240 (ฟรี)
240 (ฟรี)
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในงาน
ภายในงาน แสงไฟสว่างไสว เสียงผู้คนดังเซ็งแซ่
งานนี้จัดขึ้นในห้องโถงขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นล่างสำหรับดารา ศิลปิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ ส่วนชั้นบนสำหรับแฟนคลับ เพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคักยิ่งขึ้น
หลินเป่ยฝานในฐานะประธานบริษัท จึงได้ที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด
เป็นโต๊ะกลม โต๊ะหนึ่งมีเก้าอี้สามตัว
หลินเป่ยฝาน เหลิ่งชิงเยว่ และฟางหลิงเอ๋อร์ นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน
ทันทีที่ทั้งสามคนเดินเข้ามา ก็มีผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้กำกับ และดาราดังหลายคน เดินเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ท่านประธานหลิน ได้ยินชื่อเสียงมานาน วันนี้ได้เจอตัวจริงเสียที”
“อายุยังน้อย แต่เก่งจริงๆ”
“ท่านประธานหลิน นี่นามบัตรของผมครับ”
หลินเป่ยฝานยิ้มรับอย่างเป็นกันเอง พวกเขาให้เกียรติตน ตนก็ต้องให้เกียรติพวกเขาเช่นกัน
บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
ส่วนหญิงสาวทั้งสอง ก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะก่อน
ฟางหลิงเอ๋อร์มองไปรอบๆ เห็นดาราดังมากมาย และผู้ชมที่กำลังจับจ้องมาที่เธอ ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง “พี่ชิงเยว่ มีอะไรที่ฉันต้องระวังเป็นพิเศษบ้างไหมคะ?”
เหลิ่งชิงเยว่มองฟางหลิงเอ๋อร์ที่ดูใสซื่อราวกับกระดาษสีขาว เธอก็อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้
การสอนแบบตัวต่อตัวจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
“มีอยู่สองสามอย่างที่ต้องจำไว้นะ อย่างแรก โต๊ะที่เรานั่งอยู่มันอยู่ใกล้เวทีมาก กล้องจะต้องแพลนมาที่เรื่อยๆ ข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะถูกขยายให้ใหญ่โตขึ้นหลายเท่า ดังนั้น เธอต้องระวังท่าทาง และยิ้มแย้มเข้าไว้นะ”
“ค่ะๆ ฉันจะระวังให้มากค่ะ แล้วมีอะไรอีกไหมคะ?”
“พยายามอย่าดื่มน้ำเยอะ และอย่าออกไปเข้าห้องน้ำ ถ้าที่ตรงนี้ว่าง มันจะดูไม่ดี”
“คุณครูบอกฉันแล้วค่ะ ฉันเลยยังไม่ได้ดื่มน้ำเลย”
ผ่านไปประมาณ 10 นาที หลินเป่ยฝานก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พิธีมอบรางวัลภาพยนตร์ก็เริ่มต้นขึ้น
หลินเป่ยฝานนั่งอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยหญิงสาวทั้งสอง
ต้องยอมรับว่า โต๊ะนี้ดูโดดเด่นสะดุดตามาก
หลินเป่ยฝานก็หล่อเหลา หญิงสาวทั้งสองก็งดงาม แถมยังนั่งอยู่แถวหน้าสุด กล้องจึงต้องแพลนมาที่โต๊ะนี้บ่อยๆ ทำให้เรตติ้งพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ว้าว! คุณหลินกับคุณเหลิ่ง ดูเหมาะสมกันมากเลย”
“ใช่ๆ ชุดที่ใส่ก็ดูเข้ากัน มองแล้วสบายตาจริงๆ”
“ฉันว่า มีแต่คุณหลินนี่แหละ ที่เหมาะสมกับคุณเหลิ่ง”
“ถ้าทั้งคู่มีลูกด้วยกัน ลูกต้องน่ารักมากแน่ๆ ฉันแอบตั้งชื่อให้แล้วด้วยซ้ำ ฮี่ๆๆ”
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว คู่นี้แหละ ฉันจิ้น!”
“ฉันด้วย! จิ้นหนักมาก!”
หลี่ม่อไป๋ที่กำลังแอบดูอยู่ “…………”
พิธีมอบรางวัลภาพยนตร์ดำเนินต่อไป มีการประกาศรางวัลสาขาต่างๆ
เหลิ่งชิงเยว่ขึ้นร้องเพลงสองเพลง เป็นเพลงฮิตติดชาร์ต “จันทร์กระจ่างเมื่อใด” และ “ถั่วแดง” เรียกเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งงาน
จนกระทั่งถึงเวลาประกาศรางวัลสำคัญ
“ต่อไป เราจะมาประกาศรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม!”
พิธีกรพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “รางวัลนี้ จะมอบให้กับผู้กำกับหน้าใหม่ ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในรอบปี! ผู้มอบรางวัลในปีนี้คือ ท่านประธานหลินเป่ยฝาน จากบริษัทบันเทิงฮั่นถิง! ขอเชิญท่านประธานหลินครับ!”
“แปะๆๆๆๆ…………”
ท่ามกลางเสียงปรบมืออันกึกก้อง หลินเป่ยฝานก็ก้าวขึ้นไปบนเวที
สายตาของทุกคน และแสงไฟทั้งหมด ต่างก็จับจ้องมาที่เขา
ในสถานการณ์เช่นนี้ คนทั่วไปคงจะประหม่า และแสดงท่าทีเก้ๆ กังๆ
แต่หลินเป่ยฝาน กลับยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ปล่อยออร่าความเป็นผู้นำออกมา ทำให้ทุกคนในที่นั้น ต่างพากันสงบนิ่ง
“ออร่าความเป็นผู้นำ ทรงพลังมาก! แบบนี้แหละ ถึงเรียกว่าผู้นำตัวจริง! ผมเคยเห็นออร่าแบบนี้ จากนักธุรกิจระดับตำนานเท่านั้น!”
“แต่เทียบกับท่านประธานหลินแล้ว ยังห่างชั้นอยู่หลายขุม!”
“ไม่แปลกใจเลย ที่เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย”
“เขาเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ”
หลินเป่ยฝาน ยิ้มรับสายตาของทุกคน “สวัสดีครับท่านพิธีกร แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน และผู้ชมทุกคน”
พิธีกรยิ้มรับ “ขอต้อนรับท่านประธานหลินอีกครั้งนะครับ อย่างที่เราทราบกันดีว่า ปีนี้ ท่านประธานหลิน ก็เพิ่งจะเข้ามาในวงการบันเทิง เรียกได้ว่าเป็นคนใหม่ของวงการเลยใช่ไหมครับ?”
หลินเป่ยฝานพยักหน้า พร้อมกับยิ้ม “ใช่ครับ ผมเป็นน้องใหม่ในวงการนี้”
“ท่านประธานหลิน ช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมครับว่า อะไรที่ทำให้ท่าน ตัดสินใจเข้ามาในวงการบันเทิง?”
“ได้สิครับ” หลินเป่ยฝานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ “เพราะผมมองเห็นศักยภาพของวงการบันเทิง! ผมเชื่อว่า อุตสาหกรรมนี้ ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่รวมไปถึงระดับโลก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผม ตัดสินใจก้าวเข้ามา เพื่อที่จะพิชิตความสำเร็จ!”
“เยี่ยมมากครับ!” เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งงาน
ในขณะที่ ชาวเน็ตในห้องถ่ายทอดสด ต่างก็พากันฮือฮา
“ท่านประธานหลิน เท่สุดๆ!”
“มาเพื่อพิชิต! ชอบประโยคนี้จัง”
“ฉันชอบท่านประธานหลินที่ดูทะเยอทะยาน แบบนี้แหละ!”
“เทียบกับพวกดาราหน้าใหม่แล้ว ท่านประธานหลินดูมีออร่ามากกว่าเยอะ”
“ฉันขอประกาศเลย ว่าต่อไปนี้ ฉันจะเป็นแฟนคลับท่านประธานหลิน!”
“ฉันด้วย! หลงรักเลย!”
ส่วนหลี่ม่อไป๋ ได้แต่พึมพำในใจ เท่กับผีน่ะสิ!
พิธีกรยิ้ม “คำพูดของท่านประธานหลิน ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมมากครับ ในเมื่อท่านประธานมองเห็นศักยภาพของวงการบันเทิง และวงการภาพยนตร์ แบบนี้แล้ว ในอนาคต บริษัทบันเทิงฮั่นถิง จะมีโปรเจ็กต์อะไรใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์พวกเราบ้างไหมครับ?”
ผู้คนในงานที่ส่วนใหญ่เป็นคนในวงการภาพยนตร์ ต่างก็พากันตั้งใจฟัง
“มีครับ”
หลินเป่ยฝานพยักหน้า “เพื่อเป็นการพลิกฟื้นบริษัทบันเทิงฮั่นถิง และสร้างความคึกคักให้กับวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ รวมไปถึงเพื่อสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกสู่สายตาประชาชน ผมจึงตัดสินใจ ทุ่มเงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านหยวน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์! ใครก็ตามที่มีบทดีๆ แต่อยากได้ทุนสนับสนุน สามารถติดต่อมาที่บริษัทบันเทิงฮั่นถิงได้เลยครับ”
ผู้คนในงานต่างพากันอ้าปากค้าง
“ทุ่มทุน 3 แสนล้าน!!!”
“เงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“บ้าไปแล้ว! นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม?”
“จริงเหรอเนี่ย?”
“ทำไมข่าวถึงรั่วไหลออกมาไม่ได้เลย?”
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เหอซิ่วเหวิน CEOบริษัทบันเทิงฮั่นถิง
แต่เขากลับทำหน้าเหลอหลา เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
บนเวที พิธีกรถามด้วยน้ำเสียงตกตะลึง “ท่านประธานหลิน เมื่อครู่ คุณพูดว่าอะไรนะครับ? คุณบอกว่าจะทุ่มเงิน 3 แสนล้าน เพื่อสนับสนุนวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ อย่างนั้นเหรอครับ?”
หลินเป่ยฝานพยักหน้า “ใช่ครับ”
พิธีกรถามย้ำอีกครั้ง “3 แสนล้าน… ไม่ใช่ 3 หมื่นล้าน หรือ 3 พันล้าน นะครับ?”
“3 แสนล้านครับ! ผมไม่น่าจะจำผิดนะครับ” หลินเป่ยฝานยิ้มบางๆ “เอาจริงๆ แค่ 3 หมื่นล้าน หรือ 3 พันล้าน ผมก็ไม่อยากจะปริปากพูดเลย เรียกว่าการสนับสนุนไม่ได้หรอก แค่เศษเงินเท่านั้นเอง”
ผู้คนในงานต่างพากันตื่นตะลึง
“3 แสนล้านจริงๆ ด้วย!”
“พระเจ้า! 3 แสนล้าน สร้างหนังได้กี่เรื่องเชียว?”
“เงินจำนวนนี้ เทียบเท่ากับรายได้รวมของหนังทั้งประเทศ ในระยะเวลาครึ่งปีเลยนะ! ทุ่มทุนสร้างสุดๆ”
“ท่านประธานหลินนี่ ช่างมือเติบจริงๆ”
“นี่แหละคนรวย! น่าอิจฉา!”