บทที่ 247 มังกรเพลิงสีชาด!
หลินหยง หยางเฉาและคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์อันกะทันหันนั้นเช่นกัน
ทุกคนภายในจัตุรัสทั้งหมดเงียบสนิท ต่างนิ่งค้างกันไปราวถูกแช่แข็ง
เฉิงเซิ่งมองไปยังเฉิงหลง ผู้เพิ่งได้ลิ้มรสพลังหมัดจากหยางเสี่ยวเทียนด้วยสีหน้าเหยเก แม้นไม่รู้ว่าควรสมเพชหรือเวทนาดี แต่ท้องไส้เขาที่เริ่มหายดีก็พานกลับมากระตุกแสบอีกครั้ง
เพราะแม้แต่เขา ที่ยามใดเผลอนึกถึงหมัดซึ่งได้รับจากหยางเสี่ยวเทียนในดินแดนสัตว์อสูร เขาเองก็หวาดกลัวมิคลายกระทั่งหลับฝันยังผวา ตื่นมาก็รู้สึกเจ็บจนพานร้าวไปทั้งกายใจ
และในเวลานี้ คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความเจ็บปวดของเฉิงหลงได้ ว่ามันมีรสชาติอย่างไร
ตอนเขาถูกหยางเสี่ยวเทียนต่อยยังท้อง อวัยวะภายในทั้งห้าและหกก็เหมือนถูกมีดหลายพันเล่มขูด ทำเขารู้สึกอึดอัดกระทั่งทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับพวกมันถูกลอกออกทีละชั้น
ซึ่งความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเพราะหยางเสี่ยวเทียน เป็นสิ่งที่เฉิงเซิ่งจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต ว่าผลของการคิดลองดีกับคนเยี่ยงเขา จะประสบกับชะตากรรมเช่นไร
เฉิงหลงซึ่งถูกซัดจนร่างกระแทกกับขอบลานประลอง ใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเหมือนเฉิงเซิ่งคราก่อนมิมีผิด
เขายกมือกุมท้อง ใคร่ส่งเสียงร้องคลายความเจ็บปวดจนหน้าสั่น แต่กลับไม่สามารถเปล่งมันออกมาจากลำคอได้แม้สักแอะถึงต้องอมปิดปากเก็บมันไว้ในท่าทีว่าตนนั้นแข็งแกร่ง
กลางลานประลอง หยางเสี่ยวเทียนยืนไพล่หลังนิ่ง ขณะเหลือบมองเฉิงหลงที่กำลังยกมือกุมท้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่เขากลับยังมีสีหน้าเรียบเฉย
เขายืนรอเฉิงหลงจนกว่าจะพร้อมตั้งตัวใหม่ จึงมิคิดรีบร้อนเคลื่อนไหวโจมตีอีกครั้ง เพราะเพลงหมัดที่เขาเพิ่งต่อยออกไปนั้น หาใช่พลังหมัดธรรมดา แต่เป็นเพลงหมัดอสูรเหี้ยมหนึ่งในสิบเอ็ดทักษะระดับมหาจอมเวทย์ที่เฉาชุ่นทิ้งไว้
การถูกโจมตีด้วยพลังจากเพลงหมัดอสูรเหี้ยมนั้น แสนสาหัสเสียยิ่งกว่าการได้จมสู่ห่วงอเวจีของเหล่าอสูรร้ายขุมไหนๆ
อย่างไรก็ตาม หากเขาไม่ควบคุมพละกำลังทั้งหมดของมันไว้เพียงหนึ่งส่วนขณะใช้โจมตี เฉิงหลงคงกลับมายืนแสดงสีหน้าทรมานเช่นนี้อีกไม่ได้ นอกจากตายลงหลุมนรกที่รอฉุดเขาอยู่
ไม่นานจากนั้น เฉิงหลงยันตัวอันโงนเงนลุกผงาดขึ้นยืนพร้อมกับมือที่ยังคงกุมท้อง เขาจ้องหยางเสี่ยวเทียนด้วยดวงตาที่ฉายแววความตกใจเคล้าโกรธแค้นแต่ก็ลอบหวาดกลัว
ซึ่งไม่แตกต่างอันใดจากเฉินเซิ่งก่อนหน้านี้ ที่เขาไม่เพียงแต่กลัวหยางเสี่ยวเทียนเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธแค้นอีกด้วย
“หยางเสี่ยวเทียน เจ้ามันรนหาที่ตาย!” เฉิงหลงคำรามพร้อมระเบิดพลังในกายออกมาอย่างรุนแรง
ด้วยสิ่งที่เขาโดนกระทำเมื่อครู่ ตอนนี้ เขาไม่คิดซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้อีกต่อไป
กลิ่นอายของวิญญาจารย์ผู้แข็งแกร่งในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย พานให้ผู้คนโดยรอบต่างตกใจไปตามกัน
“ขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย!”
“เฉิงหลงอยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลายจริงๆ!”
ด้วยกลิ่นอายพร้อมแรงกดดันที่พวยพุ่งออกมาอย่างมหาศาล ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกตื่นตะลึงไปทั่วพื้นที่ขณะนี้
ไม่เพียงแค่ผู้คนโดยรอบเท่านั้น แม้แต่เฉิงเซิ่ง เฉิงหวู่ และคนในราชวงศ์คนอื่นๆ ก็ต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจมิแตกต่างกัน
ข้าไม่คิดเลยว่าเฉิงหลงจะแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้
“เบิกตาดูให้ดี นี่คือพลังของขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ขั้นปลาย!” ดวงตาเฉิงหลงทอประกายแสงเย็นเยียบ และพลังของเขายังคงถูกปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น ภาพธรรมขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังของเฉิงหลง พร้อมกับแสงสว่างสาดจรัสไปทั่วพื้นที่
ทันทีที่ภาพธรรมขนาดยักษ์พลันปรากฏเผย ฝูงชนก็ต่างอุทานด้วยความประหลาดใจ “มังกรเพลิงสีชาด!”
ภาพธรรมขนาดยักษ์ที่ปรากฏเบื้องหลังเฉิงหลงเพลานี้ คือมังกรตัวใหญ่ที่มีเปลวเพลิงแดงฉานลุกโชติช่วงทั่วร่าง
มังกรเพลิงสีชาด เป็นวิญญาณยุทธ์ขั้นสูงระดับสิบเอ็ด
แม้แต่หลินหยง เฉินหยวนและคนอื่นๆ โดยรอบ ครั้นได้ประสบพบก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึงยิ่ง
พวกเขาไม่คิดเลยว่า เฉิงหลงจะซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้มากถึงเพียงนี้
โดยก่อนหน้านี้ ผู้คนล้วนเชื่อมาโดยตลอดว่า วิญญาณยุทธ์ของเฉิงหลงคือมังกรดินระดับสิบ ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของบรรดาวิญญาณยุทธ์ระดับสิบด้วยกัน แต่สิ่งที่ปรากฏออกมาวันนี้กลับเป็นมังกรเพลิงสีชาดระดับสิบเอ็ด พวกเขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร
ท่ามกลางฝูงชนที่ยังคงตื่นตระหนก เฉิงหลงก็กระโจนปราดขึ้นสูง แล้วฟาดกรงเล็บอันแหลมคมทะยานตัดผ่านอากาศเข้าหาหยางเสี่ยวเทียนทันใด
“หยางเสี่ยวเทียน ที่เจ้าสามารถโจมตีข้าได้ นั่นล้วนเป็นเพราะความประมาทของข้าเอง แต่ข้าไม่เชื่อว่าครั้งนี้ เจ้าจะสามารถรับมือกับกรงเล็บมังกรกระชากวิญญาณของข้าได้!” ดวงตาเฉิงหลงส่องแสงวาวราวอสูรกระหายเลือด
ทันทีที่เขาปาดมือฟาด ผนึกปราณดุจกรงเล็บมังกรก็พุ่งออกมา ปราณกรงเล็บมังกรนี้แหลมคมและทอประกายแสงวาวเย็นน่ายำเกรง
ครั้นมันก่อตัวเป็นรูปร่างดั่งกรงเล็บมังกร ปราณกรงเล็บอันหนักหน่วงที่แผ่กลิ่นอายอันน่าหวาดหวั่นก็พลันทะยานตัดผ่านอากาศลงมาเบื้องล่างทันที
ก่อนที่พลังกรงเล็บมังกรอันน่าอัศจรรย์จะบรรลุถึง มวลอากาศที่อยู่โดยรอบตัวหยางเสี่ยวเทียน ผู้กำลังยืนอยู่กลางลานประลองก็พลันพัดสะบัดอย่างรุนแรงดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ
ครั้นทุกคนได้ประจักษ์กับฉากเบื้องหน้า ใบหน้าพวกเขาก็พลันเปลี่ยนสี
ทว่าอากัปกิริยาของหยางเสี่ยวเทียนกลับยังคงนิ่งเฉยไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่ามันจะบรรลุถึงตน เขาก็โคจรปราณไปรวมไว้ยังหมัดทั้งสอง แล้วชกออกไปทันที
เมื่อเห็นหยางเสี่ยวเทียนพยายามรับมือกรงเล็บมังกรด้วยหมัดเนื้อทั้งสอง เฉิงหลงก็เหยียดยิ้มพลางเย้ยหยัน
หลังการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ กรงเล็บมังกรของเขาเทียบได้กับกรงเล็บมังกรแท้จริง ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทะลวงเกราะที่เป็นอาวุธวิญญาณชั้นยอด ประหนึ่งหอกแหลมทิ่มแทงกระดาษมิมีผิด
เรียกได้ว่ากรงเล็บนี้ คมกริบจนยากนักจะต้านทานได้
การที่หยางเสี่ยวเทียนพยายามรับมือกรงเล็บมังกร ด้วยหมัดเปลือยเปล่าคู่หนึ่งเช่นเขาทำอยู่นี้
มันเท่ากับว่าเขา รนหาที่ตายเท่านั้น!