บทที่ 44 รหัสผ่าน
"พระเจ้า" เป็นคำที่ปีศาจใช้เรียกสิ่งมีชีวิตโบราณ
ในโลกมนุษย์ เส้นทางแห่งการฝึกฝนบ่มเพาะแบ่งออกเป็นสามด่านแต่ละด่านแบ่งออกเป็นอีกสามระดับ ในระดับที่เก้าหรือที่รู้จักกันในชื่อระดับลึกล้ำ นี่ถือเป็นระดับขั้นในตำนาน คนที่มาถึงจุดนี้ว่ากันว่าจะมีเพียงหนึ่งคนในทุกๆ พันปีเท่านั้น
เมื่อสามพันปีก่อน จักรพรรดิอสูรได้ประสบความสําเร็จในการบรรลุขั้นที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ เขากลายเป็นปีศาจตัวแรกของโลกที่ไปถึงระดับลึกล้ำ เขากลายเป็นเทพปีศาจองค์แรกของโลกในระดับลึกล้ำเพียงคนเดียวในโลกมนุษย์
ซึ่งมันได้นำความหายนะมาสู่ผู้บ่มเพาะในโลกมนุษย์อย่างสาหัส
ปีศาจเริ่มการสังหารหมู่ เหล่าเซียนอมตะหลายคนทะลวงขีดจำกัด แต่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพลังของเทพปีศาจได้ และเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เหล่าปีศาจภายใต้การนำของเทพปีศาจจะพิชิตทั้งสี่สมุทรเก้าแคว้น
เมื่อเผชิญกับวิกฤตนี้ ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนของฉูซานได้ทะลวงไปถึงระดับที่แปดระดับกำเนิดสวรรค์ และปรากฏตัวพร้อมกับสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสะพรึงกลัว “เจดีย์มาร” ทว่าการใช้มันพวกเขาต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงลิบ เสียสละคนของตัวเองหกคน และในที่สุดพวกเขาก็ผนึกเทพปีศาจเอาไว้ได้ในที่สุด
และสงครามครั้งนี้เองที่ได้ให้ระดับของเจดีย์มารเมืองเป็นสมบัติอันดับหนึ่งของโลกมนุษย์
เหตุผลง่ายๆ คือ ผู้บ่มเพาะในระดับลึกล้ำได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเจ้า มีช่องว่างที่ไม่อาจล่วงล้ำระหว่างพระเจ้ากับสิ่งอื่นใด พระเจ้านั้นพ้นจากการแตะต้องสัมผัสทั้งปวง
อย่างไรก็ตาม เจดีย์มารนี้ได้เป็นตัวเชื่อมระหว่างพระเจ้าอันมิอาจเอื้อมกับทุกสรรพสิ่งให้ใกล้กันและทำสิ่งที่เหนือจินตนาการได้
มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถบรรลุความสำเร็จนี้และได้รับสถานะเป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอด นี่คือความจริงที่ปฏิเสธมิได้
อย่างไรก็ตาม ตํานานว่าไว้ว่าพระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้า เขายังคงอยู่ ซึ่งหมายความว่าเจดีย์มารนั้นทำได้เพียงกักขังเทพปีศาจเท่านั้น เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่เหล่าปีศาจได้พยายามลอบเข้าไปยังนิกายฉูซานอย่างไม่ลดละ โดยหวังว่าจะเปิดผนึกเจดีย์แห่งนี้และปลดปล่อยเทพปีศาจของพวกเขา
น่าเสียดายที่ปีศาจเหล่านี้ทำไม่สำเร็จ..
..จนกระทั่งเมื่อห้าร้อยปีก่อน เจดีย์มารก็ได้หายไป..
ฝ่ายฉูซานยังไม่ได้ให้คําอธิบายที่แน่นอน บางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
ในตอนแรก มีข่าวลือว่าเทพปีศาจทำลายเจดีย์แล้วหนีออกมาได้ ทางฉูซานเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลนี้เนื่องจากความกังวลว่าอาจทําให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวางในโลกมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา ห้าร้อยปีผ่านไป ไม่มีข่าวคราวการกลับมาของเทพปีศาจเลยแม้แต่น้อย ข่าวลือเหล่านี้จึงค่อยๆ จางหายไป
สามพันปีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ดังนั้นมนุษย์ในปัจจุบันจึงลืมยุคที่น่ากลัวนั้นไปแล้ว
แต่ ปีศาจไม่มีวันลืม
พวกเขาโหยหายุคที่พวกเขาปกครองโลก ยุคที่มนุษย์ต่างอยู่ด้วยความหวาดกลัว
ในทางตะวันตกของทิศตะวันตกคือดินแดนที่กว้างใหญ่และรกร้าง ดินแดนที่โหดร้ายและไร้ความปรานี ว่ากันว่ามีขุมกำลังปีศาจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาศัยอยู่
ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย 7 จอมปีศาจผู้ซึ่งหนีไปทางทิศตะวันตกอันไกลโพ้น หลังจากที่พวกที่เหลืออยู่ ถูกไล่ล่าอย่างไม่ลดละ
สถานที่แห่งนั้นถูกเรียกว่า เทือกเขาเจ็ดกษัตริย์
เทือกเขาเจ็ดกษัตริย์ทุ่มเทให้กับการฟื้นคืนชีพของเทพปีศาจและไม่เคยหมดหวังที่จะต้อนรับการกลับมา สำหรับปีศาจที่อาศัยอยู่ในดินแดนของมนุษย์ เทือกเขาเจ็ดกษัตริย์เป็นเหมือนสถานที่ห่างไกลและศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับพวกเขา
และในวันนี้ก็ได้มีทูตศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาจากที่แห่งนั้น
ทันใดนั้น ทั่วทั้งบริเวณก็เต็มไปด้วยเสียงหายใจด้วยความตกใจและประหลาดใจ ทางชูเหลียงเองก็ประหลาดใจมาก
เขามาที่นี่เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องความรัก ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้รู้เรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นนี้
เทพปีศาจจะกลับมาในเร็วๆ นี้งั้นหรือ
ถ้าข่าวนี้เป็นความจริง มันจะมีความหมายมากพอที่จะยุทธจักรทั้งหมดได้เลยทีเดียว
ทูตศักดิ์สิทธิ์ผู้ส่งสารยังคงอ้าแขนออกด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความศรัทธา
"พวกเราจากเทือกเขาเจ็ดกษัตริย์ได้ส่งราชาเสือมาขยายอาณาเขตของเราภายในอาณาเขตของมนุษย์ พวกเรารวบรวมกำลังของเราภายในอาณาเขตของมนุษย์เพื่อรอวันที่พระเจ้าจะกลับมา”
"นี่คือช่วงเวลาที่เรารอคอย!”
"ผู้ที่เดินตามรอยแห่งพระเจ้าก็จงเข้าร่วมกับกองกำลังภูเขาอินริน และแน่นอนเราจะไม่บังคับพวกเจ้าหากพวกเจ้าไม่ยอม พระเจ้ายังคงรักพวกเจ้าทุกคนอยู่ดี"
...
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่คําพูดของเขาทําให้เกิดความโกลาหลเลยทีเดียว
พระเจ้าของพวกเขาจะกลับมาในไม่ช้า!
หากไปร่วมทัพราชาเสือก็จะสามารถเป็นพันธมิตรกับกองทัพจอมปีศาจได้ ราชาปีศาจหลายตนที่อยู่ที่นั่นถูกล่อลวงในเวลานั้น
ขณะที่ราชาเสือเดินทางและชักชวนให้ปีศาจมากมายเข้าร่วมกับเขา เหล่าปีศาจต่างมีข้อสงสัยในตัวราชาเสือ ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าราชาเสือจะมีอิทธิพลมาก แต่พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายโดยไม่จำเป็นต้องมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชาเสือ
อย่างไรก็ตาม ด้วยพระนามของพระเจ้า สิ่งต่างๆ แตกต่างกันมาก
เป็นไปได้ว่าราชาปีศาจหลายคนที่ลังเลหรือตั้งใจจะปฏิเสธข้อเสนอนี้มาโดยตลอดอาจเปลี่ยนใจในนาทีนี้
ชูเหลียงมองราชาแมวด้วยความกังวล เขากลัวว่าราชาแมวจะถูกปลุกใจเข้ากับกองทัพปีศาจและเผยตัวของเขา
โชคดีที่สมองของราชาแมวยังดูเหมือนจะปลอดโปร่งและเขาไม่ลืมจุดประสงค์ของภารกิจนี้
เสียงพูดคุยดังขึ้น เหล่าปีศาจทั้งหลายกำลังถกเถียงกันเรื่องสารของทูตศักดิ์สิทธิ์ ราชาแมวเอนตัวเข้ามาหาชูเหลียง “ท่านชู รออีกนิดราชาเสือก็จะกลับเข้าไปข้างในแล้ว เราต้องใช้จังหวะนี้แหละ”
งานแต่งงานของปีศาจไม่ได้มีพิธีกรรมมากมายเหมือนงานแต่งงานของมนุษย์ เมื่อทูตของพระเจ้ากล่าวสารของเขาเสร็จแล้วก็รีบออกไปทันที”
หลังจากทูตศักดิ์สิทธิ์จากไป ราชาเสือก็ได้โบกมือและประกาศเปิดงานฉลอง จากนั้นเขาก็ยกหม้อสุราขนาดใหญ่และยกแก้วขึ้นแก้วแล้วแก้วเล่าเพื่อดื่มฉลอง
ชูเหลียงมองไปรอบๆ และลุกขึ้นจากที่นั่งเช่นกัน
ตามแผนของพวกเขา นางหมิงได้รออยู่ในห้องถ้ำเพื่อวางยาพิษโดยใช้ทั้งเทียนและสุรา เมื่อราชาเสือเมา เธอก็จะหลอกล่อให้เขาดื่มสุราใส่ยาพิษ
ชูเหลียงจะซ่อนตัวอยู่ในความมืด จากนั้นก็จะโจมตีเขาอย่างรุนแรงเพื่อฆ่าเขา
ถ้าปกติชูเหลียงคงไม่ทำเช่นนี้ แต่เนื่องจากนี่เป็นสิ่งมีชีวิตปีศาจที่มีระดับการฝึกฝนสูงกว่าเขามาก และยังมีกลุ่มแมวป่ากับนางหมิงเข้ามาเกี่ยว เขาจึงต้องใช้วิธีที่แน่นอนที่สุด
หากมีอะไรผิดพลาดเขาก็สามารถทุบเครื่องรางหยกและเรียกอาจารย์ของเขามาได้ ชูเหลียงรู้จักตี้หนิวเฟิ่งดี ในเวลานี้เธออาจยังมิได้ร่ำสุราไปมากนักเธอน่าจะมีสติดีอยู่ในตอนนี้ และด้วยความสบายใจนี้ทำให้เขากล้าทำแผนการเช่นนี้นั่นเอง
ชูเหลียงต้องแอบเข้าไปหลบ ก่อนที่ราชาเสือจะกลับเข้าห้องถ้ำ
เขาจึงลุกขึ้นเดินไปทางด้านหลังถ้ำอย่างเงียบๆ
ห้องโถงด้านหลังเป็นสถานที่ของราชาเสือและปีศาจระดับสูงบางตัวอยู่อาศัย มันคล้ายกับสนามหลังบ้านของครอบครัวที่ร่ํารวยมาก ห้องถ้ำก็อยู่ที่นั่นด้วย
โดยปกติแล้วถ้ำปีศาจไม่มีความปลอดภัยสูงและการเคลื่อนย้ายตามอำเภอใจก็ไม่ใช่ปัญหา
อย่างไรก็ตาม ราชาเสือยังคงควบคุมอาณาเขตของเขาอย่างเข้มงวด โดยมีปีศาจชั้นผู้น้อยจํานวนมากลาดตระเวนอยู่ที่ห้องโถงด้านหลัง
แต่ในเวลานี้ เหล่าปีศาจนั้นเมาหัวปักหัวปำ ความสนใจของปีศาจลาดตระเวนก็ไม่ค่อยมีสมาธิ ชูเหลียงดูเหมือนจะแอบเข้าไปในห้องโถงด้านหลังได้
อย่างไรก็ตาม ปีศาจวัวที่มีเขาใหญ่สองเขาอยู่บนหัวก็เข้ามาใกล้จากด้านหน้า มันตบไหล่ของชูเหลียงและถาม "รหัสผ่าน!"
"เอ๊ะ" ชูเหลียงรู้สึกว่าหัวใจของแทบจะเต้นหลุดออกมาแล้ว
มีรหัสผ่านด้วยหรือ
ชูเหลียงอดไม่ได้ที่จะสัมผัสกําไลกระบี่บินที่มือซ้ายของเขาและรีบกล่าวออกมา "ราชาแห่งสวรรค์เสือดิน" [1]
เขาพร้อมแล้วถ้าปีศาจตัวนี้จู่โจม เขาจะจัดการมันทันทีและเรียกอาจารย์ของเขาโดยไม่ลังเล
แต่.. ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเหนือความคาดหมาย
มันเกินความคาดหมายของเขา ปีศาจวัวเมื่อได้ยินรหัสผ่าน ก็พยักหน้าและเดินผ่านชูเหลียงไปโดยไม่สนใจ
หือ
ชูเหลียงอธิบายไม่ถูกอยู่พักหนึ่ง เขาเดารหัสถูกงั้นหรือ มันไร้สาระเกินไปแล้ว
เพราะความแปลกใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ด้านหลังของปีศาจวัวอีกสักพัก เขาสังเกตเห็นว่าปีศาจวัวเดินเข้าไปในห้องโถงด้านหลังอย่างมั่นใจและพบกับปีศาจสองคนที่ลาดตระเวนตลอดทาง
หนึ่งในปิศาจตะโกนใส่ปีศาจวัวว่า "รหัส"
ปีศาจวัวตอบอย่างมั่นใจ "ราชาแห่งสวรรค์เสือดิน!"
ปีศาจสองตัวชักอาวุธออกมาทันทีและตะโกน "สายลับ"
ทันใดนั้นปีศาจวัวก็หันมามองในทิศทางของชูเหลียง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาเอียงหัวอย่างงุนงง..
สีหน้านี้เหมือนเพื่อนร่วมชั้นที่ลอกคําตอบที่ผิดในการสอบ..
แววตาของเขาทั้งสับสนและแปลกใจราวกับว่าเขาถูกหลอก
1. “ราชาแห่งสวรรค์เสือดิน” เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนารหัสผ่านที่มีชื่อเสียงที่ออกแบบมาเพื่อให้นักต้มตุ๋นชาวจีนรู้จักซึ่งกันและกันและหลีกเลี่ยงการหลอกลวงคนอื่นๆ โดยคนหนึ่งพูดประโยคแรกและอีกคนตอบโต้ด้วยประโยคที่สอง เป็นวิธีการสื่อสารแบบลับ เป็นการแอบแฝงให้มิจฉาชีพยืนยันตัวตนซึ่งกันและกัน