บทที่ 46 ยุนเชาเสี้ยน
ราชาเสือได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
...
..ก่อนหน้านี้
เมื่อชูเหลียงได้ใช้พลังของตัวเอง เขาก็เชื่อจริงๆ ว่ากำลังใช้รอบประทับร้อยกระบี่
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เขาเรียกเพชฌฆาตสีชาดนั้นเขารู้สึกแปลกมาก
มันเป็นอารมณ์ที่ถูกระงับไว้เป็นเวลานับไม่ถ้วน - ความโกรธความเกลียดชังต่อความชั่วร้าย ความอดกลั้นที่ไม่มีสิ้นสุด นี่คือกระบี่แห่งความยุติธรรมที่ถูกผนึกไว้เป็นเวลานาน และตอนนี้ในที่สุด มันก็สามารถออกมาต่อสู้กับความชั่วร้ายได้อีกครั้งแล้ว มันดีใจจนบ้าคลั่ง
นี่คือการตื่นขึ้นของกระบี่แห่งความยุติธรรม
ครืนน
ด้วยเจตจำนงของชูเหลียง เพชฌฆาตสีชาดเข้มเริ่มแตกแขนง กระบี่เล่มหนึ่งแบ่งออกเป็นสิบ สิบกลายเป็นร้อย ร้อยเป็นพัน พันเป็นหมื่น...
จู่ๆ พลังลึกลับก็ปะทุขึ้น ผลักเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า เหมือนมีลมกระโชกแรงส่งพลังให้เขา
ครืนน
ทันใดนั้นก็มีพลังชี่ดังขึ้นกลางอากาศและส่งเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยกระบี่นับไม่ถ้วน มันมากเสียจนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
แม้แต่ชูเหลียงยังอึ้งกับฉากนี้
นี่มัน.. รอยประทับหมื่นกระบี่งั้นหรือ
บางทีนี่อาจเป็นทักษะที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ถ้าเป็นรอยประทับร้อยกระบี่ธรรมดา กระบี่แต่ละเล่มคงมิได้มีพลังมากมายเช่นนี้ เพชฌฆาตสีชาดหมื่นเล่มตกลงมาเหมือนเม็ดฝนพุ่งเข้าใส่เสือดำยักษ์
เมื่อแสงกระบี่พาดผ่านราชาเสือ มันก็จู่โจมเฉพาะราชาเสือเท่านั้นเท่านั้น ชี่ปีศาจซึมออกมาจากบาดแผล แต่ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว อย่างไรก็ตาม กระบี่เหล่านี้มีมากกว่าหมื่นเล่ม ผลที่ได้จะถูกขยายออกไปอย่างมาก
คลื่นลูกแรกของการโจมตีทำให้ราชาเสือเสียงคำรามที่เจ็บปวด!
กรรรร
ชายแกร่งฉวยโอกาสกระโดดถอยหลัง ในขณะที่ทำเช่นนั้นเขายังไม่ลืมที่จะรับคว้าง้าวครองโลกจากพื้นไป บัดนี้ ง้าวอันทรงพลังได้อยู่ในมือของเขาแล้ว และมันได้ทำให้พลังของเขาทรงพลังขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาเหมือนเม็ดฝนในการโจมตีระลอกที่สอง
เงาของกระบี่หมุนไปรอบๆ เหมือนผึ้งกลับรัง พวกมันหมุนรอบเสือดําและบินไปรอบๆ ร่างกายที่ใหญ่โตของมัน
กระบวนการอาจดูเหมือนยาวนาน แต่ในความเป็นจริง กระบี่นับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าหาราชาเสือในชั่วพริบตา
ดวงตาของราชาเสือโคร่งมืดลง จากนั้นก็เปล่งประกายอย่างแปลกประหลาด
"กรรรร!" ราชาเสือคำรามอย่างทรมาณ
ครืนน เสียงกระบี่พุ่งฉวัดเฉวียน สลับกับเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่ว
กระบี่หมื่นเล่มหักหัวและพุ่งทะลุทะลวงฉับพลัน ระเบิดเสียงกระหึ่มของราชาเสือ เลือดสาดกระเซ็นไหลนองพื้นกระจายไปทั่ว..
..เลือดคือทั้งหมดที่เหลืออยู่ของราชาเสือ แม้แต่กระดูกของเขาก็ถูกทำลายไปแล้ว
เงาสีทองลอยเข้ามาในร่างของชูเหลียง
จากนั้น เพชฌฆาตสีชาดก็บินกลับไปหาชูเหลียง พร้อมใบบีดที่ส่องแสงสีแดงคาวเลือด
จู่ๆ ชูเหลียงก็นึกถึงรายละเอียดของอาวุธ... กระบี่นี้เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม พลังของกระบี่จะพุ่งสูงขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีมลทินด้วยความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่
ที่กล่าวว่าจะมีการเพิ่มพลัง.. มันเพิ่มมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า
จากร้อยเป็นหมื่น มันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน แม้แต่ในฉูซานเองก็ไม่มีอะไรเทียบได้เลยกับเพชฌฆาตสีชาดนี้
พลังของเพชฌฆาตสีชาดนั้นน่าทึ่งมาก กระทั่งชูเหลียงผู้เป็นเจ้าของเองต้องอึ้งไปพักใหญ่
ดังนั้น แน่นอนว่า ชายแกร่งที่เปลือยท่อนบนเองก็ตกใจมากเช่นกัน เขายืนอยู่ที่เดิมสักพัก ในที่สุดก็เดินถือง้าวยักษ์มาหาชูเหลียง
เขาหยุดตรงหน้าชูเหลียงจากนั้นก็กล่าวว่า "ข้าคือยุนเชาเสี้ยนแห่งนิกายดารายิ่งใหญ่ ข้อขอขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือของท่าน"
"ชูเหลียง นิกายฉูซานขอรับ" ชูเหลียงตอบ
"โอ้ ศิษย์แห่งฉูซานนี่เอง ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบ" ชายแกร่งยกมือคารวะอย่างสุภาพ
"ที่แท้ท่านก็มาจากดารายิ่งใหญ่ มิแปลกใจที่ท่านจะกล้าหาญและทรงพลังได้ถึงเพียงนี้" ชูเหลียงตอบทันทีอย่างสุภาพ
ตอนนี้เขาเห็นหน้าตาของชายแกร่งแล้ว ยุนเชาเสียนไม่เพียงแต่สูงและแข็งแรงเท่านั้น เขายังค่อนข้างหล่อ คิ้วตรงและบางดวงตากลมและหน้าตาที่คมเข้ม
ปราชญ์ราชวงศ์เมฆมองแสงสว่าง หัวใจเต็มไปด้วยความเคารพ
ชูเหลียงกําลังจะทักทายกับยุนเชาเสี้ยน แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างและดูจริงจังขึ้น
"เดี๋ยวก่อน..." ชูเหลียงกล่าว
พูดจบก็หันหลังวิ่งออกไปทันที
หยุนเชาเสี้ยนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถือง้าวในมือและเดินตามชูเหลียงออกไป
ชูเหลียงรีบวิ่งออกจากถ้ำ พบว่าบริเวณโดยรอบว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของปีศาจแม้แต่ตัวเดียว
ปิศาจเหล่านี้หวงแหนชีวิตของพวกเขามาก ครั้นพวกเขาเห็นราชาเสือตาย พวกเขาก็หนีไปทันที ชูเหลียงตามหลังพวกเขาเพียงเล็กน้อย แต่เขาจับพวกนันไม่ได้ มันสายเกินไป
"อา.." ชูเหลียงถอนหายใจด้วยความผิดหวัง "พวกเขาหนีไปหมดแล้ว..."
ยุนเชาเสี้ยนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น "ท่านชู เหตุใดท่านถึงยังต้องการปีศาจเหล่านั้นด้วยเล่า อย่างไรเสียพวกเขาก็มิใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไปแล้ว ท่านฆ่าปีศาจเสือดําตัวนั้นแล้ว นี่เพียงพอที่จะปราบปรามปีศาจกบฏในพื้นที่นี้แล้ว"
"ข้า..." ชูเหลียงพูดแล้วหยุดชั่วคราว เขาพูดต่อ "ข้าแค่ทําส่วนของข้าเพื่อกําจัดความชั่วร้าย"
ยุนเชาเสี้ยนประสานมืออีกครั้งและกล่าวด้วยความเคารพ "ท่านชูเอ๋ย ท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ข้าขอชื่นชมท่านจากใจจริง"
..
พวกปีศาจต่างพากันหลบหนีไปแล้ว ชูเหลียงลงจากเขาพร้อมกับยุนเชาเสี้ยนและพูดคุยกันตลอดทาง
จริงๆ แล้ว ชูเหลียงรู้มานานแล้วว่าหยุนเชาเสี้ยนเป็นใคร ตามรายงานของหนังสือข่าวเจ็ดดารา ศิษย์หลักทั้งสี่ของนิกายดารายิ่งใหญ่มีความเชี่ยวชาญในวิชา ดาบ หอก กระบี่ และอาวุธยาว
คนที่โด่งดังที่สุดแน่นอนคือศิษย์เอกเหรินหงเต้า ส่วนยุนเชาเสี้ยนนั้นก็เป็นคนที่ใช้อาวุธยาวได้อย่างเลื่องชื่อเลยทีเดียว
"นิกายดารายิ่งใหญ่ของเราอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เราได้ข่าวมาว่าทูตปีศาจทั้งสี่นั้นมาจากทิศตะวันตกอันไกลโพ้นมายังดินแดนของราชวงศ์หยู และได้ดึงดูดความสนใจของนิกายของเรา" ยุนเชาเสี้ยนกล่าว "ดังนั้นนิกายของเราจึงสั่งให้พวกเราสี่คนฆ่าหนึ่งในสี่ทูตแต่ละตน"
แต่ข้าหารู้ไม่ว่าปีศาจตนที่ข้าตามล่าอยู่นั้นเจ้าเล่ห์มาก.." ยุนเชาเสี้ยนพูดต่ออย่างพอใจ "เขาท้าทายให้ข้าสู้ เขาวาดวงกลมและบอกว่าเราจะสู้โดยไม่พกอาวุธเข้าไป แล้วใครออกจากวงกลมก่อนก็จะเป็นฝ่ายแพ้
"ข้าตอบตกลงและเข้าไปในวงกลมและต่อสู้กับเขา เขาเข้ามาที่ข้างหลังข้าอย่างรวดเร็ว ข้าต่อยเขาเข้าอย่างจัง.. แต่ใครจะรู้ว่าเขามิได้จะจู่โจมข้าจากด้านหลัง เขาเพียงต้องการอยู่ระหว่างข้าและง้าวของข้า เขาใช้โอกาสนี้ในการพุ่งออกจากวงกลมและชิงง้าวครองโลกของข้าหนีไป!”
"..." ชูเหลียงเงียบไปครู่หนึ่ง
เขาจำได้ถึงสิ่งที่ทูตปีศาจกล่าวถึงก่อนหน้านี้ เขาได้พบกับศิษย์ของนิกายดารายิ่งใหญ่คนหนึ่งและเล่าว่า ชายคนนี้มีฝีมือ แต่ขาดสติปัญญา..
แต่จากระดับการฝึกฝนของยุนเชาเสี้ยน ใครก็รู้ว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ เขายืนหยัดในจุดยืนของเขาอย่างแน่วแน่ อีกทั้งเขายังได้ฝึกด้วยอาวุธยาวมาตั้งแต่เด็ก ทักษะทุกอย่างจึงเน้นไปที่อาวุธชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาสู้กับราชาเสือ เขากลับใช้มือเปล่า!
อาวุธนั้นสำคัญสำหรับผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ หากไม่มีอาวุธที่เหมาะสมผู้ฝึกตนนั้นๆ ก็จะปล่อยพลังได้เพียงครึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขายังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างมหาศาลตลอดเวลาที่ต่อสู้กับราชาเสือ.. หากเขาได้ใช้ง้าวครองโลก..
จากระดับการฝึกฝนเพียงอย่างเดียว หากเทียบกับเจียงเยว่ไป๋แล้วนั้นชายร่างโตคนนี้ดูทรงพลังกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ในศึกจริงๆ ศิษย์พี่เจียงอาจจะหาวิธีเอาชนะเขาได้เป็นร้อยวิธี
ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นสิ่งสําคัญที่ผู้ฝึกตนจะต้องใช้มันสมองของพวกเขาให้ได้ดีที่สุด
"ท่านชู ท่านอยากไปตามล่าเจ้าสารเลวนั่นกับข้าหรือไม่" ยุนเชาเสี้ยนถามชวนชูเหลียงมาร่วมเดินทางด้วย
"หืม" ชูเหลียงประหลาดใจมาก "ท่านยุน เหตุใดท่าจึงอยากให้ข้าไปด้วยหรือ"
"ทูตปีศาจตัวนั้นเล่ห์เหลี่ยมมากมาย เขาวางแผนทําร้ายมนุษยชาติ เราต้องกําจัดเขาให้ได้ แต่ข้าคนเดียวอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอ" ยุนเชาเสี้ยนอธิบายพลางมองมาที่ชูเหลียงด้วยความชื่นชม "ท่านชู ด้วยพลังพิเศษที่ท่านฝึกฝนมา มันเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเลยทีเดียว หากท่านช่วยข้า เราจะฆ่าเหล่าปีศาจชั่วนั่นได้แน่นอน"
"พลังพิเศษของข้าหรือ.." ชูเหลียงพึมพําพลางลังเลว่าการตัดสินใจของเขาควรเป็นอย่างไร
"ใช่ ตั้งแต่เด็กมา ข้าไม่เกรงกลัวใคร แต่วันนี้ข้าได้เห็นซึ่งพลังอันเป็นที่ประจักษ์ของท่าน ข้าประทับใจมากจริงๆ " ยุนเชาเสี้ยนพยักหน้าเป็นระยะๆ ดวงตาของข้าเต็มไปด้วยความชื่นชม "จริงๆ แล้ว ปราณของท่านดูธรรมดาและไม่สะดุดตาเสียเลย หากข้ามิได้เห็นท่านใช้รอยประทับหมื่นกระบี่ด้วยตาของข้าเอง ข้าก็คงคิดไม่ถึงว่าท่านจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้”
ชูเหลียงยิ้ม
มิใช่แค่ท่านหรอกท่านยุน... ข้าเองก็มิเคยรู้เลยว่าตัวเองมีพลังมากถึงเพียงนี้..