บทที่ 50 พี่น้อง? ที่ไว้ใจได้
แม้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายนี้จะแพร่กระจายความกลัวไปทั่วเมือง แต่ทุกอย่างยังคงเงียบสงบในมุมหนึ่งของอาคารสูง
ดาดฟ้ากว้างจนมองเห็นบรรยากาศภูเขาปราการใต้ได้แบบรอบทิศ ภูเขาเปิดโล่ง เมฆขาวกระจัดกระจาย
บนดาดฟ้า คนสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน ด้านซ้ายเป็นชายสูงอายุที่มีริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้า รูปร่างเพรียวบาง สวมชุดสีน้ำตาลอมเทาที่เรียบง่าย
ด้านขวามีชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อคลุมสีดำสวมหน้ากากสีเงิน หน้าตกแต่งด้วยลวดลายแปลกตา เขาคือผู้ที่โผล่มาที่ภูเขาอินริน ทูตผู้ส่งสารอันศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
ตอนนั้นเองที่เขาดึงกล่องสีแดงออกจากแขนเสื้อของเขาและเลื่อนไปให้ขายชราจากบนพื้น
"ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสของหมู่บ้านภูเขาทมิฬได้เข้าสู่ขอบเขตของการฝึกในระดับที่ห้าแล้ว โปรดรับของขวัญเล็กน้อยนี้ไว้ด้วยเถิด" ทูตปีศาจกล่าวอย่างสุภาพ
ชายชราเปิดหีบออกพบดอกบัวสีดำที่เหี่ยวเฉาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เส้นสีทองทั้ง 3 เส้นบนตัวดอกบัวมีความโดดเด่นและเปล่งประกายเป็นพิเศษ
"ดอกบัวทองใต้บาดาล.." ชายชราครุ่นคิดด้วยรอยยิ้ม "ท่านทูตศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนว่าท่านจะทุ่มเทความพยายามอย่างมากให้กับของขวัญเล็กน้อยนี้"
"ข้าพบมันโดยบังเอิญและคิดว่าเป็นนี่ของขวัญที่เหมาะสมเลยทีเดียว" ทูตปีศาจตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เขาไม่สนใจจำนวนชีวิตที่อาจสูญเสียไปเพราะการตัดสินใจที่รวดเร็วของเขา
"ข้าจะมอบของขวัญนี้ให้กับผู้อาวุโสเอง ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องขอบคุณท่านอย่างแน่นอน" ชายชราพยักหน้าและพูดต่อ "แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหวล่าสุดของท่าน เมืองเกาฉานจึงถูกปิดล้อมอย่างเข้มงวด ข้ายังไม่สามารถกลับไปได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตามตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่พวกเขาจะไม่พบข้าแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะค้นหาเมืองอย่างละเอียดก็ตาม ท่านทูตท่านมิจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้"
"อืม เรื่องนั้นทำให้ข้าประหลาดใจมาก ในตอนแรกข้าตั้งใจจะหาแพะรับบาปซึ่งอาจทําให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดชั่วคราว.. แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันมิได้เป็นไปตามที่ข้าคิด"
"อย่างไรก็ตาม เมืองนี้จะไม่ถูกปิดเป็นเวลานานนักหรอก เมืองแห่งนี้เป็นบ้านและเป็นหมุดหมายของพ่อค้าจํานวนมากและพวกเขาจะเปิดประตูอย่างแน่นอนภายในเจ็ดวัน สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบเท่าใดนักหรอก”
"ท่านทูต ข้าขอกล่าวอย่างสัตย์จริง ชีวิตของหมอผีอย่างเราในภาคใต้นั้นยากขึ้นเรื่อยๆ การเข้าถึงทรัพยากรเพื่อช่วยให้เราเข้าถึงระดับที่ห้าได้กลายเป็นเรื่องยากมาก เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราไม่ได้เห็นหมอผีทรงพลังในระดับที่หกเลย" ชายชรากล่าว เขาหยุดชั่วคราว ถอนหายใจ แล้วพูดต่อด้วยความรู้สึกท่วมท้น "ข้ามาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของหมู่บ้านหมอผีทั้งสิบเจ็ดแห่งในภาคใต้ ข้ามาเพื่อหวังว่าจะหาทางอยู่รอดให้เราได้"
เมื่อทูตปีศาจได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ก็ถอนหายใจเบาๆ และกล่าวด้วยความหดหู่เล็กน้อยว่า "ผู้ที่อยู่ในยุคเทพแห่งหมอผีคงไม่คิดว่าลูกหลานของเหล่าหมอผีจะต้องอยู่อย่างยากลำบากเช่นนี้"
เมื่อชายชราได้ฟังก็ได้เพียงแต่ยิ้มอย่างขมขื่น
ยุคเทพแห่งหมอผี เป็นตำนานอันไกลโพ้น ย้อนหลังไปหลายหมื่นปี..
ในฐานะที่เป็นมนุษย์ หมอผีจึงมีอายุสั้นกว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างเห็นได้ชัด น้อยคนนักที่จะจํายุคอันรุ่งโรจน์ของเทพหมอผีได้
"เราแค่อยากมีชีวิตอยู่" เขาส่ายหัวและพูดต่อ "เราไม่เพียงขัดแย้งกับหมู่บ้านของหมอยาเท่านั้น แต่เรายังถูกไล่ล่าเราอย่างไม่หยุดหย่อน หากไม่เป็นเช่นนั้นเราอาจไม่คิดเป็นพันธมิตรกับเผ่าพันธุ์ปีศาจของท่าน แต่ถึงกระนั้น เหล่าผู้อาวุโสจากหลายหมู่บ้านก็ยังคงเป็นกังวล..."
"กังวลสิ่งใด" ทูตปีศาจศักดิ์สิทธิ์เอ่ยถาม
"พวกเขาเป็นห่วงเพราะพวกท่านเป็นปีศาจ" ชายชราตอบ "ถ้าแผนของท่านเป็นจริง นี่หมายถึงการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติทั้งหมดมิใช่หรือ"
ทูตปีศาจหัวเราะและกล่าว "ในยุคที่มนุษย์ปกครอง ปีศาจอย่างเราถูกกำจัดไปหมดหรือ มิใช่เลย ในทางกลับกันเมื่อพระเจ้าของเรากลับมาแล้ว มนุษย์ก็จะยังคงมีอยู่ และเมื่อถึงเวลานั้นเราก็ยังต้องการมนุษย์ในการปกครองมนุษย์"
"เห็นได้ชัดว่าเราต้องกําจัดกองกำลังทั้งหมดในนิกายอมตะศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าและกำลังอมตะแห่งโลกทั้งสิบ มนุษย์.. ควรมีเผ่าพันธุ์หมอผีเพื่อปกครองมนุษย์"
"ราชาปีศาจทั้งเจ็ดเห็นพ้องต้องกันว่าให้ดูแลสหายที่เคยช่วยเหลือเรา พวกเขาจะได้รับโลกใหม่หลังจากพระเจ้าของเรากลับมา" ทูตปีศาจประกาศพร้อมกางแขนของเขาราวกับว่าเขากําลังต้อนรับโลกใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามา
ชายชรายังคงใจเย็นและเห็นได้ชัดว่าเขามิได้ถูกคำพูดอันสวยหรูชักชวนอย่างเต็มที่นัก เขาฟังอย่างใจเย็นและพูดว่า "สิ่งที่สองที่เหล่าผู้อาวุโสในหมู่บ้านเป็นห่วงคือ..."
ชายชราหยุดชั่วคราวและพูดต่อว่า "พวกเขากังวลว่าพระเจ้าของท่านเป็นเพียงสิ่งที่สมมติขึ้น"
...
[อสูร] : "ทองบัวทองใต้บาดาลงั้นหรือ"
[58] : "ขอรับ จากการสืบของข้า มันถูกชิงไปโดยทูตของปีศาจ.. อย่างไรก็ตาม ข้าไม่สามารถหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ที่มันอยู่ในขณะนี้ได้"
[อสูร] : "การได้มาซึ่งดอกบัวทองใต้บาดาลเป็นกุญแจสําคัญในการฝ่าขั้นที่สามของการบ่มเพาะในระดับธาตุทั้งห้าของข้า ข้าจะปรึกษาคนอื่นเพื่อดูว่ามีความช่วยเหลือใดใกล้กับเมืองเกาฉานหรือไม่"
[58] : "ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน ข้าจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้"
[59] : "ว่าอย่างไรนะ ดอกบัวทองใต้บาดาลงั้นหรือ เจ้าค้นพบมันได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ช่างน่าทึ่งมาก"
คนที่ชื่อ 59 โผล่มาอีกครั้ง แต่ชูเหลียงเลือกที่จะไม่สนใจ
เขาอดทนรอคำตอบจาก อสูร เพียงอย่างเดียวในตอนนี้
การตัดสินใจสอบถามเข้าไปในมิติแลกเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
เนื่องจากดอกบัวทองใต้บาดาลเป็นของสำคัญสำหรับมนุษย์ผู้บ่มเพาะ มันไม่น่าจะมีค่าแต่อย่างใดต่อเหล่าปีศาจ
แต่เนื่องจากทูตปีศาจได้ช่วงชิงของสิ่งนี้และก่ออาชญากรรมร้ายแรง มันไม่น่าจะเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนาน
ผู้ที่ต้องการของชิ้นนี้น่าจะเป็นผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับมนตร์ดําคาถายาพิษหรือเส้นทางชั่วร้ายอื่น ๆ
เมื่อพิจารณาจากการเดินทาง พฤติกรรม และนิสัยของทูตปีศาจตนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมุ่งเป้าไปที่การบงการและติดสินบนผู้คนด้วยสิ่งของที่ถูกเขาขโมยและแย่งชิงไป
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถติดตามทูตปีศาจได้ แต่ผู้ทูตปีศาจต้องการสื่อสารด้วยน่าจะสามารถติดตามได้
และใช้เวลาไม่นานก็ได้รับคำตอบจาก [อสูร]
[อสูร] : "ข้อได้ถามคนอื่นๆ แล้ว ไม่มีใครที่พอช่วยได้เลย แต่เขาให้ข้อมูลบางอย่างมา หากเจ้าต้องการข้อมูลในเมืองเกาฉาน เจ้าสามารถไปที่โรงเตี๊ยมของคุณนายกู่ได้"
อย่างที่เขาคาดไว้
พี่น้องของเขาที่มาจากโลกมืดนั้นเชื่อถือได้
แม้ว่าเขาจะต้องไปหาข้อมูลเองอีกที แต่ก็ยังดีกว่าการไม่มีเบาะแสใดๆ เลย
[58] : โรงเตี๊ยมของคุณนายกู่ ขอบคุณขอรับ ข้าจะไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้
[อสูร] : "พวกเจ้าได้พยายามอย่างมากสำหรับเรื่องนี้ แน่นอนความพยายามของพวกเจ้าจะไม่สูญเปล่าเมื่อข้าบรรลุความสำเร็จ ไม่ว่าสิ่งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ข้าขอขอบคุณในความพยายามของพวกเจ้า"
[58] : "ท่านมิจำเป็นต้องสุภาพถึงเพียงนี้ นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ"
[59] : "สุดยอด"
ชูเหลียงเก็บเหรียญผู้ปราบวิญญาณและไปหายุนเชาเสี้ยน
"ข้าว่าจะออกไปหาข้อมูลเสียหน่อย รอข้าที่นี่นะ"
สถานการณ์ในโรงเตี๊ยมไม่ชัดเจน มันไม่ฉลาดเลยที่จะพายุนเชาเสี้ยนไปด้วย หากชูเหลียงเผลอเปิดเผยบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับนิกายกษัตริย์มืด การชี้แจงสิ่งต่างๆ คงจะเป็นเรื่องที่ยากมาก
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ยุนเชาเสี้ยนจึงถามว่า “จะไปหาข้อมูลได้ที่ใดหรือ”
“เพื่อนของข้าคนหนึ่งให้เบาะแสมาแล้วว่าพอจะหาข้อมูลในเมืองนี้ได้ที่ใด” ชูเหลียงตอบ
"งั้นหรือ" ยุนเชาเสี้ยนพยักหน้า เขากล่าวเสริมต่อไปว่า "ต้องขอบคุณเพื่อนของเจ้าเป็นอย่างดีเลย"
ชูเหลียงยิ้ม
มิจำเป็น เขาก็เพิ่งขอบคุณข้าเช่นกัน