ตอนที่ 48 : จิตสังหารของมู่หรงเสวี่ยเหิน ! ใครคือเสือหมอบมังกรซ่อน ?
ตอนที่ 48 : จิตสังหารของมู่หรงเสวี่ยเหิน ! ใครคือเสือหมอบมังกรซ่อน ?
“พวกนายมองอะไร ?” เสียงอันอ่อนแรงดังขึ้นมา
ห้าวจ้าวหันกลับไปมองและพูดขึ้น “บอส เป็นคุณจริง ๆ !”
ด้านหลังพวกเขาทั้งสองคน เฉินผิงอันที่ตัวโชกเลือดได้เดินเข้ามาหา
“ก็นะ...” เฉินผิงอันยิ้มแห้ง ๆ ออกมาและส่ายหน้า “ที่นั่นไม่ใช่ที่ที่มนุษย์จะอยู่ได้”
“ด้วยการที่มีฮาร์ปี้ขวางหน้าและวิลโลว์กระหายเลือดตามหลังมา ฉันก็ได้แต่ต้องออกมา ตงฟางเหอก็สภาพไม่ดีกว่ากันท่าไหร่ !”
“ดูเหมือนว่าแชมป์ปีนี้จะเป็นของตงฟางเหอ !”
“อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ บอส” ห้าวจ้าวยิ้มกว้างออกมา ฟางหยวนที่อยู่ข้าง ๆ ก็หน้าแดงไปด้วย
เฉินผิงอันถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “มีเรื่องอะไร ? นายยิ้มทำไม ?”
ห้าวจ้าวชี้ไปที่หอฝึกฝนและพูดขึ้น “บอส คุณลองดูเองดีกว่า”
“ดูอะไร ? พวกนายดูอะไรกันอยู่ ?”
“เวลาเกือบจะหมดแล้ว มันเหลืออีกไม่ถึง 2 ชม. ถึงตงฟางเหอจะออกมาตอนนี้ ทว่าเขาก็คงได้เป็นแชมป์....หือ !” เฉินผิงอันถึงกับกรี๊ดออกมา “หลินลั่ว ? ชั้น 28 ! เขาเป็นใคร ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน ?”
“เขากลับตามตงฟางเหอทัน ทั้งสองคนอยู่ชั้น 28 ?”
สุดท้ายห้าวจ้าวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “บอส หลินลั่วคนนี้มาจากโรงเรียนที่ 12 เขาเป็นแค่นักบวชระดับ D !”
“ว่าไงนะ ? เป็นไปได้ยังไงกัน !” เฉินผิงอันเบิกตากว้างไม่กล้าจะเชื่อตาตัวเอง
“นักบวชระดับ D กลับไปถึงชั้น 28 ได้งั้นเหรอ ?”
“เป็นไปได้ยังไง ?”
“เด็กนี่ต้องปิดบังบางอย่างเอาไว้แน่ !”
เฉินผิงอันตาเป็นประกายขึ้นมา
“ตงฟางเหอ เฮ้อ ตงฟางเหอ ในหมู่นักเรียนรุ่นนี้ นายน่ะคือคนเดียวที่เป็นคู่ปรับฉันได้ !”
“ไม่คิดเลยว่าในเมืองปิ้นไห่นี้จะมีอัจฉริยะมากมาย แค่นักบวชระดับ D กลับตามนายทัน”
“คนอย่างเขาก็ควรจะเป็นคู่ปรับของฉันเหมือนกัน !”
....
ด้านในโรงแรมใกล้กับหอฝึกฝน
มู่หรงเสวี่ยเหินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธอสวมชุดผ้าไหมบาง ๆ ยืนอยู่ที่หน้าต่างมองไปที่หอฝึกฝน
“คุณหนู !” มีสาวใช้เดินเข้ามาพูดด้วยความเคารพ “เราหาตัวคุณหลี่เหมยไม่พบ เราไปค้นที่บ้านและที่ที่เธอชอบไปแล้ว ทว่าก็ยังหาเธอไม่พบ”
“นี่คิดจะซ่อนตัวจากฉันงั้นเหรอ...” มู่หรงเสวี่ยเหินถือแก้วไวน์ในมือพร้อมไวน์สีแดงที่สั่นไหวเล็กน้อย
“หาไม่เจอก็ไม่เป็นไร เมื่อเลือกที่จะหักหลังฉัน งั้นก็ต้องเตรียมใจที่จะชดใช้ !” น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้นมา
“ตอนแรกฉันคิดว่าจะหาเพื่อนสนิทที่โรงเรียนสัก 1-2 คน ทว่าโชคร้ายที่พวกนี้เป็นได้แค่คนธรรมดา...”
เธอเอียงแก้วในมือเล็กน้อยปล่อยให้ไวน์ไหลหยดลงเท้า เธอไม่ได้สนว่ามันจะกระเด็นโดนเท้าขาว ๆ ของเธอเลย
“สั่งการออกไป ยกเลิกตำแหน่ง, ผลประโยชน์ และเงินทองที่พ่อแม่หลี่เหมยได้ ! ตรวจสอบความเสียหายที่พวกเขาทำกับบริษัทตลอดหลายปีมานี้ ฉันจะทำให้พวกเขาหายไปจากเมืองปิ้นไห่ใน 3 วัน !”
“ได้ คุณหนู !” สาวใช้ตอบกลับและถามขึ้น “เราควรส่งทหารหิมะทมิฬไปตามหาหลี่เหมยรึเปล่า ? ตราบใดที่พวกเขาลงมือ หลี่เหมยจะต้อง...”
“ไม่จำเป็น !” มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชา “หลี่เหมยเป็นแค่คนโง่ที่โดนตงฟางเหอหลอก การแข่งแบบเดี่ยวพรุ่งนี้ เธอจะต้องโผล่มาเพื่อตงฟางเหออีกครั้งแน่ !”.
“ฉันจะจัดการกับเธอเอง !”
“ได้ คุณหนู !”
“ไปได้แล้ว !”
“ค่ะ คุณหนู !”
หลังจากที่สาวใช้ออกจากห้องไป มันก็มีคนมาเคาะประตูห้องอีกรอบ
“เสวี่ยเหิน ! ฉันเอง !”
สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเหินยังคงเดิมไม่เปลี่ยน เธอสะบักมือเล็กน้อยพร้อมกระโปรงสีทองที่พันรอบตัวของเธอแต่ก็ยังเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบ มีแค่ขาขาว ๆ เผยออกมาใต้ร่มผ้าสะท้อนไปกับแสงสีทอง
“เข้ามา” ฉือเหล่ยเปิดประตูเข้ามา น้ำเสียงเขาดูกังวล
“เสวี่ยเหิน รีบตรวจสอบข้อมูลของหอฝึกฝนเร็ว !”
“หือ ? มีเรื่องอะไร ?” มู่หรงเสวี่ยเหินเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพูดขึ้น “ทีมแชมป์ตัดสินได้แล้วเหรอ ? ทีมของตงฟางเหอ ?”
“ไม่ ไม่ใช่ !” ฉือเหล่ยตอบกลับ “ตงฟางเหอยังอยู่ชั้น 28 เฉินผิงอันตกรอบแล้ว ! ทว่ายังมีอีกคนที่ไปถึงชั้น 28 ได้ !”
“ยิ่งกว่านั้นเขาก็เป็นแค่นักบวชระดับ D !”
“ว่าไงนะ ! ?” สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเหินที่เยือกเย็นกลับแสดงความตกใจออกมา
“นักบวชระดับ D กลับไปถึงชั้น 28 ได้ นี่ล้อฉันเล่นรึไง ?”
“ฉันพูดจริง ลองดูเองสิ !”
มู่หรงเสวี่ยเหินเปิดเว็บสมาคมผู้ปลุกพลังเมืองปิ้นไห่ แทบจะทั้งเว็บนั้นเต็มไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับหอฝึกฝนในวันนี้ ตอนนั้นเนื้อหาทั้งหมดมีชื่อของคนอยู่แค่สองคน
“อาชีพลับระดับ S อัศวินมังกร เขาไปถึงชั้น 28 ได้ แชมป์อยู่แค่เอื้อม !”
“เฉินผิงอันตกรอบ มาคุยเรื่องจุดเด่นและจุดด้อยของอาชีพเขากัน !”
“ข้อมูลล่าสุด ! ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ D ไปถึงชั้น 28 แล้ว !”
“ความลับที่น่าตกใจ ! ชีวิตของหลินลั่ว ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ D !”
“มอนสเตอร์ทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 21 ถึง 24 ตายหมด ! นี่คือฝีมือมนุษย์รึว่า...”
“....”
มีข่าวมากมาย ทว่าส่วนมากพูดถึงแค่คนคนเดียว หลินลั่ว !
มู่หรงเสวี่ยเหินลองกดเปิดอ่านข่าวดู ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งเมืองรึทั้งแวดวงผู้ปลุกพลัง ทุกคนต่างก็สนใจกับคนที่ชื่อหลินลั่ว !
ความตะลึงในสายตามู่หรงเสวี่ยเหินค่อย ๆ หายไป แทนที่ด้วยความสนใจแทน “มันคือความจริงงั้นเหรอ ?”
“นายตรวจสอบดูรึยัง ?”
“ตรวจสอบมาแล้ว !” ฉือเหล่ยพูดขึ้น “ฉันส่งข้อมูลบางส่วนเข้าอีเมลล์เธอแล้ว หลินลั่วคนนี้เป็นนักเรียนโรงเรียนที่ 12 แม่ของเขาเป็นนักเดินเรือ ตอนนี้เธอเป็นหัวหน้านักเดินเรือของเรือสำราญ ทว่าเธอไม่ค่อยอยู่บ้าน”
“โดยทั่วไปแล้วเขาก็ไม่ต่างจากนักเรียนทั่วไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น เขาปลุกพลังอาชีพระดับ D ขึ้นมาได้เมื่อ 10 วันก่อน และตรงไปเก็บเลเวลที่ที่ราบปิศาจหนู”
มู่หรงเสวี่ยเหินเปิดข้อมูลขึ้นมาอ่านพร้อมตาที่เป็นประกาย
ในข้อมูลที่ตรวจสอบมา มันมีรูปของเด็กชายคนหนึ่ง
เด็กชายนี้มีคิ้วที่คมกริบและตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาวแต่ก็ยังดูอบอุ่น
“นี่..เขาดูหล่อจริง ๆ !”
ยังไงซะเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป เธอได้สติกลับมาเร็ว
ฉือเหล่ยพูดขึ้นมาด้วยความอิจฉา “ใช่ หลินลั่วน่ะหล่อ ฉันได้ข้อมูลอีกอย่างมา หลินลั่วคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหลียนอี้หนิงจากโรงเรียนที่ 12”
“ฉันได้ยินมาว่าเหลียนอี้หนิงเคยเขียนจดหมายสารภาพรักให้หลินลั่ว”
“เหลียนอี้หนิง ?” มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “หนิงเอ๋อหลงรักเด็กนี่ ไมแปลกหรอก เขาหล่อซะขนาดนี้ เขาคงทำให้สาว ๆ สนใจได้”
ในฐานะผู้หญิงจากตระกูลชั้นนำของเมือง ทั้งสองคนก็ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้สนิทกันมาก
“ฉันเคยเจอเหลียนอี้หนิงในงานเลี้ยงเมื่อหลายปีก่อ ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่ ทว่านิสัยของเธอเหมือนกับคนทั่วไป เธอไม่ได้เจ้าเล่ห์แต่กลับถือว่าใจดีเลยด้วยซ้ำ”
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาเจอกับมังกรหมอบแบบนี้เข้า !”
“ฉือเหล่ย...”
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ไม่ว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะจริง ๆ รึไม่ พรุ่งนี้ก็จะรู้เอง” มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฉันอ่านข้อมูลเขาหมดแล้ว หมอกพิษจากชั้น 21 ถึงชั้น 24 น่าจะเป็นฝีมือเขา ผู้เข้าสอบหลายคนต้องออกมาจากหอฝึกฝนก็เพราะเขา”
“ความสามารถในการควบคุมหมอกพิษของเขาน่ะน่าทึ่ง แต่มันก็ใช้ได้แค่กับพื้นที่ปิดและพื้นที่เล็ก ๆ ในโลกภายนอก มันคงใช้ไม่ได้ผลง่าย ๆ ...”
“หลินลั่ว พรุ่งนี้นายจะทำให้ฉันแปลกใจได้มากแค่ไหน ?”