250 (ฟรี)
250 (ฟรี)
จากนั้น ทั้งสองก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ
แต่เนื่องจากหลี่รั่วเฟิงและบอดี้การ์ดทั้ง 4 คนบาดเจ็บ จึงต้องรีบไปโรงพยาบาล
หลินเป่ยฝานไปส่งพวกเขาขึ้นรถ
ก่อนจากไป หลี่รั่วเฟิงเหลือบมองเย่ซิงเฉินและอู๋เกอ
เย่ซิงเฉินและอู๋เกอรู้สึกหวั่นใจ
เวรเอ๊ย!
เขาคงไม่โกรธพวกเราหรอกนะ?
แบบนี้พวกเราต่อยผิดคนหรือเปล่า?
รถของหลี่รั่วเฟิงขับออกไป หลินเป่ยฝานโบกมือลา “เดินทางปลอดภัยนะ”
ทันใดนั้น ฉู่รั่วเสวี่ยก็ดึงแขนหลินเป่ยฝานและถามอย่างสงสัย “พวกนายคุยอะไรกันในห้อง? ทำอะไรกัน? ทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นเพื่อนกัน? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้!”
เย่ซิงเฉินและอู๋เกอก็แอบฟัง
พวกเขาก็สงสัยเหมือนกันว่าหลินเป่ยฝานใช้วิธีไหนถึงปราบหลี่รั่วเฟิงลงได้
หลินเป่ยฝานยักไหล่ “ก็ไม่ได้คุยอะไรมากหรอก ฉันแค่ดุเขาไปนิดหน่อย แล้วเขาก็สำนึกผิด พวกเราเลยคืนดีกัน”
“โกหก!” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าเขาใจดีขนาดนั้น เขาคงไม่โมโหหรอก!”
“จริงด้วย!” เย่ซิงเฉินและอู๋เกอพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่ได้โกหกนะ งั้นเธอคิดว่าเป็นเพราะอะไรล่ะ?”หลินเป่ยฝานทำหน้าซื่อๆ
“ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก!” ฉู่รั่วเสวี่ยสะบัดแขนหลินเป่ยฝานอย่างไม่พอใจ
จากนั้น หลินเป่ยฝานก็หันไปพูดกับเย่ซิงเฉินและอู๋เกอด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้ขอบคุณพี่น้องมากนะ ถ้าไม่มีพวกคุณช่วยเรื่องคงบานปลายไปใหญ่ ขอบคุณมากจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ พวกผมเต็มใจช่วย”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก”
เย่ซิงเฉินและอู๋เกอโบกมือ
“โดยเฉพาะเย่ซิงเฉิน!” หลินเป่ยฝานตบบ่าเย่ซิงเฉิน “เมื่อกี้คุณเป็นคนที่พุ่งเข้าไปช่วยคนแรกและจัดการคู่ต่อสู้ได้เร็วที่สุด ทำให้พวกเราปลอดภัยขอบคุณมากจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง” เย่ซิงเฉินพูดอย่างภาคภูมิใจ
เขาแอบมองฉู่รั่วเสวี่ยหวังว่าจะได้รับคำชมจากเธอ
แต่ฉู่รั่วเสวี่ยกลับพูดอย่างเย็นชา “หลินเป่ยฝานนายจะขอบคุณอู๋เกอก็แล้วไป ทำไมต้องขอบคุณเย่ด้วย?”
หลินเป่ยฝานทำหน้างง “เย่ซิงเฉินช่วยพวกเราขนาดนี้ ทำไมจะขอบคุณไม่ได้?”
เย่ซิงเฉินก็งงเหมือนกัน เขาทำอะไรให้ฉู่รั่วเสวี่ยไม่พอใจ
เขาก็แค่ปกป้องพวกเขามันผิดตรงไหน?
ฉู่รั่วเสวี่ยจ้องเย่ซิงเฉินและพูดอย่างไม่พอใจ “เย่ซิงเฉินฉันถามนายว่าเมื่อกี้นายไปต่อยคุณชายหลี่ทำไม?”
เย่ซิงเฉินทำหน้างง “ผมทำแบบนั้น…มันผิดเหรอ?”
“นายยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าทำผิด?” ฉู่รั่วเสวี่ยถามอย่างดุเดือด “ฉันถามหน่อย นายจะต่อยบอดี้การ์ดของเขาก็แล้วไป ทำไมต้องไปต่อยเขาด้วย?”
เย่ซิงเฉิน “ผมก็แค่ปกป้องคุณ!”
“ปกป้องฉัน? นายเกือบจะทำให้พวกเราตายรู้ไหม?” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดอย่างโมโห “นายรู้ไหมว่าคุณชายหลี่เป็นใคร? เขามีภูมิหลังยังไง? เขามีอำนาจมากแค่ไหน?”
เย่ซิงเฉินพูดเสียงเบา “ผมไม่รู้ ...”
“ฉันบอกให้ก็ได้ ถ้าเขาเป็นอะไรไปพวกเราทั้งหมดไม่มีทางรอดแน่!” ฉู่รั่วเสวี่ยโกรธมาก “การกระทำของนายมันโง่เง่ามาก! ฉันไม่เคยเจอคนที่โง่แบบนายมาก่อนเลย! ใกล้จะสามสิบแล้วยังทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง น่าสมเพชจริงๆ! คราวหน้าก่อนจะทำอะไรหัดใช้สมองคิดบ้าง อย่าทำอะไรตามใจตัวเอง!”
เย่ซิงเฉินโดนด่าจนหน้าชา!
หัวใจของเขาเย็นเยียบ
เขาทำดีขนาดนี้ แต่ฉู่รั่วเสวี่ยกลับยิ่งเกลียดเขา?
ทำไมกัน?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
หลินเป่ยฝานจึงเข้ามาไกล่เกลี่ย “พอแล้ว พอแล้ว เย่ซิงเฉินก็แค่อยากจะช่วยเท่านั้นเอง เจตนาดีนะ”
“เจตนาดีแต่ทำเรื่องดีให้กลายเป็นเรื่องแย่ แบบนี้น่ารำคาญยิ่งกว่าคนเลวซะอีก! พวกเราต้องอยู่ให้ห่างจากคนแบบนี้ ไม่งั้นโดนฟ้าผ่าตายไปด้วยแน่!” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดอย่างไม่พอใจ
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย
“เทียบกับเย่ซิงเฉินแล้ว หลินเป่ยฝาน นายทำได้ดีกว่าเยอะ”
ฉู่รั่วเสวี่ยตบบ่าหลินเป่ยฝานเบาๆด้วยแววตาชื่นชม “ตอนแรกฉันคิดว่าเรื่องนี้คงจบไม่สวยแน่ๆ แต่นายกลับจัดการได้ภายในไม่กี่นาที นี่แหละถึงเรียกว่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่!”
“อืม เยี่ยมจริงๆนั่นแหละ เสี่ยวหลิน ฉันเชื่อในตัวนายนะ”
หลินเป่ยฝานปัดมือเธอออก “อย่ามาฉวยโอกาสแบบนี้สิ”
ฉู่รั่วเสวี่ยถามอีกครั้ง “ว่าแต่พวกนายคุยอะไรกันในห้อง ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปแบบนั้น?”
“ไม่บอก” หลินเป่ยฝานพูดอย่างใจเย็น เขาหันหลังเดินกลับไปที่ห้องอาหาร
“บอกมาเถอะฉันอยากรู้จริงๆ” ฉู่รั่วเสวี่ยวิ่งตามไป
“ไม่บอก” หลินเป่ยฝานส่ายหน้า
“บอกมาเดี๋ยวนี้! อยากโดนฉันต่อยหรือไง?” ฉู่รั่วเสวี่ยชูกำปั้น
“ไม่กลัวหรอก”
ทั้งสองเดินจากไป
เย่ซิงเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองไปข้างหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า หัวใจของเขาเย็นเยียบ
อู๋เกอตบบ่าเขาอย่างเห็นใจ “ฉันรู้ว่านายเสียใจ อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ! ร้องออกมาจะได้สบายใจขึ้น มีคำกล่าวที่ว่าผู้ชายก็ร้องไห้ได้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย!”
เย่ซิงเฉินโผเข้ากอดอู๋เกอและร้องไห้โฮออกมา
เขาร้องไห้อย่างหนัก!
เขาร้องไห้อย่างน่าเวทนา!
ใครได้ยินก็ต้องร้องไห้ตาม!
แต่อู๋เกอกลับตกใจ
“เฮ้ย! จะร้องไห้ก็ร้องไปสิ มากอดฉันทำไม? ออกไปไกลๆเลยเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าพวกเราเป็นเกย์!”
“บ้าเอ๊ย! ไอ้สารเลวอย่าเอาน้ำมูกมาเช็ดเสื้อฉันสิ!”
“เวรเอ๊ย! ยังจะเอาน้ำลายมาป้ายอีก!”
วันนี้ถึงจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นบ้าง แต่หลินเป่ยฝานก็ยังคงสนุกกับการพักผ่อน
ฉู่รั่วเสวี่ยก็มีความสุขเช่นกัน
เธอพบว่าการได้อยู่กับหลินเป่ยฝานทำให้เธอมีความสุขเสมอ
มีแค่สองตัวเอกของเราเท่านั้นที่ไม่มีความสุข
คนหนึ่งร้องไห้จนขาดใจ
อีกคนหนึ่งโดนน้ำมูกและน้ำลายป้ายเต็มหน้า
...
ผ่านไป 3 วัน
หลี่รั่วเฟิงก็มาที่บริษัทของหลินเป่ยฝาน เขานำเอกสารจำนวนหนึ่งมาให้หลินเป่ยฝาน
“เรื่องแรกที่นายให้ทำ ฉันทำเสร็จแล้ว! ถ้านายจ่ายเงิน 8,000 ล้านหยวนนายจะได้หุ้น 51% ของบริษัทต้าเฟิงนิวเอเนอร์จี้ออโตโมบิล ราคานี้ถูกมากแล้วนะ”
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลินเป่ยฝานรู้สึกประหลาดใจ
“แน่นอนสิ มีฉันลงมือเอง ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก” หลี่รั่วเฟิงพูดอย่างภาคภูมิใจ
“เหนื่อยหน่อยนะ” หลินเป่ยฝานยิ้ม