ตอนที่ 5 ทำอะไรก็ยอม
ตอนที่ 5 ทำอะไรก็ยอม
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง เขาก็ปล่อยร่างนั้นทันที แต่เมื่อเห็นว่าเธอจะล้มลงอีกครั้งเขาจึงรีบคว้าไว้ ก่อนช่วยพยุงให้เธอนั่งได้จึงค่อยปล่อยมืออีกครั้ง
ในโลกใบเดิม ครอบครัวของเขาเข้มงวดเรื่องจริยธรรมอย่างยิ่ง ต่อให้อยู่ที่โรงเรียนโม่วเซียง เขาเองก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง การที่ผู้หญิงคนนี้กล้าบุกเข้ามา เธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหนกันนะ? หรือเธอคิดว่าเขาเป็นคนง่าย ๆ? อืม! ฉันคือสุภาพบุรุษตัวจริงที่มีความบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเงินหรือทองเชียวนะ!
เมื่อคิดอย่างนี้เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย จึงทำลายความเงียบด้วยการถามว่า “เธอเป็นใคร? แล้วทำไมถึงมาขอของกินจากฉัน?”
ตั้งแต่ชั้นล่าง คงจะเป็นเธอที่แอบติดตามมาตลอดทาง ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจึงไม่ได้คิดว่าเธอจะขออาหาร
ในเสื้อของเขามีขนมเปี๊ยะทอดที่ยังไม่ได้กินอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งคนอื่นไม่น่าจะรู้เรื่องนี้!
ส่วนตัวเขาก็เพิ่งรู้จักการผลิตของกระทะเหล็ก จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะรู้ด้วย! แต่ทำไมคน ๆ นี้จึงกล้าเดินเข้ามาเพื่อขอของกิน… หรือว่าเธอเห็นความลับของกระทะเหล็กแล้ว?
ความคิดมากมายวิ่งอยู่ในสมองของซ่งเจิง
ตอนนี้หญิงสาวแปลกหน้าสูดลมหายใจลึกสองสามครั้งก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา
ซ่งเจิงเห็นหน้าของเธอชัดเจน แม้ว่าผมเผ้าจะยุ่งเหยิง แต่ใบหน้านั้นซูบผอม คงเพราะต้องหิวโหยมานาน แต่ก็ยังมีเค้าโครงเดิมว่าเธอค่อนข้างจะสวยไม่น้อย ใบหน้าได้รูป ปากนิดจมูกหน่อยพร้อมคางเรียวแหลม ทุกสิ่งเหมาะสมพอดีกันไปเสียหมด ถ้าจับอาบน้ำและแต่งตัวใหม่ให้สะอาดสะอ้าน แต่งหน้าสักหน่อยคงจะสวยมากแน่!
“ฉัน... ฉันชื่อหลี่ว่านหลู...”
หญิงสาวก้มหน้าลงพร้อมพยายามเปล่งเสียงแผ่ว “ได้โปรด… ขออาหารให้ฉันสักหน่อยเถอะนะ…”
ซ่งเจิงขมวดคิ้วพร้อมเสียงเข้ม “ผมจะถามอีกครั้ง… ทำไมถึงมาขออาหารกับผม? ทำไมเธอถึงคิดว่าที่นี่มีอาหาร? หรือไม่กล้าไปขอจากหัวหน้าเฉิน!?”
แม้หลี่ว่านหลูคนนี้จะงดงามไม่น้อย แต่ในใจของซ่งเจิงกลับไม่คิดพิศวาส ความลับของกระทะเหล็กไม่อาจแพร่งพรายออกไปได้ เขาไม่มีวันยอมให้คนอื่นรู้เรื่องนี้เด็ดขาด!
ในยุคที่ผู้คนมากมายอดมื้อกินมื้อแบบนี้ เพียงแค่หมั่นโถวหนึ่งชิ้นก็สามารถทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงได้ การควักมีดออกมาห้ำหั่นอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องยากเย็น… แล้วหากมีคนรู้ว่ากระทะเหล็กนี้สามารถผลิตอาหารละ? ใครสามารถจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาได้?
ถ้าหลี่ว่านหลูรู้ความลับของมันจริง ๆ ซ่งเจิงก็คิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปิดปากเธอ
ถ้าทำไม่ได้… ก็มีแค่ทางเดียวคือฆ่าเธอซะ! ถึงเขาไม่ต้องการแต่มันก็จำเป็นต้องทำ เมื่อคิดได้ว่าตัวเองกำลังจะฆ่าคน ซ่งเจิงเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา หากเป็นโลกก่อนหน้าเขาคงแค่ไล่เตะก้นเธอเท่านั้น แต่ในตอนนี้เพียงเพื่อปกป้องขนมเปี๊ยะทอดชิ้นเดียวเขากลับต้องลงมือฆ่าคน…
ในขณะที่เขากำลังคิดไปไกล หลี่ว่านหลูโพล่งออกมาเสียงดังพร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้าน “หัวหน้าเฉินงั้นเหรอ… เขาตั้งกฎเอาแต่ใจมาตั้งนานแล้ว ทุกคนจะได้รับอาหารอย่างจำกัดด้วยปริมาณที่เท่ากันและไม่สามารถขอเพิ่มได้… เมื่อตอนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ ฉันได้กลิ่นหอม ๆ จากตัวของนายก็เลยเดินตามขึ้นมา…”
ขณะที่เธอพูดออกมา สีหน้าของซ่งเจิงเปลี่ยนไปทันที เธอรีบโบกไม้โบกมือพร้อมพูดต่อ “แต่นายวางใจได้ ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ไม่ว่านายจะได้อาหารนั้นมาจากไหนก็ตาม… แต่ได้โปรดเถอะ ให้ปู่ของฉันหน่อยเถอะ… ปู่ของฉันน่ะ… ตอนนี้…”
ขณะที่ฟังซ่งเจิงก็ดมร่างกายตัวเองไปด้วย
ถ้าเกิดว่าดมอย่างตั้งใจ แน่นอนว่าจะได้กลิ่นขนมเปี๊ยะทอดที่โรยด้วยหัวหอมจาง ๆ แต่ยังไงซะกลิ่นก็บางมาก ต่อให้หลี่ว่านหลูจะพูดอย่างนั้น เขาก็ต้องพยายามอย่างมากกว่าจะได้กลิ่น… ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะจมูกดีเกินไปแล้ว!
เขามองหน้าเธอหลายครั้งและไม่เห็นท่าทีของคนโกหก ซ่งเจิงทำได้เพียงถอนหายใจออกมา
ยังไงซะก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าเธอไม่รู้ความลับของกระทะเหล็ก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องฆ่าเธอ… แต่เหมือนว่าหลี่ว่านหลูยังมีบางอย่างที่ไม่ได้บอกเขา
“ปู่ของเธอเป็นอะไร?” ซ่งเจิงถาม
เมื่อได้ยินคำถาม น้ำตาของหลี่ว่านหลูที่กลั้นไว้ก็ร่วงลงมาอาบแก้ม เธอเม้มปากแน่นก่อนจะพูดต่อเสียงสั่น “ปู่… จะไม่ไหวแล้ว ถ้าวันนี้ยังไม่ได้กินอะไร ปู่ต้องหิวตายแน่ ได้โปรดเถอะ… ให้อาหารฉันสักหน่อย ขอแค่ช่วยปู่ได้ ให้ทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น…”
ทำอะไรก็ยอมงั้นเหรอ? แล้วถ้าเป็นเรื่องบนเตียงทำได้หรือเปล่า?
ซ่งเจิงอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนี้… แต่ความประหลาดใจทำให้เขาต้องถามต่อ “หิวจนใกล้ตายงั้นเหรอ? แล้วในโรงแรมนี้ไม่ได้แบ่งอาหารให้หรือไง ก็พวกเขามีการแจกอาหารทุกวันนี่ หรือว่าเธอกับปู่ไม่ได้รับอาหารจนหิวใกล้ตายแบบนี้?”
ตามกฎแล้วภายในโรงแรมแห่งนี้ทุกคนจะได้รับอาหารสองมื้อ แม้ว่าจะไม่มากแต่ก็พอประทังชีวิต มีเพียงทีมสำรวจเท่านั้นที่จะได้รับอาหารครบถ้วนเพราะต้องออกไปต่อสู้กับซอมบี้ด้านนอก ซ่งเจิงจึงเริ่มสงสัยว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังโกหกหรือไม่?
แววตาของหลี่ว่านหลูเปลี่ยนไปพร้อมกับเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง “ที่นี่มีการแจกจ่ายอาหารทุกวันจริง แต่ทุกวันมีแค่ข้าวแข็ง ๆ กับผักกาดดองครึ่งกระป๋อง ปู่เป็นโรคความดันสูงไม่สามารถกินอาหารรสเค็มได้ เมื่อก่อนฉันก็เอาให้เขากินตลอด แต่สองสามเดือนนี้พวกเราถูกลดอาหารลงเกือบครึ่ง ข้าวที่เคยอิ่มก็ไม่อิ่มอีกแล้ว ปู่อายุมากเลยไม่สามารถทนความหิวได้เท่าฉัน… ตอนนี้เขาจะไม่ไหวแล้ว”
หลี่ว่านหลูเม้มปากแน่นก่อนพูดอย่างจริงจัง “ฉันรู้ว่าในเสื้อนายมีของกินอยู่ แบ่งให้ฉันสักนิดเถอะนะ แค่นิดเดียวก็พอ นายอยากให้ฉันทำอะไร… ฉันยอมทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวฉันเอง…”
เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับฉีกเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว หน้าท้องแบนราบพร้อมผิวขาวราวหิมะเผยต่อสายตาชายหนุ่มอย่างชัดเจน
“ขอแค่อาหารสักนิดเท่านั้น ให้ฉันกลับไปช่วยปู่… แล้วคืนนี้ฉันจะมานอนกับนาย…”
ซ่งเจิงตกตะลึงพร้อมกับหลบสายตาอีกฝ่ายทันที เขาร้องออกมาอย่างร้อนรน “บ้าเอ๊ย! เธอทำอะไรเนี่ย? รีบใส่เสื้อผ้าเร็วเข้า!”
ต่อให้อยู่ในโรงเรียนโม่วเซียงที่มีแต่หนุ่มสาววัยกำลังกลัดมัน แต่ทุกคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีขอบเขตระหว่างกันเสมอ
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหญิงสาวในวันสิ้นโลกจะกล้าหาญ… ขนาดนี้
เมื่อได้ยินคำของซ่งเจิง สีหน้าของหลี่ว่านหลูเผยความหมองหม่น อีกฝ่ายกำลังแสดงท่าทางรังเกียจเธออย่างชัดเจน แต่เมื่อนึกถึงปู่ที่กำลังจะตาย เธอจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากกัดฟันทน…