ตอนที่แล้วบทที่ 10 การเผชิญหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ผลักให้ล้ม

ตอนที่ 11 เชือดไก่ให้ลิงดู


ตอนที่ 11 เชือดไก่ให้ลิงดู

ซ่งลุ่ยยืนพิงประตูหายใจหอบออกมาเฮือกใหญ่ คล้ายกับคนจมน้ำที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไรอย่างนั้น ผ่านไปสักพัก ซ่งลุ่ยก็ค่อย ๆ ยืนขึ้นมาแล้วนั่งไปบนเก้าอี้ด้านหลังโต๊ะทำงานของเขา ในใจกลับพร่ำรำพันพูดถึงความในใจตลอดเวลาเงียบ ๆ

เฮ้อ ตัวเขายังมีประสบการณ์น้อยจนเกินไป ! ครั้งแรกที่เขาพบกับเหตุการณ์แบบนี้ เขากลายเป็นคนที่จนตรอก ตกที่นั่งลำบาก แต่เนื่องจากเขาได้รับคอนแทคเลนส์ทะลุปรุโปร่ง หลังจากนั้นก็จึงได้รับโอกาสแบบนี้มาซึ่งเป็นโชคดีไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรต้องฝึกฝนการใช้งานให้มากขึ้นกว่านี้แล้ว !

หลังจากผ่อนคลายไปครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าเกือบจะหายดีเหมือนเดิมแล้ว เขาถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความโล่งอก แล้วเปิดงานที่ยังไม่ได้ทำในตอนเช้าและทำต่อด้วยความงุนงง ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ? เพราะเขายังทำไม่ได้นะสิ !

แล้วเมื่อตอนเที่ยงที่จะไปขอคำแนะนำจากฮงเหมยให้มาสอนงาน  ขอคำแนะนำไปขอคำแนะนำมาดันผิดจุดประสงค์ไปได้  พอกำลังจะจัดการให้เสร็จภารกิจ หลินหลินก็โทรมาขอความช่วยเหลือเขาอีก ด้วยเหตุนี้จึงมีเวลาก่อนหน้านี้แค่ช่วงสั้น ๆ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมึนงงกับงานและไม่สามารถที่จะทำมันได้ !

มึนงงผ่านไปสักพักจนเขาเริ่มรู้สึกเบื่อก็เลยจะไปดูว่าหลินหลินเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าตั้งแต่ที่เขาใช้อำนาจในหน้าที่การงานของตัวเองแต่งตั้งหลินหลินเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ในใจภาวนาอย่าให้เธอทำอะไรผิดพลาดเลยเถอะ !

คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าไปดูสักนิดดีกว่า เขาจึงตัดสินใจผลักประตูออกไปแล้วเดินอย่างช้า ๆ ไปที่แผนกต้อนรับ เขาไม่ยอมให้หลินหลินมองเห็นเขา แต่เขาแอบสังเกตหลินหลินอย่างลับ ๆ

เมื่อเห็นว่าหลินหลินจัดการกับเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ไม่มีอะไรที่เขาต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น คล้ายดั่งกับว่าเธอเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ ซ่งลุ่ยกลับรู้สึกว่ามันน่าประหลาดใจ ห้ะ ? เป็นไปได้ยังไง ? ไม่ใช่ว่าหลินหลินกับเขาเกิดมาในชนชั้นรากหญ้าเหมือนกันเหรอ ? ทำไมเธอจึงจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีขนาดนี้ แต่ตัวเขากลับทำไม่ได้ !

ยิ่งซ่งลุ่ยได้เห็นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกกลุ้มใจมากขึ้นเท่านั้น ผู้อื่นช่างมีพรสวรรค์จริง ๆ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ล่ะ ? หรือว่าเธอเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่แท้จริงเหรอ ? เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งลุ่ยก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง อีกทั้งยังมองสำรวจดูหลินหลินอย่างละเอียดอีกด้วย นอกจากนี้เขายังเป็นชายชาตรี เขารู้สึกว่าเขาเองก็มีพรสวรรค์ไม่ด้อยไปกว่าหลินหลินแน่นอน !

 

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นใด พอมองแล้วก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ามีปัญหาโผล่ออกมา เพราะไม่ว่าหลินหลินจะจัดการเรื่องราวอะไร ล้วนไม่ต้องคิดไตร่ตรองอะไรมากนัก แต่เธอกลับจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีมาก ราวกับว่าเธอสามารถจัดการได้ทุกสิ่งทุกอย่าง นี่ทำให้ซ่งลุ่ยยิ่งกลุ้มอกกลุ้มใจ ไม่ได้ ฉันต้องไปถามเคล็ดลับเธอสักหน่อย

หลังจากที่ตัดสินใจแล้วก็เตรียมตัวที่จะไปถามหลินหลิน แต่ก็รู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสม อย่างแรกเลยคือตอนนี้คนเยอะไป ถ้าจะถามเรื่องที่ไม่ดีต่อหน้าพวกเขา อย่างที่สองคือเขามองดูหลินหลินที่จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ใจไม่แข็งพอที่จะหักหน้าเธอ พูดไปแล้ว ตอนนี้หลินหลินเองก็เพิ่งจะเริ่มทำงานในตำแหน่งนี้ด้วย ในเวลานี้เหมือนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของตัวเธอ เขาก็ไม่อยากจะไปแสดงตัวให้เธอตกเป็นที่สนใจของคนอื่น

นัยน์ตาของซ่งลุ่ยหมุนเปลี่ยนทิศทาง ไม่ทันไรก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ได้จังหวะไปขอคำแนะนำปัญหาของเขาเอง อ่า ใช่ จะทำไงล่ะ ! คิดได้ถึงตรงนี้ ซ่งลุ่ยจึงหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองอย่างใจลอย

ในขณะที่กำลังใจลอยอยู่นั้น ก็รู้สึกว่าตาทั้งสองข้างแสบร้อนขึ้นมานิดหน่อย จึงเอามือทั้งสองข้างมาคลึงเบา ๆ ที่ขมับเมื่อรู้สึกว่าอาการบรรเทาลง แต่ก็ยังไม่หายไป  แต่ผ่านไปสักพักก็พบว่ามันยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ความปวดแสบปวดร้อนนี้ปรากฎออกมาอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้ซ่งลุ่ยรู้สึกตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็หายจากการเจ็บปวดแล้ว !

ในตอนแรก  ดวงตาทั้งสองของซ่งลุ่ยเจ็บปวดทรมาน พอตอนที่กำลังจะล้มลงไปบนพื้น ดวงตาเขากลับหายจากอาการเจ็บปวดเป็นปลิดทิ้ง การทำงานของเขาก่อนหน้านั้นก็เสียแรงเปล่า ในเวลานี้ซ่งลุ่ยก็คิดได้ว่าเมื่อวานนี้ก่อนที่เขาจะอัพเกรดระดับคอนแทคเลนส์นี้ ทักษะที่เขาเลือกมันชื่อว่าอะไรนะ ? ทักษะการใช้พื้นที่ของตัวเอง ! เขายังไม่ได้ดูมันอย่างละเอียดเลยนี่นา !

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซ่งลุ่ยก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เขานั่งลงและหลับตาลง เตรียมพร้อมที่จะเริ่มศึกษาเจาะลึกกับทักษะการใช้พื้นที่ของตัวเอง

เวลาผ่านไปนานมาก ซ่งลุ่ยก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา แววตาที่เต็มไปด้วยความสุขของเขาก็เผยปรากฏให้เห็นอารมณ์ของเขาในเวลานี้ เมื่อดูการแสดงออกของซ่งลุ่ยก็พอรู้ว่าการศึกษาเจาะลึกของทักษะในครั้งนี้จะต้องได้รับอะไรที่สุดยอดมาเป็นแน่ !

เดิมที การใช้งานวงแหวนพื้นที่ของตัวเองในการจัดเก็บต่าง ๆ ก็เป็นทักษะที่มีอยู่ในทักษะขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว นั่นก็คือปกติขนาดของพื้นที่ในการจัดเก็บจะเท่าเดิมเสมอ ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ แต่พื้นที่ของตัวเองไม่ได้เป็นเช่นนี้ ด้วยความเข้าใจพื้นที่ของตัวเองนี้เทียบเท่ากับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถพัฒนาได้ ! ขนาดของพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่มได้ตามระดับของผู้ใช้ !

หากในกรณีนี้ ซ่งลุ่ยจะไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกได้ นอกเหนือจากการอัพเกรดแล้ว พื้นที่ของตัวเองยังสามารถอัพเกรดให้ตัวเองได้และปรับแก้การอัพเกรดได้ หลังจากการอัพเกรดก็สามารถเปิดทักษะการใช้พื้นที่ของตนเองอันใหม่ ตัวอย่างเช่น อัตราความเร็วในการไหลของเวลา รวมไปถึงการนำสิ่งมีชีวิตเข้ามาในพื้นที่และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่การอัพเกรดก็มีเงื่อนไขที่โหดร้ายสุด ๆ เช่นกัน จำเป็นต้องใช้วัสดุหายากหลายประเภทและยังขึ้นอยู่กับโชคชะตาของตัวเองอีกด้วย !

โดยรวมแล้วทักษะนี้ยังคงมีค่าคุณค่าอยู่ แม้ว่าพื้นที่ในเก็บข้อมูลในตอนนี้ยังมีขนาดเล็กอยู่ แต่ว่าก็สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพให้ใหญ่มาก ๆ ได้  เมื่อคิดถึงตรงนี้  ซ่งลุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่มัน หลังจากนั้นก็ค้นพบเรื่องราวบางอย่าง ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ไหว เขาก็จะบุกทะลวงเข้าไปในพื้นที่เท่านั้นเอง เหอะ เหอะ เหอะ !

ซ่งลุ่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ออกมา หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ซ่งลุ่ยก็หลุดพ้นออกมาจากจินตนาการของเขา  เขามองแวบหนึ่งไปที่เวลาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ห้ะ ? ยังไม่เลิกงานอีกเหรอ  รีบเลย เลิกงานแล้ว ไปกินข้าว ! วันนี้ซ่งลุ่ยทำอะไรบ้าง ? ตอนเช้าก็มึนงง ตอนบ่ายก็ไปจัดการเรื่องส่วนตัวเฉพาะบุคคล หลังจากเสร็จเรื่องนั้นก็กลับมามึนงงต่อ สุดท้ายก็กินข้าวเย็น ! ! 

 

ซุงลุ่ยหลังจากที่รับประทานอาหารเต็มอิ่ม ก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้านนอกที่มืดแล้ว ในใจก็คิดไปเรื่อยถึงเขาในตอนบ่ายที่อยากจะไปถามหลินหลิน ตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แอบไปดูหน่อยดีกว่า !

ทำไมต้องแอบไปดูด้วยล่ะ ?  เพราะซ่งลุ่ยกลัวว่าถ้าเขาเดินดิ่งเข้าไปหาหลินหลิน อาจจะทำให้เธอได้รับผลกระทบบางอย่างได้ อย่างไรก็ตามเมื่อตอนบ่ายเขาเพิ่งจะแต่งตั้งให้เธอเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ของแผนกต้อนรับ  ตอนเย็นก็อยู่ด้วยกันอีก อาจจะถูกมองเป็นเพราะความสัมพันธ์แบบชู้สาว เธอจึงได้เลื่อนตำแหน่ง  ! ถึงแม้ว่าหลินหลินจะทำงานได้ดีก็ตาม แต่ถ้าหากถูกคนอื่นเห็นเข้า ในที่สุดก็จะกลายเป็นข้อครหาอย่างแน่นอน ซึ่งน่าจะดีกว่าถ้าจะหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายแบบนี้

ซ่งลุ่ยก็เปลี่ยนแผนภายในใจของเขา อย่างแรกต้องโทรไปที่หอพักของหลินหลินเพื่อดูว่าเธออยู่ที่หอพักไหม  จากนั้นซ่งลุ่ยก็ออกจากหอพักตัวเอง มองซ้ายมองขวาเพื่อสังเกตการณ์สักเล็กน้อย โชคดีที่ไม่มีใครเลย ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างมาแก้ตัว ซ่งลุ่ยปิดประตูและเดินตรงไปยังทางหอพักของหลินหลินอย่างช้า ๆ  แต่ว่าระหว่างทางก็พยายามระมัดระวังตัวอย่างมาก รอบคอบไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด !

หลังจากเดินไปครู่หนึ่ง ซ่งลุ่ยก็เดินไปถึงที่หน้าหอพักของหลินหลินอย่างช้า ๆ เขากำลังที่จะเคาะประตู แต่กลับพบว่าฉากในห้องนั้นน่าตื่นเต้นเร้าใจพอ ๆ กัน ! จนลืมที่จะเคาะประตูไปเลย ! เพียงแค่เขายืนอยู่หน้าประตูก็มองเห็นเข้าไปถึงข้างในแล้ว !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด