ตอนที่แล้วระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 75 เริ่มต้นสังหารหมู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 77 ต่อกรกับผู้บัญชาอสูร

ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 76 คนที่จะสังหารเจ้า (ฟรี)


ระบบตกตะลึงไร้เทียมทาน ตอนที่ 76 คนที่จะสังหารเจ้า

ในความมืด หนิงเทียนซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้

เขาหมุนเวียนวิชาบันทึกเทพสวรรค์ ปิดบังกลิ่นอายทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นเย่เหลิงก็ไม่อาจสัมผัสถึงการคงอยู่ของเขาได้!

สายตาของเขามองไปที่เงาคนรอบกองไฟที่อยู่ไม่ไกล

ในกลุ่มคนนี้ นอกจากเย่เหลิงแล้ว ยังมีศิษย์ที่มีฐานพลังยุทธ์ขอบเขตราชันปฐพีระดับ 1 อีก 2 คน

ส่วนเย่เหลิง หนิงเทียนคาดเดาว่าฐานพลังยุทธ์น่าจะอยู่ระหว่างขอบเขตราชันปฐพีระดับ 4 ถึง 5!

หากต้องการสังหารพวกเขาทั้งหมด ไม่อาจเผชิญหน้าโดยตรงได้ ต้องอาศัยความมืด และสังหารทีละคน!

ก่อนที่จะจัดการเย่เหลิง ต้องกำจัดศิษย์ขอบเขตราชันปฐพี 2 คนก่อน!

เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างเชื่องช้า พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่าง ให้แสงสลัว ๆ แต่หนิงเทียนกำลังรอคอย รอคอยให้เมฆดำบดบังแสงจันทร์!

ถึงเวลานั้น ก็คือเวลาลงมือ!

กลุ่มคนนิกายบัญชาอสูรยังไม่มีใครพบว่าศิษย์คนนั้นยังไม่กลับมา

“ศิษย์พี่เย่ พวกเราสังหารศิษย์นิกายมารสวรรค์ไปมากมายแล้ว น่าจะแลกเปลี่ยนของดีได้ไม่น้อย ยังต้องเดินทางลึกเข้าไปในเทือกเขาสายลมจันทราอีกหรือ?”

ศิษย์นิกายบัญชาอสูรคนหนึ่งมองเย่เหลิง

“แน่นอนว่าต้องเข้าไป”

เย่เหลิงกล่าวเสียงเย็น ผลักศิษย์หญิงที่กอดไว้ออกไป

“ช่วงนี้เทือกเขาสายลมจันทราเกิดกระแสอสูร ดูเหมือนว่าจะต้องมีสมบัติล้ำค่าอยู่ข้างใน” ดวงตาของเขาเปล่งประกายความโล�

“เพียงแค่ศิษย์ไร้ค่าของนิกายมารสวรรค์ไม่กี่คน มันจะไปพออะไร?”

“สมบัติล้ำค่าในเทือกเขาสายลมจันทราคือสิ่งที่ข้าต้องการ!”

พูดถึงจุดนี้ ในดวงตาของเย่เหลิงก็มีแววตาเย็นชา “หรือว่า พวกเจ้าไม่อยากไปกับข้า?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์ทั้งหลายก็ตกใจ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ในดวงตาของพวกเขาฉายแววหวาดกลัว

“ไม่... ไม่ขอรับ”

ทุกคนส่ายหัว

“ถึงแม้ว่าศิษย์พี่เย่จะให้พวกเราขึ้นภูเขาดาบ หรือลงทะเลเพลิง พวกเราก็จะไม่ขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อย!”

“ฮึ่ม!”

เย่เหลิงกล่าวเสียงเย็น จากนั้นก็ดึงศิษย์หญิงที่ผลักไปกลับมา ราวกับเป็นเพียงของเล่น

ศิษย์หญิงคนนี้ไม่อาจพูดอะไรได้ ยังคงเอาใจเย่เหลิง

ศิษย์พี่เย่เหลิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าโหดร้าย ไร้หัวใจ ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้แต่คนในสำนัก!

ผ่านไปครู่หนึ่ง

ในที่สุดก็มีศิษย์พบว่าศิษย์ที่ไปปลดปล่อยตัวเองยังไม่กลับมา

“โก่วตันโดนอสูรลากไปหรือไม่? เหตุใดยังไม่กลับมาอีก”

“พวกเจ้าไปดูเขาเสียหน่อย”

เย่เหลิงขมวดคิ้ว ชี้ไปที่ศิษย์หลายคน

“ขอรับศิษย์พี่เย่”

หลายคนลุกขึ้น ในเวลานั้น เมฆดำก็บดบังแสงจันทร์

ทันใดนั้น สายลมเย็นพัดผ่าน จากนั้น กองไฟที่กำลังลุกโชนก็ดับลง

“หืม?”

“เกิดอะไรขึ้น?”

ศิษย์นิกายบัญชาอสูรตกใจ เมฆดำบดบังแสงจันทร์ กองไฟก็ดับลง รอบข้างมืดมิด มองไม่เห็นอะไรเลย

“อย่าได้ตื่นตระหนกไป”

ในความมืด เสียงไม่พอใจของเย่เหลิงดังขึ้น “ก็แค่มืดลงเท่านั้น ดูท่าทางขี้ขลาดของพวกเจ้าเสียบ้าง!”

ไม่มีใครสังเกตเห็นเงาดำที่พุ่งผ่านพวกเขาไป

ไร้เสียง ไร้ร่องรอย ราวกับภูตผี

ในอากาศ มีกลิ่นคาวเลือดลอยมา

“พวกเจ้าได้กลิ่นอะไรหรือไม่?”

คนหนึ่งถาม

“เหมือน... เหมือนกลิ่นคาวเลือด... อ๊า!”

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น

“อะไรนะ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ใครมันร้องโหยหวน!? น่ากลัวเสียจริง!”

ศิษย์นิกายบัญชาอสูรต่างหวาดกลัว

ในเวลานี้ เมฆดำก็หายไป แสงจันทร์ส่องสว่างลงมาอีกครั้ง เงาดำก็พุ่งกลับเข้าไปในป่า

ทุกอย่างเงียบสงบ

เมื่อแสงจันทร์กลับมา กลุ่มคนนิกายบัญชาอสูรก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

บนพื้นดิน ศิษย์นิกายบัญชาอสูรหลายสิบคนนอนจมกองเลือด!

“อ๊า!”

ศิษย์หญิงกรีดร้องไม่หยุด

คนอื่น ๆ ก็หวาดกลัว

นี่...

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เย่เหลิงขมวดคิ้ว กล่าวอย่างเรียบเฉย “อย่าตื่นตระหนก ต้องมีอสูรออกมาอาละวาดในยามค่ำคืนเป็นแน่!”

“ทุกคนเข้ามาใกล้กัน จุดกองไฟเสีย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เหลิง ทุกคนก็รีบเข้ามาใกล้กัน แบ่งเป็นกลุ่ม ๆ จากนั้นก็พยายามจุดไฟ

แต่ในเวลานี้ พวกเขากลับพบว่าไฟจุดไม่ติด!

บนท้องฟ้า เมฆดำบดบังแสงจันทร์อีกครั้ง

ทุกคนใจหายรุนแรง

“แม้จะไม่มีไฟก็อยู่ใกล้ ๆ กันเอาไว้ หมุนเวียนปราณวิญญาณ ป้องกันให้ดี!”

เย่เหลิงตะโกนเสียงดัง ในใจรู้สึกอัดอั้น

ในสถานที่ที่ไร้แสงสว่างเช่นนี้ เขาก็ไม่ต่างจากคนตาบอด

สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงป้องกัน

ในความมืด เมื่อเห็นทุกคนรวมตัวกัน หนิงเทียนก็ยกมุมปากขึ้น

รวมตัวกันหรือ จะมีประโยชน์อะไร?

[ย่างก้าวอัสนีบาตเคลื่อนทิศ เงาอัสนีบาตสังหาร!]

ในพริบตา หนิงเทียนก็แปรเปลี่ยนเป็นภูตผี พุ่งเข้าไปในกลุ่มศิษย์นิกายบัญชาอสูร

เขามีย่างก้าวอัสนีบาตเคลื่อนทิศ วรยุทธ์ย่างก้าวสังหาร ถึงแม้จะมองไม่เห็น เขาก็สามารถระบุเป้าหมายด้วยกลิ่นอายได้

ต่อมาก็ถึงเวลาฝันร้ายของศิษย์นิกายบัญชาอสูร

ทุกครั้งที่เมฆดำบดบังจันทร์ก็จะมีศิษย์ถูกสังหารในความมืด

เมื่อแสงจันทร์ส่องสว่าง พวกเขาต้องการตอบโต้ แต่รอบข้างกลับว่างเปล่า แม้แต่กลิ่นอายก็ไม่อาจสัมผัสได้

นี่ทำให้เย่เหลิงรู้สึกอัดอั้น

ถึงแม้จะมีฐานพลังยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ก็ไม่อาจใช้ได้

ศิษย์นิกายบัญชาอสูรต่างหวาดกลัวภายใต้ความหวาดผวา พวกเขาคิดว่าเป็นวิญญาณของศิษย์นิกายมารสวรรค์ที่ถูกสังหารเมื่อวานกลับมาแก้แค้น

ทุกคนต่างหวาดกลัว บางคนถึงกับกลัวจน... ปัสสาวะราด

ไม่มีใครรู้ว่าคนต่อไปที่จะตาย จะเป็นตนเองหรือไม่

ทุกครั้งที่สังหาร หนิงเทียนก็จะนับจำนวนคน

ศิษย์นิกายบัญชาอสูรน้อยลงเรื่อย ๆ

“คนที่ 28...”

“คนที่ 66...”

“คนที่ 109!”

ในความมืด หนิงเทียนลงมือครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อสังหารไป 130 คน เขาก็หยุดลง

เพราะก่อนหน้านี้ เขานับแล้ว คนของนิกายบัญชาอสูรมีทั้งหมด 131 คน!

คนสุดท้ายก็คือเย่เหลิง!

เมื่อเมฆดำหายไป เย่เหลิงก็มองเห็นอีกครั้ง เหงื่อเย็นของเขาไหลไม่หยุดหย่อน

รอบข้าง เต็มไปด้วยศพของศิษย์นิกายบัญชาอสูร!

“สารเลว...”

“นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

เย่เหลิงกัดฟันแน่น กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

อัจฉริยะผู้หยิ่งยโสแห่งนิกายบัญชาอสูร ในเวลานี้ กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

แปลกประหลาดเกินไป!

มันแปลกประหลาดเกินไป!

ทุกครั้งที่เมฆดำบดบังแสงจันทร์ ก็จะมีศิษย์ตายไป แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้!

“อัจฉริยะแห่งนิกายบัญชาอสูรก็มีความกลัวด้วยหรือ?”

ในเวลานั้น เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้น

หืม!?

เย่เหลิงราวกับนกที่ตกใจ หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว ด้านหลัง มีเงาดำเดินเข้ามาทีละก้าว ราวกับยมทูตที่พร้อมพรากชีวิตคน

“เจ้า... เจ้าเป็นใคร!”

เย่เหลิงกลืนน้ำลาย ถอยหลังหลายก้าว

หนิงเทียนเงยหน้าขึ้น ในดวงตาของเขามีเจตนาฆ่า “คนที่จะสังหารเจ้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด