บทที่ 26 ต่อสู้เพื่อเตาเผายา
ขณะที่การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง หยุนหลันขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ยามคนเดิมจะหันกลับไปเปิดประตูเหมือนครั้งที่ผ่านมา
เจ้าของร้านหลู่ปรากฏตัวพร้อมกับองค์หญิงเจ็ด พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “องค์ชายสาม พอดีมีบุรุษร่างใหญ่คนหนึ่งเข้าร่วมการประมูลและเขาก็ต้องการใช้ห้องส่วนตัว ทำให้ต้องใช้ห้องส่วนตัวขององค์หญิง ข้ารู้ว่าอาจจะไม่สะดวกสำหรับท่าน แต่ขอให้องค์หญิงใช้ห้องร่วมกับท่านได้หรือไม่?
เจ้าของร้านหลู่ไม่สามารถรับมือกับบุรุษร่างใหญ่คนนั้นได้ บวกกับห้องส่วนตัวก็มีไว้รองรับราชวงศ์ทั้งหมดห้าห้อง ทางหอการค้าทำได้เพียงเจรจากับราชวงศ์เท่านั้น ส่วนคำตอบที่ได้รับคือต้องให้ห้องส่วนตัวขององค์หญิงเจ็ดไป และเขาเองก็มีหน้าที่เพียงแค่ประสานงานเท่านั้น
“มันเป็นใคร?” หยุนหลันถามในสิ่งที่ทุกคนสงสัย
เจ้าของร้านหลู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “เขาเป็นราชาดาบที่แข็งแกร่ง ฉะนั้นข้าไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นรับทราบได้”
แม้ว่าสายตาของคนในห้องจะยังไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถถามอะไรไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
เมื่อทุกคนเห็นด้วย เจ้าของร้านหลู่ก็ให้คนเพิ่มเก้าอี้สองสามตัวตามราคาสำหรับห้องส่วนตัว เนื่องจากห้องส่วนตัวห้องนี้ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ฉะนั้นแม้ว่าจะมีองค์หญิงเจ็ดเพิ่มเข้ามาก็ไม่ได้ทำให้อึดอัด
“รบกวนท่านจักรพรรดิทั้งสามด้วย” หยุนซินยิ้มอย่างไม่เต็มใจ และนางก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน ทว่าคนผู้นั้นไม่ใช่คนที่สามารถต่อกรได้ นางจึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับแม้จะไม่เต็มใจ
หยุนหลันที่เห็นว่ามีคนเพิ่มมาแค่ไม่กี่คนก็ส่ายหัว พร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไร”
หลังจากที่หยุนซิน พากู่ยันรัน เซงรู และสตรีอีกสองคนนั่งเรียบร้อยแล้ว การประมูลก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ด้านบนเวทีประมูล มีชายวัยกลางคนที่ท่าทางสง่างามเดินขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
“วันนี้เป็นการประมูลครบรอบสามปี ของหอการค้าหมิงเหมิงของเรา ข้าชื่อ ‘หนี่จุน’ เป็นผู้ประมูลในวันนี้ พวกท่านคงได้ทราบถึงความน่าเชื่อถือของหอการค้าของเรามาบ้างแล้ว และข้าเชื่อว่างานประมูลในวันนี้จะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง”
หนี่จุนหยุดพูดชั่วคราว ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “วันนี้ทางหอการค้ายังได้เพิ่มรายการสุดท้าย ที่เป็นรายการพิเศษเอาไว้สามรายการ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นของที่หายาก ทุกท่านสามารถคว้าโอกาสนี้ได้”
เมื่อเห็นว่าผู้เข้าประมูลด้านล่างเริ่มแสดงความคาดหวัง และความตื่นเต้น เขาจึงจะเริ่มเอ่ยออกมาว่า “ทุกท่านน่าจะรอไม่ไหวแล้ว ข้าจะไม่พูดไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ตอนนี้การประมูลได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว มาเริ่มที่ชิ้นแรกกันเถอะ”
หนี่จุนปรบมือ ก่อนที่จะมีสตรีนางหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับถาดที่มีหยกวางอยู่
“นี่เป็นเทคนิคระดับสูงระดับมนุษย์ที่เหมาะกับปรมจารย์ด้านดาบที่ใช้ลม การฝึกฝนเทคนิคนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มพลังของทักษะดาบที่ใช้ลมเท่านั้น แต่ยังสร้างกำแพงลมที่สามารถโจมตีและป้องกันได้อีกด้วย หาได้ยากมาก” ผู้ประมูลคลี่ยิ้ม ก่อนที่เขาจะเริ่มราคาเริ่มต้นเพื่อให้คนที่อยู่ด้านล่างเสนอราคา
“เริ่มต้นที่ หนึ่งแสนเหรียญทอง”
สำหรับการฝึกในทวีปนี้ แบ่งออกเป็นระดับมนุษย์ ระดับดิน ระดับสวรรค์ ระดับศักดิ์สิทธิ์ และระดับสูงสุด ซึ่งในแต่ละระดับจะถูกแบ่งออกเป็นสามระดับย่อย ได้แก่ ระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง
การฝึกฝนระดับสูงของมนุษย์ ล้วนแต่เป็นที่ต้องการของปรมจารย์ด้านดาบ ภายใต้ราชาแห่งดาบ ส่วนการฝึกฝนที่ดีแม้ว่าจะมีเงินก็อาจจะไม่สามารถใช้ได้ รวมไปถึงยังไม่สามารถมองเห็นได้อีกด้วย ฉะนั้นการประมูลยังถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงทรัพยากรมหาศาลของหอการค้าหมิงเหมิงอีกด้วย
หลูมู่หยานไม่ได้สนใจของประเภทนี้ และตอนนี้นางก็กำลังฝึกฝนอยู่ในระดับสวรรค์อยู่แล้ว นางไม่ได้จำเป็นที่จะต้องสนใจ
ในชาติที่แล้ว เมื่อนางฝึกฝนในนิกายและสำรวจความลับต่าง ๆ นางก็ได้รับสำเนาของการฝึกฝน ที่จะทำให้หลายคนคลั่งไคล้ ตอนนี้การฝึกเหล่านั้นอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการเรียนรู้แล้ว ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่าเช่นกัน
ณ ตอนนี้นางยังคงเตรียมที่จะฝึกฝนแบบเดียวกับชาติที่แล้วของนาง ไม่เพียงแต่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น แต่นางยังสามารถหลีกเลี่ยงทางอ้อมได้อีกด้วย
หลูมู่หยานสามารถสงบสติอารมณ์ได้ แต่กู่ยันรันไม่ นางเป็นนักดาบที่มีธาตุลม แนวทางที่ดีที่สุดของตระกูลกู่ก็คือมนุษย์ระดับกลางเท่านั้น และนางก็ต้องได้รับการฝึกฝนนี้
“ห้าแสนเหรียญทอง” กู่ยันรันเสนอราคา เมื่อมีการเอ่ยราคาสามแสนห้าหมื่นเหรียญทองไปก่อนหน้า
ตระกูลของกู่ยันรัน นับว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักร และมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินค่อนข้างมาก แย่ไปกว่านั้นตระกูลหลูก็อยู่ถัดไปจากตะกูลกู่เพียงไม่กี่ช่วงตึก ทำให้กู่กุ้ยเฟยสามารถหยิ่งผยองได้อย่างเต็มที่ มากกว่าราชินีเสียด้วยซ้ำ
การเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ ตระกูลของกู่ยันรันได้มอบเหรียญทองให้นางถึงแปดล้านเหรียญ สำหรับตัวเลขนี้ไม่ใช่ลูกหลานของตระกูลเก่าแก่ทุกตระกูลจะได้ เพียงเท่านี้นางก็รู้สึกภูมิใจมากแล้ว
หยุนหลันเหลือบมองไปที่กู่ยันรันที่กำลังทำท่าทางตื่นเต้น และภูมิใจเล็กน้อยในตอนนี้ ดวงตาของเขานิ่งเรียบ ก่อนจะหันไปถามกับหลูมู่หยานว่า “มู่หยานต้องการหรือไม่? ข้าจำได้ว่าเจ้าก็ฝึกฝนธาตุลมด้วย หากเจ้าชอบข้าจะเอามาให้เจ้า”
หลูมู่หยานรู้สึกตกใจเล็กน้อย จากนั้นนางก็รู้สึกดีที่กู่ยันรันไม่ได้มีตัวตนอะไรมากมายนักในห้องนี้ ก่อนที่นางจะยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับส่ายหัวไปมา “ขอบคุณลูกพี่ลูกน้อง แต่ข้าไม่สนใจ”
นางจะไม่ให้หยุนหลันเสียเงินโดยใช่เหตุเพื่อเอาการฝึกฝนนี้
กู่ยันรันรู้สึกโล่งใจ เมื่อหลูมู่หยานไม่ได้สนใจกับของชิ้นนี้ ขณะเดียวกันนางก็ไม่ได้มีความสุข และคิดว่าดูเหมือนจะใช้วิธีที่สิ้นเปลือง พลันสายตาชั่วร้ายก็เกิดขึ้น และเมื่อการแข่งขันระดับวิทยาลัยกำลังรออยู่ นางจะต้องเหยียบหลูมู่หยานให้ได้อย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดกู่ยันรันก็ได้ไปในราคาสามล้านเหรียญทอง
จากนั้นก็มีการประมูลต่อไปถึงเจ็ดรายการตามลำดับ ซึ่งหลูมู่หยานก็ไม่ได้สนใจ และก็ไม่มีใครเสนอราคาประมูลเลยสักคน
ตอนนี้ผู้ประมูลเปิดผ้าสีแดงบนเวที เผยให้เห็นกล่องสีน้ำเงินเข้มขนาดเล็ก หลูมู่หยานนั่งหลังตรงและดวงตาของนางก็เริ่มส่องประกาย
“นี่คือเตาปรุงยาที่ทิ้งไว้โดยนักเล่นแร่แปรธาตุอาวุโสระดับสี่ และยังเป็นเครื่องมือทางวิญญาณชั้นยอดที่สามารถต้านทานไฟภายในของจักรพรรดิดาบได้ รวมถึงยังสามารถเพิ่มอัตราการเล่นแร่แปรธาตุได้อีกด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทุกท่านน่าจะเข้าใจคุณค่าของมัน”
หนี่จุนสังเกตเห็นว่าคนส่วนใหญ่ในห้องนี้แสดงออกโดยไม่ตั้งใจ เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเดิมทีนักเล่นแร่แปรธาตุเป็นอาชีพที่หายาก และมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคนเหล่านี้ที่จะซื้อเตาปรุงยาแล้วกลับ เขาจับค้อนประมูลในมือ “ราคาเริ่มต้นของชิงดูลิงคือสามแสนเหรียญทอง เริ่มประมูล”
หลูมู่หยานรู้ว่าการประมูลที่จัดขึ้นโดยหอการค้าหมิงเหมิงนั้นมีคุณภาพ แต่ราคาของมันเริ่มต้นที่สามแสนเหรียญทอง มันเป็นราคาที่เท่ากับรายได้ของหลายครอบครัวในหยานโจวเป็นเวลาหลายปี
หลูมู่หยานรู้ว่าตัวเองนั้นไม่มีกำลังขนาดนั้น เหรียญทองที่เย่ชิงหานให้มาก็มีเพียงหนึ่งล้านเหรียญเท่านั้น ตอนนี้นางมีอยู่แค่เพียงสามล้านเหรียญทอง ฉะนั้นนางจะสามารถเป็นเจ้าของเตาหลอมนี้ได้ด้วยการขายสิ่งของของนาง
“สามล้าน” หลูมู่หยานไม่รอช้าที่จะเสนอราคาออกไป และพร้อมที่ยกทรัพย์สินของนางทั้งหมดให้
หยุนจินอดไม่ได้ที่จะจิบน้ำชาแห่งวิญญาณ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไร้ความปราณีเสียจริง หลูมู่หยาน”
นักดาบจะซื้อเตาหลอมเม็ดยาที่ไม่ใช่แล้วในราคาสามล้านเหรียญทอง ตระกูลหลูรวยแล้วหรือ?
“หลูมู่หยาน เจ้าจงใจแกล้งข้างั้นหรือ?” เสี่ยวเซียงที่กำลังจะเริ่มเสนอราคาเกือบครึ่งล้านเหรียญทองเอ่ยขึ้น เมื่อถูกนางตัดหน้า
หลูมู่หยานเหลือบมองไปยังเสี่ยวเซียง “ข้าทำอะไร? ข้าไม่ได้มีเรื่องขุ่นเคืองใจอะไรกับเจ้า ข้าแค่ต้องการเตาหลอมเม็ดยานี้จริง ๆ”
“ข้าขอโทษนะ แต่เตาหลอมเม็ดยาก็มีประโยชน์สำหรับข้าเช่นกัน” เสี่ยวเซียงยักไหล่ ก่อนจะเสนอราคาใหม่ “สามล้านหาแสนเหรียญทอง”
หลูมู่หยานรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ชิงหลูดิงนั้นดึงดูดปรมจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งนางไม่มีเตาปรุงยาให้ใช้ประโยชน์ และชิงหลูดิงก็ตอบสนองความต้องการของนางในตอนนี้สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ ฉะนั้นนางจำเป็นจะต้องจ่ายหนักเพื่อให้ได้