ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2: ทุกคนล้วนเก่งการแสดง

ตอนที่ 1: ฉันไม่ได้เดินทางข้ามเวลา แต่เป็นพวกคุณที่เดินทางข้ามเวลา


ตอนที่ 1: ฉันไม่ได้เดินทางข้ามเวลา แต่เป็นพวกคุณที่เดินทางข้ามเวลา

“เพื่อนยาก ได้ยินมาว่าภรรยาของคุณเสียแล้ว ฉันขอยืมหน่อยได้หรือเปล่า?”

"ไปให้พ้น!"

"เข้าใจแล้วน่า!"

ความชื่นชอบของช่างตีเหล็กฌอน: 50

“พี่สาว ร่างของพ่อคุณไม่ได้ใช้งานอะไร ทำไมไม่ยกให้ฉันล่ะ…”

ความชื่นชอบของช่างตัดเสื้อเพนนี: 50

“น้องชาย ฉันยินดีพาพี่ชายของคุณร่วมทางไปด้วยเพื่อช่วยหาทางแก้แค้นให้ คุณคิดว่าไง?”

ความชื่นชอบของเด็กฝึกงานเอนเก้: 50

“สวรรค์มีตา ในที่สุดก็พบศพแล้ว! บัดซบ โง่ชะมัดที่เลือกเล่นเนโครแมนเซอร์!!”

พื้นที่มือใหม่หมายเลข 3225 เมืองซีเป้ย

ภายในห้องใต้ดินของโบสถ์อันทรุดโทรม หวังยวนกำลังสาปแช่งศพที่อยู่ตรงหน้า

<<ดอว์นเบรกกิ้ง>> เป็นเกมออนไลน์จำลองโฮโลแกรมรุ่นที่สาม

ว่ากันว่ามันคือผลงานชิ้นเอกสุดยิ่งใหญ่ที่นำเทคโนโลยีเสมือนจริงจากอุตสาหกรรมทางทหารและอวกาศมาประยุกต์ใช้กับวงการเกมออนไลน์

ทันทีที่เปิดตัวรุ่นเบต้าสู่สาธารณะก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ผู้เล่นหลายพันล้านคนทั่วโลกต่างติดเกมดังกล่าว

หวังยวนคือหนึ่งในนั้น

<<ดอว์นเบรกกิ้ง>> มีแปดอาชีพหลัก

วอริเออร์ ไฟเตอร์ นักเวท เนโครแมนเซอร์ นักฆ่า นักธนู พาลาดิน นักบวช

ในช่วงที่เลือกอาชีพ หวังยวนเลือกเนโครแมนเซอร์อย่างไม่ลังเล

ถึงอย่างไรคำอธิบายในการแนะนำอาชีพทางการอย่าง "หนึ่งคนหนึ่งกองทัพ" เป็นสิ่งที่เกินกว่าจะต้านทานได้

หลังจากเข้าเกม หวังยวนจึงตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ…

บัดซบเอ๊ย บริษัทเกมโง่นี่บอกว่าเนโครแมนเซอร์สามารถอัญเชิญกองทัพอันเดดมาต่อสู้ได้ แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าการอัญเชิญอันเดดจำเป็นต้องใช้ศพ…

เนโครแมนเซอร์ระดับหนึ่งไม่มีทหารโครงกระดูก ขนาดยามที่ทางเข้าหมู่บ้านยังไม่ยอมให้หวังยวนออกไป อีกทั้งยังล้อเลียนหวังยวนด้วยการบอกว่าข้างนอกอันตรายเกินไป คนไร้ประโยชน์อย่างคุณที่ไม่มีแม้แต่ทหารโครงกระดูก ต่อให้ออกไปก็มีแต่ตายเปล่า

เดี๋ยวนะ นี่นับว่าเป็นภาษามนุษย์ด้วยเหรอ?

โชคยังดีที่เกมนี้มีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง ในโลกที่วุ่นวายใบนี้ ครอบครัวไหนบ้างที่ไม่มีคนตาย

แต่จุดทิ้งศพเพียงไม่กี่แห่งในเมืองซีเป้ยล้วนถูกยึดครองโดยกิลด์

หวังยวนทำได้เพียงแวะเวียนทีละบ้านเพื่อสอบถาม NPC คนแล้วคนเล่า

สามวัน! สามวันเต็ม!

แม้ความชื่นชอบของ NPC ที่มีต่อหวังยวนจะอยู่ในระดับต่ำ แต่สุดท้ายก็ได้พบกับประตูลับไปห้องใต้ดินซึ่งอยู่ด้านหลังชั้นหนังสือของโบสถ์เข้าก่อนจะขุดศพทั้งสองขึ้นมาจากห้องใต้ดิน

“จงลุกขึ้น ลูกของฉัน!”

หวังยวนชี้ไม้เท้าไม้ที่หักในมือขณะร่าย “อัญเชิญโครงกระดูก” ของเนโครแมนเซอร์

เนื้อเน่าเปื่อยบนศพจางหาย แล้วโครงกระดูกสีขาวสองตัวจึงลุกขึ้นนั่ง

“ลูกของฉัน... พ่อคิดถึงแกเหลือเกิน”

หลังจากเข้าสู่เกมเป็นเวลาสามวัน ในที่สุดหวังยวนก็อัญเชิญทหารโครงกระดูกของตัวเองออกมาได้ แล้วน้ำตาจึงไหลอาบหน้า

แต่ทันใดนั้น เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในใจของหวังยวน

“หืม? ฉันเดินทางข้ามเวลามางั้นเหรอ?”

หลังจากนั้นเสียงของโครงกระดูกอีกตัวจึงดังขึ้นในหูของหวังยวน

“บัดซบ คุณคือเจ้าของเสียงโครงกระดูกตรงนั้นใช่หรือไม่?”

“อา... ฉันเอง คุณเดินทางข้ามเวลามาเหมือนกันเหรอ?”

ทหารโครงกระดูกทั้งสองมองหน้ากัน แล้วเปลวเพลิงวิญญาณในดวงตาของพวกมันจึงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

“?????”

หวังยวนได้ยินเช่นนั้นจึงมองโครงกระดูกทั้งสองตรงหน้าด้วยสีหน้าสับสน

มันเกิดอะไรขึ้น?

ตามการตั้งค่าของเกม ทหารโครงกระดูกคือสัตว์เลี้ยงระดับต่ำสุดของเนโครแมนเซอร์ที่ไม่มีสติปัญญาแต่อย่างใด เป็นเพียงชุดข้อมูลที่ไม่มี AI

แต่โครงกระดูกสองตัวนี้… เห็นได้ชัดว่าเป็นวิญญาณของมนุษย์สองคน

ไม่เพียงแค่นั้น ตัดสินจากที่พวกมันคุยกันแล้ว พวกมันเป็นนักเดินทางข้ามเวลาอีกด้วย

……

ในฐานะนักอ่านผู้มากประสบการณ์ที่คุ้นเคยกับหนังสือ x จุด x แมว x มะเขือยาวข้ามเวลา YY

หวังยวนตระหนักได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

หรือว่าสองคนนี้จะเป็นตัวเอกโชคร้ายที่ถูกเขาอัญเชิญมา

พระเจ้าช่วย!!

สมองของหวังยวนพลันเกิดอาการวิ้ง

บัดซบที่สุด ตัวเอกเหล่านั้นที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้มนุษยธรรม แถมตอนนี้ยังมีกันสองคนอีก เขาคงไม่โดนแทงตั้งแต่เริ่มใช่หรือเปล่า?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังยวนจึงเหลือบมองอาวุธที่คล้ายกับ “กระบี่” ขึ้นสนิมในมือของทหารโครงกระดูกสองตัว

“พวกเรากลายเป็นผู้ถูกคนอื่นอัญเชิญงั้นเหรอ? หรือว่าเจ้าโง่คนนี้จะเป็นเจ้านายของพวกเรา?”

“ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น!”

“ถ้าพวกเราฆ่าเขาก็จะเป็นอิสระใช่หรือเปล่า?”

“ไม่มีประโยชน์ ฉันเคยลองมาแล้ว… นั่นเป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถโจมตีได้ เท่าที่ฉันพอจะคาดเดาได้ หากเขาตายขึ้นมาพวกเราก็จะตายเช่นกัน”

“พระเจ้าช่วย! ฉันต้องเป็นทาสของเขาไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ? ลูกผู้ชายถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ แล้วทำไมต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ผู้อื่นอย่างน่าเวทนาด้วย…”

“ใจเย็นก่อนน้องชาย อย่างน้อยพวกเราก็ฟื้นคืนชีพ ในหนังสือเล่มอื่นคงมีเพียงตัวเอกเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนี้”

“นั่นมันก็จริง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นนิ้วทองของพวกเรา”

“ช่างเป็นนิ้วทองที่ไร้ประโยชน์เหลือเกิน”

“พวกเราไม่มีปากด้วยซ้ำ แล้วสื่อสารกันได้ยังไง?”

"สิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วน่าจะสื่อสารผ่านวิญญาณ"

“โชคดีที่เขาไม่ได้ยินพวกเราคุยกัน ไม่งั้นพวกเราคงโดนจับไปทำซุปแล้ว...”

ขณะหวังยวนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด เสียงของทหารโครงกระดูกทั้งสองจึงดังขึ้นในหูอีกครั้ง

“…”

หวังยวนเหงื่อออกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้

ดังที่คาดไว้ ชายสองคนนี้มีความคิดกระด้างกระเดื่อง โดยคนทางด้านขวาเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้ายจนถึงขนาดอยากลงมือฆ่าเพื่อให้ตัวเองได้รับอิสรภาพ ส่วนคนทางด้านซ้ายแม้พูดไม่มากแต่กลับเหี้ยมโหดมากกว่า เขาถึงขั้นเคยลองทำมาก่อนแล้ว

แต่สำหรับตอนนี้ สองคนนั้นไม่ทราบเลยว่าตนเองได้ยินบทสนทนาของพวกเขาหมดแล้ว

ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ายอมฟังคำสั่งหรือเปล่า หากไม่ยอมฟังคำสั่งของตนเองก็คงมีแต่ต้องยกเลิกการอัญเชิญโดยตรง

การมีโครงกระดูกที่ชาญฉลาดมากสองตัวเป็นลูกน้องนับว่าเท่ไม่เบา แต่ถ้าทั้งสองมีความกระด้างกระเดื่องจนไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง สู้ไม่มีเสียเลยยังดีกว่า

เมื่อคิดได้ดังนี้ หวังยวนจึงบังเกิดความคิด "ยืนขึ้น หันหลัง!"

“คุณปฏิเสธคำสั่งของเขาได้หรือเปล่า?”

“ไม่ได้ ต่อให้ใจคิดจะปฏิเสธ แต่ร่างกายจะทำตามคำสั่งอยู่ดี”

ทหารโครงกระดูกสองคนยืนขึ้นและหันหลังขณะสนทนา

"ไม่เลว!"

หวังยวนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเช่นนี้ ดูท่าว่าสองคนนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของตนเอง

“นับจากนี้ไป แกมีชื่อว่าต้าไป๋ ส่วนแกมีชื่อว่าเสี่ยวไป๋!”

หวังยวนตั้งชื่อโครงกระดูกทั้งสองอย่างไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นจึงยืนขึ้นแล้วออกจากห้องใต้ดินของโบสถ์

จัตุรัสเมืองซีเป้ยยังคงเนืองแน่น

ผู้เล่นจากหลากหลายอาชีพหลั่งไหลเข้ามาและออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หวังยวนยืนอยู่ที่ทางเข้าโบสถ์ขณะมองผู้เล่นที่ผ่านไปมา บางครั้งก็เหลือบมองไปทางทหารโครงกระดูกสองตัวที่อยู่ข้างตนเองด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

บัดซบที่สุด ถึงแม้ทหารโครงกระดูกจะเป็นสัตว์เลี้ยงขยะ แต่มีเนโครแมนเซอร์เพียงหยิบมือที่สามารถพาทหารโครงกระดูกไปไหนมาไหนได้ ความอิจฉาริษยาในสายตาของพวกเนโครแมนเซอร์ที่เดินผ่านไปมายิ่งทำให้หวังยวนรู้สึกสบายใจ

"ค่าสถานะ!"

หวังยวนเปิดหน้าต่างระบบตัวละครด้วยความคิด

ชื่อ: หนิวต้าลี่

อาชีพ: เนโครแมนเซอร์

เลเวล: 1

ค่าพลังชีวิต: 100

ค่าพลังมานา: 100

โจมตี: 5 เวทมนตร์: 5 เกราะ: 5 ต้านเวท: 5

ความแข็งแรง: 5

ร่างกาย: 5

ปัญญา: 5

วิญญาณ: 5

ความคล่องตัว: 5

สกิล

อัญเชิญโครงกระดูก: เป็นสกิลใช้งานที่ใช้ค่าพลังมานา 5 หน่วยเพื่อชุบชีวิตคนตายให้กลายเป็นทหารโครงกระดูก ซึ่งสามารถอัญเชิญได้มากสุด 2 ตัว

อุปกรณ์สวมใส่: ไม้เท้าหัก

สัตว์เลี้ยง

ต้าไป๋

เผ่า: ทหารโครงกระดูก

เลเวล: 1

ค่าพลังชีวิต: 50

ค่าพลังมานา: 50

โจมตี: 5

ป้องกัน: 1

สกิล: สับ

เสี่ยวไป๋

เผ่า: ทหารโครงกระดูก

เลเวล: 1

ค่าพลังชีวิต: 50

ค่าพลังมานา: 50

โจมตี: 5

ป้องกัน: 1

สกิล: สับ

แนะนำตัวละคร : เนโครแมนเซอร์มือใหม่แกะกล่อง

แม้เนโครแมนเซอร์จะถูกเหมารวมว่าเป็นนักเวท แต่ค่าสถานะค่อนข้างธรรมดาและไม่มีเน้นอะไรเป็นพิเศษ

ถึงอย่างไรสกิลของเนโครแมนเซอร์ล้วนอยู่ที่ทหารโครงกระดูก

แม้ค่าสถานะของทหารโครงกระดูกสองตัวนี้จะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ใช้เรื่องจำนวนในการกลบจุดอ่อนได้… ทหารโครงกระดูกสองตัวที่มีการโจมตี 5 ย่อมรวมกันกลายเป็นการโจมตี 10 กลายเป็นไร้ซึ่งข้อบกพร่อง

หลังจากปิดหน้าต่างระบบค่าสถานะ หวังยวนก็เตรียมที่จะทำตามคำแนะนำมือใหม่ด้วยการไปหานายกเทศมนตรีเพื่อรับภารกิจ

ทันใดนั้น เสียงของทหารโครงกระดูกต้าไป๋กลับลอยเข้าหูตนเองอีกครั้ง

“หืม? ที่นี่คือเมืองซีเป้ยไม่ใช่เหรอ?”

“บัดซบ มันคือเมืองซีเป้ยจริงด้วย! นั่นมันรูปปั้นวีรชนซาก้าไม่ผิดแน่ จริงสิพี่ชาย คุณรู้จักเมืองซีเป้ยเหมือนกันงั้นเหรอ? คุณเองก็มาจากสหพันธ์มนุษย์เหรอ?”

“อื้ม ชื่อของฉันคือซ่งหวูซวง เป็นกัปตันทีมหัวกะทิที่หนึ่งของกองกำลังพิเศษแสงศักดิ์สิทธิ์” ต้าไป๋เอ่ยคำ

“สะ… สุนัขเฒ่าหวูซวงเหรอ? ไม่สิ อาจารย์หวูซวง!” เสี่ยวไป๋ตะโกนด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อดังกล่าว

"คุณรู้จักฉันงั้นเหรอ?" ต้าไป๋ค่อนข้างประหลาดใจ

“ฉันคือกู้อีเตา” เสี่ยวไป๋เอ่ยคำ "คุณสอนสั่งฉันตอนเป็นอาจารย์อยู่ในเมืองผู้บุกเบิก แต่น่าเสียดายที่ทีมของเราไม่รอดตอนเมืองผู้บุกเบิกล่มสลาย"

“อาเตาเหรอ? เป็นคุณนี่เอง!” ต้าไป๋ค่อนข้างตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อของเสี่ยวไป๋ “ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้พบคุณที่นี่”

“อาจารย์หวูซวง แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งอย่างคุณยัง…” น้ำเสียงของเสี่ยวไป๋ยิ่งเศร้าโศก "งั้นเมืองแสงศักดิ์สิทธิ์ก็คง..."

“เฮ่อ…”

ต้าไป๋ถอนหายใจแล้วไม่พูดอะไร จากนั้นจึงชำเลืองมองฝูงชนรอบข้างก่อนจะเอ่ยคำ "กลายเป็นว่าพวกเราได้พบกันอีกครั้งในรูปแบบนี้ ดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว <<ดอว์นเบรกกิ้ง>> น่าจะยังเป็นเกมอยู่ แถมยังเพิ่งเปิดเซิฟเวอร์ด้วย"

“เพิ่งเปิดเซิฟเวอร์... พวกเราเดินทางย้อนกลับมาเมื่อหนึ่งร้อยยี่สิบปีก่อนเหรอเนี่ย”

“ใช่แล้ว ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ อีกหนึ่งเดือน เกมนี้จะกลายเป็นที่มาของวันสิ้นโลก ถึงตอนนั้น ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกจะเสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ ส่วนผู้เล่นเหล่านั้นจะกลายเป็นยอดฝีมือกลุ่มแรกที่สามารถตื่นขึ้นมาได้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของต้าไป๋กลับเศร้าสร้อยอีกครั้ง “หนึ่งร้อยยี่สิบปีต่อมา กองกำลังพิเศษแสงศักดิ์สิทธิ์จะถูกกวาดล้างจนสิ้น ฐานที่มั่นสุดท้ายของมนุษยชาติจะสูญหาย แล้วพวกเราจะกลายเป็นฝุ่นผงในประวัติศาสตร์”

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด