ตอนที่แล้ว20
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป22

21


"ผิดแล้ว พี่ชาย ฉันผิดแล้ว ขอเถอะ อย่า..."

"ปัง!"

"เดี๋ยวก่อน พวกเราเป็นสมาชิกของแก๊งโกนหนวด แก..."

"ปัง!"

"เฮ้อ เราสามารถเจรจากันได้ไหม"

"ปัง!"

บนถนน สมาชิกแก๊งโกนหนวดล้มระเนระนาดราวกับลูกกอล์ฟที่จัดเรียงไว้เป็นอย่างดี เซี่ยจิงถือไม้เบสบอลโลหะเดินเข้าไปหาพวกเขา ทีละคน โดยไม่สนใจว่าพวกเขาจะพูดอะไร เขาใช้ไม้ฟาดหัวพวกเขาจนแตกกระจุย

ไม่นานนัก ในสนามก็เหลือเพียงชายหนุ่มหัวเกรียนคนเดียว

เซี่ยจิงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มหัวเกรียนช้าๆ ไม้เบสบอลโลหะในมือของเขาได้รับความเสียหายมากมายจากการตีซ้ำๆ และแรงเกินไป พื้นผิวมีรอยบุบหลายแห่ง เปื้อนเลือดไปทั่ว

"ฉันอยากรู้จัง"

เขาพูด

"ในฐานะนักเรียนที่ไม่เป็นอันตราย ฉันมาเยี่ยมเพื่อนร่วมชั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย"

"ฉันไม่เคยหาเรื่องใครเลย เวลาที่รถติด ฉันจะไม่ขับรถขึ้นไปบนทางเท้าที่กว้างขวาง ในร้านอาหาร ฉันจะจ่ายเงินโดยไม่บ่นแม้ว่าอาหารจะไม่สมราคา เมื่อเจอพวกอันธพาลอย่างพวกนาย ฉันก็กลัวจนต้องวิ่งหนี"

"ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่เคยมาที่เขตหนานเฉิงมาก่อน ไม่มีทางเลยที่จะไปยุ่งกับพวกนายโดยไม่ตั้งใจ"

"แต่ทำไม นายถึงได้รีบวิ่งออกมาเพื่อทำอะไรกับฉัน"

น้ำเสียงของเซี่ยจิงไม่รุนแรงราวกับกำลังพูดคุยกับเพื่อนฝูงอย่างสบายๆ

แต่ความกลัวบนใบหน้าของชายหนุ่มหัวเกรียนกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามคำพูดของเซี่ยจิง จนกระทั่งคำสุดท้าย เขาก็ทรุดลงนั่งบนพื้น โบกมือซ้ำๆ

"เปล่า ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยพี่ชาย เราแค่ผ่านมา... อ๊าก!!"

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เซี่ยจิงก็ฟาดไม้ลงไปที่ข้อเท้าของเขา

เสียงกระดูกหักดังขึ้น ข้อเท้าของชายหนุ่มหัวเกรียนบิดเบี้ยวไปในมุมที่ผิดธรรมชาติ

"ถามอะไรก็ตอบไปตามจริง อย่าเถียงไร้สาระ คุณครูไม่ได้สอนนายเหรอ"

"ครับ... ครับ"

ชายหนุ่มหัวเกรียนเจ็บปวดจนเหงื่อไหลเต็มหน้า รีบพูด

"เราเป็นลูกน้องของต้วนไคผิง พี่ต้วนแห่งแก๊งโกนหนวด เมื่อกี้พี่ต้วนเห็นคุณเดินอยู่บนถนนคนเดียว ยังใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมฟู่จงอีกด้วย เลยอยากจะจับตัวคุณไปเรียกค่าไถ่จากที่บ้าน..."

เซี่ยจิงโบกไม้เบสบอลในมือแล้วพูดว่า "แล้วพี่ต้วนคนนั้นอยู่ไหนล่ะ"

"พี่ต้วนคิดว่าคุณเป็นแค่เด็กนักเรียนคนเดียว เขาไม่ต้องลงมือเองหรอก เลยให้พวกเรามาทำ ส่วนตัวเขาเองก็รออยู่ในโกดังแห่งหนึ่งในถนนข้างๆ!"

ชายหนุ่มหัวเกรียนพูดเร็วมาก กลัวว่าเซี่ยจิงจะไม่พอใจแล้วฟาดไม้ลงมาอีก

"พี่ต้วนเก่งมากเหรอ" เซี่ยจิงถาม

"พี่ต้วนเป็นสมาชิกแกนนำของแก๊งโกนหนวด มีสิทธิ์สักคำว่า 'โกนหนวด' ที่หน้าอก... เขาอาศัยความสัมพันธ์กับหัวหน้าแก๊ง เข้าไปฝึกวิทยายุทธ์ที่สำนักจินเฟิง ฉันเคยเห็นเขาลงมือครั้งเดียว เขาฟันกระป๋องโค้กลอยกลางอากาศออกเป็นสองซีกด้วยมือเปล่า ราวกับว่าใช้มีดโกนอยู่เลย!"

ดวงตาของเซี่ยจิงหรี่ลง

สำนักจินเฟิง... เมื่อกี้เขาได้ยินไป๋โหย่วกวางพูดถึง สำนักนั้นเป็นที่ที่ไป๋โหย่วกวางเข้าไปฝึกวิทยายุทธ์และเรียนรู้ 'พลัง'

การที่พวกอันธพาลที่ชอบจับตัวไปเรียกค่าไถ่แบบนี้สามารถเข้าไปฝึกวิทยายุทธ์ได้ แสดงว่าสำนักนั้นไม่ใช่สถานที่ดีๆ อะไรเลย ไม่แปลกใจเลยที่ตั้งอยู่ในเขตหนานเฉิง

'ถ้าฟันกระป๋องอลูมิเนียมได้ ก็คงฟันคอขาดได้ง่ายๆ... พลังการต่อสู้ไม่ธรรมดาเลย'

เซี่ยจิงมองด้วยความครุ่นคิด

หลังจากเหตุการณ์นี้ เขากับแก๊งโกนหนวดก็กลายเป็นศัตรูกันแล้ว แม้ว่าสาเหตุทั้งหมดจะมาจากพวกนี้เอง แต่เขาไม่เชื่อว่าคนในแก๊งจะพูดเหตุผลกับเขา

เซี่ยจิงคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะกำจัดพวกนี้ทิ้งก่อน แต่ก็ตระหนักได้ว่าไม่สมจริง

ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะลงมือทำได้หรือไม่ แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้นใหญ่โตเกินไป คาดว่าหลายคนคงเห็นแล้ว ถามพยานคนใดคนหนึ่งก็ตามรอยมาถึงตัวเขาได้

อย่างนั้นก็ไม่มีทางถอยแล้ว

เซี่ยจิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "เล่าเรื่องแก๊งโกนหนวดของนายให้ฉันฟังหน่อย"

หยุดนิดหนึ่ง "มีเขตอิทธิพลกว้างแค่ไหน เก่งกาจแค่ไหน สมาชิกแกนนำอย่าง 'พี่ต้วน' มีกี่คน"

ชายหนุ่มหัวเกรียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ไตร่ตรองแล้วพูดว่า "แก๊งโกนหนวดของเราเป็นหนึ่งในเจ็ดแก๊งนอกเขตของเขตหนานเฉิง ถนนหลายสายในบริเวณนี้เป็นเขตของแก๊งเรา... สมาชิกแกนนำอย่างพี่ต้วนมีหลายสิบคน"

เซี่ยจิงหรี่ตา "หัวหน้าแก๊งของนายมีความสัมพันธ์อย่างไรกับสำนักจินเฟิง"

"หัวหน้าแก๊งเป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักสำนักจินเฟิง..."

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยจิงก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

ก็อย่างที่เขาคิดไว้ การถอนรากถอนโคนก็ยังมีเรื่องอื่นตามมาอีก กลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นเหล่านี้มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากมาย การยุ่งกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็จะต้องเกี่ยวข้องกับอีกหลายกลุ่ม

เขาจะต้องกำจัดแก๊งโกนหนวดแล้วไปกำจัดสำนักจินเฟิง แล้วหลังจากนั้นจะต้องมีเรื่องอะไรตามมาอีก?

อย่างนี้มันก็ไม่มีวันจบสิ้นสิ

เฮ้อ สามารถเจรจากันได้ไหม

'แต่... ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไข'

เซี่ยจิงรู้สึกว่าเขาสามารถอาศัยสถานการณ์นี้ได้

แก๊งโกนหนวดมีสำนักจินเฟิงหนุนหลัง แต่ในเมืองชิงเฉิงแห่งนี้ ไม่ได้มีสำนักเดียว

สำนักต่างๆ ล้วนเปิดรับศิษย์ หากจ่ายเงินก็สามารถเข้าไปฝึกวิทยายุทธ์ได้

เซี่ยจิงไม่เชื่อว่าด้วยพรสวรรค์และสติปัญญาอันล้ำเลิศของเขา จะเข้าสำนักใดก็ตามแล้วจะไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดี

แก๊งโกนหนวดของคุณมีคนหนุนหลัง ใช่ไหม เก่งใช่ไหม ฉันจะเก่งเท่าคุณให้ดู!

หรือแม้แต่เขาคิดแผนการที่แยบยลกว่านั้น

รีบเข้าไปสำนักจินเฟิงก่อน!

เมื่อแก๊งโกนหนวดมาหาเรื่อง...

ฉันยอมรับว่าคุณมีอิทธิพลมาก แต่ถ้าฉันเลือกที่จะเข้าร่วมโดยตรง คุณจะรับมืออย่างไร

แต่ตอนนี้เขามีความรู้สึกไม่ดีต่อสำนักจินเฟิงและแก๊งโกนหนวดมาก เว้นแต่จะไม่มีทางเลือกอื่น เขาไม่อยากทำเช่นนั้น

เซี่ยจิงรู้สึกกดดัน

ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย แม้ว่าจะอยากฝึกวิทยายุทธ์ แต่ก็ไม่รีบร้อน แต่ตอนนี้เขาต้องหาทางหาเงินไปเข้าสำนักให้เร็วที่สุด

"ขอบคุณสำหรับข้อมูล"

เซี่ยจิงพูดกับชายหนุ่มหัวเกรียน

ชายหนุ่มหัวเกรียนรีบประจบ "ไม่เป็นไรครับพี่ชาย นี่เป็นหน้าที่ของผม... คุณดูสิครับ คุณจะปล่อยผมไปเหมือนปล่อยตดได้ไหมครับ"

เซี่ยจิงพยักหน้า

"ได้ ฉันจะให้โอกาสนาย"

พูดจบ เขาก็หันไปมองรอบๆ จากนั้นก็หยิบก้อนหินที่ใช้การได้จากพื้นไม่ไกล

ชายหนุ่มหัวเกรียนเห็นเช่นนั้นก็เป็น PTSD ขึ้นมาทันที รู้สึกไม่ดีในใจ

"วิ่งไปเลย ฉันจะนับถึงสิบ"

เซี่ยจิงโยนก้อนหินในมือขึ้นไป

"หนึ่ง"

"เฮ้ย พี่ชาย คุณดูเท้าฉันสิ..."

ชายหนุ่มหัวเกรียนร้องไห้คร่ำครวญ ชี้ไปที่ข้อเท้าที่เซี่ยจิงฟาดด้วยไม้

"สอง"

"เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เริ่มนับใหม่ได้ไหม"

"สาม"

ชายหนุ่มหัวเกรียนกัดฟัน พยายามทนความเจ็บปวดที่ข้อเท้า พยุงตัวขึ้นแล้วกระโดดข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม

"สี่"

แต่เพราะใช้ได้แค่ขาเดียว จึงเดินไม่เร็ว

"ห้า"

เสียงนับดังขึ้นเรื่อยๆ จากด้านหลังของเขา เขาตื่นตระหนกและเร่งฝีเท้า

"หก"

"อ๊ากกกกกกก!"

เขาส่งเสียงร้องด้วยความกลัว

"เจ็ด"

"แปด"

"เก้า"

"สิบ"

เซี่ยจิงมองไปที่ชายหนุ่มหัวเกรียนที่ยังวิ่งไปไม่ถึงยี่สิบเมตร โยนก้อนหินออกไป

"ปัง!"

เสียงหัวแตกครั้งสุดท้ายของคืนนี้ดังขึ้น

เซี่ยจิงมองไปที่ 'ศพ' ที่นอนเรียงรายอยู่รอบๆ มองไปที่ก้อนหินในฝ่ามือของตัวเอง กำแน่นแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า

"นี่คือชัยชนะแห่งศิลปะการต่อสู้!"

...

PTSD (Post-traumatic Stress Disorder) หรือ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ เป็นภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังพบเหตุการณ์ความรุนแรง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม คือเกิดขึ้นกับผู้ที่ประสบพบเหตุร้ายด้วยตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด