]
[ กฎจักรวาล : ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม ฝน ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หยิน และหยาง ( แนะนำให้เพิ่มกฎด้วยการจ่ายเจตจำนงทองคำ 100 ดวง หรือผลึกฎเต๋าระดับต่ำ 1 ก้อนต่อกฎจักรวาล 1 ข้อ จักรวาลที่สมบูรณ์ต้องมีกฎจักรวาล 3,000 ข้อ )
[ ระดับกฎ : ระดับ 1 ]
[ ขนาดจักรวาล : 1 / 1,100 ปีแสง ]
[ ดาวเคราะห์ชีวิต : 1 / 1.1 ล้านดวง ( ผลึกอมตะระดับต่ำ 1 ก้อน / ดาวเคราะห์ชีวิต 1 ดวง ) ]
[ หมายเหตุ : ผลึกอมตะนั้นมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเร่งการก่อตัวของดาวเคราะห์ชีวิตได้ ในพื้นที่หนึ่งปีแสงสามารถรองรับดาวเคราะห์ชีวิตได้ถึงหนึ่งพันดวง ]
[ อัตราการผลิตเจตจำนงทองคำ : 0.0001 / 1 วัน ( ตามเวลาของมิติโกลาหล ) ]
[ อัตราการไหลของเวลาในจักรวาลภายใน : 10,000 / 1 ]
[ รากกฎขั้นหนึ่ง : 0 / 1,100 ( 0 / 1 เจตจำนงทองคำ ) ]
[ หมายเหตุ : หากต้องการควบแน่น 1 รากกฎต้องจ่ายด้วยเจตจำนงทองคำ 1 ดวง รากกฎจะเป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งของพลังแห่งกฎเต๋า ขีดจำกัดบนจะถูกกำหนดโดยจำนวนกฎจักรวาล กฎหนึ่งข้อสามารถมีรากกฎได้มากสุด 100 เส้น )
[ ข้อกำหนดการปรับปรุงที่ 1 : พัฒนาเป็นรากกฎขั้นที่สองด้วยการจ่าย 11,000 เจตจำนงทองคำ สามารถใช้ผลึกกฎเต๋าเพื่อลดต้นทุนในการพัฒนาได้ ]
[ ข้อกำหนดการปรับปรุงที่ 2 : เพิ่มขนาดจักรวาลภายในถึง 1,100 ปีแสง ต้องใช้หินโกลาหลระดับสูงสุด 10,000 ล้านก้อนต่อ 1 ปีแสง ( ทรัพยากรอื่นๆ รวมถึงสมบัติโกลาหลก็สามารถใช้เพิ่มขนาดจักรวาลได้เช่นกัน ) ]
[ เจตจำนงทองคำ : 34 ]
นี่คือแผงคุณสมบัติใหม่เอี่ยม
เจตจำนงทองคำ 1 ดวงเทียบเท่ากับเจตจำนงแห่งสรรพชีวิต 100 ล้านล้านล้านดวง ก่อนที่แผงคุณสมบัติจะมีการเปลื่ยนแปลง เขามีเจตจำนงแห่งสรรพชีวิตอยู่ในมือเพียงสามหมื่นสี่พันล้านล้านล้านดวง
หลังจากถูกแปลง มันก็เท่ากับเจตจำนงทองคำ 34 ดวง
ต่อไปหากเขาต้องการเพิ่มความแข็งแกร่ง การผสานกฎเข้าไปเพิ่มถือเป็นหนทางหนึ่ง
ในที่สุด ตอนนี้ซูหยางก็สามารถใช้หินโกลาหลได้สักที
แต่ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดคือ วิธีผสานกฎ และเพิ่มความแข็งแกร่งของกฎแต่ละข้อ
สำหรับผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ พวกเขาจะสามารถฝึกฝนได้เพียงกฎเฉพาะของตน
ไม่ว่าจะผ่านการรับรู้ด้วยตัวเองหรือผ่านความช่วยเหลือจากผลึกกฎเต๋า กฎของพวกเขาจะมีความตายตัว และต้องใช้ทรัพยากรที่สอดคล้องกัน
แต่ซูหยางนั้นแตกต่างออกไป ขอแค่มันเป็นผลึกกฎเต๋า เขาก็สามารถขัดเกลามันได้
นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงได้โดยตรงผ่านเจตจำนงทองคำ
แม้ว่าจะไม่มีผลึกกฎเต๋า เขาก็ยังสามารถปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองได้
นอกจากนี้ยังมีรากกฎซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับปลดปล่อยของพลังแห่งกฎเต๋า
ตามที่ซูหยางคาดการณ์ไว้ เขาสามารถปรับปรุงตัวเองในทุกๆ ด้านด้วยความช่วยเหลือจากระบบผ่านเจตจำนงทองคำ
ถ้าต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเอง มันจะยากลำบากมาก
กว่าจะตระหนักรู้ถึงกฎแต่ละข้อนั้นใช้เวลาไม่น้อยเลย
ต้องพยายามทำความเข้าใจกฎ และสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของรากกฎ
และการทำความเข้าใจเช่นนี้ มีรูปแบบเฉพาะ เพื่อให้ปลดปล่อยของพลังแห่งกฎเต๋าได้อย่างสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้ ที่เจ้าวังเทียนเล่ยมอบโทเค็นกฎเต๋าทั้ง 3 ให้แก่เขาก็เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการฝึกฝนพลังแห่งกฎเต๋า
สิ่งเหล่านี้คือ การตกผลึกจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเกี่ยวกับพลังแห่งกฎเต๋า มันต้องใช้เวลานานหลายล้านปีในการสร้างแนวทางที่ชัดเจน
เป็นการยากที่ผู้ฝึกฝนคนหนึ่งจะสร้างพลังแห่งกฎเต๋าที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ
แต่สำหรับซูหยาง เขาเป็นข้อยกเว้น
ด้วยการมีอยู่ของแผงคุณสมบัติ เขาเพียงแค่ต้องใช้เจตจำนงทองคำเพื่อควบแน่นรากกฎ
จากนั้นเขาสามารถใช้รากกฎเหล่านั้นเพื่อสร้างวิชาดาบที่ต้องการได้
กฎหนึ่งข้อมีรากกฎ 100 เส้น
ถ้าเขาเป็นผู้ฝึกฝนที่เชื่ยวชาญกฎข้อเดียว รากกฎที่เขาครอบครองได้ก็จะมีเพียง 100 เส้น
ทักษะที่สร้างขึ้นก็จะมาจากรากกฎนับร้อยนี้
นี่คือ ความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกฝนจักรวาล และผู้ฝึกฝนเต๋า
ในฐานะผู้ฝึกฝนจักรวาล ขั้นต่ำคือ เริ่มต้นด้วยกฎ 11 ข้อ
จากนั้น ผู้ฝึกฝนจักรวาลก็จะสามารถควบแน่นรากกฎได้อย่างน้อย 1,100 เส้น
เมื่อรวมเข้ากับทักษะแล้ว พลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 11 เท่า
เมื่อเป็นแบบนี้ ผู้ฝึกฝนเต๋าในระดับเดียวกันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกฝนจักรวาล
ตอนนี้เขาเป็นเพียงจ้าวแห่งเต๋าขั้นต้น ระดับกฎยังอยู่ที่ระดับ 1 เท่านั้น
ทุกครั้งที่เขาทะลวงผ่านแต่ละขั้น ระดับกฎก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ
แต่มีอีกประเด็นสำคัญหนึ่งคือ หากเขาต้องการทะลวงผ่านเป็นจ้าวแห่งเต๋าขั้นกลาง มันต้องการรากกฎขั้นสอง
นั้นทำให้เขาต้องควบแน่นรากกฏขั้นแรกให้ถึงขีดกำจัด
นั่นคือ การควบแน่นรากกฏทั้งหมด 100 เส้น
นี่คือ ความยากลำบากของผู้ฝึกฝนจักรวาล
หากต้องการแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ พวกเขาก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน
การยกระดับฐานการบ่มเพาะจึงทำได้ยากกว่าผู้ฝึกฝนเต๋า
นี่เป็นสาเหตุที่มีผู้ฝึกฝนจักรวาลไม่มากนัก เพราะข้อกำหนดที่สูง
ยิ่งไปไกลในเส้นทางนี้ก็จะยิ่งยากลำบากมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
กฏแห่งธาตุทั้งห้านั้นยังถือว่าไม่ทำให้ต้องลำบากมากนัก
แต่กฏแห่งลม ฝน ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ความยากจะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
ท้ายในที่สุดคือ หยิน และหยางที่เป็นปัญหายิ่งกว่านั้น
นั้นทำให้ตอนนี้ ซูหยางกำลังคิดถึงสิ่งหนึ่ง
เขาควรผสานกฏถึง 3,000 ข้อหรือไม่?