ตอนที่แล้วตอนที่ 5: ฉันคือสุนัขรับใช้ของพี่หนิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7: ปล้นชิงตามไฟ

ตอนที่ 6: ราชันหมาป่าจันทราสีเงิน


ตอนที่ 6: ราชันหมาป่าจันทราสีเงิน

ที่ราบแสงจันทร์

พื้นที่มือใหม่ พื้นที่ระดับ 510

มอนสเตอร์ที่เกิดบริเวณนี้คือหมาป่าเลเวล 5 หมาป่าวายุเลเวล 8 และหมาป่าเงินเลเวล 10

มันแตกต่างจากป่ากรวดในพื้นที่ระดับ 15

มอนสเตอร์บนที่ราบแสงจันทร์ไม่เพียงแต่เลเวลสูงเท่านั้น แต่ยังอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทำให้ยากที่จะจัดการได้

แม้กระทั่งผู้เล่นระดับสูงยังต้องร่วมมือกันจึงจะสามารถเอาชีวิตรอดที่นี่ได้ โดยประสิทธิภาพของการอัปเกรดยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง

ดังนั้นแม้เกมจะเปิดมาได้สามวัน แต่ที่ราบแสงจันทร์ยังคงรกร้างและมีผู้คนไม่มากนัก

ผู้เล่นที่บังเอิญพบเจอเป็นครั้งคราวล้วนเป็นกลุ่มนักล่าสมบัติ

ผู้เล่นอย่างหวังยวนผู้กล้ามาที่ราบแสงจันทร์เพียงลำพังถือว่าอยู่ในกรณีพิเศษเช่นกัน

แน่นอนว่ามีเพียงหวังยวนที่ทราบว่าตนเองไม่ได้อยู่เพียงลำพัง

“ถึงยังไงนี่ยังคงเป็นโลกของเกม มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ต่างอะไรจากพวกโง่เขลา”

“ใช่แล้ว ดูอย่างหมาป่านั่นสิ เชื่องช้าจะตาย ต่างจากตอนที่คุณอาจารย์ซ่งพาพวกเราไปฝึกภาคสนามลิบลับเลย”

"เหลวไหล พวกนั้นคือมอนสเตอร์ของแท้ ตอนนี้ก็เป็นได้แค่กลุ่มข้อมูลเท่านั้น"

โครงกระดูกทั้งสองกำลังสนทนาเรื่อยเปื่อยขณะสังหารหมาป่าที่อยู่ตรงหน้า

หวังยวนตามพวกเขาเพื่อสั่งสมประสบการณ์และเก็บของ

สองคนนี้คือหัวกะทิผู้เคยต่อสู้ช่วงวันสิ้นโลกในอนาคต เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีประสบการณ์การต่อสู้แห่งความเป็นความตายท่ามกลางทะเลโลหิตและซากศพมานานหลายทศวรรษ

มอนสเตอร์ระดับสูงบนที่ราบแสงจันทร์แตกต่างจากสิ่งที่โครงกระดูกทั้งสองนี้เคยประสบพบเจออย่างสมบูรณ์

มันเหมือนกับผู้เล่นมืออาชีพที่เล่นโหมดนรกมานานกว่าสิบปีแต่กลับต้องมาตกอยู่ในเกมระดับล่างเรียบง่าย

กระนั้นมันยังไม่ถึงขั้นเป็นระดับที่จะบดขยี้ได้

มอนสเตอร์หมาป่าบนที่ราบแสงจันทร์ไม่ต่างจากเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนไหวในสายตาของพวกเขา ขณะฟาดฟันมอนสเตอร์ตามทาง แถบประสบการณ์ของหวังยวนจึงพุ่งทะยาน

เพียงแค่ช่วงเช้า หวังยวนก็ไปถึงเลเวล 6

สิ่งที่ทำให้หวังยวนไม่พอใจก็คือการต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าทั้งเช้าโดยที่ไม่มีอุปกรณ์สวมใส่ดรอปแม้แต่ชิ้นเดียว… อัตราการดรอปที่น่าผิดหวังของ <<ดอว์นเบรกกิ้ง>> ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด

ใน <<ดอว์นเบรกกิ้ง>> ทุกครั้งที่ผู้เล่นเลเวลเพิ่มขึ้น คุณสมบัติห้าอย่างจะ +1 และได้รับฟรีอีก 5 แต้มเพื่อเพิ่มคุณสมบัติตามความต้องการของแต่ละอาชีพ

วอริเออร์เพิ่มความแข็งแรงหรือไม่ก็ร่างกาย ส่วนนักเวทเพิ่มปัญญาหรือไม่ก็วิญญาณ…

ส่วนสิ่งที่เนโครแมนเซอร์ควรเพิ่มกลับไม่มีมาตรฐานตายตัว

ถึงแม้เนโครแมนเซอร์จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักเวท แต่ก็ไม่ใช่นักเวทสายหลักแต่อย่างใด ประกอบกับการตั้งค่าของการสืบทอดคุณสมบัติ ทำให้วิธีเพิ่มแต้มของเนโครแมนเซอร์จึงไม่อาจคาดเดาได้

เพิ่มปัญญาเหมือนนักเวทคนอื่นดีหรือเปล่า?

ก่อนที่เนโครแมนเซอร์จะอัญเชิญลิช สิ่งมีชีวิตอันเดดทั้งหมดต่างเป็นกายภาพ…

หากเพิ่มความแข็งแรง เนโครแมนเซอร์ก็จะยังเป็นนักเวทที่มีสกิลเกี่ยวกับคำสาปเป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีคำแนะนำการอัปสกิลเนโครแมนเซอร์อย่างจริงจัง

ปัจจุบันแบ่งออกได้เป็นสองสาย หากเน้นทหารโครงกระดูกก็จะเพิ่มความแข็งแรงกับร่างกาย หากเน้นเวทคำสาปของเนโครแมนเซอร์จะต้องเพิ่มปัญญากับวิญญาณ

ทั้งสองสายต่างปฏิเสธที่จะยอมรับกันจนมักจะหาเรื่องอยู่ทุกวัน

ส่วนหวังยวนไม่ลังเลที่จะเพิ่มคุณสมบัติทั้งห้าอย่างอิสระ

ถึงอย่างไร หากมี “หนังสือประวัติศาสตร์วีรชน” อยู่ในมือ พลังต่อสู้หลักของหวังยวนจะต้องเป็นกองทัพอันเดดอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

ยิ่งกว่านั้น ทหารโครงกระดูกของหวังยวนแตกต่างจากของเนโครแมนเซอร์คนอื่น ด้วยภายใต้อิทธิพลของ “หนังสือประวัติศาสตร์วีรชน” ทำให้ทหารโครงกระดูกของหวังยวนมีพรสวรรค์การเติบโตเองจนสามารถสลับความเชี่ยวชาญทั้งหลายได้

ดังนั้นหวังยวนจึงจัดการเรื่องความเชี่ยวชาญขณะเพิ่มแต้มโดยเฉลี่ยให้ครอบคลุมทั้งหมด

นอกจากนี้ หนังสือประวัติศาสตร์วีรชนยังมีคุณสมบัติ “วิวัฒนาการ” ทุกครั้งที่เลเวลของหวังยวนเพิ่มขึ้น คุณสมบัติทั้งห้าก็จะ +1 ด้วยเหตุนี้ ต่อให้หวังยวนเพิ่มแต้มอย่างเท่าเทียม เขาก็ยังมีคุณสมบัติทั้งห้ามากกว่าผู้เล่นคนอื่น ทำให้กลายเป็นผู้ทำอะไรได้หลายอย่างแต่ไม่เชี่ยวชาญสักอย่าง

อีกอย่าง หากเป็นไปตามที่โครงกระดูกทั้งสองว่ามา วันสิ้นโลกจะมาถึงในหนึ่งเดือนและการเอาชีวิตรอดคือสิ่งสำคัญที่สุด

ภายใต้การรับประกันของผลลัพธ์ คุณสมบัติอย่างความแข็งแรงกับความคล่องตัวที่ข้องเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดจึงมีความสำคัญเช่นกัน

หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน การเพิ่มแต้มอย่างเท่าเทียมจึงเป็นทางเลือกปลอดภัยที่สุด

หวังยวนผู้อยู่เลเวล 6 มีค่าพลังชีวิตกับค่าพลังมานาอยู่ที่ 760 หน่วย ส่วนคุณสมบัติอย่างโจมตีกับป้องกันไปถึง 38 หน่วย แน่นอนว่าคุณสมบัติของโครงกระดูกทั้งสองก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ยิ่งกว่านั้น ด้วยโบนัสของพรสวรรค์การเติบโต การโจมตีทางเวทมนตร์ของต้าไป๋กับการโจมตีทางกายภาพของเสี่ยวไป๋ล้วนไปถึง 43 หน่วย ส่วนคุณสมบัติการป้องกันต่างไปถึงราว 50 แต้ม

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

วอริเออร์ที่ใช้แต้มทั้งหมดยังมีค่าพลังชีวิตเพียง 800 หน่วยกับเกราะ 40 หน่วยเท่านั้น

ในตอนนี้ นอกเหนือจากคุณสมบัติอื่นแล้ว หวังยวนมีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าวอริเออร์เมื่อเทียบด้านการเอาชีวิตรอด

ยิ่งกว่านั้น หวังยวนมีทหารโครงกระดูกติดอาวุธครบมือสองตัวที่มีคุณสมบัติแข็งแกร่งกว่าตนเองอยู่ด้วย

หนึ่งคนหนึ่งกองทัพอาจจะไม่ใช่เพียงแค่การพูดสนุกปากเสียแล้ว

“บรู๋ว?!”

หวังยวนยิ่งเดินลึกเข้าไปโดยมีนักสู้เหรียญทองสองคนที่อยู่ข้างกาย

เมื่อเราไปถึงใจกลางของที่ราบแสงจันทร์ ทันใดนั้นก็มีเสียงหมาป่าหอนมาแต่ไกล

จากนั้นข้อความจึงวูบไหวตรงหน้าของหวังยวน

มอนสเตอร์ทรงพลังปรากฏตัวในบริเวณใกล้เคียง นักผจญภัยทุกท่าน โปรดคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก การเพิ่มเลเวลไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรักษาเอาไว้ให้ดี

“มันคือราชันหมาป่าจันทราสีเงิน! ใครบางคนไปถึงที่นั่นก่อนพวกเรา!”

เสี่ยวไป๋เอ่ยคำด้วยความตื่นเต้น

“คุณแน่ใจเหรอ?” ต้าไป๋เอ่ยถามด้วยความสงสัย

"ฮ่าฮ่า" เสี่ยวไป๋เอ่ยคำอย่างภาคภูมิ "ในตอนนั้น เพื่อ “การแก้แค้นของฌอน” ฉันใช้เวลาครึ่งปีอยู่ในอาณาจักรลับของเมืองซีเป้ยเพื่อฆ่ามันไปมากกว่าห้าสิบครั้ง ทันทีที่ยื่นบั้นท้ายออกมา ฉันก็รู้แล้วว่ามันสวมกางเกงในแบบไหน! อีกอย่างมันเล่นส่งเสียงกรีดร้องดังขนาดนี้ คงกำลังโดนใครบางคนเล่นงานอยู่ไม่ผิดแน่!”

ดังที่คาดไว้ หลังจากหวังยวนเดินตามเสียงดังกล่าวไป ทำให้พบว่าไม่ไกลกันนั้นมีทีมผู้เล่นล้อมหมาป่ายักษ์ที่สูงมากกว่าสองเมตรเอาไว้

หมาป่ายักษ์มีสีขาวเงินขณะส่องแสงเจิดจ้าภายใต้แสงจันทร์ ทำให้ยิ่งดูสง่างามน่าเกรงขาม มันคือราชันหมาป่าจันทราสีเงินในตำนาน

หวังยวนร่ายเวทตรวจจับอย่างไม่ใส่ใจ

ราชันหมาป่าจันทราสีเงิน

เลเวล: 15

ค่าพลังชีวิต: 8000

ค่าพลังมานา: 1500

สกิล: ราชันหมาป่าจู่โจม คมดาบสีเงิน

แนะนำภูมิหลัง: จ้าวแห่งที่ราบแสงจันทร์ผู้ยิ่งใหญ่ ครอบครองความสามารถเวทมนตร์อันทรงพลัง

ยอดเยี่ยมมาก!

หวังยวนตกตะลึงเมื่อเห็นคุณสมบัติของราชันหมาป่าจันทราสีเงิน

Boss เงินเลเวล 15 มีเลเวลสูงกว่าสายลับเผ่ามารถึงห้าเลเวล

โชคยังดีที่ตนเองมีทหารโครงกระดูกทั้งสองอยู่ข้างกาย หาไม่แล้วคงเป็นการยากที่จะจัดการสหายผู้นี้เพียงลำพังได้

แน่นอนว่าทีมผู้เล่นที่กล้าปิดล้อมราชันหมาป่าจันทราสีเงินเอาไว้ค่อนข้างน่าประทับใจไม่ต่างกัน

นักฆ่าที่เป็นผู้นำคือผู้เล่นหญิงสวมชุดเกราะหนังสีดำที่เผยเค้าโครงส่วนโค้งเว้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ กริชที่อยู่ในมือส่องแสงสีเขียวออกมาราวกับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ทองแดง

ส่วนอีกสี่คนต่างมีอาวุธครบมือและมีความเป็นมืออาชีพอย่างเต็มเปี่ยม

ความร่วมมือดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

โดยเฉพาะวอริเออร์ที่สวมชุดเหล็กหมู่บ้านมือใหม่ผู้อยู่ข้างนักฆ่าแทบดูเหมือนเป็นพี่น้องกับทหารโครงกระดูกทั้งสองของหวังยวนที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจของราชันหมาป่าจันทราสีเงิน

แม้กระทั่งต้าไป๋ยังออกความเห็นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “เฮ่ อาเตา วอริเออร์คนนั้นเป็นน้องชายของคุณใช่หรือเปล่า?”

“เหลวไหล ฉันไม่มีน้องชายที่ไร้ประโยชน์แบบนั้นสักหน่อย ดูตำแหน่งที่เขายืนก่อน อีกเดี๋ยวเขาก็ตายแล้ว” เสี่ยวไป๋ยิ่งดูถูกเหยียดหยามมาก

"ปัง!"

ทันทีที่สิ้นคำของเสี่ยวไป๋ ราชันหมาป่าจันทราสีเงินพลันก้าวมาข้างหน้าแล้วฟาดกระบี่ใหญ่ของวอริเออร์ด้วยกรงเล็บ แล้วกระบี่เหล็กกล้าในมือของวอริเออร์จึงกระเด็นออกไป ในเวลาเดียวกัน ราชันหมาป่าจันทราสีเงินอ้าปากก่อนคมดาบสีเงินเป็นประกายเคลื่อนเข้าหาคอของวอริเออร์

“ฉัวะ!”

วอริเออร์ถูกตัดศีรษะทันทีก่อนจะแยกออกเป็นสองส่วน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด