ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 410 บดขยี้
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 410 บดขยี้
"อะ... อะไรกัน"
"เขตแดนหมัด 7 ส่วน"
"เป็นไปได้อย่างไร!"
เสียงสูดลมหายใจเย็นยะเยือกดังขึ้นติดต่อกัน
ผู้คนนับไม่ถ้วนเบิกตากว้าง
สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
กู่หยางอายุแค่สิบแปดปี แต่กลับเข้าใจเขตแดนหมัดถึง 7 ส่วนแล้ว
มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
จริงหรือเท็จ!
ชั่วขณะหนึ่ง ผู้คนมากมายต่างหวาดหวั่นไม่แน่ใจ
แต่เมื่อพวกเขาเห็นเขตแดนสายฟ้าม่วง 3 ส่วนของจางเสวี่ยอวี่ ถูกกดทับอย่างหนักภายใต้เขตแดนของกู่หยาง
ถอยร่นอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดหดตัว
ทันใดนั้นผู้คนนับไม่ถ้วนต่างเบิกตากว้าง
"ช่าง...เป็นเขตแดนที่แท้จริง!"
"บัดซบ..."
ยอดฝีมือขอบเขตราชันและจักรพรรดินับไม่ถ้วนต่างเบิกตากว้าง
ทำสีหน้าราวกับเห็นผี
"สิบแปดปี เข้าใจเขตแดนหมัด 7 ส่วน..."
"โลกนี้จะมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่จริงหรือ"
"ข้าใช้เวลาสิบแปดปียังไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจเขตแดน 3 ส่วนได้เลย กู่หยางอายุสิบแปดปีเข้าใจเขตแดนหมัด 7 ส่วนแล้ว... นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกัน!"
เสียงอุทานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และในขณะนี้
ยอดฝีมือขอบเขตราชันหลายคนที่เคยเห็นกู่หยางแสดงเขตแดนในงานเลี้ยงน้ำชาอัจฉริยะฟ้าประทาน ก็ตกตะลึงงัน
"เจ็ด... เจ็ด"
"ไม่ใช่ 4 ส่วนหรือ"
พวกเขามองตาค้าง มุมปากกระตุกไม่หยุด
"อย่าบอกนะว่ากู่หยางในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือนนี้ เขาพัฒนาจากเขตแดน 4 ส่วน เป็น 7 ส่วนได้แล้ว"
"ข้าคิดว่าเขาอาจจะเข้าใจเขตแดน 7 ส่วนได้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงน้ำชาอัจฉริยะฟ้าประทานแล้ว"
"เจ้าพูดอย่างนี้ ... ดูเหมือนกู่หยางจะเป็นสัตว์ประหลาดมากกว่าเดิม"
พวกเขาแสดงสีหน้าซับซ้อนขณะพูดคุยกัน จนกระทั่งสีหน้าดูประหลาดขึ้นมา
กู่หยางผู้นี้...
ช่างเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!
จักรพรรดิกระบี่เลิศนภาเองก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
ใจเต็มไปด้วยความตกใจ
"ความเร็วในการพัฒนาของกู่หยาง...ช่างน่าตกใจเกินไปแล้ว!"
"หากเป็นเด็กคนนี้ บางทีอาจจะ..." เขากล่าวพึมพำ สายตาเต็มไปด้วยความสั่นสะเทือน
ส่วนยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิข้างกายเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน
รอจนกระทั่งเขาตั้งสติได้ เขาก็หันหน้าไปหาจักรพรรดิกระบี่เลิศนภา
"จักรพรรดิกระบี่เลิศนภา เจ้ามันไม่จริงใจ! กู่หยางเข้าใจเขตแดน 7 ส่วนได้แล้ว แต่เจ้ากลับไม่บอก ข้ายังคิดว่าจางเสวี่ยอวี่ยังมีโอกาสอยู่"
ได้ยินดังนี้ จักรพรรดิกระบี่เลิศนภาก็ได้แต่ยักไหล่อย่างจนใจ
เขาก็อยากจะบอก
แต่เขา...ก็ไม่รู้ว่ากู่หยางเข้าใจเขตแดนหมัด 7 ส่วนได้แล้วเช่นกัน!
ใครจะไปคิดกันเล่า!
ในขณะเดียวกัน
ท้องพระโรงอันสูงส่ง
ประมุขศักดิ์สิทธิ์วิหคชาดหวงอวี่ฉิวก็มองกู่หยางด้วยสีหน้าตกใจ
"เด็กคนนี้..."
"ช่างผิดปกติจริง ๆ!"
หวงอวี่ฉิวสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิ และรู้ว่ากู่หยางเข้าใจพลังเขตแดนได้แล้ว ซึ่งทำให้เขาตกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นสั่นสะเทือนใจ
ท้ายที่สุด...
อัจฉริยะฟ้าประทานที่สามารถเข้าใจพลังเขตแดนได้ในดินแดนรกร้างแห่งตะวันออกก็ไม่ได้มีน้อยนัก
แต่...
สิ่งที่กู่หยางเข้าใจ คือเขตแดนที่แท้จริง!
ถึงแม้เป็นยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิ ก็อาจไม่มีพลังพอที่จะครอบครองเขตแดนที่แท้จริงได้!
หากบอกว่ากู่หยางมีกายาศักดิ์สิทธิ์ หรือสายเลือดพิเศษ
เขาก็ยังพอจะเข้าใจได้
ท้ายที่สุดแล้ว ร่างกายพิเศษและสายเลือดพิเศษ สามารถเสริมพลังในการเข้าใจเขตแดนได้
หากเข้าใจได้รวดเร็วเช่นนี้ ก็ถือว่าไม่แปลก
แต่...
เขาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว
กู่หยางไม่มีสายเลือดพิเศษหรือร่างกายพิเศษ!
และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ กู่หยางยังคงเข้าใจพลังเขตแดนได้
ยิ่งไปกว่านั้น...ยังเป็นเขตแดนหมัด 7 ส่วน!
บัดซบ...
ช่างผิดปกติจริง ๆ!
แม้จะเทียบกับมณฑลกลางที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะฟ้าประทาน กู่หยางก็ยังจัดเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุด!
บนทุ่งหญ้า
จางเสวี่ยอวี่รู้สึกได้ถึงเขตแดนอสุนีบาตอินทนิลของตัวเองถูกกดทับอย่างหนัก
สีหน้าซีดเผือดลง
เขาฟื้นตัวจากความตกใจ
จึงกำหมัดแน่น ขบกรามแน่น
"ข้าจะไม่แพ้!"
"ถึงแม้ว่าเจ้าเข้าใจเขตแดนหมัด 7 ส่วน แต่..."
"ข้าก็ยังมีโอกาส!"
จางเสวี่ยอวี่ร้องเสียงดัง
ตู้ม!
เขายกฝ่ามือขึ้น บุปผาผันแปรสามดอกที่อยู่ด้านหลังเขายิ่งเปล่งประกายเจิดจ้า
แสงสว่างเปล่งประกาย ทำให้แรงกดดันบนตัวเขาลดลง
วินาทีถัดมา
สายฟ้าที่รุนแรงปรากฏขึ้นในดวงตาของจางเสวี่ยอวี่
จากนั้นมือขวาของเขาก็ฟาดลงบนห้วงมิติอย่างรุนแรง!
"วิชาฝ่ามืออสนีบาตอินทนิลพิฆาตโลก!"
จางเสวี่ยอวี่ปล่อยเสียงคำราม
สายฟ้าสีม่วงบนฝ่ามือของเขาก็กระเพื่อมอย่างรวดเร็ว
ซู่ ซู่!
ปราณมรณะอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งแผ่ขยายขึ้น ห้อมล้อมมือขวาของเขา
พลังที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งรวมตัวกันบนฝ่ามือ
กลิ่นอายนั้นแผ่ขยายออกไป เกือบจะจับต้องได้
ถึงแม้จะมองผ่านผลึกฉายภาพ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ
"นี่..."
"วิชาฝ่ามืออสนีบาตอินทนิลพิฆาตโลก เป็นวิชาฝ่ามือระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุดของตระกูลจาง!"
"ไม่คิดเลยว่าจางเสวี่ยอวี่จะเข้าใจวิชาฝ่ามืออสนีบาตอินทนิลพิฆาตโลกได้แล้ว และ...ยังฝึกฝนจนสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่อีก"
"ฝ่ามือนี้ ทรงพลังยิ่งนัก!"
"เกือบจะสามารถคุกคามยอดฝีมือขอบเขตราชันได้แล้ว!"
ในขณะเดียวกัน
กู่หยางมองไปที่ฝ่ามือนี้ของจางเสวี่ยอวี่
อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย
"น่าเบื่อ"
กู่หยางกล่าวจบ
เขาก็ประเคนหมัดไปทางจางเสวี่ยอวี่อย่างไม่ลังเล
ไม่มีการสั่นสะเทือนใด ๆ
เขาไม่ได้ใช้วิชาหมัด
ไม่ได้ใช้เจตจำนงหมัด!
เป็นเพียงหมัดธรรมดา ๆ
ในชั่วขณะที่เขาประเคนหมัดออกไป
จางเสวี่ยอวี่ตกใจเมื่อพบว่าวิชาฝ่ามืออสนีบาตอินทนิลพิฆาตโลกของเขา... ถูกหมัดของกู่หยางบดขยี้!
ในขณะเดียวกัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็กดทับลงมา
จางเสวี่ยอวี่เบิกตากว้าง
เขายังไม่มีเวลาตอบสนอง
ตู้ม!
พลังที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งห้อมล้อมเขาดุจกระแสน้ำ
รอจนกระทั่งเขาเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง
เขาก็พบว่าตัวเองได้กลับมายังยอดเขาเงาเร้นลับแล้ว
เขามองไปรอบ ๆ อย่างงุนงง
"ข้า...ทำไมถึงกลับมาที่นี่"
"ชัดเจนว่าข้ากำลังต่อสู้กับกู่หยางอยู่"
"เกิดอะไรขึ้น"
เขามองอย่างงุนงง พบว่าสายตาของทุกคนรอบ ๆ จับจ้องไปที่ผลึกฉายภาพหนึ่ง
เขาก็เงยหน้ามองอย่างช้า ๆ
อาจเป็นเพราะความล่าช้าเล็กน้อย
เขาจึงเห็นกู่หยางประเคนหมัดลงมา
จากนั้น...
พลังที่น่าสะพรึงกลัวก็กลืนกินเขา
เพียงชั่วขณะ
ร่างของเขาถูกฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว
ถูกสังหารในทันที!
เห็นดังนี้ จางเสวี่ยอวี่ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ตัวแข็งอยู่กับที่
"กู่หยาง... เขาเป็นสัตว์ประหลาดอะไรกัน!"
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยอมรับกู่หยางอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ในดวงตาก็ยังมีความหวาดกลัว
กู่หยางไม่ได้ใช้วิชายุทธ แม้แต่ปราณมรณะและปราณแท้ก็ยังไม่ใช้ เพียงหมัดธรรมดา ๆ...
กลับสังหารเขาได้โดยตรง!
วิธีการเช่นนี้ แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตราชันธรรมดาก็ยังทำไม่ได้
หรือว่า... พลังของกู่หยางได้เหนือกว่ายอดฝีมือขอบเขตราชันธรรมดาไปแล้ว
เมื่อคิดถึงจุดนี้ จางเสวี่ยอวี่ก็ตกตะลึงมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน
ทุกคนที่มองเห็นฉากนี้ผ่านผลึกฉายภาพต่างก็ตกใจ
"เกิดอะไรขึ้น"
"จางเสวี่ยอวี่... แพ้แล้วหรือ"
"กู่หยางไม่ได้ใช้วิชายุทธ แม้แต่ปราณมรณะหรือปราณแท้ก็ไม่ได้ใช้!"
"นี่มันเรื่องอะไรกัน"
"หรือว่ากู่หยางใช้เพียงพลังกายภาพ...ก็สามารถเอาชนะจางเสวี่ยอวี่ได้"
"นี่...ช่างผิดปกติเกินไปแล้ว!"
เสียงอุทานดังขึ้นไม่ขาดสาย
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ
พวกเขาตกใจอย่างมากกับพลังที่กู่หยางแสดงออกมา
เดิมทีพวกเขาคิดว่ากู่หยางอาจจะมีพลังพอที่จะต่อสู้ แต่ไม่น่าจะเอาชนะจางเสวี่ยอวี่ได้
ผลที่ได้...
จางเสวี่ยอวี่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่หยางแม้แต่กระบวนท่าเดียว!
จางเสวี่ยอวี่ไม่สามารถต้านทานหมัดของกู่หยางได้!
มันเหมือนกับ...ถูกบดขยี้!