ตอนที่แล้วตอนที่ 3 ผลิตเสร็จสมบูรณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ทำอะไรก็ยอม

ตอนที่ 4 ขอข้าวกินหน่อย


ตอนที่ 4 ขอข้าวกินหน่อย

โต๊ะและเก้าอี้เกลื่อนกลาดเต็มห้องโถง นี่คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังวันสิ้นโลก เมื่อก่อนนี้มันเคยถูกใช้เป็นสถานที่รับประทานอาหารของแขกในโรงแรม

เมื่อคนส่วนใหญ่ได้รับอาหารของตัวเองแล้ว พวกเขากลับไปที่ห้องพักของตัวเอง มีเพียงสมาชิกในทีมสำรวจไม่กี่คนเท่านั้นที่นั่งกินข้าวอยู่ในห้องโถงใหญ่

ซ่งเจิงคุ้นเคยกับผู้รอดชีวิตที่นี่บ้างแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าจะกลับโลกของตัวเองได้ไหม ยังไงซะตอนนี้ก็ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน การทำความรู้จักกันไว้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายอะไร

คนกว่าสองร้อยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการรับอาหาร ซ่งเจิงพยายามทำความรู้จักกับทุกคนถึงแม้ว่าจะไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาก็จำได้มากกว่าครึ่ง

ข้าวน้ำหนักสิบจินดูเหมือนจะเยอะ แต่เมื่อถูกแบ่งให้คนกว่าสองร้อย ทำให้ทุกคนเหลือสัดส่วนในภาชนะเพียงน้อยนิด มีเพียงผักกาดดองครึ่งกระป๋องเท่านั้น… ซึ่งในมื้อนี้จะมีซุปเนื้อและผักเพิ่มมาอีกหนึ่งถ้วยเล็ก ๆ

แต่ซุปเนื้อและผักเป็นสิ่งที่ไม่อาจพบเจอได้ทุกวัน ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีจึงไม่มีใครปริปากบ่น ทันทีที่ได้รับจึงรีบยกซดโดยไม่สนว่ามันจะร้อนมากแค่ไหน

มีบางคนเร่งรีบซดจนใบผักเล็ก ๆ ติดอยู่บนแก้ม บางคนที่ได้รับรู้รสชาติของเนื้อสัตว์อีกครั้งถึงกับอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาราวกับว่าได้รับพรจากพระเจ้าอย่างไรอย่างนั้น

ในวันสิ้นโลก สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือความอิ่มท้อง! ความรู้สึกหิวโหยเช่นนี้ซ่งเจิงไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยในโลกใบเดิม การเป็นพ่อครัวในโรงเรียนโม่วเซียงต้องเผชิญหน้ากับการทำอาหารที่ไม่มีวันจบสิ้น แม้แต่ความอยากอาหารก็ไม่เคยต้องขาดแคลน มีแต่ล้นเอ่อออกมา… โอ้สวรรค์! ตอนนี้ท่านกำลังลงโทษข้างั้นหรือ?

ซ่งเจิงเองก็แบ่งน้ำซุปถ้วยเล็กไว้เช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้เขากินขนมเปี้ยะทอดครึ่งชิ้นไปแล้ว น้ำซุปนี้แม้แต่เนื้อบดเล็ก ๆ ก็ยังมองไม่เห็น มันไม่สามารถเรียกน้ำย่อยของเขาได้โดยสมบูรณ์ ในทุก ๆ วันเขาจะต้องกินต้มผักกาดดองกระป๋อง ผัดปลา ข้าวเล็กน้อย… นี่มันคืออาหารของมนุษย์หรือ?!

เหมือนว่าหมาในโรงเรียนยังกินดีอยู่ดีมากกว่านี้ด้วยซ้ำ! บ้าเอ๊ย วันสิ้นโลกงั้นเหรอ? นรกชัด ๆ!

เขาพึมพำกับตัวเองอยู่สักครู่ก่อนจะหยิบซุปเนื้อพร้อมกับกระทะเหล็กและเดินกลับห้องของตัวเอง

ภายในโรงแรมไม่ได้มีของใช้มากมายนัก แต่ที่มีมากคือจำนวนห้องว่าง คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในห้อง บางห้องก็หนึ่งคน บางห้องก็สองคน หากครอบครัวไหนมีพ่อแม่ลูกสามคน ก็สามารถอยู่อาศัยในห้องชุดได้ ซึ่งสวัสดิการเช่นนี้ไม่อาจพบเห็นได้หากไม่ใช่เหตุการณ์วันสิ้นโลก

ซ่งเจิงกลับมาถึงห้อง เขาคิดถึงเรื่องราวมากมายเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งปิดประตู ทันใดนั้นมีสายตาคู่หนึ่งปรากฎออกมาเป็นใครคนหนึ่งที่แอบเดินตามหลังเขามาตลอดทาง

ซึ่งซ่งเจิงรู้อยู่แล้วว่ามีคนแอบเดินตามมาตลอดทาง ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพราะเขาฝึกฝนร่างกายอย่างหนักตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนโม่วเซียง ข้าวที่พวกเขาได้กินต้องใช้เรี่ยวแรงอย่างมากในการยกเพราะน้ำหนักของมันอยู่ที่สามสิบจิน ถ้าแขนไม่มีพละกำลังมากพอก็ไม่อาจจัดการได้ อีกทั้งเขายังเชี่ยวชาญในวิชาเทควันโดไม่ใช่น้อย เช่นนี้ร่างกายของเขาย่อมแข็งแรงกว่าคนปกติ

ทันทีที่สายตาคู่นั้นจับจ้องมา เขาก็รู้สึกตัวในทันที แต่ความสนใจของเขาทั้งหมดอยู่กับกระทะเหล็กใบนี้ ต่อให้รู้ว่ามีคนตามมาก็ไม่ได้สนใจนัก

เขาเดินเข้าห้องพร้อมปิดประตูลง

ซ่งเจิงวางกระทะเหล็กไว้ตรงหน้าพลางเริ่มนึกสิ่งที่สงสัยและพ่นคำถามมากมายอย่างต่อเนื่อง แต่กระทะเหล็กใบนี้ก็ไร้การตอบสนอง ไม่มีการตอบกลับใด ๆ แม้เพียงครึ่งคำ

เขานึกถึงสถานการณ์ที่ได้ยินเสียง “ติ๊ง!” ทั้งสองครั้งในก่อนหน้านี้จึงรีบคว้ากระทะเหล็กมาถือไว้ในมือและถามคำถามเมื่อครู่อีกครั้ง

ในที่สุดคราวนี้กระทะเหล็กก็ตอบกลับ

[ติ๊ง! ข้าคือกระทะเหล็กเนื้อหยาบที่ผลิตขึ้นเอง ตอนนี้เชื่อมต่อกับเจ้านายสำเร็จแล้วจึงสามารถอ่านความคิดและความต้องการของเจ้านายได้!]

กระทะที่ผลิตขึ้นเองด้วยเหล็กเนื้อหยาบงั้นเหรอ?

ดวงตาของซ่งเจิงเบิกกว้างพร้อมกับในใจที่เต็มไปด้วยคำถาม “งั้นถ้าตอนนี้เป็นแค่กระทะหยาบ ๆ อย่างนั้นในอนาคตก็สามารถเปลี่ยนเป็นเหล็กอย่างอื่นได้งั้นเหรอ?”

[ติ๊ง! หากได้รับพลังงานที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้ ข้าจะสามารถเลื่อนระดับไปเป็นเหล็กชั้นดี ชั้นยอด หรือสูงกว่านั้น… ตอนนี้พลังของเจ้านายยังไม่เพียงพอจึงไม่สามารถเรียนรู้มันได้!]

ซ่งเจิงทั้งตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน เขาไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต! กระทะเหล็กผลิตด้วยเนื้อหยาบซึ่งอยู่ในระดับต่ำที่สุดยังสามารถผลิตขนมเปี้ยะทอดรสเลิศและน้ำสะอาดได้ อย่างนั้นหากมันอัพเกรดขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหนกัน?

หลังจากที่ตื่นเต้นอยู่ในใจ เสียงของกระทะเหล็กก็ดังขึ้นอีกครั้ง

[ติ๊ง! เพียงแค่ดูดซับพลังงานให้เพียงพอ ข้าจึงจะสามารถผลิตออกมาได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่มีพลังงานก็ไม่สามารถผลิตได้!]

“พลังงานงั้นเหรอ…” ซ่งเจิงพึมพำในใจ “ก่อนหน้านี้แกพูดถึงน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำที่สุดอะไรนั่นใช่ไหม? มันคือพลังงาน?”

[ติ๊ง! พลังงานมีมากมายหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพียงน้ำยาวิวัฒนาการเท่านั้น แต่ยังมีผลึกสัตว์กลายพันธุ์ แก่นผลึกซอมบี้ระดับสูงและอีกมากมาย!]

“แล้วน้ำยาวิวัฒนาการณ์นี้หาได้จากร่างกายของซอมบี้พวกนั้นงั้นเหรอ?” ซ่งเจิงถามต่อ

แต่ครั้งนี้กระทะเหล็กไม่ได้ตอบกลับ เป็นเพราะคำถามนี้ไม่ใช่สิ่งที่มันสามารถบอกกล่าวได้

ซ่งเจิงนั่งคิดอยู่สักครู่หนึ่งจึงเข้าใจบ้างในบางส่วน ก่อนหน้านี้หัวหน้าเฉินใช้มีดสั้นเปิดสมองของเหล่าหลี่ที่ติดเชื้อและพลิกไปมาเพื่อหาน้ำยาวิวัฒนาการ

ตอนนั้นเองซ่งเจิงก็อยู่ใกล้ ๆ เช่นกัน เขาได้ยินชัดว่าหัวหน้าเฉินพูดถึงน้ำยาวิวัฒนาการ ถ้าอย่างนั้นมันคงจะอยู่ในสมองของซอมบี้

เขาย้อนคิดไปถึงตอนที่กระทะเหล็กฟาดลงบนศีรษะของเหล่าหลี่อีกครั้ง เสียงเตือนครั้งแรกดังขึ้นในตอนนั้นและกระทะเหล็กร้อนรุ่มขึ้นมาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะมันกำลังดูดซับน้ำยาวิวัฒนาการจากสมองของเหล่าหลี่

สำหรับเด็กที่เติบโตมาอย่างสงบสุข การจะเปิดกะโหลกใครบางคนเพื่อฉกฉวยน้ำยาวิวัฒนาการดูจะเป็นเรื่องยากไปหน่อย แต่เมื่อเขานึกถึงโรงฆ่าสัตว์ที่ตัดหัวของหมูหรือสัตว์ต่าง ๆ จนขาดสะบั้น เลือดสาดกระเซ็นเหล่านั้น… ก็ค่อยผ่อนคลายได้ในที่สุด

ก็คิดซะว่าพวกซอมบี้เป็นแค่หมูตัวหนึ่งก็แล้วกัน!

ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น “ก๊อก ๆ!” มันเบามากราวกับกลัวว่าเขาจะได้ยิน

“หืม? มาหากันเวลานี้เนี่ยนะ?”

ซ่งเจิงขมวดคิ้วแน่นพร้อมเก็บกระทะเหล็กไว้ในตู้ จากนั้นจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง

เมื่อประตูเปิดออก มนุษย์ร่างเล็กผอมบางเบียดผ่านช่องแคบเข้ามา หลังจากโซเซอยู่สองสามก้าวก็ล้มลงกับพื้นอย่างไร้แรงต้าน

ซ่งเจิงคว้าร่างบางเอาไว้ทันที เขาเห็นว่าอีกฝ่ายผอมมากและแทบจะไร้เรี่ยวแรงแล้ว ขนาดจะยืนให้มั่นคงยังทำไม่ได้เลย

ผมของคนแปลกหน้ายาวมากและยุ่งเหยิงราวกับแมงป่อง… เพียงแค่มองซ่งเจิงรู้สึกได้ถึงความมืดมนและน่าสะพรึง!

อีกฝ่ายเอื้อมมือมาคว้าลำคอของซ่งเจิงพร้อมกล่าวเสียงแหบพร่า “ขอร้อง… ฉันหิว… หิวเหลือเกิน… ได้โปรด… มีอะไรให้ฉันกินไหม…”

เมื่อได้ยินเสียงซ่งเจิงถึงกับตกตะลึง เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงจึงเริ่มสำรวจอย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายจะผอมบาง ทว่าหน้าอกก็ยังนูนขึ้นมาทั้งสองข้างอย่างชัดเจน เพียงแค่นี้ก็เห็นถึงความแตกต่างระหว่างหญิงกับชายแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด