เจ้าหน้าที่หมายเลข 28 [ฟรี]
ตอนที่ 28
นาตาชา โรมานอฟ!
"อ๊ะ!"
ผู้หญิงที่ถูกลีออนชนเซไปด้านหลังเล็กน้อย
ส่วนลีออนก็เซไปด้านหลังเช่นกัน!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะล้มลงมือของลีออนก็ยื่นออกไปด้านหน้าโดยไม่รู้ตัวโอบที่เอวบางของเธอเอาไว้
ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะพยายามหลบมือของลีออนแต่มันก็ไม่ทันเนื่องจากมือของลีออนนั้นมันเร็วมาก พร้อมกับเสื้อโค้ทที่อยู่ในมือของเธอที่หล่นลงกับพื้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่มีเวลามาสนใจเสื้อโค้ทที่ตกลงกับพื้น
ดวงตาของพวกเขาประสานเข้าหากัน ดวงสีฟ้าของลีออนประสานเข้ากับดวงตาสีฟ้าอีกคู่หนึ่งที่ซ่อนความลึกลับเอาไว้มากมายภายในนั้น
ภายใต้แววตานั้นลีออนสามารถรู้สึกได้ถึงความสงสัย ความประหลาดใจ และร่องรอยของความสับสน . . .
ดวงตาของหญิงสาวตรงหน้าเหมือนกับหลุมดูดวิญญาณที่ทำให้ลีออนตกตะลึงไปชั่วขณะจนกระทั่งได้ยินเสียงของหญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้นมาว่า "เอ่อ . . . ช่วยปล่อยฉันหน่อยได้ไหมคะ?"
"อ๊ะ! ขอโทษครับ"
เมื่อนึกได้ว่ามือของตัวเองกำลังโอบเอวของหญิงสาวอยู่ลีออนก็รีบปล่อยมือของเขาอย่างรวดเร็ว
จนถึงตอนนี้ลีออนก็ยังไม่สามารถมองเห็นหน้าอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนเลย
แต่มันไม่สำคัญว่าเขาจะเห็นใบหน้าของเธอได้ชัดเจนหรือไม่ เพราะแค่ภาพตรงหน้ามันก็ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว และรูม่านตาก็ขยายขึ้นหลายครั้งหลายคราว!
ผมหยิกแสงสลวยให้ความรู้สึกเย็นชากับใบหน้าที่มีเสน่ห์
ริมฝีปากสีแดงสด สันจมูกสูงเข้ารูปชวนให้คนเหลียวมอง
ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้หัวใจของลีออนเต้นรั่ว และอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมาเป็นสำนวนในใจว่า ‘ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย’ [1]
หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนี้ตรงหน้าของเขาดูเหมือนกับแบล็ควิโดว์ภายในใจของเขาทุกประการ!
นอกจากนี้ด้วยชื่อ "นาตาชา โรมานอฟฟ์ และค่าความชอบ : เฉยชา" ที่อยู่บนหัวของอีกฝ่ายลีออนก็รู้ได้ทันทีเลยว่าหญิงสาวคนสวยตรงหน้าของเขาคือคนที่เขาอยากเจอมากที่สุดและตามหามาตลอด ‘แบล็ควิโดว์’ นาตาชา โรมานอฟฟ์!
แน่นอนว่าลีออนไม่ได้สังเกตเลยว่าการจ้องมองของเขาและสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสำหรับอีกฝ่ายมันค่อนข้างหยาบคายมาก
หญิงสาวตรงหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อยเปิดริมฝีปากสีแดงสดของเธอพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "ไม่เป็นไรค่ะ . . . "
หลังจากพูดจบหญิงสาวก็ก้มตัวลงไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อหยิบเสื้อโค้ทของเธอที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
ในขณะเดียวกันลีออนที่พบเป้าหมายของเขาเรียบร้อยแล้วและเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะก้มลงไปหยิบเสื้อโค้ท ลีออนก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและก้มลงไปหยิบเสื้อโค้ทของหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ลีออนยื่นเสื้อโค้ทให้กับอีกฝ่ายพร้อมกับแสดงรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ประจำตัว "เสื้อโค้ทของคุณครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
หญิงสาวตรงหน้ารับเสื้อโค้ทมาจากลีออนพร้อมกับขอบคุณก่อนที่เธอจะหันหลังเดินจากไป
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของหญิงสาวที่ค่อย ๆ ไกลออกไปเรื่อย ๆ ลีออนก็ยิ่งมองอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างลับ ๆ "ฟิตซ์ หวังว่าของเล่นของนายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง . . . "
. . . . . .
ทันทีที่หญิงสาวเดินออกมาจากโรงละครโอเปร่า นาตาชา โรมานอฟฟ์ก็หันกลับไปมองทางโรงละครโอเปร่าด้วยความสงสัยเล็กน้อย
"ผู้ชายคนนั้น . . . "
เธอรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
นาตาชายืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ในที่สุดเธอจะส่ายหัวปล่อยวางความคิดอันยุ่งเหยิงภายในหัวของเธอและพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ว่า "บางทีฉันอาจจะกังวลมากเกินไป . . . "
จากนั้นเธอก็สวมเสื้อโค้ทและเดินไปยังที่พักซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึกภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิด
หลังจากนาตาชาเดินออกไปจากบริเวณโรงละครโอเปร่ามันก็มีร่างสูงร่างหนึ่งค่อย ๆ เดินออกมาจากเงามืดของประตูโรงละครโอเปร่า
"ให้ตายสิ . . . ฉันเกือบถูกเธอเห็นแล้ว ระมัดระวังตัวสูงใช้ได้ สงสัยฉันจะต้องเดินตามอยู่ห่าง ๆ . . . " ลีออนพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์สีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปิดหาตำแหน่งด้วยดาวเทียม
หลังจากนั้นไม่นานแผนที่สองมิติก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับจุดสีแดงที่กำลังขยับอยู่และจุดสีเขียวที่หยุดนิ่ง
เมื่อเห็นภาพนี้ลีออนก็ยิ้มขึ้นมาอย่างผ่อนคลาย "มาดูกันดีกว่าว่าเธอจะไปที่ไหนต่อ!"
ห้านาทีก่อนหน้านี้ . . .
ภายในโรงละครโอเปร่าพวกเขาได้พูดกันสองสามคำในช่วงเวลาสั้น ๆ
ซึ่งตอนที่เขาก้มลงไปเก็บเสื้อโค้ทให้กับนาตาชา ลีออนได้แอบติดเครื่องติดตามขนาดจิ๋วที่ได้มาจากฟิตซ์กับเสื้อผ้าอีกฝ่ายโดยที่เธอไม่รู้ตัว!
และนี่มันก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรนาตาชาเลยเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากโรงละครโอเปร่า
เพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเขาให้อีกฝ่ายรู้เร็วขนาดนั้น . . .
ด้วยเครื่องติดตามขนาดจิ๋วเขาสามารถค้นหาได้ว่านาตาชาพักอาศัยอยู่ที่ไหนและหลังจากสังเกตเธอเป็นระยะเวลาหนึ่งเขาค่อยไปติดต่อเธออีกครั้งมันก็ยังไม่สายเกินไป
ด้วยแผนการนี้เองลีออนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและตามนาตาชาไปจากระยะไกล
แน่นอนว่าเธอคงคิดไม่ถึงแน่นอนว่าชายที่พบกันครั้งแรกจะติดเครื่องติดตามเอาไว้บนเสื้อโค้ทของเธอ หรือบางทีเธออาจจะไม่ได้สนใจมันเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นานนาตาชาก็กลับไปถึงบ้านพักของเธอ ซึ่ง ‘แบล็ควิโดว์’ ที่เก่งกาจไม่ได้สังเกตเลยว่าห่างออกไปประมาณ 700 เมตรกำลังมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังเฝ้ามองเธออย่างใกล้ชิด
เมื่อเห็นนาตาชาเดินเข้าไปในห้องหนึ่งของอพาร์ตเมนต์ลีออนที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็ลดกล้องส่องทางไกลในมือลงและพึมพำกับตัวเองว่า "ทำไมเธอถึงพักอยู่ที่นี่?"
การหาที่ซ่อนตัวที่มันลึกลับมันคงจะสะดวกกว่ามากในการทำอะไรต่าง ๆ . . .
ลีออนไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับ SHIELD เพื่อขอกำลังเสริมทันที แต่เลือกไปเช่าอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ห่างจากที่พักของนาตาชาไม่กี่ช่วงตึกแทน
เขาอยากรู้ว่าทำไมหลังจากที่เธอถูกหักหลังโดยองค์กร ทำไมเธอถึงอยู่ที่รัสเซียและไม่หนีออกนอกประเทศ?
ซึ่งลีออนรู้สึกว่าการตามหาความจริงอยู่ในเงามืดด้วยตัวเองข้อมูลที่ได้มันน่าจะถูกต้องมากกว่าไปถามกับคนอื่น
ด้วยเหตุนี้เองหลังจากผ่านไปอีกสองสัปดาห์ลีออนก็ยังไม่ได้จงใจเข้าใกล้นาตาชา แต่ใช้อุปกรณ์ไฮเทคที่เขานำมาจากฟิตซ์เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายและบันทึกการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเธอ เพื่อนำข้อมูลพวกนี้มาประติดประต่อกับเบาะแสที่ขาดหายไป
ซึ่งการสังเกตในช่วงเวลาสั้น ๆ ผลลัพธ์มันก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ในฐานะสายลับที่เก่งที่สุดขององค์กร ‘แบล็ควิโดว์’ ไม่ใช่คนที่ประมาทขนาดนั้น
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าที่พักอาศัยของเธอถูกเปิดเผยแล้ว แต่เธอก็สามารถรู้สึกว่ากำลังมีคนตรวจสอบเธออยู่ ดังนั้นด้วยสัญชาตญาณของเธอทำให้แทบจะไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรให้ลีออนเลย
เธอไม่มีการติดต่อกับบุคคลภายนอก!
ไม่มีใครมาที่ห้องของเธอ!
แม้แต่เสียงโทรศัพท์ภายในห้องก็ไม่เคยดังขึ้นมาเลยสักครั้ง
ข้อมูลที่ถูกบันทึกในสมุดของลีออนมีเพียงแค่นิสัยบางอย่าง การใช้ชีวิต เวลาทำงาน และเวลาการพักผ่อน
ยกตัวอย่างเช่น นาตาชาชอบดื่มนมร้อนหนึ่งแก้วก่อนนอน . . .
ตื่นตอน 6 โมงเช้าทุกครั้งเพื่อออกไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า . . .
ไปโรงละครโอเปรร่าสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อดูการซ้อม . . .
แม้แต่ลีออนก็ยิ้มขึ้นมาอย่างบิดเบี้ยวเมื่อเห็นข้อมูลในสมุดบันทึก และอดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นมาว่า "ฉันกำลังอะไรอยู่เนี้ย?! ทำไมฉันถึงดูเหมือนพวกสตอล์คเกอร์เลย . . . "
ในขณะที่ลีออนกำลังลังเลว่าเขาควรไปคุยกับนาตาชาต่อหน้าด้วยตัวเองดีหรือไม่ ทันใดนั้นมันก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเขา!
[1] ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย หมายถึง พยายามหาแทบตายไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจ กลับได้มาง่ายๆ แบบคาดไม่ถึง
โปรดติดตามตอนต่อไป …