บทที่ 248 ความก้าวหน้าของเฉิงหลง
เมื่อนึกถึงหยางเสี่ยวเทียนที่เพิ่งใช้เพียงหมัดเปลือยเปล่าซัดตนจนพุ่งกระแทกเข้ากับลานประลอง ดวงตาของเฉิงหลงก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร และหมายจะใช้โอกาสนี้เพื่อทำลายมือทั้งสองของเขาให้พิการลงในตอนนี้
ตูม!
แววตาอันน่าพรั่นพรึงของเฉิงหลง พร้อมกับกรงเล็บมังกรอันแหลมคมที่เข้าปะทะกับหมัดเปลือยเปล่าน้อยๆ ของหยางเสี่ยวเทียน พานให้อากาศโดยรอบสั่นไหวจนส่งเสียงร่ำร้องกึกก้อง
ระหว่างเกิดปะทะอยู่นั้น เฉิงหลงกลับพลันรู้สึกว่ากรงเล็บมังกรของเขา ดั่งกระแทกเข้ากับกำแพงอัญมณีที่แข็งแกร่งประดุจเพชรอย่างกะทันหัน
เจ็บ!
นี่คือความรู้สึกแรกที่เฉิงหลงสัมผัสได้
ปวดร้าวไปทั้งแขน!
นี่คือความรู้สึกถัดมาของเฉิงหลงที่ผุดขึ้นอย่างรุนแรง
ไม่ช้า ความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการถูกทะลวงกรงเล็บจนแตกพ่าย คล้ายดั่งมือถูกค้อนทุบจนแตกละเอียดก็ผุดขึ้นในใจเขาขณะนี้
เส้นประสาทบนฝ่ามือที่ได้รับแรงกระแทกส่งตรงเข้าสู่สมอง พานให้ใบหน้าของเฉินหลงบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสอีกครั้ง
ท่ามกลางสายตาของผู้คนโดยรอบ เฉิงหลงกรีดร้องออกมาอย่างมิสนใจการวางตัวดังเดิมซุ่มเสียงนั้น ทำผู้คนภายในจัตุรัสรับรู้ได้ทันที ว่าความเจ็บปวดของเขา มันมากมายถึงเพียงใด
คราที่เฉิงหลงเสียการควบคุมอยู่นั้น หยางเสี่ยวเทียนก็ใช้โอกาสนี้ รวมพลังปราณไว้ที่หมัดแล้วพุ่งเข้าไปชกท้องเฉิงหลงอีกครั้ง
หมัดอสูรเหี้ยมครั้งนี้ ได้ทำลายอวัยวะภายในของเฉิงหลงที่ยังไม่ฟื้นตัวจากหมัดก่อนหน้าไปทีละส่วน
หน้าท้องของเขาพลันสั่นสะท้าน พร้อมกับความเจ็บปวดที่ส่งผ่านหน้าท้องเฉิงหลงลงลึกเข้าไปทีละชั้น
แม้นเฉิงหลงจะเจ็บปวดมากขณะนี้ แต่กลับมิอาจส่งเสียงออกมาได้ นั่นเพราะร่างกายของเขาถูกซัดลอยลิ่วสู่เวหาจนตัวงอราวกับกุ้ง ด้วยพลังเพลงหมัดอสูรเหี้ยมจากหยางเสี่ยวเทียน
เมื่อร่างลอยสูงขึ้นไปบนฟ้าหลายสิบจั้ง ไม่นานนักเฉิงหลงก็ร่วงกระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง
บูม!
ทำเอาพื้นที่บนลานประลองสั่นสะเทือนจากแรงกระแทก ดั่งมันกำลังหนาวสะบั้น
หลังเฉิงหลงตกกระแทก บนพื้นสนามประลองพลันปรากฏหลุมลึก รูปร่างดั่งมนุษย์ผนึกอยู่
เศษหินดินทรายและกระเบื้องแตกกระจายไปทั่วอาณาบริเวณโดยรอบ
สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันอีกครั้งนี้ ทำเอาผู้คนร่างแข็งค้างราวกับไก่ไม้ด้วยความตกตะลึงยิ่ง
ก่อนหน้าที่เฉิงหลงได้รับบาดเจ็บจากหมัดเขาครั้งแรกเริ่มการประลอง แทบทุกคนล้วนเชื่อว่าหยางเสี่ยวเทียนอาศัยจังหวะขณะที่เฉิงหลงไม่ทันระวังตัวลอบโจมตีเขา
แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่คิดผิด เพราะเฉิงหลงยังคงถูกหยางเสี่ยวเทียนชกปลิวออกไปดั่งครั้งแรกมิมีผิด
ยิ่งกว่านั้น กระทั่งเฉิงหลงปลดปล่อยวิญญาณยุทธแล้วโจมตีด้วยกรงเล็บมังกร แต่มันก็ยังมิอาจทำอะไรอย่างเสี่ยวเทียนได้
เฉิงเซิ่ง เหล่ยจื่อ เฉินไห่หลินและคนอื่นๆ ที่กำลังจับตามองเฉิงหลงผู้ถูกหยางเสี่ยวเทียนชกเข้าที่หน้าท้องซ้ำอีกครั้ง เปลือกตาพวกเขาก็ถึงกับกระตุกสั่น พร้อมยกมือขึ้นกุมหน้าท้องของตนด้วยใบหน้าแสบสะท้าน
บนปรัมพิธี เฉิงไคราชาแห่งเสินไห่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพอันน่าสังเวชของเฉิงหลงบุตรชายตนผู้ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อเขากำลังจะกล่าวยุติการประลอง สายตาก็พลันเหลือบเห็นเฉิงหลงที่นอนอยู่ในหลุม ส่งกลิ่นอายอันรุนแรงปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน
ระหว่างนั้น เฉิงหลงผู้กำลังนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น ก็เห็นปราณพวยพุ่งออกมาจากกายตน พร้อมกลิ่นอายอันน่าทึ่ง เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นขณะทั้งร่างกำลังสั่นเทาด้วยหวั่นกลัว
มุมปากเฉิงหลงมีเลือดออก เขาพยายามควบคุมร่างที่กำลังสั่นไหวให้เหยียดตรง ก่อนจ้องเขม็งไปยังหยางเสี่ยวเทียน ด้วยดวงตาโกรธแค้นจนเป็นแดงฉานปานโลหิต พร้อมด้วยจิตสังหารที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
หลังฝ่าฟันอุปสรรคขั้นสุดท้ายของราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลายได้สำเร็จ แสงสว่างก็ส่องออกมาจากร่างเขา ราวกับโซ่ตรวนที่คอยเหนี่ยวรั้งเส้นสุดท้ายได้ขาดไป ส่งให้กลิ่นอายแตกต่างจากเดิมยิ่งนัก
“ขั้นราชันย์ยุทธ์ระดับห้า!” หลินหยงผงะตกใจ “เฉิงหลงทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ระดับห้าระหว่างการต่อสู้งั้นรึ!”
ฉากนี้ทำเอาทั่วทั้งจัตุรัสพระราชวังถึงกับตกอยู่ในความโกลาหล
ในขั้นราชันยุทธ์นั้น แม้แต่ทะลวงขั้นย่อยได้สำเร็จ ความแข็งแกร่งที่มีก็จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีมหาศาลแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้ เฉิงหลงได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ระดับห้า และความแข็งแกร่งของเขานั้น ย่อมเพิ่มมากขึ้นเสียจนมิอาจเทียบได้กับขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลายก่อนหน้าอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นความก้าวหน้าของเฉิงหลง มหาขันทีก็โค้งคำนับเฉิงไค แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท ที่มีองค์ชายอัจฉริยะและเพรียบพร้อมไปด้วยความแข็งแกร่ง ความก้าวหน้าในครั้งนี้ สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรแสนไห่ที่เคยมีมา”
เฉิงหลงมีอายุเพียงยี่สิบชันษาเท่านั้น ด้วยความก้าวหน้าในครั้งนี้ เขาจะกลายเป็นวิญญาจารย์ผู้มีอายุน้อยสุด ที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ระดับห้าของอาณาจักรเสินไห่
เฉิงไคแย้มรับอย่างภาคภูมิเช่นกัน
เฉิงหลงขณะนี้ รับรู้ถึงปราณแท้อันแข็งแกร่งไปทั่วร่าง อาการบาดเจ็บที่มีเมื่อครู่พลันหายเป็นปลิดทิ้งพร้อมกลับมายืดตัวตรงอย่างผงาดอีกครั้ง เขาเขม่นจ้องหยางเสี่ยวเทียนและเหยียดยิ้มอย่างลำพอง
“หยางเสี่ยวเทียน ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะกลายเป็นเช่นนี้ ต้องขอบคุณการไล่ต้อนของเจ้า ที่มันกระตุ้นศักยภาพในกายข้าให้ทะลวงระดับได้สำเร็จ”
กล่าวสิ่งนี้แล้ว ทั่วร่างเขาก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิงลุกโชติช่วง โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ครั้นปลดปล่อยออกมาจนถึงขีดสุด กำปั้นแกร่งก็ชกออกไปทันที
“มังกรเพลิงกลืนสวรรค์!”
ผนึกหมัดร่างมังกรเพลิงตัวใหญ่ แผดเสียงคำรามพร้อมบินโถมเข้าหาหยางเสี่ยวเทียน ระหว่างทางที่มันโจนมุ่งไป พื้นลานประลองจะถูกผลาญจนกลายเป็นหินฝุ่น
ซึ่งเมื่อทุกคนเห็นความทรงพลังของมังกรเพลิง พวกเขาก็พร้อมเปลี่ยนใจหาเฉิงหลงทันที
แต่การแสดงออกของหยางเสี่ยวเทียนยังคงเดิม เขาเพียงเหยียดฝ่ามือเข้าประจัญพลังอันแก่กล้านั้นอย่างเรียบเฉย ซึ่งทันทีที่ฝ่ามือยื่นออกไป เงาภาพธรรมพระโพธิสัตว์องค์ใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขา
เพียงเงาภาพธรรมพระโพธิสัตว์ ยังมั่นคงสมบูรณ์เสมือนพระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมายังโลก พร้อมสว่างไสวรุ่งเรืองขึ้น
ประกายแสงอันรุ่งเรืองของพระพุทธเจ้า ปกคลุมผู้คนภายในจัตุรัสได้อย่างน่าอัศจรรย์
ฝ่ามือพุทธองค์สีทองขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านหันหน้าเข้าหามังกรเพลิงราวหุบเขาศักดิ์สิทธิ์