ตอนที่ 9: ไร้ยางอาย ไร้ประโยชน์
ตอนที่ 9: ไร้ยางอาย ไร้ประโยชน์
สรรเสริญจันทราสีเงิน
คุณภาพ: เงิน
โจมตี: 17
เวทมนตร์: 29
ปัญญา +9
วิญญาณ +6
สกิลติดตัว: พรของเทพธิดาจันทรา ฟื้นฟูค่าพลังมานาอัตโนมัติ 10 หน่วยต่อวินาที
สกิลติดตัว: มิธริลมนตรา เพิ่มเวทมนตร์ 15
อาชีพที่ต้องการ: นักเวท เนโครแมนเซอร์ นักบวช
เลเวลที่ต้องการ: 10
แนะนำไอเทม: ไม้เท้าที่สร้างจากมิธริลโดยนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่ไคลด์ อีกทั้งยังได้รับพรจากดวงจันทร์ ทำให้ผู้สวมใส่ได้รับพลังเวทไร้ที่สิ้นสุด
อุปกรณ์สวมใส่เงิน! หมวดหมู่อาวุธ!
ใน <<ดอว์นเบรกกิ้ง>> อาวุธกับชุดเกราะจะถูกจัดเป็นไอเทมขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าส่วนอื่น โดยเฉพาะในส่วนของอาวุธซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่น
แม้ผู้เล่นจะสามารถไม่สวมใส่อุปกรณ์ได้ แต่นั่นไม่ใช่กับสิ่งที่เรียกว่าอาวุธ
ในปัจจุบัน ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่สามารถรวบรวมเซตมือใหม่ได้ ส่วนผู้เล่นที่ใช้อาวุธทองแดงต่างเป็นผู้เล่นอันดับต้นทั้งสิ้น
มูลค่าของอาวุธเงินมากขนาดไหนย่อมสามารถจินตนาการได้
แม้คุณสมบัติของไม้เท้านี้จะไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ในสายตาของหวังยวน
ถึงอย่างไร เวทมนตร์เพิ่มขึ้น 15 แต้มย่อมไม่ใช่ค่าที่มากมายอะไร ส่วนการฟื้นฟูค่าพลังมานา 10 หน่วยยิ่งไร้ประโยชน์เข้าไปใหญ่
ต้องทราบก่อนว่าโพชั่นมานาระดับต่ำสุดในร้านค้าสามารถฟื้นฟูค่าพลังมานาได้ 15 หน่วยต่อวินาที ซึ่งคุณสมบัตินี้สามารถช่วยประหยัดค่าโพชั่นมานาได้บางส่วน
“ฟื้นฟูค่าพลังมานา!! ไม้เท้านี้ถึงกับมีคุณสมบัติฟื้นฟูค่าพลังมานาด้วย!”
ทว่าในตอนนี้ หวังยวนกลับได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นของต้าไป๋
“มันก็แค่การฟื้นฟูค่าพลังมานาไม่ใช่เหรอ? มันควรค่าแก่การตื่นเต้นขนาดนั้นหรือไง?” หวังยวนลอบสงสัย ในเกมที่หวังยวนเคยเล่นมา ขอเพียงมีการตั้งค่าโพชั่นมานา การฟื้นฟูค่าพลังมานาย่อมไม่ถือว่าเป็นคุณสมบัติยอดเยี่ยมแต่อย่างใด ต้าไป๋ผู้นับว่าเป็นปรมาจารย์ชั้นสูงจากอนาคตจะไม่เคยประสบกับเรื่องพวกนี้เลยเหรอ? หรือว่าภายภาคหน้าจะไม่มีโพชั่นมานาให้ใช้?
อย่างที่คาดไว้เลย
ขณะหวังยวนเต็มไปด้วยความสงสัย เสี่ยวไป๋จึงเอ่ยคำด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน “ให้ตายเถอะ วาสนาดีเกินไปแล้ว! ถึงกับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ฟื้นฟูค่าพลังมานา ในช่วงเวลาของพวกเรา มันจะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว หากก่อนหน้านั้นฉันมีไม้เท้านี้ ค่าพลังมานาคงไม่มีทางหมดได้หรอก” น้ำเสียงของต้าไป๋หนักแน่น เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเกิดใหม่
“หากไคลด์กับสมาคมโพชั่นของเขาไม่ถูกทำลาย มนุษย์อย่างพวกเราคงไม่ต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้” น้ำเสียงของเสี่ยวไป๋เต็มไปด้วยเศร้าโศกเศร้าเช่นกัน
"ใช่แล้ว..." ต้าไป๋ถอนหายใจแล้วเอ่ยคำ "ตามเส้นทางประวัติศาสตร์ สมาคมโพชั่นจะหายไปภายในหนึ่งปี แล้วมนุษยชาติจะอยู่ในสภาวะนิ่งเฉยเพราะขาดเสบียงยา คงจะดีไม่น้อยหากสามารถป้องกันภัยพิบัติดังกล่าวได้"
"อื้ม..."
เมื่อเห็นชายสองคนที่มองโลกในแง่ดีและมีชีวิตชีวามีสภาพเป็นแบบนี้ หวังยวนจึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ตามคำพูดของทั้งสอง หนึ่งปีหลังจากเกิดวันสิ้นโลก สมาคมโพชั่นได้หายไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้มนุษยชาติตกต่ำเพราะเหตุนี้
พอมาคิดดูแล้ว เหตุใดผู้เล่นถึงสามารถเอาชนะ Boss ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร?
นอกจากอุปกรณ์สวมใส่กับสกิลที่เสริมแกร่งตนเองแล้ว ยังเป็นเพราะมีเสบียงเพียงพออีกด้วย
การสังหารมอนสเตอร์และดื่มยาไปพร้อมกัน ขอเพียงมีแถบค่าพลังชีวิตก็ไม่มี Boss ตัวใดที่ไม่สามารถฆ่าได้
หากมีโพชั่นไม่เพียงพอ ความสามารถในการฟื้นฟูของมนุษย์ที่เหมือนกับแมลงก็จะหายไป ซึ่งมันจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อมนุษย์อย่างแน่นอน
“น่าเสียดายที่คนผู้นี้เป็นนักเวทเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงดีไม่น้อยถ้ายกไม้เท้านั่นให้กับฉัน” ต้าไป๋มองไม้เท้าในมือของหวังยวนด้วยความเสียดายขณะพึมพำกับตนเอง
"ฮิฮิ!" เสี่ยวไป๋หัวเราะแล้วเอ่ยคำ "ฉันบอกคุณไปตั้งหลายรอบแล้วว่าให้ทำการสรรเสริญนายท่านเหมือนอย่างฉัน... ทีนี้เลยต้องมานั่งเสียใจไง"
“ถุย! คิดว่าฉันไร้ประโยชน์เหมือนกับคุณหรือไง”
…
“แกมองฉันทำไม? อยากได้ไม้เท้านี้งั้นเหรอ?”
ขณะทั้งสองดูแคลนกันไปมา หวังยวนจึงหันมาถามเสี่ยวไป๋ด้วยรอยยิ้ม
“อา…”
ต้าไป๋สั่นสะท้านไปทั่วร่างขณะเพลิงวิญญาณในดวงตาลุกโชน จากนั้นจึงมองไปที่ไม้เท้าของหวังยวนแล้วพยักหน้าด้วยความปรารถนาไร้ที่สิ้นสุด
“โห? แกเข้าใจคำพูดอื่นนอกเหนือจากคำสั่งต่อสู้งั้นเหรอ?”
หวังยวนแสร้งทำเป็นเอ่ยคำ "ไหนบอกว่า AI ของทหารโครงกระดูกไม่สูงไง? แต่ดูเหมือนพวกแกทั้งสองตัวจะไม่ต่างกับฉัน แถมยังมีความฉลาดใกล้เคียงกับฉันด้วย!"
“ถ้าฉันอยากฆ่าเขาขึ้นมาจะเป็นยังไง?”
ต้าไป๋กัดฟัน แบบนี้มันไร้ยางอายเกินไปแล้ว
“งั้นเอาไป! อยู่ในมือของแกคงมีประโยชน์กว่าอยู่ในมือของฉัน” หวังยวนยัดไม้เท้าไปที่มือของต้าไป๋อย่างไม่ใส่ใจ
“พระเจ้า!”
พฤติกรรมของหวังยวนทำให้ต้าไป๋สับสนอย่างสิ้นเชิง
หลังจากตกตะลึงไปสามวินาทีเต็ม ในที่สุดก็หาทางเค้นประโยคออกมาได้ "จงสรรเสริญท่านหนิวต้าลี่ของฉัน! ผมจะเป็นผู้ศรัทธาของท่านตลอดไป!"
“ไร้ยางอาย ไร้ประโยชน์! ถุย!” เสี่ยวไป๋มองดูด้วยสายตาเหยียดหยัน
แผนการได้ผล!
หวังยวนยิ้มบางเมื่อได้ยินคำสรรเสริญของต้าไป๋
นักปรัชญาวิถีเซนผู้ยิ่งใหญ่พูดถูก มีเพียงการให้ผลประโยชน์เท่านั้นจึงจะทำให้ลูกน้องจงรักภักดี
ต้าไป๋ที่ก่อนหน้านี้ทำตัวหยาบคายกลับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือทันทีที่ได้รับไม้เท้าเพียงอันเดียว
…
"เฮ้ ขอบคุณมากที่คุณช่วยไว้ก่อนหน้านี้!"
หลังจากเก็บกวาดสมรภูมิแล้ว หวังยวนกำลังจะกลับเข้าเมือง แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยจากข้างกาย
เมื่อหันมองกลับไป อากาศจึงเกิดการบิดเบี้ยวก่อนนักฆ่าผู้งามงดมีสง่าราศีจะปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลัง
เป็นหญิงสาวเมื่อครู่นี้
“คุณนี่เอง... ทำไมต้องขอบคุณด้วย มันเป็นทำเพื่อเงินเท่านั้น” หวังยวนโบกมือแล้วเอ่ยคำ “ได้ทั้งหนึ่งเหรียญทองแล้วก็ของจาก Boss กำไรทั้งนั้น”
นักฆ่า “…”
เวรเอ๊ย คนผู้นี้ช่างพูดช่างจาเสียจริง
“ชื่อของฉันคือสุ่ยหลิงหลง! แล้วคุณล่ะ?” นักฆ่าหักห้ามแรงกระตุ้นที่อยากอัดหวังยวนขณะส่งคำขอเป็นเพื่อนให้หวังยวน
ถึงกับสามารถเอาชนะ Boss เงินได้ด้วยตัวคนเดียว คนผู้นี้จะต้องเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน
ถึงแม้จะสมควรถูกอัด แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้
“หนิวต้าลี่…” หวังยวนตอบอย่างสงบหลังจากตอบรับคำขอแล้ว
แต่ทหารโครงกระดูกทั้งสองที่อยู่รอบตัวกลับกระสับกระส่ายอีกครั้งเหรอ?
“สุ่ยหลิงหลง? เธอคือสุ่ยหลิงหลงงั้นเหรอ? มหาเศรษฐีผู้มีอิทธิพลต่อระบบการเงินของโลกในประวัติศาสตร์คนนั้นเนี่ยนะ?”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเธอ เศรษฐีผู้ลงทุนจำนวนมากก่อนเกมจะหลอมรวมเข้ากับความจริง! นึกไม่ถึงว่าเธอจะเกิดในเมืองซีเป้ยเหมือนกัน”
…
“เป็นเศรษฐีนี่เอง ไม่แปลกใจเลย” หวังยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้
อุปกรณ์สวมใส่ของหญิงสาวผู้นี้ เอาแค่กริชระดับทองแดงอย่างเดียวก็มีค่าเท่ากับตัวเลขห้าหลักในช่วงต้นเกมแล้ว คนส่วนใหญ่ย่อมไม่เต็มใจที่จะลงทุนมากขนาดนั้นในช่วงต้นเกม
การจะซื้อเซตเสื้อผ้ามือใหม่ที่สามารถทิ้งเมื่อใดก็ได้ต้องใช้เงินเดือนสองเดือนซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นหยวน ซึ่งมีเพียงคนร่ำรวยมั่งคั่งเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้
“หนิวต้าลี่... ชื่อของนาย...”
เมื่อได้ยินชื่อของหวังยวน สุ่ยหลิงหลงจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง
“นี่นี่นี่ เธอเพิ่งเพิ่มเพื่อนฉันแล้วมาหัวเราะเยาะชื่อของฉันงั้นเหรอ?” หวังยวนรู้สึกไม่พอใจ
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก" สุ่ยหลิงหลงกลั้นขำแล้วเอ่ยคำ "Boss เมื่อครู่ดรอปอะไรบ้าง? มีอะไรที่ฉันใช้ได้ไหม ฉันยอมจ่ายในราคาสูงอยู่แล้ว!"
"สูงแค่ไหนล่ะ?" หวังยวนชำเลืองมองสุ่ยหลิงหลง
แม้หญิงสาวผู้นี้ค่อนข้างหน้าตาดี แต่ท่าทีน่าเกรงขามทำให้ยากที่ผู้คนจะเหลียวแล
การมีเงินทำให้เป็นขนาดนี้เลยเหรอ?
“ไม่ว่าจะเป็นชิ้นไหน ฉันก็พร้อมจ่ายในราคาขั้นต่ำสิบเหรียญทอง! สิบเหรียญทองต่อหนึ่งชิ้น!” สุ่ยหลิงหลงหยิบถุงเงินออกมา
แจ๋ว! โอกาสทำเงินมาแล้ว!
เมื่อได้ยินข้อเสนอของสุ่ยหลิงหลง หวังยวนจึงเผยรอยยิ้มประจบประแจงทันทีก่อนจะส่งหนังสือ <<ลอบโจมตี>> ให้
“หนังสือสกิลระดับ D ของดีมาก! มีอย่างอื่นไหม?” สุ่ยหลิงหลงรับหนังสือแล้วเปิดดู จากนั้นจึงประสานมือเพื่อเริ่มเรียนรู้
“ไม่มีแล้ว ของชิ้นอื่นฉันจำเป็นต้องใช้น่ะ” หวังยวนจ้องมองสุ่ยหลิงหลงแล้วเอ่ยคำ “เธอยังไม่จ่ายเงินนะ อย่าแม้แต่ที่จะคิดหนี”
"ชิ!"
สุ่ยหลิงหลงโยนถุงเงินให้หวังยวนอย่างไม่ใส่ใจแล้วเอ่ยคำ "ใฝ่คุณธรรมเหรอ? ฉันขาดเงินเสียที่ไหน? หากภายภาคหน้ามีของดีก็มาหาฉันได้!"
สิ้นคำ สุ่ยหลิงหลงจึงหายไปจากตรงหน้าหวังยวนในพริบตา