ตอนที่แล้วบทที่ 21 ครอบครัว  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 ช็อก  

บทที่ 22 ลูกพี่ลูกน้อง  


หลังจากกลับมายังห้อง หลูมู่หยานจัดการนำหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงออกมาจากแหวนจักรวาล และวางลงอย่างระมัดระวัง

นางใช้ผลไม้แห่งเพลิงเพียงแค่ลูกเดียวจากการสะกัดไปก่อนหน้า และยังเหลือที่เย่ชิงหานทิ้งไว้ให้อีกสิบเอ็ดผล

ปริมาณของมันมากเกินพอสำหรับการทำยาซีซุย สำหรับท่านปู่และคนอื่น ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ทำให้ทุกครั้งแค่เปิดเตาหลอม ยาชำระไขกระดูกชั้นยอดสามถึงสี่เม็ดจะถูกสะกัดออกมา และมันจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

หลูมู่หยานใส่หญ้าวิญญาณลงไปในหม้อต้มยา ผลไม้แห่งเพลิงไม่เหมาะที่จะเก็บรักษาเอาไว้ เพราะยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ คุณสมบัติทางยาของมันก็จะลดและสูญหายไป

ตอนนี้ร่างกายของจูไมได้รับการรักษาแล้ว และด้วยพลังทางจิตวิญญาณของนางสามารถช่วยแก้ปัญหาระหว่างเล่นแร่แปรธาตุได้

หลูมู่หยานโยนหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงลงในหม้อต้มยาเข้าด้วยกัน พร้อมกับควบคุมเปลวไฟอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเริ่มสะกัดยาช้า ๆ

ผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนนี้ห้องของหลูมู่หยานก็เต็มไปด้วยเศษฟางของดันเซียง

กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น หลูมู่หยานดับไฟของหม้อต้มยา และเมื่อยกมือเปล่าขึ้นมายาเม็ดกลมสีขาวนวลก็ลอยออกมาจากหม้อทีละเม็ด

หลูมู่หยานมองไปยังขวดแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมากกว่าหนึ่งโหล ใบหน้าของนางก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ครั้งนี้ยาชำระไขกระดูกทั้งหมดสี่สิบสองเม็ดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครั้งนี้มันมากกว่าที่นางเคยทำตอนที่อยู่ในเทือกเขาแห่งเพลิงเกือบสองเท่า

หลูมู่หยานเก็บขวดแก้วลายครามเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางส่องแสงเป็นประกาย เม็ดยาซีซุยที่อยู่ตรงหน้าสร้างความมั่งคั่งให้นางได้อย่างมาก

ด้วยยาไขกระดูกเหล่านี้ นางสามารถหาวิธีแลกเปลี่ยนกับหญ้าวิญญาณที่มีค่ามากขึ้นได้ เมื่อนางผ่านขั้นตอนการสร้างเม็ดยาและได้จุดไฟของเม็ดยาแล้ว การจับเม็ดยาเหมือนเม็ดลดฝุ่นไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือ?

หลูมู่หยานกำมืออย่างมุ่งมั่น “ช่วงเวลาสร้างเม็ดยา...ข้าจะไปถึงที่นั่นในไม่ช้า!”

หลูมู่หยานไม่รอช้า ทันทีที่มอบยาซีซุยให้คนในตระกูลแล้ว นางก็รีบไปที่สถาบันจักรพรรดิทันที

สถาบันจักรพรรดิ นับเป็นสถาบันที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรหยานโจว

หลังจากที่หลูมู่หยานดูดซับพลังงานจิตวิญญาณเป็นเวลาสองสามวันที่สถาบัน เพื่อทำให้การฝึกฝนคงที่ในช่วงการฝึกและสมบูรณ์แบบ ตราบใดที่นางปรับแต่งจีตันก็จะสามารถทำให้เข้าถึงการสร้างฐานได้ เทียบได้กับความแข็งแกร่งของวิญญาณแห่งดาบ

หญ้าวิญญาณมากกว่ายี่สิบรสชาติ ที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งจูจีตันมีจำหน่ายในท้องตลาด ทว่าการหาตัวยาหลักของทั้งสามรสชาตินั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก

ดีพออร์คิดที่อยู่ในยาหลักสามชนิด จะเติบโตในที่ที่มีน้ำแข็ง สามารถพบได้ในภูเขาที่เย็นจัดเท่านั้น ส่วนต้นมะเนียงน้ำ และดอกลิงสีม่วงสามารถพบได้ในหุบผาลึกหนานหยู ซึ่งหาได้ไม่ง่าย

หลูมู่หยานปล่อยสิ่งที่อยู่ในหัวทิ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบวนท้องเนื่องจากความหิว “ดูเหมือนว่าข้าต้องรีบปรับแต่งยาเม็ดใหญ่ให้ทันเวลา”

ระหว่างเดินผ่านลานเล็ก ๆ ในสถาบัน หลูมู่หยานได้รับสายตาแปลก ๆ จากคนที่อยู่บริเวณนั้น รวมไปถึงบางคนแอบชี้ และถอนหายใจ นางเลยล้มความคิดที่จะรับประทานในโรงอาหาร และเดินออกไปทางเยว่หลานจู

เยว่หลานจูตั้งอยู่บนถนนจูเกที่เจริญรุ่งเรือง และนับเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงอีกด้วย

“เฮ้! นั่นหลูมู่หยานไม่ใช่หรือ?” หยุนจินที่อยู่ในห้องส่วนตัวของร้านเยว่หลานจูเอ่ยทัก ภายหลังจากการสังเกตทั่วร้าน

เมื่อสิ้นเสียงของหยุนจิน ฉีอี้ซวนก็มองลงมายังหน้าต่าง ก่อนจะเห็นเพียงชายผ้าสีม่วงของนางเท่านั้น

นอกจากหยุนจินและฉีอี้ซวนแล้ว ยังมีอีกสามคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน คนแรกคือองค์ชายสาม ‘หยุนหลัน’ บุตรชายของฮองเฮา คนที่สองคือ ‘เสี่ยวเซียง’ หลานชายของนายกรัฐมนตรี และ ‘หยุนหลัว’ น้องชายของจักรพรรดิ และบุตรชายของ ‘เจิ้นซีหวาง’ 

“หลูมู่หยาน? นั่นใช้สาวน้อยผู้โด่งดังในเมืองหลวง ที่มีข่าวว่าไล่ตามฉีอี้ซวนทั้งวันไม่ใช่หรือ?” เสี่ยวเซียงเเอบถามด้วยความสงสัย ก่อนจะมองไปที่หยุนจินด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าได้ยินมาว่านางถูกสนมของจักรพรรดิคุมขัง ได้ยินว่าเปลี่ยนไปมากหลังจากได้รับบาดเจ็บ?”

“ใช่ มันเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้เวลานางเห็นอี้ซวน ถ้านางไม่เมินเขา นางก็ถากถางแทน” ใบหน้าของหยุนจินดูเศร้าหมองเล็กน้อย และนางก็ไม่ได้สนใจฉีอี้ซวนเท่าไหร่ “แต่ยังไงก็ตาม นางเป็นผู้ฝึกฝนของปรมาจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” เสี่ยวเซียงเผลออุทาน “ผู้ที่ร่างกายไม่สามารถดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นพลังเนี่ยนะ? นางจะได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไรกัน?”

“ข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน” หยุนจินยักไหล่ เขาเองก็อยากรู้เช่นเดียวกันว่าทำไมหลูมู่หยานถึงกลายเป็นนักดาบที่ยิ่งใหญ่ได้

หลังจากที่หยุนหลัวกลับมาครั้งนี้ เขาเองก็ได้ยินข่าวลือมากมายที่เกี่ยวกับหลูมู่หยาน โดยเฉพาะเรื่องการต่อสู้ระหว่างนางกับกู่ยันรันที่กลายเป็นการพนัน

เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลูมู่หยานและลูกพี่ลูกน้องของนาง เขาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกัน ก่อนจะเอ่ยถามว่า “อลัน ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าคือหลูมู่หยาน นางได้รับการเลื่อนชั้นเป็นระดับการบ่มเพาะของปรมจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ หรือไม่?”

“หลูมู่หยาน” บุรุษที่นั่งอยู่แถวหน้าเอ่ยชื่อเบา ๆ พลันรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา “เท่าที่ข้ารู้ มันเป็นเรื่องจริง”

“แล้วนางทำได้อย่างไร?” เสี่ยวเซียงเอ่ยถาม พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความอยากรู้

“ข้าก็ไม่รู้อะไรแน่ชัดนัก”

หยุนหลันค่อย ๆ เผยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้เยว่หลานไม่มีที่นั่งแล้ว เชิญนางขึ้นมารับประทานอาหารเถอะ”

เขาทราบจากท่านแม่ว่าหลูมู่หยานได้กำจัดร่างที่ตายแล้ว วันนี้เขาอยากจะรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีเปลี่ยนไปตามข่าวลือหรือไม่ และเขาเองก็ยังสงสัยอีกว่าหลูมู่หยานก้าวขึ้นสู้การเป็นปรมจารย์ด้านดาบที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไร”

“ขอรับ นายท่าน”

ตอนนี้หลังจากที่มีข่าวลือเกี่ยวกับหลูมู่หยานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ใครหลายคนอยากรู้ว่าหลูมู่หยาน เปลี่ยนไปจริงหรือไม่

ทันทีที่สิ้นเสียงเจ้าของร้านที่พูดว่าตอนนี้โต๊ะของเยว่หลานจูเต็มแล้ว หลูมู่หยานจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับและเตรียมตัวที่จะเดินออกจากร้าน ทว่าขณะที่นางกำลังจะหันหลังไปก็ปรากฏเป็นบุรุษผู้หนึ่งหยุดนางเอาไว้

“แม่นางหลู นายของข้าเรียนเชิญให้ท่านขึ้นไปรับประทานอาหารที่ชั้นบน” บุรุษผู้นี้เอ่ยชวนด้วยถ้อยคำและท่าทีที่สุภาพ

หลูมู่หยานเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ใครคือเจ้านายของเจ้าหรือ?”

“ท่านจะได้รู้ เมื่อท่านขึ้นไป” บุรุษผู้นั้นกล่าว

บุรุษผู้นี้ดูแล้วเหมือนองครักษ์ส่วนตัว หลูมู่หยานเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่าผู้ใดกันที่ต้องเชิญนางร่วมรับประทานอาหารด้วย

“นำข้าไปสิ” หลูมู่หยานเอ่ยก่อนจะเดินตามบุรุษผู้นั้นขึ้นไปที่ห้องส่วนตัว ณ ชั้นสามของร้าน ที่มีเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น

ทันทีที่ประตูห้องอาหารส่วนตัวถูกเปิดออก หลูมู่หยานสังเกตเห็นบุรุษห้าคนนั่งอยู่ ในตอนนี้มีเพียงฉีอี้ซวนและหยุนจินเท่านั้นที่นางรู้จัก

“ลูกพี่ลูกน้อง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หยุนหลันมองไปยังหลูมู่หยาน ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มอ่อนโยนออกมาประดับบนใบหน้าที่หล่อเหลา

หลูมู่หยานตกใจเล็กน้อย ลูกพี่ลูกน้องอย่างนั้นหรือ? มีเพียงหยุนหลันบุตรชายของท่านป้าผู้เป็นราชินีของนางเท่านั้นที่จะเรียกนางว่าลูกพี่ลูกน้อง

นางและลูกพี่ลูกน้องของนางคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ปกติ และยังเป็นเพื่อนเล่นกันสมัยเยาว์วัย หยุนหลันอายุมากกว่านางสามปี แต่เมื่อหลูมู่หยานเริ่มไล่ตามฉีอี้ซวนโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ทั้งเขาและนางก็แทบไม่ได้ติดต่อกัน

อาจารย์ของหยุนหลันเป็นมหาอำนาจราชาดาบระดับสูงของจักรวรรดิ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนที่สถาบันจักรพรรดิและออกเดินทางไปกับอาจารย์เป็นเวลาหลายปี ก่อนจะเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้

หลูมู่หยานไม่ได้พบกับหยุนหลันมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่นางจะจำเขาไม่ได้เมื่อเห็นหน้ากัน

ตอนนี้หลูมู่หยานไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร ก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างหยุนหลันและเอ่ยทักทายว่า “สวัสดี ลูกพี่ลูกน้อง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด