บันไดทราย วิธีประยุกต์ใช้ทักษะที่ไม่คาดคิด (อ่านฟรี 22/08/2567)
“มัน... บินได้ด้วยรึ ?” คริสอดที่จะรู้สึกแปลกใจขึ้นมาไม่ได้
เขามองไปยังร่างของบอสมอนสเตอร์ที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงก้อนเนื้อขนาดใหญ่ แต่ในตอนนี้มันกลับกลายร่างเป็นแมลงมีปีกสีเขียวขนาดยักษ์ไปเสียแล้ว
แถมมันยังจ้องมองมาทางเขาด้วยความอาฆาตอีกด้วย!
แกว๊กกก ฟิ้ววว
บอสมอนสเตอร์ไม่ปล่อยให้ศัตรูของมันได้ตั้งตัวอะไรทั้งสิ้น มันทำการโจมตีด้วยคลื่นลม
อันรุนแรงด้วยปีกของมันทันที คลื่นลมที่มีความคมกริบเหมือนดาบและยากที่จะสังเกตเห็นถูกจู่โจม
เข้าใส่คริสอย่างรวดเร็ว!
โชคดีที่ชายหนุ่มบังคับผงทรายให้ฟุ้งกระจายอยู่รอบตัว เขาใช้การสังเกตว่าผงทรายตรงไหน
ที่แหวกออกเพราะการโจมตีที่กำลังใกล้เข้ามาแล้วหลบการโจมตีเหล่านั้นได้อย่างฉิวเฉียด!
แต่ถึงจะหลบได้ก็ยังมีรอยบาดเกิดขึ้นตามตัวของเขาอยู่บ้างเช่นกัน
“ต้องทำยังไงถึงจะโจมตีมันได้กันนะ? ขืนเป็นแบบนี้ข้าคงถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาลองทั้งขว้างหอก ปาดาบ ปาบอลเพลิง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ถูกหลบได้อย่างง่ายดาย แถมเขายังถูกโจมตีกลับมาอีกต่างหาก
“ก่อนอื่นต้องออกจากที่นี่ก่อน” คริสกล่าวจบเขาก็วิ่งไต่กำแพงของหลุมทรายเพื่อขึ้นไปข้างบนในทันที ร่างกายของเขาเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว
ชายหนุ่มใช้ทักษะควบคุมทรายใต้เท้าให้แข็งตัวทุกย่างก้าวที่เขาวิ่งขึ้นไป มันจึงทำให้เขา
สามารถปีนขึ้นไปด้านบนหลุมทรายได้อย่างไม่ยากนัก
ทักษะอาชีพ มหาธาตุจำนน [D]
ความสามารถ : ควบคุมสะสาร พลังธาตุต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ระยะจำกัดหนึ่งเมตร
ทักษะนี้นับว่ามีประโยชน์อย่างแท้จริง มันเสียก็แต่เขาไม่สามารถควบคุมสะสารหรือพลังธาตุต่าง ๆ พร้อมกันได้ อาจเป็นเพราะความเชี่ยวชาญหรือพลังเวทย์ของเขายังมีน้อยจนเกินไป หรืออาจเป็นเพราะมันสามารถควบคุมได้ทีละอย่าง เขาก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน
“เอายังไงต่อดีนะ” คริสวิ่งหลบการโจมตีพลางครุ่นคิดไปด้วย
“จริงสิ! บางทีอาจจะใช้ได้ผล” และแล้วเขาก็คิดอะไรบางอย่างออกมาได้ ชายหนุ่มหยุดวิ่งแล้วหันไปเผชิญหน้ากับบอสมอนสเตอร์อย่างไม่หวาดกลัว
กรี๊ซซซซ ขวับ ขวับ ขวับ
แมลงช้างหลากพิษร่างโตเต็มวัยส่งเสียงกรีดร้องออกมาพลางส่งการโจมตีเข้าหามนุษย์ตรงหน้าไปด้วย มันไม่ลืมที่จะพ่นพิษซึ่งตอนนี้มีความรุนแรงมากขึ้นเข้าใส่ตามหลังการโจมตีด้วยลมของมัน!
ถ้าถูกการโจมตีนี้เข้าไปยังไงก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ !
เปรี้ยง!
แต่แล้วร่างกายของมันก็ถูกอะไรบางอย่างโจมตีเข้าอย่างจัง! ร่างกายของมันเซถลาออกไปจากจุดเดิมเกือบสิบเมตร มีรอยแผลลึกกว้างประมาณหนึ่งเมตรปรากฏอยู่ที่กลางหลังของมันอยู่หนึ่งรอย รอบรอยแผลมีเปลวเพลิงสีดำทมิฬกำลังลุกโชนอยู่
เปลวเพลิงเหล่านั้นยับยั้งการฟื้นฟูร่างกายของมันได้อย่างชะงัดนัก!
“เหมือนจะเบาไปหน่อย” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาจากจุดที่บอสมอนสเตอร์เคยบินอยู่ก่อนหน้านี้
ชายผู้นั้นกำลังลอยอยู่บนอากาศ! ไม่สิ ถ้าเรียกให้ถูกคือเขากำลังเหยียบอยู่บนบางสิ่งต่างหาก ซึ่งสิ่งที่เขากำลังเหยียบอยู่ก็คือทรายนั่นเอง! เป็นทรายที่ถูกสร้างให้เป็นแผ่นเรียบ ๆ เพื่อใช้ยืนกลางอากาศ มองไปแล้วก็คล้ายบันไดที่ทำจากทรายอยู่ไม่น้อย
ครึ่งหลัง
“ถึงข้าจะเหยียบทรายเพื่อใช้แทนที่หยั่งเท้าได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะใช้ได้ชำนาญนัก” คริสวิเคราะห์ออกมาพลางวิ่งเหยียบอากาศเข้าหาร่างของบอสมอนสเตอร์ที่เริ่มโซเซจากอาการบาดเจ็บ
ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพราะเขารู้ดีว่ายิ่งยืดเยื้อเขาก็ยิ่งเสียเปรียบ บอสมอนสเตอร์ที่ถูกเปลวเพลิงทมิฬเผาไหม้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันพยายามจะบินออกห่างจากคริสเพื่อตั้งหลักใหม่อีกรอบ
ก่อนหน้านี้มันคาดไม่ถึงว่ามนุษย์ตรงหน้าจะบินได้เช่นกันมันจึงถูกลอบทำร้ายอย่างง่ายดาย แต่ในคราวนี้ที่มันรู้ตัวแล้ว การลอบโจมตีแบบเมื่อสักครู่ก็ยากที่จะใช้ได้เป็นครั้งที่สอง
เปรี้ยง เปรี้ยง พรวดด
“คร่อก ถึงยังไงข้าก็เสียเปรียบอยู่ดี เจ้านั่นมัน...” คริสที่ต่อสู้กลางอากาศกับบอสมอนสเตอร์อย่างดุเดือดก็มีพลาดท่าถูกคลื่นพิษที่คมกริบดุจใบมีดเฉือนสีข้างจนเป็นแผลขนาดใหญ่
ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปยังรอบบริเวณก่อนจะพบเข้ากับกล่องเก็บของใบหนึ่งที่ตกอยู่ข้างศพของนักผจญภัยคนนึง ชายหนุ่มจำไดว่ากล่องนั่นคือกล่องที่ใช้เก็บซากมอนสเตอร์เอาไว้นั่นเอง
ชายหนุ่มเกิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา เขาจึงรีบเหยียบอากาศเคลื่อนร่างกายไปยังกล่องนั้นด้วยความรวดเร็ว บอสมอนสเตอร์ที่เห็นว่าศัตรูของมันกำลังหนีไปก็บินตามมาไม่ห่าง
[“ระบบ ข้าต้องทำยังไงถึงจะกลืนกินเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองได้”] ชายหนุ่มกล่าวถามออกมาเพื่อความแน่ใจ
[“เพียงสัมผัสกับสิ่งที่ไม่มีชีวิตแล้วตั้งจิตให้มั่นว่าต้องการกลืนกิน สิ่งเหล่านั้นก็จะถูกดูดกลืนเข้าสู่ร่างกายของท่านเอง”] ในคราวนี้ไม่มีหน้าต่างโปร่งใสปรากฏขึ้น แต่กลับมีเสียงไร้อารมณ์ดังขึ้นแทน คริสไม่ได้ตกใจอะไรกับเสียงที่ดังขึ้น เขามุ่งหน้าเข้าหากล่องเหล็กในนั้นต่อไป
ฟุบ ฟุบ ฟุบ ปั้ง!
ชายหนุ่มเคลื่อนร่างหลบหลีกการโจมตีของบอสมอนสเตอร์อย่างทุลักทุเล แม้เขาจะได้รับการโจมตีบ้างแต่บาดแผลของเขาก็ไม่ได้สาหัสนัก จนเมื่อไปถึงกล่องเหล็กเขาก็เตะฝามันอย่างแรงจนเปิดออก
เศษซากมอนสเตอร์จำนวนมากกระเด็นออกมาจากมิติเก็บของด้านใน กลายเป็นกองภูเขาซากมอนสเตอร์ขนาดประมาณสามเมตร คริสยื่นมือไปจับกองภูเขานั้นก่อนจะทำตามที่ระบบบอกในทันที
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที เศษซากมอนสเตอร์ก็ถูกดูดกลืนสลายกลายเป็นละอองเข้าสู่ร่างกายของคริสอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อ เซลล์ต่าง ๆ อวัยวะทุกชิ้นของเขากำลังกรีดร้องออกมาด้วยความยินดี ร่างกายของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เกือบเท่าตัว
[พลังทำลาย (โจมตี) +10]
[พลังป้องกัน +15]
[พลังเวทย์ +5]
[สตามิน่า (ความอึด)+5]
[ความว่องไว+5]
หน้าต่างโปรงใสสีม่วงอมดำโผล่ขึ้นมา คริสอ่านพวกมันก็พอจะเข้าใจได้คร่าว ๆ ว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง
‘ไม่ได้ทักษะอะไรเพิ่มเลยสินะ’ ชายหนุ่มมองซ้ำอีกรอบก็ไม่เห็นรายการทักษะอะไรเลย
[การจะได้รับทักษะต้องดูดกลืนซากร่างที่ครบถ้วน หรือ ดูดกลืนเศษซากร่างของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากเท่านั้นถึงจะได้รับ] หน้าต่างโปร่งใสเด้งขึ้นมาไขข้อข้องใจให้กับเขา
กรี๊ซซซซ
แม้จะฟังดูเหมือนเนิ่นนาน แต่เวลาตั้งแต่คริสลงมาถึงพื้นทรายจนดูดกลืนเสร็จเพิ่งจะผ่านไปเพียงห้าวินาทีเท่านั้น บอสมอนสเตอร์ที่ตามมาถึงแผดเสียงร้องแสบแก้วหูก่อนจะยิงคมมีดสายลมเคลือบพิษขนาดใหญ่หลายร้อยอันเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
คริสมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง
ชายหนุ่มเรียกอาวุธนับสิบชนิดที่เขาไล่เก็บตามพื้นไว้ในมิติเก็บของออกมา เขาเคลือบเพลิงทมิฬใส่อาวุธเหล่านั้นก่อนจะขว้างออกมาสุดแรง
เมื่อขว้างอาวุธออกไปหมดแล้ว ตัวของคริสพร้อมด้วยหอกในมือขวา ดาบสองคมในมือซ้ายก็พุ่งเหยียบอากาศเข้าหาบอสมอนสเตอร์ด้วยความห้าวหาญ
เปรี้ยง!!!!