ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 400 ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 400 ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น
"นี่คือ..."
กู่หยางคิดในใจ จากนั้นก็หยิบม้วนภาพสีเหลืองซีดแผ่นนั้นออกมาทันที
อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ของพวกนี้...
เขายังพอจำได้อยู่บ้าง
ยังเป็นแผนที่ขุมทรัพย์ที่เขาได้รับมาโดยบังเอิญ หลังจากที่เขาปราบโจรภูเขาวายุทมิฬสมัยที่ยังอยู่สำนักเมฆาคล้อย
แค่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้
ท้ายที่สุด ตอนนั้นเขายังออกจากดินแดนมรกตไม่ได้
เวลาผ่านไปนาน... เขาถึงกับลืมเรื่องแผนที่ขุมทรัพย์นี้ไปโดยสิ้นเชิง
"แต่ว่า...แผนที่ขุมทรัพย์นี้ คงไม่ได้มีของดี ๆ อะไรมาก" กู่หยางก็ส่ายหัว ไม่ค่อยคาดหวังมากนัก
แน่นอน
ยังไงตอนนี้ก็ว่างอยู่แล้ว
ด้วยความเบื่อหน่าย กู่หยางจึงชะงักไปเล็กน้อย
ก่อนจะจดจ่อทันที
แววตาสีทองส่องประกายออกมา
กู่หยางจ้องมองม้วนภาพสีเหลืองซีดในมืออย่างเข้มข้น
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น
ข้อมูลมากมายก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
[ม้วนภาพที่มีเครื่องหมายอยู่ เป็นของผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรนิรนามผู้หนึ่งวาดเอาไว้เมื่อหลายพันปีก่อน สถานที่ที่บันทึกไว้ในม้วนภาพ คือที่ซึ่งผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรผู้นั้นบังเอิญหลุดเข้าไปตอนท่องเที่ยว เพราะสภาพแวดล้อมข้างในแปลกประหลาด พลังอำนาจที่แผ่ออกมาก็แปลกพิสดาร ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรจึงรีบร้อนจากไป แล้วบันทึกเรื่องราวไว้บนม้วนภาพที่พกติดตัว...]
ข้อมูลที่มาของม้วนภาพนั้นชัดเจนมาก
แต่เมื่อเห็นเนื้อหา
กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
"สถานที่แปลกประหลาด"
เห็นได้ชัดว่า เพียงพึ่งพาม้วนภาพแผ่นนี้ คงจะยากที่จะมองออกว่ามีโอกาสล้ำค่าซ่อนอยู่หรือไม่
"ยังไงก็ไม่มีอะไรทำ ไปเที่ยวเล่นดูก็ไม่เลว"
กู่หยางก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสักพักกว่าการแข่งขันหมื่นดินแดนจะเริ่มต้น
ช่วงเวลานี้ก็ไม่มีอะไรต้องทำ
รอจนกว่าฉู่หลิงเอ้อร์ทะลวงผ่านขอบเขตมรณะชีวันระดับ 5 ได้
กู่หยางจึงเตรียมตัวจะพาฉู่หลิงเอ้อร์ไปยังสถานที่ที่บันทึกไว้บนม้วนภาพแผ่นนี้ดูสักครั้ง
"ท่านพี่ พวกเราจะไปที่ไหนกัน"
หลังจากบอกกล่าวกับเหอชิงเซวียนแล้ว กู่หยางก็ฉีกห้วงมิติโดยตรง มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่บันทึกไว้บนม้วนภาพ
ฉู่หลิงเอ้อร์ก็กระพริบตาอย่างสงสัย ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้
"ไปเที่ยวเล่น ผ่อนคลายบ้าง"
"ฝึกฝนมานาน ก็ควรพักเสียบ้าง"
กู่หยางพูดพร้อมยิ้ม
"นี่... เรียกว่าออกเดทหรือ"
ได้ยินแบบนี้ ใบหน้าจิ้มลิ้มของฉู่หลิงเอ้อร์ก็ขึ้นสีแดงระเรื่อทันที
ชายหญิงออกไปเที่ยวเล่น ก็เรียกได้ว่าออกเดทไม่ใช่หรือ?
"ถือว่าใช่ละกัน"
ได้ยินเช่นนี้ กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นก็ดึงฉู่หลิงเอ้อร์เข้ามาในอ้อมกอด
ด้วยความเร็วในการเดินทางของกู่หยาง
มาถึงพื้นที่ที่บันทึกเอาไว้บนม้วนภาพ...
ฟึ่บ!
เหนือท้องฟ้าของเทือกเขาที่ทอดยาวอย่างไม่มีชื่อ
เห็นได้ชัดว่าห้วงมิติเหมือนผิวน้ำ เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ถัดมา ห้วงมิติก็ถูกฉีกขาด
ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งก็ก้าวออกมาจากข้างใน
"ท่านที่ ที่นี่คือสถานที่ที่ท่านพูดถึงหรือ? ดูเหมือนจะไม่มีผู้คนเลย"
ฉู่หลิงเอ้อร์ยืนอยู่กลางอากาศ ตอนนี้ได้ควบคุมพลังของตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว นางมองดูรอบ ๆ อย่างสงสัย
"อืม... ก็ดูเหมือนจะรกร้างจริง ๆ"
กู่หยางยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้า
สายตาสอดส่องไปยังเทือกเขาที่ทอดยาวเบื้องล่าง
ไม่เห็นแม้แต่สีเขียว
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่...รกร้าง!
ไม่ต้องพูดถึงร่างผู้คน แม้แต่เงาร่างของสัตว์อสูรยังมองไม่เห็น
มองไปสุดลูกหูลูกตา ก็เห็นแต่...เวิ้งว้าง!
ฉากนี้ทำเอากู่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย
ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรที่ไหนจะวิ่งมาเที่ยวเล่นที่แบบนี้
พื้นที่เวิ้งว้างแบบนี้ จะมีทิวทัศน์อะไรให้ดู
กู่หยางอดสงสัยไม่ได้
แต่พอคิดดู ๆ
ม้วนภาพนี้เป็นของหลายพันปีก่อน
บางทีหลายพันปีก่อน...
เทือกเขานี้...อาจจะเขียวขจีก็ได้
แค่โลกแฟนตาซี ต้นไม้และสัตว์อสูรล้วนมีอายุขัยที่น่ากลัว
ถึงแม้จะผ่านไปหลายพันปี ที่นี่ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้
กู่หยางส่ายหัว
ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก
ต่อมาแววตาของเขาก็ส่องแสงสีทองออกมา
เห็นเส้นบาง ๆ พุ่งออกมาจากม้วนภาพนั้น ก่อตัวเป็นเส้นทางกลางอากาศ พุ่งตรงไปยังส่วนลึกของเทือกเขา
เห็นเช่นนี้ กู่หยางจึงพาฉู่หลิงเอ้อร์ติดตามไป
พวกเขาติดตามเส้นบาง ๆ ที่มองไม่เห็นนั้น เดินทางวนเวียนไปมาในเทือกเขานี้
ณ เวลานี้ กู่หยางและฉู่หลิงเอ้อร์ก็ยืนอยู่เชิงหุบเขาที่เวิ้งว้าง
มองไปตรงหน้า
ไม่เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดใด ๆ
เป็นเพียง...หุบเขาธรรมดา ๆ เท่านั้น
ฉู่หลิงเอ้อร์กระพริบตา
อดไม่ได้ที่จะมองไปทางกู่หยางด้วยความสงสัย
"ท่านพี่ ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนี่"
กู่หยางหัวเราะเบา ๆ
"ไม่ใช่อย่างนั้น"
ในสายตาของกู่หยาง
พลังอำนาจที่นี่ชัดเจนว่าแตกต่างจากห้วงมิติโดยรอบ
และถ้าอยากจะสัมผัสถึงจุดนี้...
ต้องละเอียดอ่อนมากในห้วงมิติ!
แถมต้องสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ไม่เช่นนั้น...
คงพลาด!
"ค่ายกลลึกลับสินะ"
แววตาของกู่หยางส่องประกาย
เดิมทีเขาไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีของดี ๆ อะไร
ท้ายที่สุด ก็เป็นเพียงแค่สถานที่ที่ดูแปลกประหลาดเท่านั้น
จะมีของดี ๆ ได้อย่างไร?
แต่ตอนนี้...
เขาไม่คิดแบบนั้นแล้ว
ที่นี่กลายเป็นเวิ้งว้างก็ต้องมีเหตุผล!
และสาเหตุ... ก็เพราะว่า ค่ายกลใหญ่โตมหึมาที่ซ่อนอยู่ตรงหน้า!
"น่าสนใจ ข้าอยากจะดูสักหน่อย... ว่าการสร้างค่ายกลลึกลับขนาดใหญ่แบบนี้ต้องการปกปิดอะไรเอาไว้"
กู่หยางยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้ความสามารถด้านค่ายกลของเขาเรียกได้ว่าเหนือกว่าปรมาจารย์ค่ายกลทั้งหมดแล้ว
ค่ายกลแบบนี้ในสายตาของเขา... การแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
ฉู่หลิงเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างกระพริบตา ใบหน้างามเต็มไปด้วยความสงสัย
เห็นได้ชัดว่า นาง...ไม่เข้าใจเลย
แต่ฟังท่านพี่พูดแบบนั้น... ดูเหมือนว่าที่นี่จะต้องมีอะไรบางอย่างอยู่จริง ๆ
มันจะเป็นอะไรกัน
ส่วนกู่หยาง...ตอนนี้ก็สัมผัสถึงตำแหน่ง 'ตา' ของค่ายกลได้แล้ว
หากอยากจะเปิดค่ายกลลึกลับนี้ เพียงแค่ทำลาย 'ตา' ของค่ายกล
แต่ก่อนจะทำเช่นนั้น...
กู่หยางไม่ได้รีบร้อนที่จะทำลาย 'ตา' ของค่ายกล
ท้ายที่สุด หากทำลายลง ใครจะรู้ว่าข้างในจะปลดปล่อยอะไรออกมา
ดังนั้นก่อนจะลงมือ
แววตาของกู่หยางก็เปล่งประกายสีทอง
เขากระตุ้นพลังโชคชะตา ตรวจสอบค่ายกลลึกลับนี้โดยตรง
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น ข้อความมากมายก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
กู่หยางมองอย่างละเอียด ม่านตาก็อดย่นลงเล็กน้อย
[ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น, ค่ายกลนี้เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งลงมือสร้างเองเมื่อล้านปีก่อน! เพื่อปกปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามโลกที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่งไว้ที่นี่! หากเปิดออก...อาจจะดึงดูดภัยพิบัติ...]
เมื่อเห็นเนื้อหาชัดเจนแล้ว
กู่หยางก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
"ยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สร้างเอง แถมยังเป็น...ของล้านปีก่อน”
"เพื่อปกปิด...แค่ค่ายกลเคลื่อนย้าย"
กู่หยางสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ค่ายกลเคลื่อนย้าย...
ที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่ง
"หรือจะเป็น...โลกเบื้องบนที่ไป๋อวี่เยว่พูดถึง"
กู่หยางหรี่ตาลงเล็กน้อย
เดิมทีเขายังคิดว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงการเที่ยวเล่น ไม่คิดเลยว่า...
จะได้รับสิ่งที่ไม่คาดคิดเช่นนี้
ค่ายกลลึกลับยิ่งใหญ่ และ... ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่ง!
"แถมถ้าเปิด...ยังจะดึงดูดภัยพิบัติอีกหรือ"
กู่หยางชะงักไปเล็กน้อย
ครุ่นคิดแล้วก็ไม่ได้รีบร้อนทำลาย 'ตา' ของค่ายกล
ท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่รู้ว่า... อีกโลกหนึ่งนั้น เป็นอย่างไร แล้วยอดฝีมือในนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน
"ค่อยว่ากันวันหลังละกัน"
"แต่ฝีมือสร้างค่ายกลของยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก"
กู่หยางเหลือบมองรอบ ๆ
เห็นได้ชัดว่า สาเหตุที่รอบ ๆ กลายเป็นเวิ้งว้างเช่นนี้... เป็นเพราะค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่นนี้
หากต้องการให้ค่ายกลดำเนินการต่อไป ธรรมชาติก็ต้องมีพลังงาน
"เห็นได้ชัดเกินไป"
กู่หยางส่ายหัว
ต่อมาเขาก็โบกมือใหญ่ เริ่มจัดค่ายกลลึกลับรอบ ๆ ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น
ไม่อย่างนั้น หากมีผู้แข็งแกร่งมาถึง แน่นอนว่าจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของพลังห้วงมิติโดยรอบ
เช่นนั้น...โอกาสที่ค่ายกลจะถูกเปิดเผยก็จะมากยิ่งขึ้น
ส่วนค่ายกลที่เขาจัด... คือการปกปิดรอบข้าง
หลังจากจัดเสร็จ
กู่หยางจึงยืนอยู่กลางอากาศอีกครั้ง
"อืม แบบนี้ก็ดีแล้ว"
หลังจากกู่หยางจัดค่ายกลปกปิด
ห้วงมิติรอบ ๆ ก็กลายเป็นปกติ
แม้ว่าจะมีผู้แข็งแกร่งที่ละเอียดอ่อนมากในห้วงมิติมาถึงที่นี่ พวกเขาก็ไม่มีทางมองออกว่าใกล้ ๆ มีค่ายกลลึกลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่!
จัดการเสร็จแล้ว กู่หยางก็กลับมาข้าง ๆ ฉู่หลิงเอ้อร์
"ท่านพี่ เป็นอย่างไรบ้าง"
ฉู่หลิงเอ้อร์หน้าตาเต็มไปด้วยความดีใจ ถามด้วยความสงสัย
"อืม ที่นี่ก็มีอะไรบางอย่างจริง ๆ แต่ว่า... ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะไปสัมผัสมัน"
กู่หยางพูดพร้อมยิ้ม
"ไว้โอกาสหน้าค่อยมาอีกที"
"อือ ๆ"
ฉู่หลิงเอ้อร์พยักหน้ารัว ๆ
จริง ๆ แล้วใบหน้างามของนางเต็มไปด้วยความงุนงง
แต่นางก็ไม่ได้สนใจ
ตราบใดที่ได้อยู่ข้าง ๆ ท่านพี่ นั่นคือเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้ว
จดจำตำแหน่งของค่ายกลลึกลับนี้แล้ว กู่หยางจึงพาฉู่หลิงเอ้อร์ออกเดินทาง
[TL: ปรับสำนวนนะครับ ท่านพี่ ใช้แทนสามีนะครับ]