ตอนที่ 40 ผู้คนถูกทำให้ตื่นตะลึง
“โอ้โห นี่..ฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี่ย”
คุณชายคนหนึ่งที่สังเกตเห็นรถซุปเปอร์คาร์สีดำคันนี้ก่อนเป็นคนแรก เขาได้อุทานออกมาอย่างตกตะลึง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นๆ ก็หันไปมองด้วยความสงสัย
เพียงแค่มองแวบเดียว ทุกคนก็ถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน
“นี่...นี่...นี่มัน Koenigsegg ในตำนานใช่ไหม?”
มีคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ใช่..”
“นี่แหละ Koenigsegg ในตำนาน”
“และดูเหมือนมันจะเป็น Koenigsegg Agera ที่ราคากว่า 20 ล้าน เกือบๆ จะ 30 ล้านได้..”
คุณชายคนหนึ่งที่ซึ่งรู้เรื่องรถซุปเปอร์คาร์เป็นอย่างดีตอบอย่างมั่นใจ
Koenigsegg Agera?
มากกว่า 20 ล้าน เกือบๆ จะ 30 ล้าน?!
ในขณะนี้ ทุกคนไม่เพียงแต่ตกใจเท่านั้น แต่ถึงกับตกตะลึง
เดิมทีพวกเขาคิดว่าซุปเปอร์คาร์ราคา 10 กว่าล้านนั้นก็เจ๋งมากแล้ว
ไม่นึกเลยว่าจะมีซุปเปอร์คาร์ราคา 20-30 ล้านโผล่มาในวันนี้ด้วย!
20-30 ล้าน นี่มันสามารถซื้อบ้านดีๆ ในเจียงโจวได้เลยด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างถูกตัวเลขราคาของ Koenigsegg Agera คันนี้ทำให้ตื่นตะลึง
เมื่อมองดู Koenigsegg Agera คันนี้ที่เพิ่งมาถึง เจิ้ง หยวนเลี่ยง และหวง ไห่อี้ ก็นิ่งอึ้งไปด้วยเช่นกัน
ต้องยอมรับว่า Koenigsegg Agera คันนี้ดูหล่อเท่มาก
แม้แต่รถ McLaren P1 ของ คุณชายฟาง นั้นก็ยังดูด้อยกว่า Koenigsegg Agera คันนี้เล็กน้อย
ไม่ต้องนับเรื่องอื่น แค่ราคาอย่างเดียวก็เห็นชัดแล้ว
ด้วย Koenigsegg Agera หนึ่งคัน แทบจะซื้อ McLaren P1 ได้ถึงสองคัน
นี่คือความแตกต่าง..
“อึกอึก..” (เสียงกลืนน้ำลาย)
ดวงตาของ เจิ้ง หยวนเลี่ยง เบิกตากว้างด้วยความอิจฉาขณะที่เขาจ้องมองดู Koenigsegg Agera คันนี้อย่างหลงใหล
ซุปเปอร์คาร์คันนี้ดูหล่อเท่มาก มันราวกับภูติผีสีดําทมิฬที่โดดเด่น และดูมีเสน่ห์ถึงขีดสุด
ไม่ต้องพูดถึง เจิ้ง หยวนเลี่ยง แม้แต่ ฟาง ห่งซิว ที่เย่อหยิ่ง ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา พอเห็น Koenigsegg Agera คันนี้ก็ยังเผยสีหน้าอิจฉาออกมาให้เห็น
“รถ Koenigsegg Agera คันนี้เป็นของใครกัน?”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลคนใดคนหนึ่งแน่ๆ ไม่เช่นนั้นจะขับ Koenigsegg Agera ในตำนานมาได้ยังไง”
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างสงสัยว่าใครเป็นเจ้าของรถ Koenigsegg Agera คันนี้
สุดท้าย Koenigsegg Agera สีดำคันนี้ก็ค่อยๆ เข้าจอดข้างๆ McLaren P1 คันนั้น
ประตูรถของ Koenigsegg ค่อยๆ เปิดขึ้น ไปท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมองโดยไม่กะพริบของทุกคน
ชายหนุ่มหล่อระเบิดคนหนึ่งค่อยๆ เดินออกมาอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นเจ้าของรถ Koenigsegg Agera คันนี้ ทุกคนที่นั้นไม่ว่าจะเป็นเหล่าคุณหนู หรือคุณชายหนุ่มจากตระกูลที่ร่ำรวยต่างก็พากันตกตะลึง
นั่นเพราะไม่มีใครรู้จักชายหนุ่มหล่อคนนี้ที่ขับรถ Koenigsegg คันนี้เลยสักคน
“หืม?!”
หลังจากเห็นชายหนุ่มหล่อที่เดินออกมา หวง ไห่อี้ ถึงกับปิดปากด้วยความไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
นี่...นี่ไม่ใช่ พี่เฉิน เหรอ?
คราวนี้ พี่เฉิน ขับรถ Koenigsegg Agera มาจริงๆ?
โอ้ พระเจ้า
หลังจากอึ้งไปสักพัก หวง ไห่อี้ พลันรีบวิ่งเข้าไปหา
“พี่เฉิน พี่มาแล้ว”
หวง ไห่อี้ พูดด้วยความเคารพอย่างมาก
หา?
เมื่อได้ยิน หวง ไห่อี้ เรียกหนุ่มหล่อเจ้าของรถ Koenigsegg คันนี้ว่า พี่เฉิน
ทุกคนที่นั่นต่างตกตะลึง
พี่เฉิน?
เจ้าของรถ Koenigsegg คันนี้คือ พี่เฉิน ที่ หวง ไห่อี้ พูดถึงตลอด?
คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นั่นเคยได้ยิน หวง ไห่อี้ พูดถึง พี่เฉิน คนนี้
แต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า พี่เฉิน ที่ หวง ไห่อี้ พูดถึงจะเป็นคนใหญ่คนโตอะไรไปจริงๆ
ตอนนี้ พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาคิดผิด.. คิดผิดอย่างมหันต์
และใช่.. คนที่ขับ Koenigsegg Agera ที่มีราคา 20-30 ล้าน เขาจะไม่เป็นคนใหญ่คนโตไปได้อย่างไร?
ในที่สุดพวกเขาก็เชื่อคำพูดของ หวง ไห่อี้
ส่วนเพื่อนๆ ของ หวง ไห่อี้ ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ในตอนแรก ตอนนี้ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความสุข
ที่แท้ ‘พี่เฉิน’ ที่ หวง ไห่อี้ พูดถึงจริงๆ แล้วเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆ
พวกเขารู้สึกภูมิใจมากเช่นเดียวกับ หวง ไห่อี้
ท้ายที่สุดพวกเขาเพิ่งถูก เจิ้ง หยวนเลี่ยง เยาะเย้ย ตอนนี้ พี่เฉิน ขับรถ Koenigsegg มา พวกเขาก็พร้อมจะเชิดหน้าชูตา
ในบรรดาคนที่อยู่ในที่นี้ เจิ้ง หยวนเลี่ยง คือคนที่ตกใจที่สุด
เจิ้ง หยวนเลี่ยง ไม่เคยคาดคิดเลยว่า ‘พี่เฉิน’ ที่ หวง ไห่อี้ พูดถึงจะขับรถ Koenigsegg ราคาหลายสิบล้านมาจริงๆ
ใบหน้าของ เจิ้ง หยวนเลี่ยง ซีดลงสลับกับเขียวไปเป็นพักๆ เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจ และหวาดกลัวมาก
โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงคำพูดที่เขา..พูดเอาไว้ เจิ้ง หยวนเลี่ยง ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
“ถ้า พี่เฉิน ของนายขับรถที่ดีกว่า McLaren P1 ของ คุณชายฟาง มาได้ ฉันจะยอมคุกเข่าเรียกเขาว่า ‘พี่’ ให้เลย..”
“และฉันจะยก Lamborghini ราคากว่า 9 ล้านหยวนคันนี้ของฉันให้เป็นของเขาด้วย”
การคุกเข่าเรียก ‘พี่’ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ถ้าต้องยกรถ Lamborghini Aventador ให้ พี่เฉิน..ด้วย ไอบ้าเอ๊ยย แบบนี้ฉันคงได้เจ็บใจไปทั้งชีวิต
ยิ่ง เจิ้ง หยวนเลี่ยง คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เจิ้ง หยวนเลี่ยง จึงถอยหลังไปหลายก้าว เขาต้องการจะออกไปจากที่นี่
แต่ทันทีที่ เจิ้ง หยวนเลี่ยง ถอยไปได้ไม่กี่ก้าว หวง ไห่อี้ ก็สังเกตเห็นเขา
“มานี่สิ เจิ้ง หยวนเลี่ยง ก่อนหน้าเมื่อกี้ ..นายพูดอะไรไว้นะ?”
“อ้า.. นายพูดว่าอะไรแล้ว อืมม ใช่ๆ ถ้า พี่เฉิน ขับรถที่เจ๋งกว่า McLaren P1 มา นายว่าจะทำอะไรนะ?”
หวง ไห่อี้ ถาม เจิ้ง หยวนเลี่ยง
“พี่หวง ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว”
เจิ้ง หยวนเลี่ยง กล่าวขอโทษ หวง ไห่อี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาไม่อยากยกรถ Lamborghini Aventador ของตัวเองให้ใครเลย
พอมองดู เจิ้ง หยวนเลี่ยง ที่ทำตัวต่ำต้อย หวง ไห่อี้ ก็พลันหัวเราะเยาะเย้ย นี่แหละคือผลของการกระทำ
เมื่อกี้นายทำตัวหยิ่งยโสขนาดไหน เห็นไหมว่าเวลานี้ผลกรรมมันได้มาถึงแล้ว?
“เอาแบบนี้แล้วกัน ลืมเรื่อง Lamborghini ไป อีกคำสาบานหนึ่งยังไงก็ตามนายต้องทำให้ได้”
การจะยกรถที่ราคาเกือบ 10 ล้านให้ พี่เฉิน มันดูไม่สมเหตุสมผล
แม้ว่า เจิ้ง หยวนเลี่ยง จะยินยอม แต่ครอบครัวของ เจิ้ง หยวนเลี่ยง คงไม่ยอมแน่ๆ
ถ้าในเวลานั้นมันนำปัญหามาคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่
แต่อีกคำสาบานหนึ่ง เจิ้ง หยวนเลี่ยง จะต้องทำแน่นอน
“อ่า พี่หวง ผมขอ…”
เจิ้ง หยวนเลี่ยง ยังคงพยายามเจรจา แต่ใบหน้าของ หวง ไห่อี้ กลับมืดลง
“อ.. เอาเถอะ”
ในที่สุด เจิ้ง หยวนเลี่ยง ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับ
อับอายก็อับอาย แต่ถึงอย่างไรก็ดีกว่ายอมเสียรถไป
สุดท้าย เจิ้ง หยวนเลี่ยง จำใจเดินเข้าไปหา เย่เฉิน
ตุบ
เจิ้ง หยวนเลี่ยง คุกเข่าลงต่อหน้า เย่เฉิน แล้วพูดขึ้นว่า :
“สวัสดีครับ พี่เฉิน”
ทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของ เจิ้ง หยวนเลี่ยง
แม้แต่ เย่เฉิน ก็อึ้งไปเช่นกัน
“นายมาคุกเข่าอวยพรปีใหม่อะไรฉันตอนนี้ ฉันไม่ได้เอาซองอั่งเปามาด้วยหรอกนะ”
เย่เฉิน ยักไหล่ แล้วพูดด้วยความไม่สบายใจออกไป
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร พี่เฉิน ผมเตรียมมาแล้ว”
หวง ไห่อี้ พูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามา เขาหยิบเงินหนึ่งหยวนจากไหนไม่รู้ และยัดใส่มือให้ เจิ้ง หยวนเลี่ยง โดยตรง
“น้องเลี่ยง รับไป ไม่ต้องทอน”
หวง ไห่อี้ พูดขึ้นอย่างใจกว้าง
เจิ้ง หยวนเลี่ยง จำต้องรับเงินไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พี่เฉิน สวัสดีครับ”
“รถ Koenigsegg ของ พี่เฉิน หล่อมากครับ”
ผู้คนที่เคยล้อมรอบ ฟาง ห่งซิว อยู่เมื่อกี้ ตอนนี้ต่างทิ้ง ฟาง ห่งซิว และเข้ามารุมล้อม เย่เฉิน แทน
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น
เวลานี้เห็นเพียงทายาทของ ฟาง กรุ๊ป, ฟาง ห่งซิว เดินตรงเข้ามาหา เย่เฉิน
เมื่อมาถึงระยะสองสามก้าวจาก เย่เฉิน ฟาง ห่งซิว พลันหยุดยืนมองด้วยความไม่พอใจ ซึ่งเขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับ เย่เฉิน โดยตรง
สักพักบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด
“ฉันขอท้าทายคุณ!”
ฟาง ห่งซิว ก้าวขึ้นมาอีกก้าวพร้อมกับประกาศท้าทาย เย่เฉิน…