ตอนที่แล้วตอนที่ 10 สี่คนต่อหนึ่งกลุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ล่าชอมบี้

ตอนที่ 11 ออกกำลังกาย


ตอนที่ 11 ออกกำลังกาย

เบื้องบนภายในเมืองกำหนดให้ทุกเดือนจะต้องล่าซอมบี้ให้ได้อย่างน้อยห้าสิบตัว และที่สำคัญต้องบรรลุเงื่อนไขนี้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลประจำเดือนในครั้งถัดไป

ถ้าหากมองในมุมของกลุ่มสำรวจถือว่าจำนวนดังกล่าวนั้นไม่มากนัก แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่ว่า จะหาตัวซอมบี้จากไหนต่างหาก

ทุกเดือนทีมสำรวจจะออกไปข้างนอกประมาณสามครั้ง และทุกครั้งจะอยู่ข้างนอกไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าวัน หรืออาจนานถึงหนึ่งสัปดาห์ โดยเวลาเกือบครึ่ง มักหมดไปกับการไล่ล่าจนเหลือเวลาให้พวกเขาฆ่าซอมบี้เพียงเล็กน้อย

เนื่องจากเหล่าซอมบี้ที่อยู่ตามถนนเมืองก้อนหินน้อยถูกเหล่ากองทัพกำจัดไปตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกก่อตั้งเมือง ทำให้จำนวนเหลือน้อยอย่างที่เห็น โดยทั่วไปแล้ว พวกซอมบี้มักจะปรากฏตัวอยู่บริเวณพื้นที่อาศัยรกร้างหรือตรอกซอยขนาดเล็ก ซึ่งสถานที่ดังกล่าวคือพื้นที่ที่กองทัพละเว้นการสำรวจ ทำให้ยังมีซอมบี้เป็นจำนวนมาก

แหล่งอาศัยที่ซอมบี้อยู่นั้นไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินเข้าไปค่อนข้างมาก

เมื่อได้ฟังคำแนะนำของพี่ใหญ่ ซ่งเจิงเริ่มรู้สึกว่าการล่าซอมบี้ในสถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบาก เปรียบได้กับการบุกเข้าไปเล้าหมูเพื่อฆ่าหมูตัวที่ใหญ่ที่สุดอย่างไรอย่างนั้น เพราะเมื่อไหร่ที่หมูโกรธมันจะบ้าพลังพร้อมทำลายข้าวของตรงหน้าจนกว่าจะหมดแรง

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ลูบกระทะเหล็กพร้อมกับนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ทำให้ซ่งเจิงเกิดความมั่นใจขึ้นทันที

แต่เรื่องที่เขาค่อนข้างกังวลอีกเรื่องหนึ่งคือร่างกายของตนเอง นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องความเป็นความตาย!

เมื่อก่อนซ่งเจิงเคยเป็นพ่อครัวในโรงแรมแห่งหนึ่ง ครั้งนั้นเขายังพอมีแรงอยู่บ้างจึงสามารถทำอาหารได้แทบทั้งวัน แต่บัดนี้ร่างกายของเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว ซอมบี้ไม่มีความรู้สึกเมื่อยล้าใดๆ ทั้งกลิ่นเลือดและกลิ่นเนื้อมนุษย์จะทำให้พวกมันไล่ตามเขาอย่างบ้าคลั่ง! หากเทียบกันแล้วถือว่าเขาค่อนข้างเสียเปรียบอยู่มาก!

หากยังใช้ชีวิตในโลกซอมบี้ด้วยร่างกายที่อ่อนแอเช่นนี้ต่อไป มีหวังสักวันก็คงไม่รอด…

แต่ซ่งเจิงนั้นอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า และเขายังอยากรู้ว่าทำไมตัวเองถึงข้ามเวลามาได้!

เพื่อบรรลุเป้าหมาย เขาจึงจำเป็นต้องเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงตลอดเวลา

หากคิดที่จะฟื้นฟูร่างกาย สิ่งแรกเลยที่เขาต้องทำคือทานอาหารที่มีประโยชน์ และตามมาด้วยการออกกำลังให้สม่ำเสมอ

ซึ่งเรื่องอาหารนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะถ้าคนธรรมดาทั่วไปกินผักกาดดองกระป๋องแบบนี้ทุกวัน ต่อให้ร่างกายแข็งแรงมากๆก็ทรุดป่วยได้ แต่กับซ่งเจิงนั้นมีข้อได้เปรียบกว่าคนอื่น นั่นก็คือกระทะเหล็กคู่ใจ หากเขายังฆ่าซอมบี้และเหล่าสัตว์ร้ายได้มากเท่าไหร่ เขาก็จะสามารถนำชิ้นส่วนของพวกมันมาทำขนมเปี๊ยะทอดและน้ำสะอาดได้มากเท่านั้น

ตราบใดที่เขายังพบซอมบี้ เรื่องอาหารการกินก็ไม่ใช่เรื่องกังวลอีกต่อไป

ส่วนการออกกำลังกายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ซ่งเจิงเริ่มฝึกเทควันโดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้มานั้นค่อนข้างดีอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นสมรรถภาพและการตอบสนองของร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่ในอดีตซ่งเจิงถึงดูโดดเด่นที่สุดในโรงเรียนเทคโนโลยีโม่วเซียง

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องรื้อฟื้นวิชาเทควันโดขึ้นมาอีกครั้ง ซ่งเจิงคิดย้อนกลับไปตอนนั้นที่เคยเป็น รุ่นพี่ที่เก่งที่สุดในโรงเรียนแทบไม่มีใครกล้าสู้กับเขา! อย่างน้อยตอนที่เคยกระโดดถีบเจ้าหมูอ้วนตอนเรียนโลจิสติกก็ทำให้มันช้ำในจนแทบกระอักเลือดได้แหละนะ! หึหึ!

เพราะเข้าร่วมทีมสำรวจ ทำให้อาหารของซ่งเจิงดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน โดยเปลี่ยนจากผักดองกระป๋องเป็นเบคอนและหมั่นโถวงาดำแทน แม้ว่าจะเป็นอาหารชั้นยอด แต่เมื่อเทียบกับขนมเปี๊ยะทอดเมื่อวานมันแทบเทียบไม่ติด

หลังจากทานเสร็จแล้ว ซ่งเจิงก็เก็บตัวอยู่ในห้องพร้อมกับฝึกเทควันโดตลอดทั้งวัน

ครั้งในอดีต ซ่งเจิงสามารถฝึกเทควันโดโดยไม่รู้สึกเหนื่อยหน่าย แต่ตอนนี้ทำไปเพียงครึ่งเดียวก็เหนื่อยจนหอบออกมาแล้ว มิหนำซ้ำขาของเขายังอ่อนแอจนแทบไม่มีแรงก้าวเดิน

ซ่งเจิงกัดฟันแน่นและอดทนฝึกไปอีกสองสามท่า สุดท้ายเขาถอนหายใจออกมาก่อนจะหน้ามืดจนแทบล้มลงกับพื้น

"ร่างกายชักจะอ่อนแอเกินไปแล้ว คงต้องฝึกให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าพูดถึงการฆ่าซอมบี้เลย เผลอๆแค่ตู่หมิงก็อาจจะสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ" ซ่งเจิงส่ายหัว พร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง

หลี่ว่านหลูที่นั่งอยู่เก้าอี้ด้านข้าง เธอมองซ่งเจิงฝึกเทควันโดราวกับเป็นภรรยาตัวน้อยที่คอยเชื่อฟังสามีอยู่เงียบๆ

กับหลี่หวานหลู เขามักปล่อยตัวตามสบายเวลาอยู่ด้วย เนื่องจากเมื่อคืนทั้งสองเคยนอนบนเตียงเดียวกันมาแล้ว ภายในใจลึกๆของซ่งเจิงจึงรู้สึกค่อนข้างสนิทใจกับผู้หญิงคนนี้

และเมื่อครั้งที่หลี่ว่านหลูเผชิญหน้ากับตู่หมิง แม้ว่าจะหวาดกลัวมากเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เคยปริปากพูดเรื่องขนมเปี๊ยะทอดออกมาสักคำ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เก็บความลับได้ดี

ดังนั้น ซ่งเจิงจึงปล่อยให้เธอนั่งดูอยู่อย่างนั้น เพราะอย่างไรแล้วนี่ก็เป็นพียงการฝึกเทควันโด ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร หากหลี่ว่านหลูจะเอาไปบอกคนอื่น เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

ขณะที่ซ่งเจิงหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง หลี่ว่านหลูก็เด้งตัวลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำส่งให้ซ่งเจิงทันที

ซ่งเจิงมองครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปรับแล้วเช็ดเหงื่อตัวเอง

เมื่อเขาส่งผ้าขนหนูกลับไป หลี่ว่านหลูที่ทำตัวราวกับเป็นภรรยาก็เดินไปยังห้องน้ำเพื่อซักผ้าขนหนูอีกครั้ง เมื่อบิดผ้าจนหมาดก็รีบยื่นให้ซ่งเจิงอย่างตั้งใจ

แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็สามารถรับรู้ถึงบรรยากาศอบอุ่นที่เกิดขึ้นในห้องนี้

มันเป็นความรู้สึกเบาบาง แต่อบอุ่นภายในใจทั้งสองอย่างมาก

เมื่อคิดแบบนั้นซ่งเจิงก็ส่ายศีรษะ เขาไม่อยากปล่อยใจกับเรื่องเช่นนี้ตอนนี้ เขาหยุดพักหายใจไม่นานก็กลับไปฝึกต่ออีกครั้ง

เขาฝึกเทควันโดก่อนสองรอบ หลังจากที่ไม่ได้ฝึกมานาน ก่อนจะดันพื้นอีกสิบกว่ารอบรวมถึงทำสควอชและท่าอื่นๆ

ซ่งเจิงใช้เวลาทั้งบ่ายอยู่กับการออกกำลังกาย จนในที่สุดเขาก็เหนื่อยจนหมดแรงและนอนหายใจหอบอยู่บนเตียงพักใหญ่

เย็นวันนั้นหลี่ว่านหลูไม่ได้นอนที่ห้องของซ่งเจิง

ผู้หญิงคนนี้อยากจะอยู่ที่นี่ แต่เธอโดนซ่งเจิงบังคับให้กลับไป เพราะปู่ของเธออยู่คนเดียว จึงต้องมีคนคอยดูแล

ซ่งเจิงนั้นยังเป็นชายหนุ่มอยู่ หากนอนกับผู้หญิงบนเตียงด้วยกันทุกวัน ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะทนไม่ไหวเอาก็ได้ ซ่งเจิงยังไม่พร้อมที่จะรับความเสี่ยงนี้

เมื่อจิตใจเริ่มสงบลง เขาก็ผล็อยหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น

เขาเดินลงมายังห้องโถงของโรมแรมชั้นล่าง ภายในห้องเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน

เมื่อก่อนที่นี่มีคนไม่มากนัก แต่วันนี้เป็นวันที่เหล่าทีมสำรวจจะออกไปล่าซอมบี้ นอกจากกลุ่มทีมสำรวจยี่สิบกว่าคน ยังมีเพื่อนและแฟนของคนเหล่านั้นมาส่งพวกเขาด้วย

หลี่ว่านหลูอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น เธอมองตรงมายังซ่งเจิงก่อนเดินเข้ามา เธอยิ้มก่อนพูดว่า "ซ่งเจิง ดูแลตัวเองดีๆนะ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด