ตอนที่แล้วตอนที่ 128 ดันเจี้ยนระดับโลก แม้แต่ผู้จุติออร่าสีขาวก็สู้ไม่ไหว! (อ่านฟรี 14/01/2568)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 130 หีบแห่งความโกลาหลที่แตกร้าว (อ่านฟรี 20/01/2568)

ตอนที่ 129 เจ้านั่นแหละบอสมอนสเตอร์! (อ่านฟรี 17/01/2568)


ตู้ม ตู้ม ตู้ม ย๊ากกกกกก

“ฮ่าฮ่า ชักช้าแบบนั้นนายได้แพ้ฉันแน่!” หลวงจีนหัวโล้นเปลือยท่อนบนหัวเราะออกมา แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ได้หยุดการโจมตีเลยแม้แต่น้อย

มีมอนสเตอร์ไม่น้อยกว่าสิบตัวแล้วที่ถูกเขาจัดการไป

“ข้าไม่รีบ เชิญเจ้าก่อนตามสบาย” เย่ซีกล่าวออกมาพลางมองไปยังรอบ ๆ บริเวณ

ในการเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่ทางรัฐบาลขอร้องให้เขามาทำ ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจนักว่าจะทำสำเร็จไหม เขามองว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ตั้งความหวังให้เขาทำสำเร็จเหมือนกัน เพียงต้องการทำสอบความแข็งแกร่งของเขาก็เท่านั้น

เพราะเขาได้ยินมาจากพวกซางเว่ยว่าดันเจี้ยนแห่งนี้สำหรับผู้จุติระดับสูงนับว่าปลอดภัยมาก เพราะบอสของดันเจี้ยนแห่งนี้มันไม่ฆ่าใครเลยถ้าไม่ไปโจมตีมันก่อน แถมต่อให้ไปโจมตีมันก่อนแต่ถ้ารีบหนีออกมาก็ปลอดภัยเช่นกัน เพราะมันไม่ตามล่า

นั่นจึงทำให้เขาพอจะมองออกว่าทำไมถึงส่งเขาที่เป็นผู้จุติพลังหน้าใหม่มากับเหล่าผู้จุติพลังระดับท็อปของโลกเช่นนี้ คงต้องการให้หาประสบการณ์นั่นแหละ

“คุณเย่ซีดูสบาย ๆ จังเลยนะคะ” หญิงสาวท่าทางขี้อายคนหนึ่งกล่าวออกมา เธอเป็นผู้จุติออร่าสีขาวที่มีความสามารถด้านการรักษาที่สมบูรณ์แบบ ถ้าเงื่อนไขทุกอย่างครบถ้วนเธอสามารถคืนชีพคนที่เพิ่งเสียชีวิตไม่เกิน 24 ชั่วโมงได้อีกด้วย

เป็นเพียงคนเดียวในโลกที่ทำเช่นนี้ได้!

“นั่นสิครับ ไม่กลัวว่าจะแพ้เจ้าหมอนั่นเหรอครับถ้าประมาทเกินไป” ชายหน้าตาดีผมสีม่วงกล่าวออกมา เขาเป็นผู้จุติออร่าสีขาวที่มีพลังสายฟ้าอยู่ในตัว มันจึงทำให้เขาเป็นผู้จุติที่แข็งแกร่งอย่างมากคนหนึ่ง การเคลื่อนที่ด้วยสายฟ้า การโจมตีผสานระหว่างอาวุธและสายฟ้า นับว่าน่าหวาดกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว

“แพ้ก็แค่เลี้ยงเหล้า ข้าก็ได้กินด้วย มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่” เย่ซีตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ ในตอนนี้เขาสนใจสภาพแวดล้อมโดยรอบมากกว่า

ในคราวนี้มีสมาชิกทีมไม่มากนัก อาจเป็นเพราะว่ามีผู้จุติพลังระดับสูงที่ว่างอยู่เพียงเท่านี้ ทำให้ในการเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งนี้มีผู้จุติออร่าสีดำ ยี่สิบคน ผู้จุติออร่าสีขาวสี่คน และเย่ซีอีกหนึ่งคนเท่านั้น นับว่าเป็นจำนวนที่น้อยพอสมควรสำหรับการคิดที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนระดับโลก

“เหมือนคุณเย่ซีจะยังไม่ทราบใช่ไหมคะ ว่าเหล้าที่หมอนั่นกิน ราคาแพงมาก แถมหมอนั่นยังกินเหมือนอาบน้ำอีกต่างหาก” หญิงสาวที่ใช้ธาตุทั้งสี่ได้กล่าวออกมาทำให้เย่ซีเกิดความสนใจขึ้นเล็กน้อย

“มันแพงขนาดนั้นเลยรึ ? เท่าไรกัน ?” เขาจึงกล่าวถามออกมา

“ก็ประมาณ.......”

...

ย๊ากกกก ผัวะ ผัวะ ผัวะ ฉูดดดด

ในเวลานี้มีชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดคลุมจีนโบราณกำลังไล่ฆ่ามอนสเตอร์ที่ขวางทางอย่างดุเดือด เขาใช้เพียงหมัดและเท้าก็สามารถระเบิดร่างมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย

เหล่าผู้จุติพลังที่ตามมาด้วยแม้จะทำการต่อสู้เช่นกันก็ไม่มีใครสามารถกำจัดมอนสเตอร์ได้เร็วเท่าเขาอีกแล้ว!

“ฮ่าฮ่า ต้องแบบนี้ถึงจะเหมาะเป็นคู่แข่งกับฉัน ไม่ยอมแพ้หรอกโว้ย!” หลวงจีนเปลือยท่อนบนหัวเราะลั่นก่อนจะเข้าต่อสู้เช่นเดียวกัน

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ถ้าให้เทียบก็คงพอ ๆ กับจังหวัดหนึ่งได้เลย แถมยังมีมอนสเตอร์อยู่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แต่โชคดีที่พวกมันถูกจัดระดับอยู่แค่ระดับเมืองและจังหวัด มีเพียงบางส่วนที่เป็นระดับประเทศเท่านั้น ทำให้เหล่าผู้จุติพลังสามารถกำจัดพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ครึ่งหลัง

“นี่ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนะ ยังไม่ถึงบอสดันเจี้ยนอีกรึ ?” เย่ซีที่เริ่มเบื่อกับการกำจัดมอนสเตอร์จึงกล่าวออกมา มันมีมอนสเตอร์อยู่สามตัวที่เขาจัดการเก็บมันใส่เข้าไปในแหวนมิติด้วยความสนใจ

หนึ่งคือต้นแมนแดรกสามหัว มันเป็นมอนสเตอร์พืชที่ใช้รากทั้งสี่ในการวิ่ง หัวทั้งสามของมันมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะส่งเสียงกรีดร้องทำลายประสาทการได้ยิน พ่นกรดพิษที่ละลายได้แม้แต่เกราะและที่แข็งแกร่ง รวมถึงมันยังสามารถดูดกลืนการโจมตีด้วยพลังเวทย์ด้วยหนึ่งในหัวทั้งสามอีกด้วย นั่นจึงทำให้แม้แต่ผู้จุติพลังออร่าสีขาวก็ยากที่จะกำราบมันได้

แต่สำหรับเย่ซีแล้วนั้น เขาเพียงเรียกใช้พลังแห่งอนันต์มาป้องกันคลื่นเสียงกับกรดพิษ ก่อนจะเดินเข้าไปรัดคอมันด้วยท่า Guillotine Choke ทีละหัวก็ทำให้พวกมันนอนหมอสติได้อย่างง่ายดายแล้ว

สร้างความฮือฮาให้กับผู้จุติพลังโดยรอบที่ไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อนได้เป็นอย่างดี

ส่วนอีกสองตัวนั้นก็น่าประหลาดไม่แพ้กัน หลังจากกลับไปคงต้องลองเลี้ยงพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดอีกทีว่าพวกมันจะเชื่องไหม ถ้าเลี้ยงไม่เชื่องก็คงต้องเชือดทิ้ง!

“ไปข้างหน้าอีกสักสิบกิโลเมตรก็น่าจะเห็นปราสาทแล้วล่ะ ฉันไม่คิดเลยว่าจะแพ้นายอย่างนี้!” ชายหัวโล้นที่แข่งกับเย่ซีกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด

แพ้อย่างเดียวก็น่าขายหน้าพอแล้ว แต่นี่เล่นคะแนนทิ้งห่างจนไม่เห็นฝุ่นเลยด้วยซ้ำ!

“อย่าคิดมากเลย การแข่งขันก็มีแพ้ชนะเป็นธรรมดา” เย่ซีกล่าวออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนจะกล่าวประโยคถัดมาที่ทำให้อารมณ์ของผู้ฟังเปลี่ยนไป

“แต่เรื่องเดิมพันก็ต้องเป็นไปตามนั้นนะ ข้าหิวเหล้าแทบใจจะขาด!”

...

“ถึงห้องของบอสดันเจี้ยนแล้วครับ” ชายที่มีความสามารถของสายฟ้ากล่าวออกมา

ที่ด้านหน้าของกลุ่มผู้จุติพลังมีประตูขนาดใหญ่ ความสูงของมันประมาณสิบเมตรเห็นจะได้ ส่วนความกว้างน่าจะห้าเมตร ประตูที่ใหญ่ขนาดนี้ต่อให้ใช้คนธรรมดานับร้อยคนก็คงจะเปิดมันไม่ได้อยู่ดี

เย่ซีดูเวลาที่เหลือก็พบว่าเขาเหลือเวลาประมาณห้าชั่วโมงก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับไปยังโลกเดิม ดูเหมือนเขาจะต้องรีบจัดการบอสมอนสเตอร์ตัวนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ไปกวาดซื้อทุกอย่างด้วยเงินของคนอื่นซะแล้วสิ!

“มาช่วยกันเปิดประตูหน่อยได้ไหม ?” ชายหัวโล้นเปลือยท่อนบนกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเซ็ง ๆ ทำไมทุกคนเอาแต่ยืนเหม่อลอยอยู่แบบนั้นล่ะ ไม่ใช่ว่าพวกเรามากำจัดบอสมอนสเตอร์รึไงกัน ?

“โอเค ๆ กำลังไปเดี๋ยวนี้แหละ” คนอื่น ๆ ที่ได้ยินเสียงของหลวงจีนหัวโล้นก็เดินไปช่วยกันพลักประตูในทันที พวกเขาปล่อยพลังเวทย์ออกมาจากร่างกายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ

ทันใดนั้นประตูที่มีขนาดใหญ่จนไม่คิดว่าคนเพียงยี่สิบห้าคนจะเปิดได้ก็ค่อย ๆ เปิดออก กลิ่นอายแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ว่ามันคือกลิ่นของอะไรไหลออกมาจากด้านใน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่บอกได้ก็คือด้านหลังประตูบานนี้มีพลังเวทย์ที่มหาศาลยิ่งกว่าที่ไหนอยู่ภายใน แค่เปิดประตูเข้าไปก็รับรู้ได้ในทันที

“ไหนล่ะบอสมอนสเตอร์ที่ว่า ? มีแต่กล่องสมบัติอยู่ข้างใน” เย่ซีมองไปยังด้านในที่มีพื้นทำจากหินหรืออะไรสักอย่างสีดำสนิท ด้านบนเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

น่าแปลกที่ด้านหลังกำแพงเป็นพื้นที่โล่งกว้างเช่นนี้ ไม่ได้เป็นห้องขนาดใหญ่แทน ลึกเข้าไปจากประตูที่เปิดออกประมาณห้ากิโลเมตรมีหีบไม้เก่า ๆ ขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้

แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นมด แมลง มอนสเตอร์ หรือบอสมอนสเตอร์เช่นกัน

“เจ้านั่นแหละครับ บอสมอนสเตอร์ที่ว่า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด