245 (ฟรี)
245 (ฟรี)
จากนั้น ทุกคนก็กินข้าวเที่ยงด้วยกัน
เย่ซิงเฉินเห็นด้วยอย่างยิ่ง
แต่ฉู่รั่วเสวี่ยกลับไม่ชอบใจ เธอไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับเย่ซิงเฉิน ไอ้คนสารเลวนี่ สุดท้ายจึงต้องแยกเป็นสองโต๊ะ
หลินเป่ยฝานนั่งกับฉู่รั่วเสวี่ย ส่วนเย่ซิงเฉินกับอู๋เกอนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง
เย่ซิงเฉินคอยหันไปมองศัตรูตัวฉกาจและหญิงอันเป็นที่รักของเขาที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหัวใจของเขาแตกสลายอีกครั้ง
มือของเขาลูบไปที่หน้าอกรู้สึกหนาวเหน็บ
อู๋เกอที่นั่งอยู่ตรงข้ามยิ้ม “คุณเย่เลิกมองได้แล้ว! คุณกับคุณฉู่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก! คุณมันคู่ควรกับเธอตรงไหน? คุณมันสู้ท่านประธานหลินได้ตรงไหน?”
อู๋เกอจิกกัดไม่ยั้ง
“เรื่องหน้าตาคุณก็สู้ท่านประธานไม่ได้!”
“ดูท่านประธานสิ หล่อเหลาเอาการ มีเสน่ห์ชวนหลงใหลขนาดนี้เอาไปเล่นหนังยังได้เลย!”
“ส่วนคุณหน้าตาก็ธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีอะไรน่าดึงดูด ฉันยังนึกคำชมไม่ออกเลยเพราะคุณมันจืดชืดเกินไป!”
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจ
“ฉึก!”
“เรื่องอายุคุณก็หนุ่มสู้ท่านประธานไม่ได้อีก!”
อู๋เกอพูดไปกินข้าวไป “ดูท่านประธานสิอายุแค่ 20 ยังหนุ่มแน่นสดใส! ถ้าจะให้พูดแบบวัยรุ่นก็คงเรียกว่าหนุ่มเนื้อหอมใครๆก็อยากจะลองชิม”
“ส่วนคุณใกล้จะสามสิบแล้วเป็นเหมือนหมูสามชั้น ทั้งแก่ทั้งเหี่ยว ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ แค่เห็นหน้าก็อิ่มแล้ว! หนังเหนียวแบบนี้สาวๆคนไหนจะอยากคบกับคุณ ใครเลือกคบคนนั้นคงตาบอด!”
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจอีกครั้ง
“ฉึก!”
“เรื่องความรู้คุณก็สู้ท่านประธานไม่ได้อีก!”
อู๋เกอยิ้ม “ดูท่านประธานสิถึงจะอายุแค่ 20 ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลยแต่เขามีความรู้กว้างขวาง เชี่ยวชาญหลายด้านเรียกได้ว่าเป็นสารานุกรมเคลื่อนที่เลยทีเดียว แถมยังมีงานอดิเรกหลายอย่าง ทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี พูดได้หลายภาษา คุยกับใครก็รู้เรื่อง!”
“ส่วนคุณเป็นแค่บอดี้การ์ดเก่งแต่ต่อยตี! การศึกษาก็จบแค่มัธยมปลายไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจะไปสู้ท่านประธานได้ยังไง รู้ไหมว่าผู้ชายที่จบแค่มัธยมปลายเวลาจะหาคู่มันยากมากผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่สนใจหรอก”
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจอีกครั้ง
“ฉึก!”
“เรื่องฐานะคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปเทียบกับท่านประธานด้วยซ้ำ!”
อู๋เกอยิ้ม “ท่านประธานเกิดมาบนกองเงินกองทอง รวยมาตั้งแต่เกิด! ตอนนี้ยังสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา!”
“ส่วนคุณเป็นแค่คนธรรมดา! ก่อนจะมาเจอท่านประธานแค่เลี้ยงตัวเองให้รอดก็บุญแล้ว! ถ้าท่านประธานไม่เห็นคุณค่า คุณจะมีโอกาสได้ดิบได้ดีแบบนี้เหรอ? ปลาเค็มยังมีอนาคตกว่าคุณอีก!”
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจอีกครั้ง
“ฉึก!”
“สรุปก็คือทั้งหน้าตา อายุ ความรู้ และฐานะคุณไม่มีอะไรดีเลย ยังจะมีหน้าไปจีบคุณฉู่อีกเหรอ? ฝันไปเถอะ! ถ้าฉันเป็นคุณฉู่คงไม่มองคุณด้วยซ้ำ!”
“เป็นคนต้องรู้จักประมาณตัวเองบ้างสิเข้าใจไหม?”
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจอีกครั้ง
“ฉึก!”
อู๋เกอส่ายหน้า “เอาจริงๆฉันยังงงอยู่เลยว่าคุณมันเป็นแค่คนธรรมดา ทำไมถึงกล้าไปจีบคุณฉู่ คุณมันธรรมดาซะขนาดนี้ทำไมถึงได้มั่นใจในตัวเองนัก?”
ประโยคพวกนี้มันทำร้ายกันเกินไปแล้ว!
เย่ซิงเฉินรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
“อย่างน้อยๆความสามารถในการลงทุนของฉันก็เหนือกว่าท่านประธานหลิน ฉันสามารถช่วยให้ท่านประธานหาเงินได้มากมายมหาศาล!” เย่ซิงเฉินเถียงคอเป็นเอ็น
“อ้อเหรอ?” อู๋เกอถามอย่างสงสัย
“ใช่!” เย่ซิงเฉินพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจ
เขารู้สึกหวั่นใจ อู๋เกอคงไม่รู้เรื่องจริงเกี่ยวกับตัวเขาหรอกนะ?
เออไม่น่าจะรู้
“คุณฉู่รู้เรื่องความสามารถในการลงทุนของคุณหรือเปล่า?” อู๋เกอถาม
เย่ซิงเฉินยิ่งหวั่นใจหนักขึ้น “ก็น่าจะ…รู้นะ?”
อู๋เกอหัวเราะเบาๆ “ถ้าคุณฉู่รู้เรื่องความสามารถในการหาเงินของคุณแล้วยังไม่สนใจคุณ แบบนี้แสดงว่าชีวิตคุณมันล้มเหลวมาก ฉันว่าคุณเลิกคิดเรื่องนี้เถอะ อย่าไปพยายามเลย ในเมื่อขนาดนี้แล้วเธอยังไม่สนใจคุณ ต่อไปก็คงจะไม่สนใจหรอก”
เย่ซิงเฉินโกรธจนตัวสั่น “ถึงคุณฉู่จะไม่สนใจฉัน แต่แล้วไง? ถึงชีวิตฉันจะล้มเหลว แต่แล้วไง? อย่างน้อยๆฉันก็ยังเป็นผู้ชายปกติ ไม่เอาป้าแก่ๆอายุห้าสิบหรอก!”
อู๋เกอได้ยินก็โกรธขึ้นมาบ้าง “เย่ซิงเฉิน! แกพูดว่าอะไรนะ? แน่จริงลองพูดแบบนั้นอีกครั้งสิ!”
เย่ซิงเฉินยิ้มเยาะ “ฉันขอให้แกกับป้าหลิวรักกันนานๆ ตราบฟ้าดินสลาย!”
อู๋เกอโมโห “เย่ซิงเฉิน!หุบปากไปเลย!”
เย่ซิงเฉิน “ขอให้แกกับป้าหลิวรักกันตลอดไป ตราบฟ้าดินสลาย!”
อู๋เกอโกรธจัด “ไอ้บ้า!ยังจะพูดอีก!”
เย่ซิงเฉิน “ขอให้แกกับป้าหลิวมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง!”
“ไอ้สารเลว!”
แล้วทั้งสองเริ่มทะเลาะกัน
แต่พวกเขาพยายามเบาเสียงไม่อยากให้ใครได้ยิน
ส่วนหลินเป่ยฝานก็ยังคงพูดคุยกับฉู่รั่วเสวี่ยอย่างสนุกสนาน
“ช่วงนี้งานยุ่งหรือเปล่า? ไม่เห็นชวนฉันไปไหนเลย” ฉู่รั่วเสวี่ยถามพลางคนกาแฟไปพลาง
หลินเป่ยฝานถอนหายใจ “ยุ่งมากเลยแหละ”
ฉู่รั่วเสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “ใช่ยุ่งมาก! ยุ่งกับการไปงานมอบรางวัลภาพยนตร์ ยุ่งกับการจูงมือผู้หญิงเดินบนพรมแดง ยุ่งกับการอวดรวยบนเวทีทำทุกอย่างครบเลยนะ!”
หลินเป่ยฝาน “...”
หลินเป่ยฝานเงยหน้าขึ้นมองฉู่รั่วเสวี่ยด้วยแววตาจริงใจ “ฉันจำเป็นต้องทำแบบนั้น มันเป็นงานเข้าใจไหม? ฉันก็ไม่อยากทำหรอก”
“ฉันก็เห็นนายดูมีความสุขดีนี่” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดอย่างไม่พอใจ
หลินเป่ยฝานถอนหายใจอีกครั้ง “รั่วเสวี่ยเธอเข้าใจฉันผิด จริงๆแล้วฉันไม่มีความสุขเลย! บางครั้งยิ่งมีมาก ยิ่งอยู่สูงก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บและโดดเดี่ยว”
หลินเป่ยฝานทำหน้าครุ่นคิด “ช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุดก็คือตอนที่ไปสวนสนุกกับเธอเมื่อสองเดือนก่อน! ตอนนั้นฉันยังไม่มีชื่อเสียงและฐานะแบบนี้ มีแค่เธออยู่ข้างๆแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว”
ฉู่รั่วเสวี่ยหน้าแดงเรื่อ เธอพูดเสียงเบา “จริงเหรอ?”
“จริงสิ! รั่วเสวี่ยวันเสาร์นี้เธอว่างไหม? ฉันอยากจะชวนเธอไปสวนสนุกอีกครั้งเพื่อรำลึกถึงความสุขในวันนั้น” หลินเป่ยฝานพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แววตาของเขาดูลุ่มลึกและมีเสน่ห์
ฉู่รั่วเสวี่ยรู้สึกดีใจแต่ก็ยังปากแข็ง “ว่างสิ ในเมื่อนายอยากจะไปรำลึกถึงความหลังฉันก็จะยอมไปเป็นเพื่อนก็ได้! แต่นายเป็นคนชวนฉันนะไม่ใช่ฉันอยากจะไปเอง”
“ขอบคุณนะ” หลินเป่ยฝานพูดอย่างจริงใจ
เย่ซิงเฉินที่เห็นภาพทั้งหมดรู้สึกหัวใจสลายอีกครั้ง!
ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาในร้านอาหาร