ตอนที่แล้วบทที่ 249 ปรากฎว่ามันเป็นเรื่องจริง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 251 ทะเลสาบเหล่ย

บทที่ 250 เผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาจารย์จากสี่สิบหกอาณาจักร


นางมองหยางเสี่ยวเทียนที่เริ่มเคลื่อนไหวและกำลังเดินใกล้เข้ามาหานางเรื่อยๆ ท่าทีเฉินจื่อหานพลันตื่นตระหนก ปรากฏความหวาดกลัวประดับทดแทนความงามหมดจดบนดวงหน้าบอบบางดุจหยกเนื้อดี

ยิ่งเขาใกล้เข้ามา นางก็ยิ่งก้าวถอยอย่างหวั่นเกรง ขณะสติสัมปชัญญะจวนหลุดลอย นางถึงนึกขึ้นได้ พร้อมเผยอ้าปากหมายยอมรับความพ่ายแพ้ต่อเขาด้วยบริสุทธิ์ใจ แต่ทันใดนั้น หยางเสี่ยวเทียนกลับหายวับไป ก่อนพลันปรากฏตรงหน้านางในพริบตา

หยางเสี่ยวเทียนพุ่งกำปั้นออกไป ขณะส่งเสียงแหวกอากาศคำรามลั่นอีกครั้ง

บูม!

  

ก่อนหมัดอสูรเหี้ยมจะทะลวงหน้าท้องราบเรียบของนางจนสาหัส หยางเสี่ยวเทียนกางกำปั้นเปลี่ยนใช้ฝ่ามือระเบิดนางเพื่อลดความรุนแรงของมัน

ร่างบอบบางของเฉินจื่อหานพุ่งกลับออกไปเบื้องหลัง ก่อนกระแทกเข้ากับขอบจัตุรัสอย่างแรง พลิกกลิ้งลงมาตามพื้นน่าสงสาร และสภาพ ไม่ต่างจากเฉิงหลงในรอบแรกเลยแม้แต่น้อย

จัตุรัสสั่นสะเทือน

แม้นหยางเสี่ยวเทียนจะควบคุมความรุนแรงจากเพลงหมัดอสูรเหี้ยม โดยใช้กำลังกับนางไม่ถึงหนึ่งส่วน แต่ด้วยทักษะนี้มีความทรงพลัง อวัยวะภายในทั้งห้าของนางจึงยังเจ็บสาหัสจวนถูกทลายอย่างต่อเนื่อง

ดวงหน้ามนเรียวงามดั่งเทพธิดาของเฉินจื่อหาน บิดเบี้ยวด้วยปวดร้าวจนเกร็งเสียรูปโฉม

ครั้นนางเปิดปาก เลือดก็พร้อมพุ่งออกมาคำใหญ่ ซึ่งนอกจากเลือดแล้วยังมีของเหลวสีเขียวปนออกมาด้วย

หยางเสี่ยวเทียนเหลือบมองสตรีผู้นี้อย่างเย็นชา

เพราะก่อนการแข่งขันวันนี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง กล่าวหาว่าเขาติดสินบนเฉิงเซิ่งและเติ้งอี้ชุน ซึ่งผู้เสนอความคิดริเริ่มคือนางกับเฉิงหลง

ทั่วทั้งจัตุรัส ทุกคนต่างยืนแข็งค้างขณะสายตาจับจ้องเฉินจื่อหานซึ่งนอนแน่นิ่งหลังถูกผลักออกมาไม่นาน พวกเขาล้วนส่ายศีรษะอย่างเห็นอกเห็นใจ

การประลองรอบสอง หยางเสี่ยวเทียนเป็นฝ่ายชนะอย่างมิมีผู้ใดคิดแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

หลังการประลองรอบสามและสี่ต่อมา

หยางเสี่ยวเทียนก็เข้าสู่สิบอันดับแรกได้สำเร็จ ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมีเหล่ยจื่อ เฉินไห่หลินและเฉิงหวู่ชนะเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกด้วยเช่นกัน

ในบรรดาเก้าคน มีห้าคนที่เคยได้ลิ้มรสพลังหมัดของหยางเสี่ยวเทียน ณ ดินแดนสัตว์อสูร

ไม่นานหลังการแข่งขันอีกสองรอบ สามอันดับแรกก็คือหยางเสี่ยวเทียน เหล่ยจื่อและเฉินไห่หลินจากสำนักเหล่ยถิง

ซึ่งรอบต่อไป หยางเสี่ยวเทียนต้องประลองยุทธ์กับทั้งสอง เพื่อชิงอันดับหนึ่งในการแข่งขันระดับสำนักครั้งนี้

เดิมที ทุกคนตั้งตารอคอยแลคาดหวังจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเหล่ยจื่อกับหยางเสี่ยวเทียนอย่างสมศักดิ์ศรี แต่เมื่อเหล่ยจื่อและเฉินไห่หลินพบกับเขา ทั้งคู่ก็พร้อมยอมรับความพ่ายแพ้ทันที

แม้นทุกคนจะค่อนข้างผิดหวัง แต่ลึกๆ พวกเขาก็เข้าใจทั้งสองว่าเหตุใดถึงตัดสินใจไปเช่นนั้น

ท้ายที่สุด ผู้ชนะเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันระดับสำนักครั้งนี้ ก็ตกเป็นของหยางเสี่ยวเทียนไปโดยบริบูรณ์

เมื่อทุกคนมองหยางเสี่ยวเทียนกลางลานประลองหลัก พวกเขาก็ต่างทอดถอนหายใจด้วยไม่อยากเชื่อ ใครจะคิดว่าเด็กอายุแปดหรือเก้าขวบเช่นเขา จะชนะเป็นอันอับหนึ่งในการแข่งขันระดับสำนักแห่งอาณาจักรเสินไห่ครั้งนี้

ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีผู้ใดใคร่สงสัยในพรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่งเขาแล้ว แม้นมันจะดูน่าเหลือเชื่อและเป็นไปได้ยากอยู่ไม่น้อย หากมิได้ประจักษ์ต่อสายตาตนเอง

หยางเสี่ยวเทียนยืนรับรางวัลจากเฉิงไค องค์ราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเสินไห่

แต่เมื่อเฉิงไคต้องการมอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้เขา หยางเสี่ยวเทียนกลับส่ายศีรษะปฏิเสธตำแหน่งที่มิมีผู้ใดใคร่ต้องการ

เพราะตำแหน่งซึ่งเป็นบ่วงพ่วงมากับชื่อเสียงแลอำนาจอันยุ่งเหยิงในภายหลัง สำหรับเขาแล้วมันเปล่าประโยชน์

ซึ่งการมีชื่อเสียงเช่นนี้ อาจไม่ใช่เรื่องดี

เฉิงไคขมวดคิ้ว ประหลาดใจในความคิดเด็กเช่นหยางเสี่ยวเทียน ที่กล้าปฏิเสธตำแหน่งอันทรงเกียรติซึ่งจะช่วยเสริมบารมีเขาในภายภาคหน้า ท้ายสุด เฉิงไคก็ไม่บังคับหรือพยายามยัดเยียดมัน พร้อมกับชื่นชมในความไม่มักใหญ่ใฝ่สูงของเขา

จากนั้น การแข่งขันระดับสำนักก็สิ้นสุดลง

เหล่าวิญญาจารย์ผู้แข็งแกร่งแลผู้มีอำนาจจากทั่วทุกสารทิศ ก็จากไปพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ

หยางเสี่ยวเทียนและทุกคน กลับถึงลานหลักของสำนักเสินเจี้ยนสาขารองด้วยความสุขสำราญเต็มเปี่ยมบนใบหน้า ระหว่างงานเลี้ยง หลินหยง เจ้าสำนักเสินเจี้ยนได้แสดงการร่ายรำเพลงกระบี่ให้ทุกคนได้ชื่นชมอย่างมีความสุข พร้อมเสียงโห่ร้องรื่นเริง

ระหว่างร่ายรำเพลงกระบี่ แสงพร่างพราวจากปราณกระบี่ ส่งชายชราอย่างหลินหยงกลายเป็นชายหนุ่มผู้เคยทรงเสน่ห์อีกครั้ง

ค่ำคืนอันเงียบสงัด

หลังงานเลี้ยงจบลงทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนหยางเสี่ยวเทียนยังยืนอยู่ยังลาน ขบคิดถึงหนทางข้างหน้า

ยังมีเวลาอีกสามเดือน ก่อนที่สำนักเทียนโต้วจะเปิดรับศิษย์ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เขาสามารถผ่านการประเมินของสำนักเทียนโต้วได้แน่นอน แต่ที่เขายังวางใจผ่อนคลายมิได้ เพราะการทดสอบอีกสามเดือนข้างหน้า เขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาจารย์จากสี่สิบหกอาณาจักร ที่หมายได้เข้าร่วมเป็นศิษย์สำนักเทียนโต้วเช่นกัน

วันรุ่งขึ้น เฉิงไคเรียกพบหยางเฉากับหวงอิ๋งให้เข้าเฝ้าในพระราชวังหลวง เพื่อมอบตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีและยอดฟูเหรินอันดับหนึ่งแก่พวกเขาทั้งคู่

หยางเสี่ยวเทียนกับบิดามารดา เที่ยวเล่นที่เมืองหลวงต่ออีกเป็นเวลาสองวัน ก่อนกลับไปยังเมืองเสินเจี้ยนพร้อมทุกคน

เดิมที เขาหมายจะไปพบเหวินจิงอวี๋ก่อนกลับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปดังหวัง

หลังกลับถึงเมืองเสินเจี้ยน หยางเสี่ยวเทียนก็ยังหมั่นฝึกฝนเพลงกระบี่ เคล็ดวิชาจากทักษะระดับมหาจอมเวทย์และบ่มเพาะปราณมังการแรกเริ่มเหมือนทุกวัน

ในเวลาเดียวกัน ทักษะระดับมหาจอมเวทย์ที่เขาฝึกฝนครั้งนี้คือ "หัตถ์ปีศาจแห่งยมโลก" ซึ่งเขาได้จากเจ้ายักษาเหินเวหาโหยวเสวี่ย

นอกจากนี้ เขายังขัดเกลาหอกเหล็กสามง่ามและดาบของพวกโหยวเสวี่ยให้เป็นอาวุธวิญญาณขั้นมหาสมบัติ ก่อนนำแจกจ่ายให้หลัวชิง เลี่ยวคุนพร้อมคนอื่นๆ

สิบวันต่อมา หยางเสี่ยวเทียนตัดสินใจออกเดินทางไปเยือนป่าพระจันทร์แดงอีกครั้ง ตามล่าหาสัตว์อสูรสักสองตัว กำราบมันเพื่อฝึกให้เป็นสัตว์เลี้ยงพาหนะและค้นหาสมบัติของกริชเทียนหลง

เดิมที อูฉี หลัวชิงพร้อมคนอื่นๆ จะติดตามหยางเสี่ยวเทียน แต่เขาปฏิเสธและตัดสินใจเดินทางครั้งนี้ผู้เดียว เพราะอย่างไร เขาก็ไม่สามารถพึ่งพาพวกเขาไปได้ตลอด

และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เขาสามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด