ตอนที่ 42 เข้าไปในห้องส่วนตัวของ ซู หนิงซวง
เมื่อทุกคนกำลังสับสนอยู่ ฟาง ห่งซิว ก็เข้ามาหา เย่เฉิน ด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“พี่เฉิน พี่คือไอดอลของผมเลย”
“การดริฟท์เมื่อกี้นั้นมันสมบูรณ์แบบมาก”
ฟาง ห่งซิว เข้ามาคว้าจับมือของ เย่เฉิน ด้วยท่าทางของแฟนคลับตัวน้อย
อันที่จริงในตอนแรกเมื่อ เย่เฉิน แซงเขาไป ฟาง ห่งซิว ก็รู้สึกโกรธ และหงุดหงิดมาก
ระหว่างทาง เขาพยายามไล่ตาม เย่เฉิน หรือแม้แต่พยายามจะแซงกลับ
แต่สุดท้าย ฟาง ห่งซิว ก็ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์
เขาเข้าใจแล้วว่าฝีมือการขับรถของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ เย่เฉิน เลย
ฟาง ห่งซิว ถึงกับยอมรับในฝีมือของ เย่เฉิน อย่างหมดใจ
โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงการดริฟท์ที่สมบูรณ์แบบของ เย่เฉิน ฟาง ห่งซิว ยิ่งรู้สึกนับถือ เย่เฉิน มากขึ้น และถือว่า เย่เฉิน คือไอดอลของเขา
ดังนั้นฉากเหตุการณ์นี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนก็พลันรู้สึกโล่งอก
คุณชายฟาง ไม่ได้มีปัญหาทางจิต โอเค.. แบบนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเขาคงรับผิดชอบไม่ไหว
ก่อนหน้านี้พวกเขายังพูดคุยกันอยู่ว่า ถ้า คุณชายฟาง แพ้ และเกิดโมโหอารมณ์เสียขึ้นมาพวกเขาจะทำอย่างไร?
การแข่งขันมันเป็นเพียงแค่ความบันเทิง
แต่ถ้าสุดท้ายหากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันขึ้นมาจริงๆ ..นั่นคงหมดสนุก
สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือหาก คุณชายฟาง แพ้แล้วเกิดโมโหขึ้นมา
แต่ด้วยเหตุนี้.. ผลลัพธ์นี้ ย่อมดีที่สุดแล้ว
“พี่เฉิน ตั้งแต่วันนี้คุณคือพี่ใหญ่ของผม หากมีอะไรบอกผมมาได้เลย”
ฟาง ห่งซิว พูดกับ เย่เฉิน ด้วยความชื่นชม
“เพียงแค่.. หากคุณมีเวลา ช่วยสอนเทคนิคการดริฟต์รถแบบเมื่อกี้ให้ผมบ้างก็พอ”
หลังจากจบการแข่งขัน ทุกคนก็กลับมาที่คฤหาสน์ และเริ่มทานอาหารค่ำด้วยกัน
เนื่องจากทุกคนขับรถมา จึงไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์
ที่โต๊ะอาหาร ฟาง ห่งซิว ได้ใช้ชาคารวะแทนเหล้า และพยายามเอาใจ เย่เฉิน
ในที่สุด ฟาง ห่งซิว ก็ได้เพิ่มช่องทางการติดต่อกับ เย่เฉิน ตามที่หวังไว้
หลังจากทานอาหารเสร็จ และพักอยู่ในคฤหาสน์สักพักหนึ่ง เย่เฉิน ก็ขอตัวกลับ
ฟาง ห่งซิว เป็นคนนำทีมในการออกไปส่ง เย่เฉิน ออกไป
…….
วันใหม่มาถึง เย่เฉิน ขับรถตรงไปยังมหาวิทยาลัย
เนื่องจากวันนี้ เย่เฉิน มีเรียนเพียงแค่คาบเดียว หลังจากเรียนเสร็จตอนสิบโมงเช้า เย่เฉิน ก็เตรียมตัวกลับไปที่คฤหาสน์ของเขา
ในขณะนั้น เย่เฉิน ได้รับสายผ่าน WeChat จากพี่สาว จ้าว ซูซวน
“เย่เฉิน เธออยู่ที่มหาลัยหรือเปล่า?”
จ้าว ซูซวน พลันถามด้วยเสียงที่ดูจะร้อนรนไม่น้อย
“ผมอยู่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เย่เฉิน ถาม
“คืออย่างนี้ แฟลชไดรฟ์ของ หนิงซวง หายไปนะ”
จ้าว ซูซวน อธิบาย
“ในแฟลชไดรฟ์มีบทความที่เธอเขียนไว้ ต้องส่งให้ทางมหาลัยเพื่อเข้าประกวดในอีกหนึ่งชั่วโมง”
“แต่ตอนนี้เราหาแฟลชไดรฟ์ที่ว่านั่นไม่เจอ หาที่หอพักแล้วก็ไม่มี”
“หนิงซวง คิดว่าอาจจะลืมไว้ที่บ้าน และอยากกลับไปหาที่บ้าน”
“ถ้าเธอมีเวลา ช่วยพา หนิงซวง กลับไปหาที่บ้านหน่อยได้ไหม?”
จ้าว ซูซวน บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ เย่เฉิน ฟัง
เดิมที ซู หนิงซวง ตั้งใจจะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน แต่ จ้าว ซูซวน หยุดไว้ก่อน
เย่เฉิน มีรถ ทำไมต้องลำบากเรียกแท็กซี่ด้วย?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้กำลังรีบ การเรียกแท็กซี่ย่อมเสียเวลากว่า
รถของ เย่เฉิน เป็น Ferrari ซึ่งเร็วกว่า ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
และที่สำคัญเหตุผลนี้ยังช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่าง เย่เฉิน กับหนิงซวง ได้อีกด้วย
เมื่อคิดถึงจุดนี้ จ้าว ซูซวน จึงรีบโทรหา เย่เฉิน
“ได้ครับ”
“เดี๋ยวผมจะขับรถไปที่หอพักหญิงทันที”
เย่เฉิน เข้าใจถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ จึงตอบรับทันที
เย่เฉิน ออกจากห้องเรียน ขับรถ Koenigsegg ของเขาตรงไปที่ชั้นล่างของหอพักหญิง
ในขณะนั้น ซู หนิงซวง กำลังรออยู่ที่นั่นแล้ว
เมื่อเห็นรถซุปเปอร์คาร์แปลกๆ เข้ามาจอดอยู่ข้างๆ เธอ ซู หนิงซวง คิดโดยสัญชาตญาณว่ามีคนกำลังจะมาจีบเธออีก ดังนั้นเธอจึงถอยหลังออกไปสองสามก้าว
“รุ่นพี่ ซู ขึ้นรถเถอะ”
เย่เฉิน ลดกระจกลงแล้วตะโกนเรียก ซู หนิงซวง
“เย่เฉิน?”
เมื่อเห็นว่าเป็น เย่เฉิน ที่ขับรถมา ซู หนิงซวง ก็ตกใจ
เย่เฉิน เปลี่ยนรถอีกแล้วเหรอ?
เขามีรถกี่คันกันแน่เนี่ย?
ถึงแม้จะสงสัยในใจ แต่ ซู หนิงซวง ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม และขึ้นรถของ เย่เฉิน
“ขอบคุณมากนะ รุ่นน้อง เย่”
ซู หนิงซวง กล่าวขอบคุณ
เธอรู้สึกเกรงใจที่ต้องมารบกวน เย่เฉิน อีกครั้ง
“เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจไปครับ”
เย่เฉิน พูดอย่างสบายๆ จากนั้นก็ตรงไปที่หน้าประตูมหาลัย
เมื่อมี ซู หนิงซวง นำทาง เย่เฉิน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ระบบนำทาง(GPS)อีกต่อไป
ภายใต้การนำของ ซู หนิงซวง เย่เฉิน มาถึงย่านคฤหาสน์สุดหรูอีกแห่งหนึ่งในเจียงโจว - คฤหาสน์ ซานเหอชื่อจี้
ราคาของคฤหาสน์ที่นี่ไม่แพ้ไปกว่าคฤหาสน์ หลิงหยุนเทียนกง ที่ เย่เฉิน อาศัยอยู่เลย
เย่เฉิน จอดรถที่หน้าคฤหาสน์ เลขที่ 3
วันนี้แม่ของ ซู หนิงซวง ดูเหมือนจะไม่อยู่บ้าน ซู หนิงซวง จึงเปิดประตูบ้าน และพา เย่เฉิน เข้าไป
“รุ่นน้อง เย่ คุณไปนั่งรอในนั่งเล่นก่อนนะ ฉันจะไปหาที่ห้องของฉัน”
เย่เฉิน นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น ขณะที่ ซู หนิงซวง รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องส่วนตัวของเธอ
ตอนนี้เวลา 10:50 น. แล้ว
เวลาส่งงานคือ 11:00 น. ซู หนิงซวง มีเวลาเหลืออีกเพียงแค่สิบนาที
เธอต้องหาให้ทันภายในสิบนาทีนี้ และเปิดคอมพิวเตอร์ส่งบทความไปให้อาจารย์ในมหาลัย
เวลามีจำกัด ซู หนิงซวง จึงต้องรีบหาแข่งกับเวลา
หากมันสายเกินไป ความพยายามของเธอในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านนี้ก็เสียเปล่า
เย่เฉิน นั่งอยู่บนโซฟา มองไปมารอบๆ
ในเวลานี้ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“รุ่นน้อง เย่ เราเข้ามาช่วยหาหน่อยสิ”
ซู หนิงซวง เรียกให้ เย่เฉิน เข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอ
หือ?
เย่เฉิน ตกใจเล็กน้อย และคิดว่านี่มันดูออกจะ ..ไม่เหมาะสม
เขาไม่มีปัญหาอะไรใดๆ แต่ยังไงนั่นก็เป็นห้องส่วนตัวของ ซู หนิงซวง
เขาเป็นผู้ชาย ถ้าให้เขาเข้าไปมันดูจะไม่เหมาะสม และก็ดูแปลกเกินไปด้วยไม่ใช่เหรอไง?
“รุ่นน้อง เย่ เข้ามาช่วยหาหน่อยสิ เรามีเวลาจำกัดแล้วตอนนี้”
ซู หนิงซวง ตะโกนเรียกอีกครั้ง
ซู หนิงซวง ควานหาทั่วห้องแล้ว แต่ไม่เจอ
ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 4 ถึง 5 นาที ถ้ายังหาไม่เจอในอีกไม่กี่นาทีนี้
มันคงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเธอแล้วจริงๆ
ด้วยกำลังของเธอคนเดียวคงหาได้ยาก ดังนั้นเธอจึงขอให้ เย่เฉิน เข้ามาช่วยหาอีกแรงหนึ่ง
หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ซู หนิงซวง คิดว่า เย่เฉิน เป็นคนดีดังนั้นเธอจึงขอความช่วยเหลือจากเขา
ถ้าคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นตอนนี้ไม่ใช่ เย่เฉิน แต่เป็นผู้ชายคนอื่น
ถึงแม้จะหาไม่เจอ ซู หนิงซวง ก็ไม่มีทางเชิญคนอื่นเข้ามาช่วยหาในห้องส่วนตัวของเธอแน่นอน
แต่คนที่อยู่ข้างนอกตอนนี้คือ เย่เฉิน
ซู หนิงซวง จึงเชื่อใจในตัว เย่เฉิน
เมื่อ ซู หนิงซวง พูดเช่นนี้ เย่เฉิน ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
เย่เฉิน จึงรีบขึ้นไปชั้นบน และเข้าไปในห้องส่วนตัวของ ซู หนิงซวง
สีชมพูหวานมาก
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องครั้งแรก ความประทับใจแรกของ เย่เฉิน คือความหวานของห้องนี้
ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน หรือสิ่งของอื่นๆ ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพู เต็มไปด้วยความน่ารักในแบบสาวๆ
ห้องนอนของบุคคลหนึ่ง ย่อมสะท้อนถึงจิตใจของบุคคลนั้นได้ดีที่สุด
ดูเหมือนว่า รุ่นพี่ ซู ที่ภายนอกออกจะดูเย็นชานั้น แต่ภายในกลับมีจิตใจที่อ่อนโยนดูนุ่มนวลราวกับสาวน้อยคนหนึ่ง
หลังจากตกตะลึงไปเล็กน้อย เย่เฉิน ก็เริ่มช่วย ซู หนิงซวง ค้นหาของภายในห้อง
หลังจากตรวจสอบโต๊ะเขียนหนังสือแล้วไม่เจอ เย่เฉิน จึงเปิดตู้เสื้อผ้าของ ซู หนิงซวง
ขณะเปิดตู้เสื้อผ้า เย่เฉิน ก็บ่นกับตัวเองว่า ‘ไม่ควรเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น’ แต่เขาก็ยังค้นหาอย่างรอบคอบ
สุดท้าย เย่เฉิน พบแฟลชไดร์ฟในเสื้อผ้าของ ซู หนิงซวง
“นี่ใช่ไหม?”
เย่เฉิน ถือแฟลชไดร์ฟในมือขึ้นแล้วพลันถาม
“ใช่ ใช่เลยอันนั่นแหละ”
ซู หนิงซวง พยักหน้ารัวๆ ตอบรับ
“ดีจัง ขอบคุณมากเลยนะ”
ซู หนิงซวง รู้สึกตื่นเต้นโดยไม่ทันคิด เธอก็โผเข้ากอด เย่เฉิน ในทันที
เมื่อถูก ซู หนิงซวง พุ่งเข้ามากอด เย่เฉิน ก็ตกใจไปชั่วขณะ
ซู หนิงซวง ก็เช่นกัน เธอรู้สึกตัวได้ในทันที และใบหน้าขาวนวลของเธอพลันแดงก่ำขึ้น
เมื่อเธอดีใจ เธอลืมไปเลยว่าคนที่เข้ามาในห้องของเธอคือ เย่เฉิน ไม่ใช่เพื่อนผู้หญิงของเธอ
ก่อนหน้านี้ มีแต่เพื่อนผู้หญิงของเธอเท่านั้นที่เคยเข้ามาในห้องของเธอ
และ.. เย่เฉิน เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอ
เมื่อคราเธอดีใจ เธอกลับลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย
ซู หนิงซวง รีบผละออกมาจาก เย่เฉิน ใบหน้าของเธอพลันแดงระเรื่อ หัวใจเธอเองก็เต้นรัวเร็วราวกับเลือดในกายถูกสูบออกไปจนหมด…