ตอนที่แล้วระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 399 สามบุปผามัสดก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 401 การแข่งขันหมื่นดินแดนจะเริ่มขึ้นแล้ว

ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 400 ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น


ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 400 ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น

"นี่คือ..."

กู่หยางคิดในใจ จากนั้นก็หยิบม้วนภาพสีเหลืองซีดแผ่นนั้นออกมาทันที

อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ของพวกนี้...

เขายังพอจำได้อยู่บ้าง

ยังเป็นแผนที่ขุมทรัพย์ที่เขาได้รับมาโดยบังเอิญ หลังจากที่เขาปราบโจรภูเขาวายุทมิฬสมัยที่ยังอยู่สำนักเมฆาคล้อย

แค่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้

ท้ายที่สุด ตอนนั้นเขายังออกจากดินแดนมรกตไม่ได้

เวลาผ่านไปนาน... เขาถึงกับลืมเรื่องแผนที่ขุมทรัพย์นี้ไปโดยสิ้นเชิง

"แต่ว่า...แผนที่ขุมทรัพย์นี้ คงไม่ได้มีของดี ๆ อะไรมาก" กู่หยางก็ส่ายหัว ไม่ค่อยคาดหวังมากนัก

แน่นอน

ยังไงตอนนี้ก็ว่างอยู่แล้ว

ด้วยความเบื่อหน่าย กู่หยางจึงชะงักไปเล็กน้อย

ก่อนจะจดจ่อทันที

แววตาสีทองส่องประกายออกมา

กู่หยางจ้องมองม้วนภาพสีเหลืองซีดในมืออย่างเข้มข้น

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น

ข้อมูลมากมายก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า

[ม้วนภาพที่มีเครื่องหมายอยู่ เป็นของผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรนิรนามผู้หนึ่งวาดเอาไว้เมื่อหลายพันปีก่อน สถานที่ที่บันทึกไว้ในม้วนภาพ คือที่ซึ่งผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรผู้นั้นบังเอิญหลุดเข้าไปตอนท่องเที่ยว เพราะสภาพแวดล้อมข้างในแปลกประหลาด พลังอำนาจที่แผ่ออกมาก็แปลกพิสดาร ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรจึงรีบร้อนจากไป แล้วบันทึกเรื่องราวไว้บนม้วนภาพที่พกติดตัว...]

ข้อมูลที่มาของม้วนภาพนั้นชัดเจนมาก

แต่เมื่อเห็นเนื้อหา

กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"สถานที่แปลกประหลาด"

เห็นได้ชัดว่า เพียงพึ่งพาม้วนภาพแผ่นนี้ คงจะยากที่จะมองออกว่ามีโอกาสล้ำค่าซ่อนอยู่หรือไม่

"ยังไงก็ไม่มีอะไรทำ ไปเที่ยวเล่นดูก็ไม่เลว"

กู่หยางก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก

ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสักพักกว่าการแข่งขันหมื่นดินแดนจะเริ่มต้น

ช่วงเวลานี้ก็ไม่มีอะไรต้องทำ

รอจนกว่าฉู่หลิงเอ้อร์ทะลวงผ่านขอบเขตมรณะชีวันระดับ 5 ได้

กู่หยางจึงเตรียมตัวจะพาฉู่หลิงเอ้อร์ไปยังสถานที่ที่บันทึกไว้บนม้วนภาพแผ่นนี้ดูสักครั้ง

"ท่านพี่ พวกเราจะไปที่ไหนกัน"

หลังจากบอกกล่าวกับเหอชิงเซวียนแล้ว กู่หยางก็ฉีกห้วงมิติโดยตรง มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่บันทึกไว้บนม้วนภาพ

ฉู่หลิงเอ้อร์ก็กระพริบตาอย่างสงสัย ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

"ไปเที่ยวเล่น ผ่อนคลายบ้าง"

"ฝึกฝนมานาน ก็ควรพักเสียบ้าง"

กู่หยางพูดพร้อมยิ้ม

"นี่... เรียกว่าออกเดทหรือ"

ได้ยินแบบนี้ ใบหน้าจิ้มลิ้มของฉู่หลิงเอ้อร์ก็ขึ้นสีแดงระเรื่อทันที

ชายหญิงออกไปเที่ยวเล่น ก็เรียกได้ว่าออกเดทไม่ใช่หรือ?

"ถือว่าใช่ละกัน"

ได้ยินเช่นนี้ กู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

จากนั้นก็ดึงฉู่หลิงเอ้อร์เข้ามาในอ้อมกอด

ด้วยความเร็วในการเดินทางของกู่หยาง

มาถึงพื้นที่ที่บันทึกเอาไว้บนม้วนภาพ...

ฟึ่บ!

เหนือท้องฟ้าของเทือกเขาที่ทอดยาวอย่างไม่มีชื่อ

เห็นได้ชัดว่าห้วงมิติเหมือนผิวน้ำ เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ถัดมา ห้วงมิติก็ถูกฉีกขาด

ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งก็ก้าวออกมาจากข้างใน

"ท่านที่ ที่นี่คือสถานที่ที่ท่านพูดถึงหรือ? ดูเหมือนจะไม่มีผู้คนเลย"

ฉู่หลิงเอ้อร์ยืนอยู่กลางอากาศ ตอนนี้ได้ควบคุมพลังของตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว นางมองดูรอบ ๆ อย่างสงสัย

"อืม... ก็ดูเหมือนจะรกร้างจริง ๆ"

กู่หยางยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้า

สายตาสอดส่องไปยังเทือกเขาที่ทอดยาวเบื้องล่าง

ไม่เห็นแม้แต่สีเขียว

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่...รกร้าง!

ไม่ต้องพูดถึงร่างผู้คน แม้แต่เงาร่างของสัตว์อสูรยังมองไม่เห็น

มองไปสุดลูกหูลูกตา ก็เห็นแต่...เวิ้งว้าง!

ฉากนี้ทำเอากู่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย

ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรที่ไหนจะวิ่งมาเที่ยวเล่นที่แบบนี้

พื้นที่เวิ้งว้างแบบนี้ จะมีทิวทัศน์อะไรให้ดู

กู่หยางอดสงสัยไม่ได้

แต่พอคิดดู ๆ

ม้วนภาพนี้เป็นของหลายพันปีก่อน

บางทีหลายพันปีก่อน...

เทือกเขานี้...อาจจะเขียวขจีก็ได้

แค่โลกแฟนตาซี ต้นไม้และสัตว์อสูรล้วนมีอายุขัยที่น่ากลัว

ถึงแม้จะผ่านไปหลายพันปี ที่นี่ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้

กู่หยางส่ายหัว

ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก

ต่อมาแววตาของเขาก็ส่องแสงสีทองออกมา

เห็นเส้นบาง ๆ พุ่งออกมาจากม้วนภาพนั้น ก่อตัวเป็นเส้นทางกลางอากาศ พุ่งตรงไปยังส่วนลึกของเทือกเขา

เห็นเช่นนี้ กู่หยางจึงพาฉู่หลิงเอ้อร์ติดตามไป

พวกเขาติดตามเส้นบาง ๆ ที่มองไม่เห็นนั้น เดินทางวนเวียนไปมาในเทือกเขานี้

ณ เวลานี้ กู่หยางและฉู่หลิงเอ้อร์ก็ยืนอยู่เชิงหุบเขาที่เวิ้งว้าง

มองไปตรงหน้า

ไม่เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดใด ๆ

เป็นเพียง...หุบเขาธรรมดา ๆ เท่านั้น

ฉู่หลิงเอ้อร์กระพริบตา

อดไม่ได้ที่จะมองไปทางกู่หยางด้วยความสงสัย

"ท่านพี่ ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนี่"

กู่หยางหัวเราะเบา ๆ

"ไม่ใช่อย่างนั้น"

ในสายตาของกู่หยาง

พลังอำนาจที่นี่ชัดเจนว่าแตกต่างจากห้วงมิติโดยรอบ

และถ้าอยากจะสัมผัสถึงจุดนี้...

ต้องละเอียดอ่อนมากในห้วงมิติ!

แถมต้องสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ไม่เช่นนั้น...

คงพลาด!

"ค่ายกลลึกลับสินะ"

แววตาของกู่หยางส่องประกาย

เดิมทีเขาไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีของดี ๆ อะไร

ท้ายที่สุด ก็เป็นเพียงแค่สถานที่ที่ดูแปลกประหลาดเท่านั้น

จะมีของดี ๆ ได้อย่างไร?

แต่ตอนนี้...

เขาไม่คิดแบบนั้นแล้ว

ที่นี่กลายเป็นเวิ้งว้างก็ต้องมีเหตุผล!

และสาเหตุ... ก็เพราะว่า ค่ายกลใหญ่โตมหึมาที่ซ่อนอยู่ตรงหน้า!

"น่าสนใจ ข้าอยากจะดูสักหน่อย... ว่าการสร้างค่ายกลลึกลับขนาดใหญ่แบบนี้ต้องการปกปิดอะไรเอาไว้"

กู่หยางยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ตอนนี้ความสามารถด้านค่ายกลของเขาเรียกได้ว่าเหนือกว่าปรมาจารย์ค่ายกลทั้งหมดแล้ว

ค่ายกลแบบนี้ในสายตาของเขา... การแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

ฉู่หลิงเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างกระพริบตา ใบหน้างามเต็มไปด้วยความสงสัย

เห็นได้ชัดว่า นาง...ไม่เข้าใจเลย

แต่ฟังท่านพี่พูดแบบนั้น... ดูเหมือนว่าที่นี่จะต้องมีอะไรบางอย่างอยู่จริง ๆ

มันจะเป็นอะไรกัน

ส่วนกู่หยาง...ตอนนี้ก็สัมผัสถึงตำแหน่ง 'ตา' ของค่ายกลได้แล้ว

หากอยากจะเปิดค่ายกลลึกลับนี้ เพียงแค่ทำลาย 'ตา' ของค่ายกล

แต่ก่อนจะทำเช่นนั้น...

กู่หยางไม่ได้รีบร้อนที่จะทำลาย 'ตา' ของค่ายกล

ท้ายที่สุด หากทำลายลง ใครจะรู้ว่าข้างในจะปลดปล่อยอะไรออกมา

ดังนั้นก่อนจะลงมือ

แววตาของกู่หยางก็เปล่งประกายสีทอง

เขากระตุ้นพลังโชคชะตา ตรวจสอบค่ายกลลึกลับนี้โดยตรง

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น ข้อความมากมายก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา

กู่หยางมองอย่างละเอียด ม่านตาก็อดย่นลงเล็กน้อย

[ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น, ค่ายกลนี้เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งลงมือสร้างเองเมื่อล้านปีก่อน! เพื่อปกปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามโลกที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่งไว้ที่นี่! หากเปิดออก...อาจจะดึงดูดภัยพิบัติ...]

เมื่อเห็นเนื้อหาชัดเจนแล้ว

กู่หยางก็มีสีหน้าเคร่งขรึม

"ยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สร้างเอง แถมยังเป็น...ของล้านปีก่อน”

"เพื่อปกปิด...แค่ค่ายกลเคลื่อนย้าย"

กู่หยางสูดหายใจเข้าลึก ๆ

ค่ายกลเคลื่อนย้าย...

ที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่ง

"หรือจะเป็น...โลกเบื้องบนที่ไป๋อวี่เยว่พูดถึง"

กู่หยางหรี่ตาลงเล็กน้อย

เดิมทีเขายังคิดว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงการเที่ยวเล่น ไม่คิดเลยว่า...

จะได้รับสิ่งที่ไม่คาดคิดเช่นนี้

ค่ายกลลึกลับยิ่งใหญ่ และ... ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เชื่อมโยงกับอีกโลกหนึ่ง!

"แถมถ้าเปิด...ยังจะดึงดูดภัยพิบัติอีกหรือ"

กู่หยางชะงักไปเล็กน้อย

ครุ่นคิดแล้วก็ไม่ได้รีบร้อนทำลาย 'ตา' ของค่ายกล

ท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่รู้ว่า... อีกโลกหนึ่งนั้น เป็นอย่างไร แล้วยอดฝีมือในนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน

"ค่อยว่ากันวันหลังละกัน"

"แต่ฝีมือสร้างค่ายกลของยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก"

กู่หยางเหลือบมองรอบ ๆ

เห็นได้ชัดว่า สาเหตุที่รอบ ๆ กลายเป็นเวิ้งว้างเช่นนี้... เป็นเพราะค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่นนี้

หากต้องการให้ค่ายกลดำเนินการต่อไป ธรรมชาติก็ต้องมีพลังงาน

"เห็นได้ชัดเกินไป"

กู่หยางส่ายหัว

ต่อมาเขาก็โบกมือใหญ่ เริ่มจัดค่ายกลลึกลับรอบ ๆ ค่ายกลปิดฟ้าเก้าแก่น

ไม่อย่างนั้น หากมีผู้แข็งแกร่งมาถึง แน่นอนว่าจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของพลังห้วงมิติโดยรอบ

เช่นนั้น...โอกาสที่ค่ายกลจะถูกเปิดเผยก็จะมากยิ่งขึ้น

ส่วนค่ายกลที่เขาจัด... คือการปกปิดรอบข้าง

หลังจากจัดเสร็จ

กู่หยางจึงยืนอยู่กลางอากาศอีกครั้ง

"อืม แบบนี้ก็ดีแล้ว"

หลังจากกู่หยางจัดค่ายกลปกปิด

ห้วงมิติรอบ ๆ ก็กลายเป็นปกติ

แม้ว่าจะมีผู้แข็งแกร่งที่ละเอียดอ่อนมากในห้วงมิติมาถึงที่นี่ พวกเขาก็ไม่มีทางมองออกว่าใกล้ ๆ มีค่ายกลลึกลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่!

จัดการเสร็จแล้ว กู่หยางก็กลับมาข้าง ๆ ฉู่หลิงเอ้อร์

"ท่านพี่ เป็นอย่างไรบ้าง"

ฉู่หลิงเอ้อร์หน้าตาเต็มไปด้วยความดีใจ ถามด้วยความสงสัย

"อืม ที่นี่ก็มีอะไรบางอย่างจริง ๆ แต่ว่า... ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะไปสัมผัสมัน"

กู่หยางพูดพร้อมยิ้ม

"ไว้โอกาสหน้าค่อยมาอีกที"

"อือ ๆ"

ฉู่หลิงเอ้อร์พยักหน้ารัว ๆ

จริง ๆ แล้วใบหน้างามของนางเต็มไปด้วยความงุนงง

แต่นางก็ไม่ได้สนใจ

ตราบใดที่ได้อยู่ข้าง ๆ ท่านพี่ นั่นคือเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้ว

จดจำตำแหน่งของค่ายกลลึกลับนี้แล้ว กู่หยางจึงพาฉู่หลิงเอ้อร์ออกเดินทาง

[TL: ปรับสำนวนนะครับ ท่านพี่ ใช้แทนสามีนะครับ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด