ตอนที่แล้วบทที่ 167 บรรลุความร่วมมือ (ตอนที่ 1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 169 บรรลุความร่วมมือ (ตอนที่ 3)

บทที่ 168 บรรลุความร่วมมือ (ตอนที่ 2)


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 168 บรรลุความร่วมมือ (ตอนที่ 2)

ใกล้มหาวิทยาลัยหนานกง ณ โรงแรมเทียนวังพาวิลเลี่ยน

ซุนเฉิงถือแก้วไวน์อยู่ในห้องบนชั้นสองของโรงแรม และพูดคุยกับคนหนุ่มสาวหลายคนอย่างมีชีวิตชีวา

งานเลี้ยงอาหารค่ำใกล้จะจบลงแล้ว

“...เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ นับเป็นเกียรติของฉันมาก! ฉันขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจัดงานดื่มที่สนุกสนานยิ่งกว่านี้ให้กับทุกคนได้ เพราะฉันเองก็ดื่มไม่ค่อยเก่งนัก..”

ภายในห้อง หลังจากดื่มเครื่องดื่มไปอีกรอบ ซุนเฉิงที่มีอาการมึนเมาเล็กน้อยยังคงมีแววตาที่แจ่มใส สายตาของเขามองไปที่คนหนุ่มสาวในห้องเป็นบางครั้ง ในแววตาอารมณ์นั้นเปลี่ยนไปมาตลอด

คนหนุ่มสาวเหล่านี้ทั้งหมดได้มารวมตัวกันโดยหยางเฟย และพวกเขาทั้งหมดเป็นนักศึกษาวิชาเอกวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยหนานกง ถ้าถามถึงอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงมากในมหาวิทยาลัย ในหมู่พวกเขาไม่มีอัจฉริยะเลยสักคน นอกเหนือจากบุคนหนุ่มสาวเหล่านี้แล้ว ก็มีแค่ซุนเฉิงเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ที่กำลังจะจบการศึกษา ส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเขาจากปีเดียวกัน

ที่จริงมันมีคำพูดหนึ่งใช้อธิบายเด็กมหาวิทยาลัยได้อยู่!

เด็กปีหนึ่งต่างยุ่งอยู่กับการเล่น เด็กปีสองกำลังยุ่งอยู่กับความรัก ปีสามกำลังยุ่งอยู่กับการเรียน และปีสี่ก็กำลังยุ่งอยู่กับการเลิกรา

แม้ว่าคำอธิบายนี้อาจไม่ถูกต้องสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยทุกคน แต่คำนี้ก็ใช้ได้กับนักศึกษาจำนวนมากอย่างแน่นอน

ซึ่งการที่ไม่มีเด็กอัจฉริยะในหมู่เด็กพวกนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนพวกไม่มีข้อดีสักประการเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นซุนเฉิงคงจะไม่รู้จักพวกเขาแล้ว

ในระหว่างความพยายามในการเริ่มธุรกิจก่อนหน้านี้ เขาพยายามหาบุคคลที่มีความสามารถไปทั่วมหาวิทยาลัย โดยเล็งไปที่นักศึกษาที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังในด้านสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซุนเฉิงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาอย่างมากมาย

ยกตัวอย่างเช่น ในหมู่คนหนุ่มสาวที่หยางเฟยเชิญมาในนามของเขา พวกเขาเกือบทั้งหมดได้รับทุนการศึกษาอย่างน้อยหนึ่งทุนในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ พวกเขาเป็นนักศึกษาที่ถือได้ว่าสำเร็จในด้านการเรียน แม้ว่าพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นหนอนหนังสือที่เรียนหนัก แต่ความรู้ของพวกเขาก็เหนือกว่าเพื่อน ๆ ในรุ่นเลยทีเดียว

ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ ซุนเฉิงสนใจนักศึกษาชั้นปีที่สี่ที่ชื่อลู่หนานเป็นพิเศษ

บุคคลคนนี้ค่อนข้างไม่ธรรมดา เขาได้ยื่นขอการสนับสนุนเงินทุนจากมหาวิทยาลัยสำหรับโครงการของเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องเทคโนโลยีควบคุมด้วยเสียง

การสั่งการด้วยเสียงไม่ใช่แนวคิดใหม่ ไมโครซอฟท์เคยริเริ่มมานานแล้ว แถม 'สิริ' ของแอปเปิ้ลยังได้รับความนิยมอย่างมาก

แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ถูกมองว่าน่าสนใจนัก แต่มันก็ได้รับความสนใจจากบุคคลที่มีความทะเยอทะยานมาก มีบริษัทอินเทอร์เน็ตจีนเกิดขึ้นอย่างน้อยสามแห่งที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ควบคุมด้วยเสียง กระทั่งมหาวิทยาลัยหนานกงก็ไม่อาจต้านทานกระแสนี้ได้ ทำให้พวกเขามีโครงการที่พัฒนาด้านควบคุมด้วยเสียงหลายโครงการ

ด้วยจำนวนโครงการที่เพิ่มมากขึ้น การแข่งขันจึงรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอนโดยต้องสงสัย จากที่ซุนเฉิงไปถามมา โครงการของลู่หนานไม่ประสบความสำเร็จเหมือนโครงการของเขา มันล้มเหลวภายในหนึ่งเดือนเศษ มีข่าวลือว่าลู่หนานทำงานพิเศษตั้งแต่มันล้มเหลว เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อใช้คืนหนี้สินที่ก่อขึ้นระหว่างทำโครงการ

"ชน..."

“พี่ซุน พี่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว”

มื้ออาหารมื้อนี้ทุกคนต่างมีความสุขอย่างทั่วถึง ทุกคนรู้สึกพึงพอใจอย่างมากหลังจากกินอิ่มและดื่มจนแน่นท้อง

ซุนเฉิงรู้ว่ามันถึงเวลาที่ต้องพูดแล้ว เขาไม่คิดจะเสียเงินเจ็ดถึงแปดร้อยเหรียญไปกับมื้ออาหารนี้เพื่อพูดคุยและสังสรรค์กับเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นหรอกนะ

ส่วนคนอื่น ๆ ก็กำลังรอให้เขาพูด แม้ว่าพวกเขาจะเปิดขวดเหล้าสามขวด แต่ก็ยังไม่มีใครเมาจริง ๆ ทุกคนกำลังรอให้เขาพูดประเด็นสำคัญอยู่

เมื่อเห็นว่าทุกคนวางตะเกียบลงแล้ว ซุนเฉิงก็กระแอมไอและหยิบเอกสารสองสามชิ้นออกมาจากกระเป๋าของเขา แทนที่จะยื่นให้พวกเขาทันที เขาเริ่มต้นด้วยการพูดว่า "วันนี้ฉันขอให้หยางเฟยช่วยนัดทุกคนมาที่นี่ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เพื่อทำโครงการธุรกิจร่วมกัน โดยใช้พลังของพวกเราทุกคน พวกนายไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเงินทุนเลย ฉันหาแหล่งเงินทุนมาได้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถเปิดเผยจำนวนเงินที่แน่นอนได้ แต่ฉันสามารถรับรองได้ว่ามันเป็นเงินถึงเจ็ดหลัก นอกจากนี้ฉันได้ลงนามข้อตกลงกับนักลงทุนไปแล้ว หากเราประสบความสำเร็จในระยะแรก ภายในสามถึงหกเดือน เราจะได้รับการลงทุนเพิ่มเติมไม่น้อยกว่าแปดตัวเลขที่ฝากเข้าบัญชีของบริษัทโดยตรง!"

ไม่ว่าจะทำอะไร ควรใช้เหตุผลและตรรกะก่อน แม้ว่าซุนเฉิงจะทำกำไรได้มาจากการเทรดบิทคอยน์โดยใช้เซฟการ์ด แต่เขาก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ทันที มิฉะนั้นมันคงจะทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย

ตัวอย่างเช่นตอนที่เขาซื้อภูเขามาก่อนหน้านี้ ถึงเขาจะนำเอกสารทั้งหมดไปด้วยตัวเอง แต่เอกสารทั้งหมดก็ถูกปลอมแปลง โชคดีที่เซฟการ์ดสามารถช่วยเขาแฮ็กเข้าไปในแผนกที่เกี่ยวข้องและแก้ไขข้อมูลได้

ซึ่งเขาเองก็เตรียมตัวเตรียมคำพูดเอาไว้แล้ว เผื่อกรณีเรื่องที่เขาทำมันถูกเปิดเผย

ในห้องเกิดความเงียบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา จากนั้นมันก็ตามมาด้วยเสียงกลืนน้ำลายสองสามครั้ง

ซุนเฉิงมองไปรอบ ๆ ห้อง และสังเกตเห็นว่าท่าทางของลู่หนานเปลี่ยนไปมากที่สุดในหมู่คนหนุ่มสาวที่อยู่ในที่นี้ อาจเพราะลู่หนานเคยมีส่วนร่วมในโครงการธุรกิจมาก่อน เขาย่อมเข้าใจดีกว่าคนอื่น ๆ ถึงความยากลำบากในการหาเงินทุนสำหรับโครงการ

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ลู่หนานก็อดใจไม่ไหวถามไปว่า "พี่ซุน ฉันขอถามเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาในอนาคตของบริษัทได้ไหม?"

ตลอดมื้อก่อนหน้านี้ ซุนเฉิงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลมกลืนกับทุกคนในฐานะคนนอก แต่บางครั้งเขาก็เผลอหลุดคำพูดออกไป ทว่าเขาจงใจหลีกเลี่ยงการพูดถึงรายละเอียดของโครงการที่เขากำลังทำอยู่ไม่พูดไปจนหมด เพราะเขาต้องการจุดประเด็นความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา จากนั้นจึงค่อยอธิบายอย่างละเอียด

เมื่อได้ยินดังนั้น ริมฝึปากของซุนเฉิงจึงยกขึ้นเล็กน้อย เขาได้สืบประวัติของลู่หนานมาแล้วด้วยความช่วยเหลือของ เซฟการ์ด เขาได้แทรกซึมเข้าไปในฐานข้อมูลบันทึกนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

ซึ่งลู่หนานรู้เรื่องของซุนเฉิงก่อนหน้านี้ทุกอย่าง จนถึงขั้นเขาเรียกซุนเฉิงว่า "พี่ซุน" แสดงให้เห็นเลยว่าเขาเคารพและนับถือซุนเฉิงเพียงใด

เขายิ้มและตอบว่า “แน่นอน ฉันจะอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดเอง ให้ฉันพูดอย่างนี้แล้วกัน เหตุผลที่ฉันเชิญพวกนายทุกคนมาก็เพราะบริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างความก้าวหน้าในด้านการจัดเก็บผลิตภัณฑ์...”

"ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล...พี่หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันในอินเทอร์เน็ตและที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์งั้นเหรอ?"

ก่อนที่ซุนเฉิงจะพูดจบ ลู่หนานขัก็ดจังหวะเขาด้วยความประหลาดใจ ความผิดหวังเต็มไปทั่วดวงตาของเขา

"ที่เก็บข้อมูลเครือข่ายคลาวด์...?"

ซุนเฉิงยิ้มบาง ๆ "ที่นายถามมา มันอาจจะทั้งใช่และไม่..."

การที่ท่าทางของลู่หนานเปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของเขา ตัวซุนเฉิงก็พอเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง

อินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งแรก ๆ ที่ใช้ร่วมกันฟรีบนอินเทอร์เน็ต วิธีการสร้างหรืออะไรก็เรียกได้ว่าเรียบง่ายมาก บริษัทอินเทอร์เน็ตไม่ว่าที่ใดก็สามารถสรรหานักพัฒนาคนสองคนมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันนี้ได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่วัน สิ่งที่พวกเขาต้องการมีแค่ฮาร์ดแวร์ระดับสูงและเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น

แต่ที่จริง ความผิดหวังของลู่หนานไม่ได้เกิดจากเหตุผลนี้เพียงเหตุผลเดียว

ต้องบอกก่อนว่า เรื่องการพัฒนาพื้นที่จัดเก็บมันผ่านมานานเกือบทศวรรษแล้ว กระแสความนิยมรอบ ๆ ของพื้นที่จัดเก็บอะไรแบบนี้เรียกได้ว่ามันซาลงแล้ว

ดังนั้นทั่วโลก จำนวนบริษัทดิสก์อินเตอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ จำนวนมาก ต่างกำลังเผชิญกับอุปสรรคและปัญหาอย่างมาก

ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตของจีน ในปี 2014 มีบริษัททั้งหมด 34 แห่งที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ ซึ่งในปี 2015 จำนวนได้พุ่งสูงสุดในเดือนเมษายนไปถึง 67 บริษัท

ทว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 หลังจากการประกาศปิดบริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์อย่างถาวรโดยบริษัทอินเทอร์เน็ตแห่งแรกในประเทศ จำนวนบริษัทอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ที่รอดชีวิตในประเทศจีนลดลงเหลือน้อยกว่า 20 แห่ง

เมื่อพิจารณาจากความถดถอยของผู้ให้บริการเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ที่เหลืออยู่ ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าจำนวนนี้จะลดลงอีกครึ่งหนึ่งภายในปีปัจจุบัน

ซึ่งมันมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีบริษัทอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์ในประเทศเหลืออยู่ไม่เกินห้าแห่ง และมีการคาดว่าทั้งห้าบริษัทสุดท้ายจะอยู่ภายใต้ร่มเงาของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศ

"การเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการจ่ายเงินสำหรับการใช้ที่จัดเก็บในอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก การเซ็นเซอร์เนื้อหาที่เข้มงวดส่งผลให้สูญเสียความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งการผ่อนปรนเกินไปยังทำให้ถูกรัฐบาลตำหนิอีก...พี่ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้แล้วหรือยัง?”

ลู่หนานถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง สมกับที่เขาเป็นนักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถสูงจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานจิงเสียจริง

ซุนเฉิงยังคงมองเขาด้วยสีหน้าพอใจ อารมณ์ความพึงพอใจเต็มไปอยู่ทั่วบนใบหน้าของเขา

การพูดถึงประเด็นทั้งสองนี้ของลู่หนานถือได้ว่าตั้งคำถามได้ดี เพราะปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ดิสก์จำนวนมากกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างมาก

เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม กำลังจะตอบกลับไป

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของซุนเฉิงก็ดังขึ้นจากกระเป๋าของเขา

เมื่อนำมันออกมา เขาก็รู้ว่าเป็นสายจากสวี่ชุน เขาประหลาดใจอย่างมากเพราะรอสายนี้มาสิบวันแล้ว

แม้ว่าจะค่อนข้างไม่พอใจนักที่สายโทรมาตอนนี้ แต่เขาก็ยังยิ้มขอโทษลู่หนานและคนอื่น ๆ พร้อมรับสายทันที "สวัสดีครับ อาจารย์ที่ปรึกษา ผมรอคอยเวลานี้มานานจริง ๆ ว่าแต่มหาวิทยาลัยได้พิจารณาตรวจสอบการทำงานร่วมแล้วหรือยังครับ?”

“โทษทีนะที่ติดต่อมาช้าซุนเฉิง มหาวิทยาลัยดูจะตอบรับในเชิงบวก อธิการบดีมีความประสงค์ที่จะพบและพูดคุยกับเธอด้วยตนเอง เธอสะดวกไหม?”

ในไม่ช้า เสียงของสวี่ชุนก็ดังขึ้นจากปลายสายด้วยน้ำเสียงร่าเริง

ซุนเฉิงหัวเราะออกมาอย่างยินดี “สะดวกครับ อาจารย์สามารถนัดหมายเรื่องเวลาและสถานที่ได้เลยครับ แต่อย่าลากออกไปไกลมากนะครับ พอดีผมมีเรื่องอื่นต้องจัดการด้วย!”

หลังจากวางสาย เขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเพื่อเผยรอยยิ้มกว้างให้กับคนในห้อง เขาส่งสิ่งของที่เขาตระเตรียมไว้ให้พวกเขาทันทีและกล่าวว่า "ฉันได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับบริษัทและค่าตอบแทนของพวกนายไว้ในเอกสารพวกนี้ มันชักเริ่มดึกแล้วสิ ฉันมีงานที่ต้องทำต่อในเช้าวันพรุ่งนี้ เอาอย่างนี้...พวกนายลองดูเอกสารนี้ดู ถ้าพวกนายไม่มีปัญหาและอยากร่วมงานด้วย ก็ติดต่อมาหาฉันได้เลย!"

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด