ตอนที่ 3: กลายเป็นไอ้สารเลว
ตอนที่ 3: กลายเป็นไอ้สารเลว
“เสแสร้งเก่งเหลือเกิน?”
“โชคดีโดยบังเอิญ?”
“ลุงคุณเถอะ!”
หวังยวนพูดไม่ออกชั่วขณะ
…
หลังจากนั้น ริคจึงตรงมาที่โต๊ะของหวังยวนพร้อมกับไวน์มอลต์หนึ่งแก้ว
ชายผู้นี้มีชื่อว่าริค รูปร่างผอมเพรียวหล่อเหลา สวมชุดเครื่องแบบของพนักงานเสิร์ฟในโรงเตี๊ยม สีหน้าดูน่าเวทนาไม่น้อย
ดูจากรูปลักษณ์แล้ว หากไม่ใช่เพราะโครงกระดูกทั้งสองนี้เผยคำตอบล่วงหน้า
หวังยวนอาจไม่มีวันสงสัยผู้ชายคนนี้
แน่นอนว่าต่อให้หวังยวนทราบคำตอบอยู่แล้วก็ยังแสร้งทำเป็นสอบถาม
“จะเปิดโปงมันยังไงดี?”
“ถ้าชี้ให้เห็นเลยมันจะปุบปับเกินไปหรือเปล่า?”
“หากสองคนนี้รู้ว่าเราได้ยินเสียงของพวกเขาคงได้กลายเป็นหายนะแน่… เราต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้… บัดซบ ถ้าตอนถ่ายหนังแล้วยังไม่ได้รับรางวัลนักแสดงชายดีเด่นก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
หวังยวนแอบบ่นอยู่ในใจ
เมื่อหวังยวนกำลังคิดว่าจะเปิดเผยตัวตนของริคโดยไม่ตั้งใจอย่างไรนั้นเอง
ทันใดนั้น ต้าไป๋จึงก้าวไปข้างหน้าแล้วชนเข้ากับมือของริค
“เพื่อนยาก พี่ชายคนนี้จะช่วยคุณเอง” ต้าไป๋มองหวังยวนด้วยความคาดหวัง
"โอ๊ย..."
เมื่อต้าไป๋สัมผัสกับบาดแผลเข้า ริคจึงดึงมือกลับด้วยความเจ็บปวด
"หืม?"
หวังยวนแสร้งทำเป็นมองไปที่มือของริค แล้วในเวลาเดียวกันก็เผยสีหน้าประหลาดใจโดยปราศจากร่องรอยของการเสแสร้ง
โดยไม่รอให้ริคตอบสนอง หวังยวนทำการสะบัดมือขวาก่อนที่ขวด “ยาเปิดเผย” จะหกใส่ริคโดนไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
"ฉ่า!"
แล้วเสียงแปลกประหลาดก็ดังขึ้น
กลุ่มควันลอยออกจากร่างของริค
วินาทีต่อมา ทั่วร่างของริคแยกออกพร้อมกับหนามสีดำยื่นมือออกจากแผ่นหลัง แล้วศีรษะจึงกลายเป็นมารดุร้าย
สายลับเผ่ามาร
เลเวล: 10
ค่าพลังชีวิต: 5000
ค่าพลังมานา: 1000
สกิล: แปลงกาย เพลิงมาร
แนะนำภูมิหลัง: ผู้รวบรวมข่าวกรองของเผ่ามารที่ซ่อนตัวอยู่ในโลกมนุษย์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากกระบี่ของนายกเทศมนตรีฮาก ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงไปมาก
ระบบแจ้งเตือน: คุณพบสายลับเผ่ามารแล้ว ขอให้รายงานต่อนายกเทศมนตรีฮากทันที
หากเสียชีวิตระหว่างภารกิจจะถือว่าภารกิจล้มเหลว หากหลบหนีออกมาได้จะถือว่าภารกิจสำเร็จ หาก Boss ตาย ผู้เล่นจะได้รับรางวัลสูงสุด
“พระเจ้า! Boss เงิน!!”
หวังยวนตกตะลึงเมื่อเห็นคุณสมบัติของมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า
บัดซบ โครงกระดูกขี้โกงสองตัวนี้เพียงบอกว่าสายลับคือริค แต่กลับไม่บอกตนเองเลยว่าริคคือ Boss เงิน
ในดอว์นเบรกกิ้ง Boss จะถูกแบ่งออกเป็นเจ็ดระดับ: ทองแดง เงิน ทอง ทองเข้ม อีพิค ตำนานและเทพนิยาย
ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งยิ่งมากตาม
แม้กระทั่ง Boss ทองแดงซึ่งอยู่ระดับต่ำสุดยังต้องใช้ทีมที่มีอาวุธครบมือกับอุปกรณ์ครบครันจำนวนสิบคนที่อยู่ในระดับเดียวกันจึงจะจัดการได้
Boos เงินคือสิ่งที่ไร้เทียมทานในหมู่บ้านมือใหม่
อีกอย่าง หวังยวนเป็นเพียงเนโครแมนเซอร์เลเวลหนึ่ง หากไม่มีโครงกระดูก ตนเองย่อมเป็นเพียงยอดทหารไร้ค่าหนึ่งคน ต่อให้มีโครงกระดูก ตนเองก็เป็นเพียงยอดทหารไร้ค่าสามคน
“กรอด! เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องแล้วก็คงปล่อยให้มีชีวิตรอดกลับไปไม่ได้” ริคกรีดร้องขณะยื่นมือขวาออกไปแล้วลูกไฟสีดำจึงก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือ
“แกโง่หรือเปล่า? ฉันเป็นผู้เล่น ฉันสามารถฟื้นคืนชีพหลังจากตายไปแล้วได้ ถ้าแกมีผลประโยชน์บางอย่างมาแลกเปลี่ยน ฉันอาจจะยอมเก็บเรื่องของแกไว้เป็นความลับก็ได้ แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ”
หวังยวนก้าวถอยหลังแล้วเอ่ยคำเสียงดัง
“หา?”
หลังจากได้ยินคำพูดของหวังยวน เห็นได้ชัดว่าริคตกตะลึง
“คนผู้นี้ช่างไร้ศีลธรรม! ไอ้คนทรยศ ไอ้หัวขโมย!” เสี่ยวไป๋เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อได้ยินเช่นนี้
“ใจเย็นก่อน ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่เกมในสายตาของเขา การให้การช่วยเหลือเพื่อผลประโยชน์ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา” ต้าไป๋ค่อนข้างสงบ
“จริงด้วย… แล้วจะทำยังไงดี?”
“ทำยังไงงั้นเหรอ? มาเร็ว! จะปล่อยให้พวกเขาสมคบคิดกันไม่ได้”
สิ้นคำ ต้าไป๋จึงเดินไปข้างหลังริคแล้วแทงเข้าที่ขาด้วยกระบี่
หวังยวน “…”
“ไอ้สารเลว!! กล้ามาหลอกฉันงั้นเหรอ!”
ริคเดือดดาลเมื่อเห็นทหารโครงกระดูกของหวังยวนโจมตีใส่ ตนเองจึงทำการขว้างลูกไฟในมือไปทางหวังยวนอย่างไม่ลังเล
เมื่อเห็นลูกไฟสีดำกำลังจะกระแทกเข้าที่ศีรษะตนเอง เสี่ยวไป๋ผู้อยู่ข้างกายพลันยกโต๊ะขึ้นเพื่อขวางทางให้กับหวังยวน
"ปัง!"
ลูกไฟระเบิด ทำให้โต๊ะถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านทันที
แรงระเบิดทำให้หวังยวนกับเสี่ยวไป๋กระเด็นออกไป ส่งผลให้หวังยวนกระแทกกับประตูเข้าโรงเตี๊ยมอย่างแรง
“บ้าน่า… ทหารโครงกระดูกตัวนี้สามารถต่อสู้ด้วยตัวเองได้งั้นเหรอ?” หวังยวนถามอย่างรู้เท่าทันด้วยทักษะการแสดงอันล้ำเลิศ
ทหารโครงกระดูกทั้งสองไม่มีเวลามาสนใจเขา มีเพียงเสี่ยวไป๋ที่อุทานออกมา "หน็อย ริคแข็งแกร่งกว่าดันเจี้ยนในอาณาจักรลับที่พวกเราเคยต่อสู้เสียอีก ทำเอาฉันเกือบตายได้เลย"
“เหลวไหล! ตอนนี้พวกเราต่างเป็นโครงกระดูกขยะเลเวลหนึ่ง ส่วนฉันที่เป็นนักเวทยังทำได้เพียงสับด้วยดาบ แน่นอนว่าไม่อาจเทียบเคียงมันได้” ต้าไป๋วิตกกังวลเช่นกัน
“มันจบแล้ว พวกเราคงไม่มาตายอยู่ที่นี่หรอกใช่ไหม?” เสี่ยวไป๋เอ่ยคำอย่างสิ้นหวัง "เกิดใหม่ทั้งทีก็ตายเสียแล้ว ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน"
“เร็วเข้า ใครก็ได้ Boss เกิดในโรงเตี๊ยม!”
ทว่าขณะทหารโครงกระดูกทั้งสองกำลังรอคอยความตาย หวังยวนได้คืบคลานออกมานอกโรงเตี๊ยมขณะตะโกนเสียงดังไปทางผู้เล่นในจัตุรัส
“????”
“!!!!!”
อย่างที่ทราบกันดีว่าเกมเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากอยู่ในพื้นที่มือใหม่
โดยเฉพาะในจัตุรัสเมืองจะเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
แถมโรงเตี๊ยมยังอยู่ตรงข้ามกับจัตุรัส
ทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนของหวังยวน แทบทุกคนต่างถูกดึงดูดพร้อมกัน
หากพูดถึง Boss ย่อมนึกถึงอุปกรณ์คุณภาพสูง สกิลขั้นสูงและเงินจำนวนมาก
ในเกมออนไลน์ จะมีกี่คนที่ได้โค่น Boss ในพื้นที่เริ่มต้นจนไปถึงจุดสูงสุดของชีวิต แล้วตำนานของพวกเขาจะยังคงเวียนวนอยู่ในชุมชนผู้เล่น
ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่ว่าใครก็จินตนาการได้ว่าทุกคนจะรู้สึกอย่างไร
ยอดเยี่ยมมาก เสียงตะโกนของหวังยวนมากพอจะทำให้ผู้เล่นทั้งหมดกรูกันไปที่โรงเตี๊ยมประหนึ่งคลื่นยักษ์
หวังยวนทำการอัญเชิญทหารโครงกระดูกทั้งสองกลับมา จากนั้นจึงหันหลังแล้ววิ่งหนีพร้อมกับซ่อนบุญคุณชื่อเสียงเอาไว้
“เวรเอ๊ย! Boss จริงด้วย!”
“แถมยังเป็น Boss เงินอีก!”
“ทุกคนลุย!”
กลุ่มผู้เล่นซึ่งอยู่ด้านหลังหวังยวนต่างส่งเสียงอุทานออกมา
ผู้เล่นต่างกระตือรือร้นที่กำลังจะได้สู้กับ Boss
หากริคอยู่บนถนน กลุ่มเลเวลหนึ่งพวกนี้ย่อมไม่สามารถแม้แต่จะแตะต้องมุมเสื้อของเขาได้ด้วยซ้ำ
น่าเสียดายที่ริคติดอยู่ในโรงเตี๊ยม
ส่วนจุดฟื้นคืนชีพอยู่เพียงด้านนอกโรงเตี๊ยมเท่านั้น
ลักษณะเด่นของผู้เล่นเลเวลหนึ่งคือไม่กลัวตายจนกลายเป็นแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง
ต่อให้ริคจะเป็น Boss เงินเลเวลสิบที่สามารถสังหารผู้คนได้ในพริบตา กระนั้นกลับไม่สามารถขัดขืนฝูงชนจำนวนมากที่ต้องการทำสงครามได้
หลังจากต่างคนต่างโจมตี ด้วยเวลาไม่ถึงสิบนาที ริคจึงถูกสังหารในทันที
หวังยวนได้รับการแจ้งเตือนว่าสายลับเผ่ามารถูกสังหารแล้วเช่นกัน
“บัดซบ ทำไม Boss เงินถึงไม่ดรอปอะไรเลยล่ะ…?”
“อัตราการดรอปของเกมเส็งเคร็งนี่มันเท่าไหร่กัน?”
"ต้องร้องเรียนต้องร้องเรียน!"
หลังจากนั้น ผู้เล่นจึงพากันสาปแช่งบนหน้าจอสาธารณะ
“Boss ภารกิจ บ้าบอสิ้นดี” ใบหน้าของหวังยวนผู้อยู่ด้านนอกโรงเตี๊ยมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ไม่ต่างจากสุนัขเลย...”
“สหายผู้นี้เป็นสวะงั้นเหรอ?”
“คาดไม่ถึง คาดไม่ถึง ฉันนึกว่าเขาจะเป็นคนโง่ซะอีก”
“คนต่ำต้อยย่อมดีกว่าคนโง่”
ทหารโครงกระดูกทั้งสองมองคนตรงหน้าโดยมีเส้นสีดำอยู่บนศีรษะ
ยอดเยี่ยมมาก แม้จะเห็นคิ้วหนากับดวงตากลมโตที่เปี่ยมด้วยรูปลักษณ์อันซื่อตรงของหวังยวน แต่พฤติกรรมกลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง
แม้กระทั่งนักเดินทางสองคนตรงหน้ายังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงด้วย
แม้จะสบถ แต่ทหารโครงกระดูกทั้งสองในตอนนี้ต่างยอมรับจากใจจริงว่าหวังยวนคือเจ้านาย
ถึงอย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะหวังยวน สองคนนี้อาจจะต้องได้ไปเกิดใหม่อีกครั้งก็เป็นได้
ต้องบอกว่าเจ้านายสวะผู้นี้ยังมีบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาติดตัวอยู่
…
“ฉันพบสายลับแล้ว เขาคือริคจากโรงเตี๊ยม แต่ตอนนี้ตายแล้ว”
บนจัตุรัส หวังยวนพบนายกเทศมนตรีฮากขณะส่งภารกิจ
“ถึงกับเป็นเขา!”
เห็นได้ชัดว่านายกเทศมนตรีฮากประหลาดใจเล็กน้อยตอนได้ฟังคำพูดของหวังยวน จากนั้นจึงเอ่ยคำ "ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณแล้ว ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ของทั้งเมืองหรือแม้กระทั่งทั้งจักรวรรดิจะต้องเป็นหายนะไม่ผิดแน่ คุณคือนักรบของจักรวรรดิอย่างแท้จริง"
ระบบแจ้งเตือน: คุณได้รับฉายาพิเศษ “นักรบจักรวรรดิ”
นักรบจักรวรรดิ
หมวดหมู่: ฉายา
คุณสมบัติทั้งหมด +6
คำแนะนำฉายา: ฉายานี้จะได้รับโดยผู้ที่สร้างคุณงามความดีให้กับจักรวรรดิเป็นพิเศษเท่านั้น
“ท่านนายกเทศมนตรี ท่านไม่ทราบหรอกว่าสัตว์ประหลาดเผ่ามารนั่นดุร้ายมากถึงขนาดเกือบไม่รอดชีวิตกลับมาด้วยซ้ำ” หลังจากมองคุณสมบัติฉายา หวังยวนจึงเผยสีหน้าน่าสงสารออกมา
เวรเอ๊ย มันก็แค่ฉายาเท่านั้น
ไหนบอกว่ามีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ไง? แล้วสิ่งนี้มันใช่วัตถุศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า?
“ไอ้หยา หมอนี่ช่างน่ารังเกียจเสียจริง...”
"เสแสร้ง! เอาแต่เสแสร้ง!"
โครงกระดูกทั้งสองแทบอยากอาเจียนออกมา
…
“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก เจ้าเด็กน้อย ฉันจะไม่ปล่อยให้การเสี่ยงของคุณต้องสูญเปล่าอย่างแน่นอน”
นายกเทศมนตรีฮากหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าขณะส่งให้หวังยวน "นี่คือบ้านเกิดของวีรชนซาก้า คุณเป็นคนที่สองต่อจากเขาที่ได้รับฉายานักรบจักรวรรดิ อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดของวีรชนซาก้า นี่คือโบราณวัตถุของวีรชนซาก้า โปรดรับเอาไว้ด้วย”